บริษัท โคเวสโตร ประเทศไทย จำกัด

บริษัท โคเวสโตร ประเทศไทย จำกัด

Working hours

Claim to edit

Business Representatives

Loading...

Similar Businesses

*MatchLink provides data and other business services. We are not an intermediary to contact the company you are currently viewing.


โคเวสโตร (ประเทศไทย) ดำเนินกิจการมาเกือบ 60 ปี โดยโรงงานโพลิคาร์บอเนตของโคเวสโตรเริ่มต้นขึ้นในปี 2542 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโคเวสโตรได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและขยายการผลิตด้วยโรงงานผลิตเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญหลายแห่งที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจนถึงปัจจุบัน 
ซึ่งโรงงานผลิตของโคเวสโตรในมาบตาพุดเป็นหนึ่งในแปดโรงงานผลิตที่ดำเนินการอยู่ทั่วโลก โดยโรงงานมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมาพร้อมด้วยพนักงานที่มีทักษะสูง นอกจากนี้โรงงานของโคเวสโตรยังมีโอกาสที่จะเติบโตไปยังธุรกิจสายอื่น ๆ อีกด้วย โดยโคเวสโตรมีสำนักงาน 3 แห่งในประเทศไทยและถือเป็นศูนย์กลางอาเซียน

ทีโม สลาวินสกี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การจัดระเบียบองค์กรรูปแบบใหม่ ของโคเวสโตร (ประเทศไทย) ในครั้งนี้ โคเวสโตรได้สร้างรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการจัดโครงสร้างกลุ่มบริษัทใหม่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา โดยบริษัทประสบความสำเร็จในการแบ่งสามกลุ่มธุรกิจเดิมอันได้แก่ กลุ่มโพลียูรีเทน กลุ่มโพลีคาร์บอเนต และกลุ่มผลิตภัณฑ์สารเคลือบ สารยึดเกาะ และผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านออกเป็น 7 หน่วยธุรกิจใหม่ที่ตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

โคเวสโตรประสบความสำเร็จในก้าวแรกของการนำกลยุทธ์ "อนาคตที่ยั่งยืน" ไปใช้จริง ซึ่งกลุ่มบริษัทได้นำเสนอไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 วิสัยทัศน์ของโคเวสโตรในการทำธุรกิจแบบหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์คือหลักการชี้นำสำหรับกลยุทธ์นี้ ตอนนี้โคเวสโตรได้มุ่งเน้นธุรกิจให้สอดคล้องตามความต้องการของลูกค้าและความต้องการของตลาดดังนี้

1.ส่วนแรกของการดำเนินงานตามกลยุทธ์ คือ “เป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุด” ขณะนี้ทางกลุ่มบริษัทได้มุ่งเน้นธุรกิจของตนไปที่ความต้องการของแต่ละตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม ด้วยโครงสร้างกลุ่มบริษัทใหม่นี้ โคเวสโตรได้จัดระเบียบธุรกิจทั้งเจ็ดกลุ่มโดยคำนึงจากปัจจัยความสำเร็จของแต่ละส่วนและรวมกิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดไว้ในห่วงโซ่คุณค่าที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จในหน่วยงานใหม่เหล่านี้
ขณะนี้กลุ่มบริษัทได้แยกออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ ได้แก่ "กลุ่มโซลูชันและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน" และ "กลุ่มวัสดุประสิทธิภาพสูง"

โดย กลุ่มโซลูชันและผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน ประกอบไปด้วย 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มยูรีเทนออกแบบเฉพาะ กลุ่มเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน กลุ่มสารเคลือบและสารยึดเกาะ กลุ่มอีลาสโตเมอร์ กลุ่มพลาสติกเชิงวิศวกรรม และกลุ่มวัสดุฟิล์มชนิดพิเศษ ความโดดเด่นคือการเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนและใช้นวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งโคเวสโตรได้ผสมผสานเข้ากับการให้บริการเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน

ส่วน กลุ่มวัสดุประสิทธิภาพสูง: ธุรกิจนี้จะแยกกลุ่มออกมา ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจที่มีโพลีคาร์บอเนตมาตรฐาน ส่วนประกอบยูรีเทนมาตรฐาน และสารเคมีพื้นฐาน ส่วนสำคัญคือการให้บริการผลิตภัณฑ์มาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ในราคาสมเหตุสมผล

2.มุ่งเน้นด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน ในส่วนที่สองของกลยุทธ์นี้ กล่าวคือ “การขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน” โคเวสโตร ได้ผสมผสานความสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่าง ๆ เข้ากับความต้องการของลูกค้า ด้วยการมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาความยั่งยืนให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ยังสามารถทำกำไรให้แก่ธุรกิจ

โครงสร้างกลุ่มบริษัทใหม่ของโคเวสโตรในขณะนี้ช่วยให้องค์กรสามารถปรับการลงทุนและการเข้าซื้อกิจการ ให้สอดรับกับทั้งแง่ของการทำกำไรและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลิตภัณฑ์และบริการไม่ได้จัดกลุ่มตามสารเคมีอีกต่อไป แต่จะเป็นไปตามข้อมูลเฉพาะทางธุรกิจและความต้องการของลูกค้าแทน

