เมื่อกล่าวถึงการบริหารธุรกิจแบบผูกขาดนี้ อาจจะไกลตัวมาก ๆ สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กถึงกลางอย่างพวกเรา เพราะตลาดที่เรามีส่วนร่วมส่วนใหญ่จะเป็นตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligipoly) เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, เครื่องบิน, น้ำมัน, รถยนต์ เป็นต้น และตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (Monopolistic Competition) เช่น สบู่, อุปกรณ์ช่าง, เสื้อผ้า, ปากกา, ระบบออนไลน์, เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น Show ตลาดแข่งขันไม่สมบรูณ์ https://www.l3nr.org/posts/261204 ที่ผ่านมา เรามักเห็นการควบรวมกิจการลักษณะนี้กันเป็นระยะ ๆ โดยสิ่งหนึ่งที่ตามมาหลังการควบรวมหรือซื้อกิจการ คือ คู่แข่งในอุตสาหกรรมนั้น ลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งในเชิงเศรษฐศาสตร์ อุตสาหกรรมไหนหรือตลาดไหน ที่มีผู้เล่นในตลาดไม่กี่ราย แล้วลักษณะของตลาดนี้เป็นอย่างไร ? สำหรับสินค้าหรือบริการ ของผู้ประกอบการแต่ละรายในตลาดผู้ขายน้อยราย อาจมีลักษณะคล้ายกันหรือต่างกันก็ได้ แต่สามารถใช้ทดแทนกันได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะสามารถกำหนดราคาสินค้าได้ ในประเทศไทย ธุรกิจที่ถูกจัดอยู่ในตลาดผู้ขายน้อยราย ยกตัวอย่างเช่น 1. ธุรกิจบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เริ่มต้นด้วยธุรกิจบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ 3 ราย คือ AIS, DTAC และ TRUE ทั้ง 3 รายมีส่วนแบ่งตลาดจำนวนผู้ใช้บริการเครือข่ายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมกัน 100% ในปี 2563 โดยแบ่งเป็นของ AIS 46%, TRUE 33% และ DTAC 21% 2. ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตได้ต่อเนื่องมาหลายปีในไทย ซึ่งถ้าเราไปดูผู้เล่นในแต่ละกลุ่มของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ - ห้างสรรพสินค้า (Department Store) เช่น เซ็นทรัล, เดอะมอลล์ 3. ธุรกิจธนาคาร สิ้นปี 2563 ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า มีจำนวนธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศทั้งหมด 19 แห่ง ซึ่งเรื่องน่าสนใจก็คือ ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 6 ราย 4. ธุรกิจขนส่งพัสดุ แม้วันนี้ ธุรกิจขนส่งพัสดุจะมีการแข่งขันกันสูง เพราะที่ผ่านมาหลายบริษัทให้ความสนใจและกระโจนเข้าสู่ธุรกิจนี้กันหลายบริษัท โดยข้อมูลจาก SCB Economic Intelligence Center (EIC) ระบุว่า ในปี 2561 ส่วนแบ่งตลาดขนส่งพัสดุมีผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด 2 รายคือ ไปรษณีย์ไทย และ Kerry Express ที่ครองส่วนแบ่งรวมกันกว่า 80% นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ของธุรกิจที่อยู่ในตลาดผู้ขายน้อยราย ในประเทศไทย อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่า ตลาดผู้ขายน้อยราย มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ? ในมุมผู้ประกอบการ และผู้บริโภค - ถ้าในมุมของผู้ประกอบการ ซึ่งเป็น ผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการ การที่ภายในตลาดหรืออุตสาหกรรม มีคู่แข่งจำนวนน้อย จะช่วยลดความรุนแรงในการแข่งขันไปได้พอสมควร ทำให้ไม่ต้องแข่งขันทำสงครามราคากันรุนแรง เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่มีผู้เล่นหลายราย อย่างกรณีที่กำลังเกิดขึ้นระหว่าง DTAC และ TRUE นั้น รวมไปถึงทำให้แนวโน้มการแข่งขันด้านการตลาด การออกโปรโมชัน หรือการแข่งขันเสนอราคาประมูลคลื่นความถี่ของบริษัทในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในอนาคตจะลดลงตามไปด้วย - ถ้าเรามองในมุมของผู้บริโภคหรือลูกค้า แน่นอนว่าเมื่อมีผู้ผลิตหรือผู้ขายสินค้าและบริการจำนวนน้อย ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาสินค้าและบริการนั้น สูงกว่า เมื่อเทียบกับการซื้อสินค้าและบริการที่มีผู้ขายหรือผู้ผลิตจำนวนมาก ตลาดที่มีผู้ขายน้อยรายคืออะไรตลาดผู้ขายน้อยราย คือ ตลาดที่มีผู้ขายตั้งแต่สองรายขึ้นไป ปริมาณสินค้าของผู้ขายแต่ละรายมีสัดส่วนที่ ค่อนข้างมาก ส่วนสินค้าในตลาดอาจมี ลักษณะคล้ายกันหรือต่างกัน แต่สามารถใช้ ทดแทนกันได้ ตัวอย่างของตลาดผู้ขายน้อยราย เช่น บริษัท ปูนซีเมนต์ บริษัทผลิตรถยนต์ บริษัทผลิตยาง รถยนต์ เหล็กกล้า เหมืองแร่ น้าอัดลม เป็นต้น
ข้อเสียของตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ คืออะไร1. ผู้ขายมีจำนวนไม่มาก ในตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ลักษณะของตลาดจะตรงกันข้ามกับตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ผู้ขายมีจำนวนไม่มาก อาจเนื่องจากเป็นกิจการที่ผูกขาดโดยรัฐ หรือการให้สัมปทานแก่เอกชนโดยรัฐ จำนวนผู้ผลิตไม่มากอาจด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน การลงทุนที่สูงเกินไป เป็นต้น
ดุลยภาพในตลาดผู้ขายน้อยราย เกิดขึ้น ณ จุดใดเงื่อนไขที่จะทาให้หน่วยธุรกิจในตลาดผู้ขายน้อยรายอยู่ในภาวะดุลยภาพ ก็คือจะต้อง ท าการผลิต ณ ระดับที่ต้นทุนหน่วยสุดท้าย(MC) เท่ากับรายรับหน่วยสุดท้าย(MR) และ เนื่องจากว่าหน่วยธุรกิจจะก าหนดราคาไม่แตกต่างไปจากราคาตลาดในขณะนั้น MC จึงต้อง เท่ากับ MR ตรงช่วงที่MR ขาดตอนเสมอ ซึ่งจะท าให้ราคา(ดูจาก AR)อยู่ที่ราคาตลาด ขณะนั้น ...
ข้อใดเป็นข้อดีของตลาดผูกขาด1.มีเจ้าของธุรกิจเพียงรายเดียว ทำให้การกำหนดราคาและควบคุมตลาดเป็นไปได้ง่าย 2.ส่วนใหญ่ตลาดผูกขาดเป็นของรัฐบาล ดังนั้นโอกาสในการล้มเหลวทางธุรกิจต่ำกว่าตลาดทั่วไป 3.เมื่อเกิดวิกฤติเกิดขึ้น การลดราคาหรือกำหนดราคาให้ต่ำลงนั้นสามารถทำได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องกลไกราคาและคู่แข่งในตลาด
|