บทท่ี 2 ระบบควบคมุ โดยทั่วไป และอุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการควบคมุ การควบคุมและอปุ กรณเ์ ครื่องกลไฟฟา้ การควบคมุ เครื่องกลไฟฟ้าหรอื การควบคุมมอเตอร์ คือการควบคมุ ให้มอเตอร์ทางานตาม 1.1 การควบคมุ ดว้ ยมือ ( Manual Control) คอื การใชค้ นทาหนา้ ที่ควบคมุ เครือ่ งกลไฟฟ้า รปู ที่ 1-1 รปู แสดงผังการควบคุมด้วยมือ (Manual Control) หนา้ 4 1.2 การควบคมุ แบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi Automatic
Control) เป็นการนาอุปกรณ์ประกอบ รปู ที่ 1-2 รูปแสดงผังการควบคุมแบบกึง่ อัตโนมตั ิ (Semi Automatic Control) 1.3 การควบคุมแบบอตั โนมตั ิ ( Automatic Control) การควบคมุ วิธีนีเ้ หมอื นกับการควบคมุ แบบ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบป้ัมน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 5 รปู ที่ 1-3 รูปแสดงผงั การควบคมุ แบบอัตโนมัติ ( Automatic Control) 2. อุปกรณ์ท่ใี ช้ในวงจรควบคมุ เครื่องกลไฟฟ้า 2.1 สวิตชป์ มุ่ กด (Push button Switch) เป็นอปุ กรณ์ทีท่ าหน้าที่ตัดตอ่
วงจรไฟฟ้าควบคุมการ รปู ที่ 1-4 รูปแสดงสวิตช์ปุ่มกด (Push button Switch) แบบต่างๆ หนา้
6 ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน โครงสร้างของสวิตช์ปุ่มกดจะประกอบด้วย รูปที่ 1-5 รูปแสดงโครงสรา้ งของสวิตช์ปุ่มกด รปู ที่ 1-6 รูปแสดงสวิตช์ปุ่มกดแบบธรรมดา รูปที่ 1-7 รปู แสดงสวิตช์ปุ่มกดทีใ่ ชใ้ นการเริ่มทางาน(Start) และหยดุ การทางาน (Stop) ที่มา : http://edu.e-tech.ac.th/mdec/learning/e-web/sara09.html ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบปั้มน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 7 3. สวิตช์ปุ่มกดฉกุ เฉิน ( Emergency push button Switch) สวิตช์ปุ่มกดฉุกเฉินหรอื เรียกทั่วไปว่าสวิตช์ รูปที่ 1-8 รูปแสดงสวิตช์ปุ่มกดฉุกเฉิน รูปที่ 1-9 รปู แสดงสวิตช์ปุ่มกดที่มหี ลอดสัญญาณติดอยู่ รปู ที่ 1-10 รปู แสดงสวิตช์ปุ่มกดที่ใชเ้ ท้าเหยียบ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปมั้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 8 ปกติเปิด (Normally Open; NO) แบบปกติปิด (Normally Close; NC) จานวนหนา้ สมั ผสั ทั้งสองแบบจะมีมาก 2. หนา้ สัมผัสชว่ ย (Auxiliary Contact) หนา้ สัมผสั จะเป็นแบบปกติเปิด (Normally Open; NO) รูปที่ 1-11 รปู แสดงแมกเนติกส์คอนแทคเตอร์ (Magnatic Contactor) รีเลย์ ( Relay) เปน็ สวิตช์ทีท่ างานโดยอาศัยอานาจแม่เหล็กชว่ ยในการตัดตอ่ วงจรควบคมุ อุปกรณ์ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปม้ั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 9 รปู ที่ 1-12 รูปแสดงรีเลย์ (Relay) ข้อดีของการใชค้ อนแทคเตอร์ 3. ประหยดั เมื่อเทียบกับการควบคมุ ด้วยมือ เพราะสายไฟฟ้าทีใ่ ชใ้ นการควบคมุ ในวงจรที่ใช้คอนแทค โครงสรา้ งของคอนแทคเตอร์จะมีสว่
นประกอบ 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ รูปที่ 1-13 รปู แสดงแกนเหลก็ อยู่กบั ที่ รปู ที่ 1-14 รปู แสดงแกนเหลก็ เคลือ่ นที่ ทีม่ า : http://edu.e-tech.ac.th/mdec/learning/e-web/sara010.html ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบปมั้ นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 10 2. ขดลวด (Coil) เป็นลวดทองแดงพันอยู่รอบบ๊อบบิน้ (Bobbin) สวมอยู่ตรงกลางของขาแกนเหลก็ อยู่ รูปที่ 1-15
รูปแสดงขดลวด (Coil) รูปที่ 1-16 รูปแสดงหนา้ สัมผสั (Contact) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 11 เกินกว่าพิกดั กระแสของมอเตอร์ ซึ่งจะทาให้ขดลวดของมอเตอร์รอ้ นขึน้ เรือ่ ยๆและไหมใ้ นที่สุด
แต่ถ้าหาก รปู ที่ 1-17 รปู แสดงโอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload relay) รูปที่ 1-18 รูปแสดงโครงสรา้ งของโอเวอร์โหลดรีเลย์ 1.
ปุ่มปรับกระแส ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 12 การทางานของโอเวอร์โหลดรีเลย์จะอาศยั ผลของความรอ้ น โครงสร้างภายในประกอบด้วยขด 1. แบบไม่มรี ีเซต ( No Reset) แบบนเี้ มื่อเกิดโอเวอร์โหลดจะทาให้ Bimetal รอ้ นและโก่งตวั ออกไปแล้ว 2. แบบมีรีเซต (Reset) แบบนีเ้ มื่อเกิดโอเวอร์โหลดจะทาให้ Bimetal รอ้ นและโก่งตวั ออกไปแล้วจะมี 2.4 ทามเมอรร์ เี ลย์ ( Timer Relay) เปน็ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นงานควบคมุ ทีส่ ามารถตั้งเวลาการทางาน รูปที่ 1-19
รูปแสดงทามเมอร์รีเลย์ (Timer Relay) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 13 โครงสรา้ งของทามเมอร์รีเลย์ รูปที่ 1-20 รปู แสดงโครงสรา้ งของทามเมอร์รีเลย์ ชนิดของทามเมอร์รีเลย์ 2.5 ซีเลค็ เตอรส์ วิตช์ (Selector Switch) เปน็ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการควบคุมมอเตอร์ในลักษณะทางาน รูปที่ 1-21 รปู แสดงซีเลค็ เตอร์สวิตช์ (Selector Switch) หนา้ 14 ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน 2.6 สวิตชค์ วามดัน (Pressure Switch) เปน็ อุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นงานที่ตอ้ งการควบคุมความดันตาม รปู ที่ 1-22 รูปแสดงสวิตช์ความดัน (Pressure Switch) 2.7 ลิมิตสวิตช์ (Limit Switch) เปน็ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการควบคมุ ระยะทางหรอื จากัดระยะ จะใช้ รูปที่ 1-23 รูปแสดงลิมติ สวิตช์ (Limit Switch) การทางานลิมติ สวิตช์ ( Limit Switch) อาศัยแรงกดภายนอกมากระทาเชน่ วางของทับที่ปุ่มกดหรอื 2.8 สวิตช์ลกู ลอย ( Float Switch) เป็นอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการควบคุมระดับความสูงหรอื ระดับตา่ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้ัมน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 15 รปู
ที่ 1-24 รปู แสดงสวิตช์ลูกลอย (Float switch) 2.9 หลอดไฟสญั ญาณ (Signal Lamp) เป็นอปุ กรณ์ที่แสดงสภาวะการทางานของวงจร เช่นแสดง รูปที่ 1-25 รปู
แสดงหลอดไฟสัญญาณ (Signal Lamp) สขี องหลอดไฟสญั ญาณ ( Signal Lamp) ความหมายของสีของหลอดไฟสญั ญาณที่ใช้ทว่ั ไปดงั น้ี 3. การตรวจสอบอุปกรณ์ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปั้มน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 16 3.1 การตรวจสอบสวิตช์ปุ่มกด (Push button Switch) รูปที่ 1-26 รปู แสดงลกั ษณะโครงสรา้ งของสวิตช์ปุ่มกดลกั ษณะการเปลีย่ นตาแหน่งของหน้าสัมผัส ก . ขณะปกติ ข . ขณะทางานแลว้ รูปที่ 1-27 รูปแสดงลักษณะการเปลี่ยนตาแหน่งของหน้าสัมผัสของสวิตช์ปุ่มกด การตรวจสอบสภาพของสวิตชป์ ุม่ กด ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปั้มนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 17 รูปที่ 1-28 รูปแสดงการใชโ้ อห์มมเิ ตอร์วดั หนา้ สัมผัสของสวิตช์ปุ่มกด เมื่อใชโ้ อห์มมเิ
ตอร์วดั ค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผัสปกติเปิด ( NO)ของสวิตช์ปุ่มกดข้ัว 1-2 ขณะ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบป้ัมน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 18 รปู ที่ 1-29 รูปแสดงลกั ษณะโครงสรา้ งของคอนแทคเตอร์ การตรวจสอบสภาพของคอนแทคเตอร์ การตรวจสอบสภาพของขดลวดไฟฟ้า ( Coil) โดยใช้มัลติมเิ ตอร์ ( Multi-meter) ตั้งย่านวัดค่าความ รูปที่ 1-30 รปู แสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานของขดลวด การตรวจสอบสภาพของหนา้ สัมผสั หลกั (Main Contact) ซึ่งเป็นหนา้ สมั ผสั แบบปกติเปิด ( NO) โดย ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปมั้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 19 รปู ที่ 1-31 รูปแสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผัสหลักของ เมอ่ื ใช้โอหม์ มเิ ตอร์วัดค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผัสหลกั ปกติเปิด ( NO) ของคอนแทคเตอร์ ขณะ รปู ที่ 1-32 รปู แสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผสั หลกั ของ การตรวจสอบสภาพของหนา้ สัมผสั ชว่ ย (Auxiliary Contact) ซึง่
มีหน้าสัมผสั เป็นทั้งแบบปกติเปิด ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรกั ษาระบบปมั้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 20 รูปที่ 1-33 รปู แสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดความตา้ นทานของหน้าสัมผสั ชว่ ยของคอนแทคเตอร์ เมือ่ ใชโ้ อห์มมเิ ตอร์วดั ค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผสั ชว่ ยของคอนแทคเตอร์ ถ้าหนา้ สัมผัสแบบ รปู ที่ 1-34 รูปแสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ดั ค่าความตา้ นทานของหน้าสมั ผสั ชว่ ยของคอนแทคเตอร์ขณะ 3.3 การตรวจสอบโอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 21 เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลเกินพิกดั ทีก่ าหนดไว้จะทาให้เกิดความร้อนมากขึ้นที่ Bimetal เปน็ ผลทาให้ Bimetal ก . ขณะโลหะคู่ (Bimetal) เย็นตวั อยู่ ข. ขณะโลหะคู่ (Bimetal) รอ้ น รูปที่ 1-35 รูปแสดงการทางานของโอเวอร์โหลดรีเลย์
โอเวอร์โหลดรีเลย์แบ่งออกเปน็ 2 ชนิดคอื แบบไม่มรี ีเซต ( Reset) แบบนเี้ มือ่ เกิดโอเวอร์โหลดจะทา ก. ชนิดมหี นา้ สัมผัส 1 NC ข . ชนิดมหี นา้ สัมผสั 1 NO 1 NC รูปที่ 1-36 รูปแสดงสัญลกั ษณ์ของโอเวอร์โหลดรีเลย์แบบมีรีเซต (Reset) การตรวจสอบสภาพของโอเวอร์โหลดรีเลย์จะใช้มลั ติมเิ ตอร์ ( Muti-meter) ต้ังย่านวดั ค่าความ ต้านทานหรอื โอห์มมเิ ตอร์เปน็ เครื่องมอื ใชต้ รวจสอบสภาพของหน้าสมั ผสั ควบคมุ ในสภาพปกติและใน สภาวะเม่อื เกิดโอเวอร์โหลดหรอื ทริป (Trip) การใชโ้ อห์มมเิ ตอร์ตรวจสอบสภาพของโอเวอร์โหลดรีเลย์ในสภาพปกติ โดยวดั และอา่ นค่าความ ต้านทานของหน้าสมั ผสั ซึ่งเป็นแบบปกติเปิด(NO) และแบบปกติปิด (NC) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปัม้ นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 22 รปู ที่ 1-37 รูปแสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ดั ค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผัสควบคมุ ของโอเวอร์ เมือ่ ใชโ้ อห์มมเิ ตอร์วัดค่าความตา้ นทานของหน้าสมั ผัสควบคมุ ของโอเวอร์โหลดรีเลย์ ถ้าหนา้ สัมผสั รูปที่ 1-38 รปู แสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานของหน้าสมั ผัสควบคมุ ของโอเวอร์ 3.4 การตรวจสอบสภาพของทามเมอรร์ เี ลย์ (Timer Relay) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 23 ก. รูปแสดงตาแหน่งจดุ ตอ่ ภายในของทามเมอร์รเี ลย์ ข. สัญลกั ษณ์ของทามเมอร์รีเลย์ การตรวจสอบสภาพของทามเมอรร์ ีเลย์จะใช้มัลติมเิ ตอร์ ( Multi-meter) ต้ังย่านวดั ค่าความตา้ นทาน รปู ที่ 1-40 รูปแสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ดั ค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผัสของทามเมอรร์ ีเลย์ เม่อื จา่ ยกระแสไฟฟ้าเข้าขั้วหมายเลข 2 และ 7 แล้ว ช่วงนีท้ ามเมอร์รีเลย์จะเริม่ หน่วงเวลา เมอ่ื ใช้ โอห์มมเิ ตอร์วัดและอ่านค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผัสซึ่งเป็นทั้งแบบปกติเปิด ( NO) และแบบปกติปิด (NC) หมายเลขขั้ว หนา้ สมั ผสั ค่าความตา้ นทานที่อ่านได้ 1 - 4 NC ตา่ สุด 1 - 3 NO สงู สุด 8 - 5 NC ต่าสุด 8 - 6 NO สูงสดุ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 24 เมือ่ ทามเมอร์รเี ลย์หน่วงเวลาจนถึงเวลาทีต่ ง้ั ไว้ หน้าสมั ผัสทกุ ชุดจะเปลีย่ นตาแหน่งทันที และจะคง รปู ที่ 1-41 รปู แสดงการใช้โอห์มมิเตอรว์ ัดค่าความตา้ นทานของหน้าสัมผสั ของทามเมอรร์ ีเลย์ เมือ่ ทามเมอร์รเี ลย์หน่วงเวลาจนถึงเวลาที่ตง้ั ไว้ หน้าสมั ผัสทกุ ตัวจะเปลี่ยนตาแหน่ง หน้าสมั ผัสปกติ ปิด (NC) กจ็ ะจากออก และหน้าสมั ผัสปกติเปิด ( NO) กจ็ ะต่อวงจร เมื่อใชโ้ อห์มมเิ ตอร์วดั และอ่านค่าความ ต้านทานของหน้าสมั ผสั ปกติปิดจะมีคา่ ความตา้ นทานสงู มากและหน้าสมั ผสั ปกติเปิดกจ็ ะมีค่าความ ต้านทานต่า หมายเลขข้ัว หนา้ สัมผสั ค่าความตา้ นทานที่อ่านได้ 1 - 4 NC สงู สดุ 1 - 3 NO ตา่ สุด 8 - 5 NC สูงสุด 8 - 6 NO ต่าสดุ การตรวจสอบสภาพของอปุ กรณ์ตา่ งๆที่ใชใ้ นงานควบคมุ เครื่องกลไฟฟ้าน้ัน นอกจากการตรวจสอบสภาพ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 25 การควบคมุ มอเตอร์ จะต้องพิจารณาก่อนการตดิ ตั้ง เพือ่ ทีจ่ ะสามารถใช้ประโยชนจ์ ากมอเตอร์ได้อย่างเตม็ ที่ และเกิดความ 1. การบริการทางไฟฟ้า คือ
ข้อจากัดหรอื คุณลกั ษณะของการบริการทางไฟฟ้า เช่น เป็นไฟฟ้า 2. มอเตอร์ คอื พิจารณาว่ามอเตอร์นนั้ มคี วามเหมาะสมกับการบริการทางไฟฟ้าอยู่หรอื ไม่ เชน่ 3. วธิ ีการควบคุมมอเตอร์ คือ วิธีการควบคุมมอเตอร์ขน้ั พืน้ ฐานนนั้ ก็คือ วงจรการควบคมุ การปิด 4. สิ่งแวดล้อม ในปจั จุบนั นกี้ ารพิจารณาเรื่องสิ่งแวดล้อมเปน็ เรอ่ื งที่มคี วามสาคญั มาก ดังที่จะเห็น 5. สญั ลักษณ์และมาตรฐานทางไฟฟ้า การใช้อุปกรณ์ตา่ งๆในการตดิ ต้ัง หรอื การใชส้ ัญลักษณ์ 1.1 การเริม่ เดินและหยุดเดินมอเตอร์ เปน็ จุดมุ่งหมายเบือ้ งตน้
ในการควบคมุ มอเตอร์ การเริ่ม 1.2 การหมนุ กลบั ทิศทาง การควบคุมมอเตอร์ที่สาคญั อีกอย่างหนึ่ง คอื
การทาให้มอเตอรห์ มนุ 1.3 การควบคมุ ให้มอเตอร์ หมนุ ใหป้ กติตลอดเวลาการทางานมจี ดุ มงุ่ หมาย เพือ่ ให้เกิดความ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบปั้มน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 26 1.4 การควบคมุ ความเรว็ รอบ เป็นอีกเหตุผลหน่งึ ในการควบคมุ มอเตอร์โดยการควบ คมุ ความเร็ว 1.5 การป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ผู้ใชง้ าน ในการตดิ ต้ังวงจรความคมุ มอเตอรน์ ้ันกจ็ ะต้องมีการ 1.6 การป้องกันความเสียหายจากอบุ ตั ิเหตุ
การออกแบบวงจรการควบคมุ มอเตอร์ที่ดีควรจะมีการ 2. สัญลกั ษณ์ท่ใี ช้กับงานควบคมุ มอเตอร์ระบบDIN สญั ลักษณ์ ความหมาย คอนแทคปกติเปิด (Normally Open-N.O.) คอนแทคปกติเปิด (Normally Close-N.C.) คอนแทคปรับตดั ต่อได้สองทาง ทางานรว่ มแกนเดียวกัน ต่อถึงช่วงสน้ั ๆ แบบทางานกดลง หนา้ 27 ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปัม้ นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน สัญลักษณ์ ความหมาย สวิตช์ปุ่มกด-ปกติเปิด(N.O.) สวิตช์ปิด-เปิดธรรมดาลกั ษณะปกติเปิด(N.O.) สวิตช์ปุ่มกด-ปกติปิด(N.C.) สวิตช์ปิด-เปิดธรรมดาลักษณะปกติเปิด(N.C.) ลกั ษณะของสวิตช์เมอ่ื ถกู ทางานปกติปิด(N.C.) ลักษณะของสวิตช์เม่อื ถูกทางานปกติปิด(N.O.) ลกั ษณะถกู ทางาน ลิมติ สวิตช์ คอนแทคปกติเปิดอันที่1 ตอ่ ก่อนอันที่ 2 คอนแทคปกติปิดอนั ที่1 ตดั ก่อนอันที่2 การทางานด้วยแรงกลท่ัวไป ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 28 สญั ลักษณ์ ความหมาย ทางานด้วยแรงดนั (Pressure) ลอ็ กด้วยกลไกล ลอ็ กด้วยไฟฟ้า คอนแทกเตอร์ 3 คอนแทคล็อกด้วยไฟฟ้า รอเคลื่อนไปทางขวา รอเลื่อนไปทางซ้ายและขวา จา่ ยไฟเข้าคอยล์ตลอดเวลา
คอนแทคปกติเปิดของสวิตช์หน่วงเวลารอเวลา รอเวลาเปิดชนิดจ่ายไฟเข้าคอยล์ตลอดเวลา คอยล์ของคอนแทคเตอร์ คอยล์ของคอนแทคเตอร์อกี แบบหน่งึ คอนแทคเตอร์ชนิด 3 เมนคอนแทค ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 29 สญั ลักษณ์ ความหมาย โอเวอร์โหลดรีเลย์แบบไม่มรี ีเซท็ โอเวอร์โหลดรีเลย์แบบมีรีเซ็ท หวดู สญั ญาณ ฟิวส์มคี อนแทคที่ให้สัญญาณได้ ฟิวส์ 3 สายตัดต่อวงจรอตั โนมตั ิ อุปกรณ์ป้องกนั เมอ่ื กระแสเกิน แรงเคลือ่ นเกิน ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 30 สัญลกั ษณ์ ความหมาย ต่อวงจรดว้ ยอณุ หภมู ิ ตัดวงจรดว้ ยอณุ หภมู ิ วงจรท่ใี
ช้ในการควบคมุ 3.1 แบบวงจรสายเดียว (One Line Diagram) วงจรสายเดียวเปน็ แบบวงจรที่แสดงวงจรชนิดหนึง่ รูปที่ 2-1 รปู แสดงแบบวงจรสายเดียว จากรปู วงจรจะแสดงให้เหน็ เพียงแต่ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปม้ั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 31 3.2 แบบวงจรแสดงการทางาน (Schematic Diagram) วงจรแสดงการทางานสามารถแบ่งตาม 3.2.1 วงจรกาลงั (Power Circuit) แบบวงจรนีจ้ ะเขียนรายละเอียดของวงจรกาลังเท่านั้นโดยเริม่ รูปที่ 2-2 รูปแสดงวงจรกาลงั (แบบวงจรแสดงการทางาน) 3.2.2 วงจรควบคุม (Control Circuit)
แบบนีไ้ ด้จากการจบั ต้นและปลายของวงจรควบคมุ ในแบบ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปม้ั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 32 รูปที่ 2-3 รูปแสดงวงจรควบคุม (แบบวงจรแสดงการทางาน) 3.3 วงจรแสดงแบบงานจริง (Working Diagram) แบบชนิดน้จี ะเขียนคล้ายกับลักษณะงานจรงิ รปู ที่ 2-4 รปู แสดงวงจรแสดงแบบงานจรงิ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบปมั้ นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 33 3.4 วงจรประกอบการติดต้งั (Constructional Wring Diagram) ในระบบควบคมุ
จะประกอบ รูปที่ 2-5 รปู แสดงวงจรประกอบการตดิ ตั้ง ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรกั ษาระบบป้มั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 34 ความหมายสญั ลักษณอ์ ักษรกากบั วงจร สญั ลกั ษณ์ ความหมาย S1 สวิตช์ปุ่มกดหยุดเดินมอเตอร์ (Push Button Stop) S2 สวิตช์ปุ่มกดเริม่ เดินมอเตอร์ (Push Button Start) F1 ฟิวส์ป้องกันวงจรกาลัง (Power Fuse) F2 ฟิวส์ป้องกนั วงจรควบคุม (Control Fuse) F3 ส่วนป้องกันมอเตอร์ทางานเกินกาลงั (Overload Relay) K1 แมคเนติคคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactor) M1 มอเตอร์3เฟส (3 Phase Induction Motor) 4. วงจรและหลักการทางานของการสตารท์ มอเตอรโ์ ดยตรง (DIRECT START MOTOR) การการควบคุมการทางานและมีอปุ กรณ์ป้องการมอเตอร์ ไม่ให้เกิดการเสียหายและสามรถเริ่มเดินเครือ่ ง รูปที่ 2-6 รปู แสดงวงจรสตาร์ทมอเตอร์โดยตรง ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 35 ขั้นตอนการทางาน ตลอดเวลา เนื่องจากหน้าสมั ผสั ชว่ ยปกติเปิด K1 ในแถวที่ 2 ทางานหนา้ สมั ผสั จะปิด
กระแสไฟฟ้าไหลเข้า 2. เมอ่ื เกิดสภาวะโอเวอร์โหลดหน้าสมั ผสั ของโอเวอร์โหลดปกติปิด (F3) จะตัดวงจรไมม่ ีกระแส 3. ในการหยุดการทางานของวงจร ใหก้ ดสวิตช์ S1 ความหมายสัญลักษณ์อักษรกากับวงจร สญั ลักษณ์ ความหมาย S1 สวิตช์ปุ่มกดสีแดงหยุดเดิน (Push Button Stop Motor 1, 2) S2 สวิตช์ปุ่มกดสีเขียวเริ่มเดินมอเตอรตัวที่1 (Push Button Start Motor 1) S3 สวิตช์ปุ่มกดสีเหลืองเริม่ เดินมอเตอรตวั ที่2 (Push Button Start Motor2) F1 ฟิวส์ป้องกนั วงจรกาลงั (Power Fuse) F2 ฟิวส์ป้องกนั วงจรควบคมุ (Control Fuse) F3 ส่วนป้องกันมอเตอร์ตวั ที่ 1 ทางานเกินกาลงั (Over Relay 1) F4 ส่วนป้องกันมอเตอรตวั ที่ 2 ์ทางานเกินกาลัง (Over Relay 2) K1 แมคเนติคคอนแทคเตอร์ของมอเตอรต์ ัวทีท่ ี่1 (Magnetic Contactor) K2 แมคเนติคคอนแทคเตอร์ของมอเตอรต์ วั ที่2 (Magnetic Contactor) M1 มอเตอร์ 3 เฟสตวั ที่ 1 (3 Phase Induction Motor 1) M2 มอเตอร์ 3 เฟสตัวที่ 2 (3 Phase Induction Motor 2) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบปั้มนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 36 5.1 วงจรและหลกั การทางานของการควบคุมมอเตอร์ทางานเรียงตามลาดบั (Manual รูปที่ 2-7 รูปแสดงวงจรสตาร์ทมอเตอร์ทางานเรียงลาดบั วงจรกาลัง จากวงจรกาลังจะใช้คอนแทคเตอร์สองตัวในการ ให้มอเตอรท์ างานคอนแทคเตอร์แรก F3 เป็นโอเวอร์โหลดรีเลย์ป้องกนั มอเตอร์ตวั ที่ 1 รปู ที่ 2-8 รปู แสดงวงจรสตาร์ทมอเตอร์ทางานเรียงลาดับ วงจรควบคุม หนา้ 37 ขนั้ ตอนการทางาน 1. เมื่อกดสวิตช์ S3 ขณะที่คอนแทคเตอร์ K1 ยงั ไม่ทางานคอนแทคเตอร์ K2 จะไม่ทางานเพราะ คอนแทคปกติเปิดของ K1 ในแถว 3 ยังเปิดอยู่ 2.เมื่อกด S2 ทาให้คอนแทคเตอร์ K1 ในแถวที่1ทางานและหนา้ สัมผัสปกติเปิดของ K1 ในแถวที่ 2 จะต่อวงจรทาให้คอนแทคเตอร์ K1 ทางานตลอดเวลา และคอนแทคช่วยปกติเปิด K1 ชุดที่ 2 ในแถวที่ 3 ปิด จะต่อวงจรทาให้ K2 พร้อมทีจ่ ะทางานเมือ่ กด S3 3.หลังทีป่ ล่อยสวิตช์ S2 แล้วคอนแทคเตอร์ K1 ก็ยังคงทางานอยู่ตลอดเวลา 4. เมื่อกด S3 คอนแทคเตอร์ K2 กจ็ ะทางานคอนแทคปกติเปิด K2 ในแถว 4 จะต่อวงจรให้ K2 ทางานตลอดเวลา หลงั จากที่ปล่อยนิ้วออกจาก S3 ไปแล้ว 5.หากต้องการใหห้ ยดุ ทางานให้กด S1 K1และ K2 จะหยุดทางาน มอเตอรตวั ที่ 1 และ 2 หยุด หมุน 6.และเมื่อเกิดสภาวะโอเวอร์โหลดที่ F3 หรอื F4 คอนแทคเตอร์ K1และ K2จะหยุดทางาน 7.เมือ่ เกิดโอเวอร์โหลดจะใหท้ างานใหม่ให้กดปุ่มรีเซ็ทของโอเวอร์โหลดตัวที่ TRIP แล้วทาการกด S2 ให้คอนแทคเตอร์ K1 ทางานมอเตอร์1 ก่อนแล้วกด S3 ให้คอนแทคเตอร์ตัวที่ 2 ทางานมอเตอร์ 2 ทางาน 6. การควบคมุ การกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั ที่ใชใ้ นงานอตุ สาหกรรมมีทั้งมอเตอร์ที่ใชก้ ับ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส การกลับทางหมุนมอเตอร์ มคี วามจาเป็นอย่างหนึง่ ทีใ่ ช้ ในงานอตุ สาหกรรม มกี ารกลับทางหมุน มอเตอร์ท้ังมอเตอร์ไฟฟ้า 1 เฟสและ 3 เฟส ดงั นั้นจึงมีวงจรในการควบคุมในการกลับทางหมนุ มอเตอรอ์ ยู่หลายแบบด้วยกนั เชน่ การกลับทาง หมุนมอเตอร์ ได้ทันทีท่ ี่ไม่ตอ้ งหยดุ การทางานของมอเตอร์และการการกลับทางหมุนมอเตอร์ แบบต้อง หยดุ การทางาน ของมอเตอร์ที่จะต้องศกึ ษาวงจรและหลกั การตอ่ ไป การควบคมุ การกลับทางหมุน มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟสมีการควบคุมหลายแบบแตใ่ นทีน่ ้เี ปน็ การใชส้ วิตช์ปุ่มกดในการควบคุม ซึง่ การควบคมุ มีวงจรกาลังที่ใชใ้ นการกลบั ทางหมนุ และวงจรควบคมุ ตัวอย่างในการควบคุมนเี้ ป็นการหยุด มอเตอร์ทุกคร้ังก่อนกลบั ทางหมนุ ที่เรยี กว่าวงจร Reversing after stop ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 38 6.1 การกลบั ทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟส ความหมายสัญลกั ษณ์อักษรกากบั วงจร สญั ลกั ษณ์ ความหมาย S1 สวิตช์ปุ่มกดหยดุ เดินมอเตอร์ (Push Button Stop) S2 สวิตช์ปุ่มกดเดินมอเตอร์หมนุ ขวา (Forward Start) S3 สวิตช์ปุ่มกดเดินมอเตอร์หมนุ ซ้าย (Reversing Start) F1 ฟิวส์ป้องกนั วงจรกาลงั (Power Fuse) F2 ฟิวส์ป้องกันวงจรควบคมุ (Control Fuse) F3 สว่นป้องกันมอเตอร์ทางานเกินกาลงั (Overload Relay) K1 คอนแทคเตอร์หมนุ ขวา (Forward Contac) K2 คอนแทคเตอร์หมุนซ้าย (Reverse Contac) M1 มอเตอร์ 1 เฟส (Single Phase Motor) วงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส รูปที่ 2-9 รปู แสดงวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส (วงจรกาลัง) ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 39 หลักการของวงจรกาลังการกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ ไฟฟ้ากระแส สลบั 1 เฟส สาหรับการทางาน รปู ที่ 2-10 รปู แสดงวงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส (วงจรควบคมุ ) 1. กดสวิตช์ S2 คอนแทคเตอร์ K1 ทางานหมนุ ขวา คอนแทคปกติปิดของ K1 ในแถว ที่ 3 ตดั 2. การเปลี่ยนทิศทางการหมุนของมอเตอร์จากหมนุ ขวาเปน็ หมนุ ซ้าย จะเปลี่ยนเลยไม่ได้ต้องทา 3. เมือ่ ทาการกด S1 คอนแทคเตอร์ K1 หยุดการทางาน จะให้มอเตอรห์ มนุ ซ้ายทาการ กด S3 ให้ 4. ถ้าหากกดสวิตช์ S2 และ S3 พร้อมกนั ตวั คอนแทคเตอร์ตวั ใดทีไ่
ด้รับกระแสก่อนจะทางาน ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรกั ษาระบบป้มั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 40 6.2การควบคุมการกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส นยิ มใช้กันมากเครือ่ งจกั รในงานอตุ สาหกรรม เช่น เครือ่ งกลึง , เครือ่ ง กดั , เครือ่ งใส, เครนยกของ ฯลฯ เครือ่ งดงั กล่าวอาจต้องมีการทางานที่เปลีย่ นทิศทาง 2 ทิศทาง จึง ต้องรู้จักวิธีการกลับทางหมุนมอเตอร์ 3 เฟส อย่างถกู วิธี ไม่ว่ามอเตอร์จะต่อขดลวดแบบสตาร์หรอื เดลต้า ถ้าทาการสลับสายแหล่งจา่ ยไฟฟ้าใหก้ ับมอเตอร์คใู่ ดคู่หน่งึ จะทาให้มอเตอรก์ ลับทิศทางการหมุนได้ แสดงวงจรการกลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟสแบบต่างๆ รูปที่ 2-11 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส L1 เข้าที่ขวั้ U1 ของมอเตอร์ รูปที่ 2-12 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รุงรักษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 41 จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทาการสลับสายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอร์ มีการสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ ี่ L2 กับ L3