ด้วยโครงสร้างกลุ่มบริษัทใหม่นี้ โคเวสโตรได้จัดระเบียบธุรกิจทั้งเจ็ดกลุ่มโดยคำนึงจากปัจจัยความสำเร็จของแต่ละส่วน และรวมกิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดไว้ในห่วงโซ่คุณค่าที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จในหน่วยงานใหม่เหล่านี้ รวมทั้งโคเวสโตรมีการใช้หลักการ “People, Planet, Profit” (PPP) ที่มีผลกระทบต่ออย่างน้อยสองข้อซึ่งจำเป็นต้องเป็นไปในเชิงบวกและในขณะเดียวกันก็จะไม่ทำร้ายสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

โดย โคเวสโตรได้กำหนดเป้าหมายใหญ่ด้านความยั่งยืนสำหรับ ปี พ.ศ. 2568 ว่าต้องการลดการปล่อยมลพิษสอดคล้องกับเป้าหมายของสหประชาชาติ และ “สร้างสรรค์กิจกรรม” ข้ามบริษัทในระดับองค์กรเพื่อรับรองถึงการพัฒนาในระยะยาวของกันและกัน ซึ่งตอนนี้องค์กรได้กำเนิดรากฐานสำหรับการดำเนินการตามกลยุทธ์ของเราต่อไปและบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในขณะที่ตระหนักถึงวิสัยทัศน์ของเราในการหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ

3.กลายเป็นระบบหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ ถือเป็นเป้าหมายระยะยาวของโคเวสโตร โดย "ระบบหมุนเวียนโดยสิ้นเชิง" ในบทยุทธศาสตร์ที่สาม “กลายเป็นระบบหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์” ส่วนหนึ่งในนั้น กลุ่มบริษัทตั้งใจที่จะเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นกลางต่อสภาพอากาศและอนุรักษ์ทรัพยากร

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโตของประชากร วิถีชีวิตที่ไม่ยั่งยืน การเอาชนะความท้าทายระดับโลกเช่นนี้ จำเป็นต้องมีเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นแนวทาง ที่โคเวสโตรเป้าหมายของเราคือฝังหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนไว้ในโครงสร้างการดำเนินงานของเราและเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมพลาสติกทั้งหมด


โคเวสโตรมุ่งเน้นวิสัยทัศน์ขององค์กรทั้งหมดในการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมุ่งหวังที่จะตอบสนองความสนใจของลูกค้าและผู้บริโภค โคเวสโตรมุ่งหวังที่จะนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความท้าทายในภาคการเมือง วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสวัสดิการของพนักงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ชัดเจน

รวมทั้งโคเวสโตรมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของโลกไปใช้ให้เกิดประโยชน์และนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งหมายถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด หลีกเลี่ยงของเสีย และนำสิ่งต่าง ๆ กลับมาใช้ใหม่ผ่านการรีไซเคิล

ทั้งนี้โคเวสโตร (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ตามที่ตั้งขึ้นใหม่ในตลาดประเทศไทย โดยมีบทบาทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์และการสัญจร การก่อสร้าง ไม้และเฟอร์นิเจอร์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กีฬาและการนันทนาการ รวมถึงการแพทย์

โคเวสโตรมีสถานที่ผลิตโพลีคาร์บอเนตที่ทันสมัยพร้อมมาตรฐานระดับโลก ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและมีห้องปฏิบัติการเทคนิคโพลียูรีเทนในนิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดและตอบสนองต่อความต้องการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ภาคการก่อสร้าง เครื่องทำความเย็น ตลอดจนการใช้งานพิเศษสำหรับผู้ผลิตยานยนต์ รองเท้าและอุปกรณ์กีฬา

สำหรับ โคเวสโตร (ประเทศไทย) ถือเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน และเป็นที่ตั้งยุทธศาสตร์สำหรับการผลิตและการลงทุนของเราในภายภาคหน้า นอกจากนี้ ในปี 2565 โคเวสโตรจะมีโรงงานแห่งใหม่เริ่มดำเนินการเดินเครื่องทางกลเพื่อขยายสายธุรกิจขององค์กร

ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนให้ประสบความสำเร็จอยู่ที่ตลาด และการตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน เนื่องจากการใช้พลังงานทางเลือกอาจจะส่งผลให้ต้นทุน สูงขึ้น ดังนั้นโคเวสโตรจึงต้องมีการสื่อสาร ให้ลูกค้าเข้าใจ และเห็นชอบในแนวทางด้านหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งหากลูกค้าที่ต้องการนำเสนอสินค้าที่มีการตระหนักถึงความยั่งยืน มีการลดลดคาร์บอนฟุตปรินท์ โคเวสโตรสามารถนำเสนอโซลูชันที่มีการลดคาร์บอนฟุตปรินท์ได้ โดยที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้งานได้กับการผลิตที่มีอยู่โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยน ผ่านหลักการ mass balance

สุดท้ายนี้โดยภาพรวม โคเวสโตรสามารถตอบสนองต่อวิกฤติที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและดำเนินการตามมาตรการที่มีความเด็ดขาด ผ่านการมีแผนการรับมือ และติดตามสถานการณ์การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พนักงานของโคเวสโตรได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 98% จึงมั่นใจได้ว่าโคเวสโตรสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการดำเนินนโยบายในการรักษาต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด