ก่อนอธิบายรายละเอียดและขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยว ขอเล่าถึงที่มาที่ไป ทำไมถึงต้องมีใบอนุญาตนำเที่ยว ประเทศไทยถือเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม น่าสนใจ และดึงดูด นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ได้แก่ วัดวา อาราม เมืองเก่า พิพิธภัณฑ์ และอุทยานต่างๆ รวมถึงมาตราการส่งเสริมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจากรัฐบาล ในการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวมีมูลค่ามหาศาล และเติบโตมากขึ้นทุกปี ดังนั้นจึงมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากมีความสนใจที่จะประกอบธุรกิจทางด้านนำเที่ยว ซึ่งการประกอบกิจการทางด้านนำเที่ยวนั้น กฎหมายกำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากกรมการท่องเที่ยวเสียก่อน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองจากการซื้อรายการนำเที่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ซึ่งถ้าผู้ประกอบกิจการธุรกิจนำเที่ยวใด ฝ่าฝืนประกอบธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาตจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท Show
การประกอบธุรกิจที่ถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 คือการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวหรือเดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่น โดยจัดให้มีบริการหรือการอำนวยความสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ได้แก่ สถานที่พัก อาหาร มัคคุเทศก์ หรือบริการอย่างอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งทั้งนี้ ปัจจุบัน ยังไม่มีกฎกระทรวงเฉพาะสำหรับเรื่องนี้ การยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวในนามบุคคลธรรม หรือนิติบุคคลก็ได้ คุณสมบัติในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวกรณีบุคคลธรรมดา
การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวกรณีนิติบุคคล
ในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องจัดให้มีการประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุ ให้แก่นักท่องเที่ยว มัคคุเทศน์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บไม่ต่ำกว่าห้าแสนบาทต่อคน และต้องมีอายุกรมธรรม์ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี นับแต่วันยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ประเภทการวางเงินประกันธุรกิจนำเที่ยวโดยกฎกระทรวง ออก ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดจำนวนเงินหลักประกันการประกอบธุรกิจนำเที่ยวไว้ดังนี้ผู้ประกอบการนำเที่ยว ต้องมีการจดทะเบียนและวางเงินประกันกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยแยกเป็น 4 ประเภทดังนี้
ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
การเริ่มต้นประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ถ้าท่านสนใจในการประกอบธุรกิจนำเที่ยว และต้องการขอใบอนุญาตนำเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ติดต่อเรา กรีนโปร เคเอสพี คอนซัลติ้ง เรามีผู้ชำนาญในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ช่วยเหลือคุณในการขอใบอนุญาตให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เอกสารที่ใช้ในการจัดนำเที่ยวภายในประเทศมีอะไรบ้าง(๑) บุคคลธรรมดา (ก) สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน (ข) สําเนาทะเบียนบ้าน (ค) รูปถ่ายด้านหน้าสํานักงาน ขนาด ๗.๖๐ x ๑๒.๗๐ เซนติเมตร จํานวน ๒ รูป และแผนที่ โดยสังเขปแสดงที่ตั้งของสํานักงาน (ง) หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองสถานที่ที่ใช้เป็นสํานักงาน (จ) สําเนากรมธรรม์ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยว ...
สิ่งที่ต้องคำนึงในการทำแผนการนำเที่ยวมีอะไรบ้างการวางแผนจัดนำเที่ยวแต่ละครั้ง จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ. การกำหนดวัน. ลูกค้าเป้าหมาย. ระยะทางเป็นสิ่งสำคัญ. ความบันเทิง. การซื้อของ. ทำเลที่ตั้งของโรงแรม. จุดแวะพัก. เอกสารใดบ้างที่ใช้ในการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว (นิติบุคคล). แบบคำขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวประเภทนิติบุคคล (สธก.2). บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5). หนังสือบริคณห์สนธิ (บอจ.2). รายการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด (หส.2). ข้อบังคับของบริษัท. การจัดทำรายการนำเที่ยวมีกี่ประเภทอะไรบ้าง1. เที่ยวในเมือง(City Tour) 2. เที่ยวชมสถานที่(Excursion Tour หรือ Sightseeing Tour) 3. เที่ยวยามราตรี(Night Tour) 4. เที่ยวซื้อของ(Shopping Tour)
|