ทาให้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนซ้ายหรือทิศทางหมนุ รปู ที่ 2-13 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทาการสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอร์ L1 เข้าที่ขวั้ W1 ของมอเตอร์ L2 เข้าที่ขวั้ V1 ของมอเตอร์ L3 เข้าทีข่ วั้ U1 ของมอเตอร์ มกี ารสลบั สายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ ี่ L1 กับ L3 ทาให้มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนซ้ายหรือทิศทางหมุน ตามทวนนาฬิกา รูปที่ 2-14 รูปแสดงวงจรการกลับทางหมุนมอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบปั้มน้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 42 จากระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทาการสลบั สายไฟฟ้าเข้าขั้วมอเตอร์ มกี ารสลับสายไฟฟ้าเข้าข้ัวมอเตอรท์ ี่ L1 กบั L2 ทาให้มอเตอรไ์ ฟฟ้าหมนุ ขวาหรอื ทิศทางหมุนตาม 6.3.1 วงจรการกลบั ทางหมุนมอเตอรโ์ ดยตรง (Direct reversing) รูปที่ 2-15 รูปแสดงวงจรการกลบั ทางหมนุ มอเตอรโ์ ดยตรง ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รักษาระบบปัม้ น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 43 ลักษณะการทางานของวงจร ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบา้ รงุ รกั ษาระบบป้มั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 44 รปู ที่ 2-16 รูปแสดงวงจรการกลบั ทางหมุนหลังจากมอเตอร์หยุด ลักษณะการทางานของวงจร หมุนซ้าย ลังหมุนอยู่ ไม่สามารถทาการกลับทางหมนุ ได้ จะต้องทาให้มอเตอรห์ ยดุ หมุนเสียก่อนโดยการกดสวิตช์ S1 และ K2 ไม่สามารถทางานพร้อมกนั ได้ เนื่องจากมี interlock contact K1 และ K2
ต่อไว้ก่อนเข้าคอล์ย 4. เมื่อเกิดการโอเวอร์โหลดขึน้ โอเวอร์โหลดรีเลย์ F3 แบบมีรีเซท็ ด้วยมือ จะทาหนา้ ทีต่ ดั วงจร ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รกั ษาระบบปั้มนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 45 6.3.3 วงจรกลับทางหมนุ แบบจอ๊ กกิง้ (Reversing by Jogging) ลักษณะการกลบั ทางหมุนแบบจอ๊ กกิง้ หมายถึงการกลบั ทางหมนุ มอเตอรโ์ ดยการกดสวิตช์ปุ่มกด ค้างไว้ เมื่อปล่อยมือออกจากสวิตช์ปุ่มกดมอเตอร์ก็จะหยดุ หมุน การเริ่มเดินมอเตอร์จะเริ่มเดินใหห้ มนุ ขวา หรอื ซ้ายก่อนกไ็ ด้ โดยการกดสวิตช์ S2 หรอื S3 และเมือ่ ไม่ต้องการให้วงจรทางานกท็ าการปลดสวิตช์ S1 ออกซึง่ S1 เปน็ สวิตช์แบบมีล็อคในตวั เอง รปู ที่ 2-17 รปู แสดงวงจรการกลับทางหมุนแบบจอ๊ กกงิ้ 1. คอนแทกเตอร์ K1 ทาหนา้ ทีต่ อ่ ให้มอเตอรห์ มนุ ขวา และคอนแทกเตอร์ K2 ทาหนา้ ที่ตอ่ ให้มอเตอร์ 2. เริ่มเดินมอเตอร์ให้หมุนซ้ายหรอื
ขวาก่อนก็ได้โดยการกดสวิตช์ S2 หรอื S3 และจะต้องกดสวิตช์ 3. ถ้ากดสวิตช์ปุ่มกด S2 และ S3 พร้อมกันจะไม่มคี อนแทกเตอร์ตวั ใดทางาน และคอนแทกเตอร์ K1 ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารงุ รักษาระบบปม้ั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 46 ปฏิบตั ิเดินสายในตู้ MDB รปู ที่ 3-1 รูปแสดงวงจรควบคมุ มอเตอรป์ ๊มั นา้ ด้วยลกู ลอย ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบป้มั น้าประปาเบือ้ งตน้ แก่ชมุ ชน หนา้ 47 รปู ที่ 3-2 รปู แสดงภาพลกู ลอย รูปที่ 3-3 รปู แสดงวงจรควบคมุ มอเตอรป์ ม๊ั นา้ ด้วยลกู ลอยและคอนแทคเตอร์ ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรักษาระบบปม้ั นา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 48 รปู ที่ 3-4 รูปแสดงวงจรกาลงั รปู ที่ 3-5 รูปแสดงวงจรควบคมุ หนา้ 49 เอกสารอา้ งอิง http://www.lpc.rmutl.ac.th/elcen/elearning/motorcontrol/module4/contactor1.html, 2009. (21/12/52) http://edu.e-tech.ac.th/mdec/learning/e-web/sara010.html, 2009. (22/12/52) ไวพจน์ ศรธี ัญ ชลชยั ธรรมวิวัฒนุกูร ฝกึ อบรมเทคนิคการตรวจซ่อมและบ้ารุงรกั ษาระบบป้ัมนา้ ประปาเบือ้ งตน้ แก่ชุมชน หนา้ 50 |