กิน ชา นอน ไม่ หลับ ทํา ไง ดี

ท้าวความก่อนนะคะ คือโดยส่วนตัวเป็นคนกินชา โกโก้ เป๊ปซี่ ปกติเลยค่ะ แต่มาปีนี้ กินเมนูชา ไม่ว่าจะชาอะไรก็แล้วแต่ เมนูที่มีคาเฟอีนทั้งหลาย จะเกิดอาการใจสั่น หายใจไม่ทั่วท้อง นอนไม่หลับ ดีดทั้งคืน เลยเลิกลากับเมนูชา โกโก้ไปหมดเลย

แต่มาพักหลังนี่ แทบไม่เคยกินเป๊ปซี่เลยค่ะ กินเดือนละครั้งสองครั้งน่าจะได้ แต่เมื่อวานอยากกินเป๊ปซี่ เลยจัดไปสองแก้ว แล้วก็นอนไม่ได้ทั้งคืนเช่นกันค่ะ หายใจไม่ทั่วท้อง ใจสั่น มากกก กินน้ำชดเชยตลอด แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่ทราบว่ามีทางแก้อย่างอื่นแนะนำไหมคะ  

 พญ.นรมน

แพทย์

Sep 14, 2020 at 12:35 PM

 สวัสดีค่ะคุณ Piyachat Phanitattra

อาการนอนไม่ได้ หายใจไม่ทั่วท้อง ใจสั่นดังกล่าวมา อาจจะเกิดจาก สาเหตุโรคทางกายเช่น ไอมาก แน่นอก จึงนอนไม่หลับ หรือรับประทานชา กาแฟระหว่างวันมากเกินไปทำให้มีการตื่นตัวของระบบประสาท หรือเป็นสาเหตุทางใจเช่นความเครียด ความวิตกกังวลกับชีวิต เป็นต้น

โดยหากได้ลดการรับประทานชา กาแฟ รวมไปถึงน้ำอัดลมแล้ว อาการมักจะค่อยๆดีขึ้นได้เอง หากยังมีอาการนอนไม่ค่อยหลับเป็นต่อเนื่อง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทางกายและรักษา ร่วมกับอาจจะมีการใช้ยานอนหลับเป็นพวกยาในกลุ่มคลายกล้ามเนื้อและกดระบบประสาทเพื่อช่วยนอนเช่นยาในกลุ่ม benzodiazepine หรือยาแก้แพ้บางชนิดก็มีฤทธิ์กดระบบประสาทอ่อนๆได้

เบื้องต้นงดการดื่มชา กาแฟระหว่างวันต่อไปก่อน ดื่มน้ำระหว่างวันให้เพียงพอ ไม่นอนกลางวัน พยายามทำใจให้สงบในช่วงที่ต้องเข้านอน ไม่ทำเรื่องตื่นเต้นหรือหวาดเสียวก่อนนอน

นอนไม่หลับ เป็นปัญหาใกล้ตัวที่เกิดขึ้นกับทุกคน ซึ่งอาการเหล่านี้พบมากในช่วงอายุ 18 ปี ขึ้นไป ซึ่งสาเหตุนอนไม่หลับอาจมาจากสถานการณ์ที่พบเจอในแต่ละวัน บางคนมีเรื่องให้กังวล หรือในบางคนเป็นกลุ่มโรคชนิดนึงที่ทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก การพักผ่อนที่ดีอย่างน้อยควรพักผ่อนวันละ 7 - 9 ชม. วันนี้เรามีทริคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายและหลับสนิทมากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีการแก้ปัญหานอนไม่หลับ ผลลัพธ์และวิธีการจะเป็นเช่นไรบ้าง มาดูไปพร้อมกัน

1. ลดความเครียด วิตกกังวล

สาเหตุนอนไม่หลับส่วนใหญ่มาจากความกังวลหรือเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้ครุ่นคิดติดอยู่ในหัวตลอดจนถึงเวลาเข้านอน เป็นสาเหตุที่ทำให้สมองและร่างกายไม่ได้พักผ่อนตามที่ควร ดังนั้น ก่อนนอนทุกครั้ง เราควรทำสมองให้ปลอดโปร่ง และทำจิตใจให้สงบ หยุดคิดเรื่องที่ทำให้กังวลใจ เครียด หรือกดดัน โดยการหากิจกรรมทำก่อนนอน เพื่อลดความเครียด เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง นั่งสมาธิ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้เราผ่อนคลาย ลดความกังวล และจดจ่อกับสิ่งที่ทำมากขึ้น ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดในวิธีแก้ปัญหานอนไม่หลับ คือ การพยายามแก้ที่ต้นเหตุนั้นเอง

2. ลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

การใช้ชีวิตระหว่างวันของวัยทำงานอีกหนึ่งอย่าง คือ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นต้น ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้มีคาเฟอีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยการเข้าไปกระตุ้นการทำงานของสมองทำให้ตื่นตัว จนเป็นสาเหตุการนอนไม่หลับ ดังนั้น ควรลดปริมาณการดื่มลง แนะนำปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับไม่ควรเกิน 300 - 400 มิลลิกรัม หรือดื่มไม่เกิน 3 แก้วต่อวัน หากจำเป็นจริง ๆ ไม่ควรดื่มหลังเที่ยง หรือก่อนเวลาเข้านอน เพียงเท่านี้การลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจึงเป็นอีกสาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ

3. สภาพแวดล้อมภายในห้องนอน

อีกหนึ่งสาเหตุนอนไม่หลับที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง คือสภาพแวดล้อมภายในห้อง ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ เพราะการจัดห้อง การสร้างบรรยากาศภายในห้องนอน สามารถช่วยแก้ไขอาการนอนไม่หลับได้ เช่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างเตียงนอน หมอน เพื่อปรับให้เข้ากับสรีระของตัวเองให้หลับสบาย พยายามให้แสงจากภายนอกเข้าห้องให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้แสงรบกวนการนอนของเรา หรือตกแต่งห้องนอนจากโทนสี ซึ่งตามหลักจิตวิทยา พลังของสีมีส่วนช่วยในการนอนหลับได้ด้วย ซึ่งพื้นไม้ลีโอวูดสามารถเข้าได้กับทุกสไตล์การแต่งบ้าน แนะนำเลือกปู >>กระเบื้องยางลายไม้ แบบมีกาวในตัว รุ่น Splash+ ติดเองได้ ติดง่าย ติดไว รับประกันคุณภาพ 10 ปี เลือกใช้งานได้ตามที่ใจคุณต้องการ และอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้การนอนหลับของคุณสนิทมากขึ้น คือ กลิ่น เพราะกลิ่นเป็นตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลายได้ เช่น กลิ่นจากเทียนหอม ก้านไม้หอม เป็นต้น

4. หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนัก

หลายคนอาจเคยประสบปัญหาการนอนไม่หลับ ซึ่งสาเหตุเกิดจากอาการกรดไหลย้อน เนื่องจากปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปเป็นจำนวนมาก เพราะจากสถิติพบว่า คนส่วนใหญ่มักรับประทานอาหารในช่วงเวลาตอนกลางคืนหรือก่อนเข้านอน ด้วยร้านอาหารที่อร่อย ขึ้นชื่อ น่ากิน ส่วนใหญ่เปิดให้บริการในช่วงกลางคืน ซึ่งบางครั้งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จนเกิดเป็นพฤติกรรมกินช่วงกลางคืนจนร่างกายเคยชิน และเมื่อร่างกายไม่ได้รับประทานอาหารในช่วงเวลาเดิม ส่งผลทำให้เกิดอาการอึดอัด กระสับกระส่ายทำให้นอนไม่หลับ ดังนั้น เมื่อรู้สึกหิวก่อนเข้านอน ควรหาน้ำดื่มหรือรับประทานอาหารเบา ๆ เช่น กล้วย เพื่อรองท้อง เพราะถ้าทานมือหนักบ่อยจนเกินไปจะส่งผลอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

อีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหานอนไม่หลับได้อย่างดี คือ การออกกำลังกายสม่ำเสมอในช่วงเวลาเช้าและเย็น เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที การออกกำลังกายมีส่วนช่วยในการลดภาวะตึงเครียด ซึ่งเมื่อเราออกกำลังกายทุกวันร่างกายจะถูกใช้พลังงานและต้องการการพักผ่อนมากขึ้น ทำให้เราหลับง่ายขึ้นมากกว่าเดิม ข้อควรระวัง ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอนเพราะจะทำให้อุณภูมิในร่างกายสูงขึ้น ทำให้ร่างกายมีภาวะตื่นตัว ส่งผลให้นอนหลับยากมากกว่าเดิม

6. การฝึกหายใจแบบ 4-7-8

อีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหานอนไม่หลับ คือ การฝึกหายใจแบบ 4-7-8 ที่ถูกพัฒนามาจาก Dr. Andrew Weil นายแพทย์ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์บูรณาการ เป็นวิธีเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหานอนไม่หลับ โดยเริ่มจาก พ่นลมหายใจออกทางปากพร้อมทำเสียง "ฟู่

- สูดลมหายใจเข้าทางจมูกให้ยาว แบบเบา ๆ หายใจเข้านับ 4 วินาที
- จากนั้น กลั้นหายใจ เป็นเวลา 7 วินาที
- ค่อย ๆ พ่นลมหายใจออกแบบเต็มแรงยาว ๆ เป็นเวลา 8 วินาที

ให้ทำวนแบบนี้ทั้งหมด 4 ครั้ง จะช่วยฝึกลมหายใจโดยใช้กระบังลมหรือกล้ามเนื้อหน้าท้อง ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพในการช่วยลดความดัน และอาการไมเกรนให้ดีขึ้น หากทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น

วิธีแก้ปัญหาการนอนไม่หลับดังกล่าวอาจเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณหลับได้สนิทมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว ดังนั้น การพักผ่อนจึงเป็นเรื่องสำคัญ รวมไปถึงการทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ การแต่งบ้านให้รู้สึกผ่อนคลาย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเช่นกัน เพราะบ้านคือสถานที่ที่อยู่แล้วปลอดภัย อบอุ่น นอกจากการตกแต่ง การใช้สีแล้ว การที่ทำให้บ้านน่าอยู่ควรเลือกใช้วัสดุคุณภาพ แข็งแรง ทนทานปลอดภัย ก็ส่วนช่วยในการหลับสนิทได้เช่นกัน เพียงเลือกใช้สินค้าจากลีโอวูด ที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนให้บ้านของคุณเหมาะแก่การพักผ่อนและมอบความสุขที่เหนือกว่า สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ คลิกเลย >>พื้นไม้และประตูไม้ลีโอวูด

ชาทำให้นอนไม่หลับจริงหรือ

ชาเขียวทำให้นอนไม่หลับจริงหรือ

กินชาเขียวยังไงให้นอนหลับ

กินชายังไงให้นอนหลับ