อึดอัด แน่นท้อง ท้องผูก ใส่อะไรก็ไม่มั่นใจเพราะพุงออก หากปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ เชื่อว่าคุณคงจะสนใจเรื่องการดีท็อกซ์ขึ้นมาบ้างล่ะ ว่าแต่ดีท็อกซ์ที่แท้จริงคืออะไรกันนะ? มาหาคำตอบกันในบทความนี้ได้เลย Show เลือกหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับดีท็อกซ์ที่นี่ ดีท็อกซ์ คืออะไร?ดีท็อกซ์ (Detox) คือคำที่ใช้เรียกการกำจัดสารพิษ สิ่งสกปรก ที่ตกค้างในร่างกายออกมา จริงๆ แล้วคำว่า Detox นั้นมาจากคำเต็มว่า Detoxification ที่มีความหมายว่าล้างพิษนั่นเอง การดีท็อกซ์นั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่ที่จะพูดถึงในบทความนี้คือการดีท็อกซ์ด้วยการสวนล้างลำไส้ (Colon cleanse, Colonic irrigation หรือ Colonic detoxification) ซึ่งเป็นวิธีดีท็อกซ์ยอดนิยม วิธีการก็คือใช้อุปกรณ์ใส่น้ำหรือสารบางอย่าง เช่น น้ำเกลือ (NSS) บีบสวนเข้าทางทวารหนักเพื่อให้น้ำเข้าไปกวาดเอาสิ่งสกปรก แล้วขับออกมาทางอุจจาระ (ลักษณะคล้ายการเร่งถ่าย) ประโยชน์ของการดีท็อกซ์การดีท็อกซ์ด้วยการสวนล้างลำไส้ มีประโยชน์ที่อาจเป็นไปได้ดังนี้
แต่ก่อนจะตัดสินใจ! ประโยชน์จากการดีท็อกซ์ด้วยการสวนลำไส้นี้ยังคงไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันได้ชัดเจน การดีท็อกซ์ด้วยการสวนลำไส้จึงเป็นการรักษาแบบทางเลือกเท่านั้น นั่นหมายความว่าควรขอคำแนะนำจากแพทย์ หรือต้องทำโดยมีบุคลากรทางการแพทย์ เช่น หมอ พยาบาล คอยกำกับดูแล ใครไม่ควรดีท็อกซ์ล้างลำไส้แม้คนส่วนใหญ่จะไม่ต้องทำดีท็อกซ์ล้างลำไส้ เพียงแค่รับประทานอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำเยอะๆ และออกกำลังกายเป็นประจำก็ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้อยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนอาจถึงขึ้นต้องหลีกเลี่ยงการทำดีท็อกซ์ล้างลำไว้ เพราะอาจเกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายได้ ดังนี้
ผู้ที่มีเงื่อนไขต่างๆ ดังที่กล่าวมา อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ไตวาย เกิดการติดเชื้อ หรือภาวะอื่นๆ ได้ เว้นแต่แพทย์ผู้ดูแลจะอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้อื่นๆ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว ก็ควรสอบถามกับผู้ให้บริการก่อนทำดีท็อกซ์ล้างลำไส้ด้วยว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะสมต่อตัวคุณหรือมีข้อห้ามใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ควรดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้บ่อยแค่ไหน?ไม่มีจำนวนแน่ชัดในการให้แนะนำว่าควรสวนล้างลำไส้บ่อยแค่ไหน เพราะโดยปกติร่างกายมีกลไกการกำจัดสารพิษและสิ่งสกปรกออกได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว แพทย์จะสวนล้างลำไส้ในกรณีที่เห็นสมควรเท่านั้น เช่น ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกอย่างหนัก ผู้ที่กำลังจะรับการผ่าตัดบางชนิด ผู้ที่กำลังจะรับการเอกซเรย์ลำไส้ (และกลัวอุจจาระบังภาพ) ดังนั้น การดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้ ควรทำเฉพาะเวลาที่มีปัญหาอันสมควรเท่านั้น หรือเลือกทำด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น ดื่มน้ำมากๆ กินผักผลไม้สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงอาหารย่อยยาก ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการดีท็อกซ์การดีท็อกซ์ล้างลำไส้ อาจมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
การดีท็อกซ์ล้างลำไส้จึงควรทำกับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมมา เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ลงให้ได้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ ข้อควรระวังในการดีท็อกซ์อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การดีท็อกซ์สวนลำไส้นั้นควรทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ หรือได้รับการอนุมัติจากบุคลากรทางการแพทย์ เพราะหากซื้ออุปกรณ์มาทำด้วยตัวเอง อาจเกิดปัญหา ดังนี้ หลายคนอาจเคยได้ยินกระแสดีท็อกล้างพิษ (Detox) ซึ่งเชื่อกันว่าการดีท็อกสามารถช่วยขจัดสารพิษตกค้างในร่างกายและช่วยลดน้ำหนักได้ โดยวิธีการเริ่มต้นด้วยการอดอาหาร ตามด้วยการรับประทานผัก ผลไม้สด รวมทั้งดื่มน้ำผลไม้และน้ำเปล่า ทว่าวิธีการนี้จะได้ผลจริงหรือไม่ และจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร ควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนทดลองทำดีท็อกด้วยตนเอง ดีท็อกเป็นอย่างไร ? ดีท็อก เป็นกระบวนการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เพราะปกติแล้วร่างกายของเราจะได้รับสารเคมีที่เป็นพิษจากสิ่งแวดล้อมและอาหารต่าง ๆ ที่บริโภคเข้าไป เช่น สารมลพิษ สารสังเคราะห์ทางเคมี โลหะหนัก และสารเคมีชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งวิธีการดีท็อกมีหลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วมักเป็นการอดอาหารและควบคุมชนิดของอาหารที่รับประทาน โดยอาหารที่สามารถรับประทานได้ระหว่างการทำดีท็อก คือ ผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ น้ำสะอาด ชา สมุนไพร และอาหารเสริม รวมทั้งอาจต้องสวนทวารหนักเพื่อล้างลำไส้ด้วย โดยคำกล่าวอ้างถึงประโยชน์ของการดีท็อก มีดังนี้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนใดที่ชี้ว่าการดีท็อกจะมีประสิทธิผลต่อสุขภาพ ผู้ที่ต้องการทำดีท็อกจึงควรระมัดระวังหรือปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับสุขภาพร่างกายของตน ดีท็อก มีวิธีการอย่างไร ? การดีท็อกนั้นมีหลายรูปแบบตามระดับความเข้มข้นและระยะเวลาในการทำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักประกอบไปด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
ดีท็อก ดีจริงหรือ ? ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนประสิทธิภาพของการดีท็อกต่อการลดน้ำหนักหรือประโยชน์ต่อสุขภาพแต่อย่างใด แต่มีงานวิจัยหนึ่งที่พบว่า การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารพร้อมกับการดีท็อกนั้นอาจให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยนักวิจัยได้แบ่งหนูทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม โดยให้กลุ่มแรกได้รับอาหารที่มีไขมันต่ำและอีกกลุ่มได้รับอาหารที่มีไขมันสูงเป็นเวลา 10-12 สัปดาห์เท่ากัน หลังจากนั้นได้หยุดให้อาหารหนูทดลองทั้ง 2 กลุ่มเป็นเวลา 24 ชั่วโมง พบว่าหนูที่ได้รับอาหารไขมันต่ำมีน้ำหนักตัวลดลงถึง 18 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับหนูทดลองที่ได้รับอาหารไขมันสูงซึ่งมีน้ำหนักตัวลดลงเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทว่าข้อมูลจากงานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองในสัตว์เท่านั้น จึงไม่อาจนำมาใช้ยืนยันว่าการดีท็อกนั้นจะช่วยลดน้ำหนักในคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการศึกษาระยะยาวกับกลุ่มคนจำนวนมากต่อไป เพื่อยืนยันประสิทธิผลของดีท็อก ทั้งในแง่ของการช่วยลดน้ำหนัก การล้างสารพิษ รวมถึงความปลอดภัยของวิธีการนี้ด้วย ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทำดีท็อกได้หรือไม่ ? การดีท็อกอาจส่งผลเสียและเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพได้ เพราะในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าการดีท็อกส่งผลดีต่อสุขภาพด้านต่าง ๆ ได้ เช่น สุขภาพหัวใจ ความดันโลหิต และระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย เป็นต้น นอกจากนี้ การจำกัดชนิดของอาหารที่รับประทานอาจทำให้ผู้ที่รับประทานยารักษาโรคเบาหวานเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการดีท็อกด้วยการจำกัดประเภทของอาหารที่บริโภคอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่การดีท็อกด้วยการเน้นรับประทานอาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยหรืออาหารคลีนนั้นอาจส่งผลดีต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง รวมทั้งผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัว หรือภาวะเจ็บป่วยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดีท็อก เพื่อวางแผนกำหนดอาหารที่ควรรับประทานและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง เคล็ดลับล้างพิษในร่างกายด้วยตนเอง แนวทางปฏิบัติต่อไปนี้เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง และอาจช่วยกำจัดสิ่งตกค้างและสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย
|