โทรศัพท์ไร้สาย panasonic โฮมโปร

iPrice ประเทศไทย – เลือกโทรศัพท์บ้านไร้สายอย่างไรให้โดนใจตอบโจทย์ได้ทุกการสื่อสาร

แม้ว่าในปัจจุบันการใช้งานสื่อสาร ผู้คนส่วนใหญ่จะเลือกใช้โทรศัพท์มือถือเป็นหลักกันไปแล้ว แต่โทรศัพท์บ้านก็ยังมีความจำเป็นอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบริษัทและห้างร้านต่าง ๆ เพราะการสื่อสารนั้นมีความเสถียร ไม่มีสะดุด จึงสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างมั่นใจในทุกรายละเอียด และในปัจจุบันโทรศัพท์บ้านก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานอีกด้วย โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือโทรศัพท์บ้านไร้สายนั่นเอง เนื่องจากสามารถคุยสายได้ทุกพื้นที่ในบ้าน โดยไม่ต้องถูกจำกัดให้อยู่เพียงจุดใดจุดเดียวเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ iPriceThailand ก็มีข้อแนะนำดี ๆ ในการเลือกซื้อโทรศัพท์บ้านไร้สายมาฝากกันให้คุณเอาไปใช้ช่วยในการเลือกโทรศัพท์บ้านไร้สายมาติดตั้งที่บ้าน บริษัท หรือห้างร้านของคุณ

• ความถี่ที่ใช้งาน (Frequency Range) สำหรับโทรศัพท์บ้านไร้สายนั้นจะทำงานผ่านความถี่เป็นสัญญาณติดต่อระหว่างแท่นวางโทรศัพท์กับหูฟังโทรศัพท์นั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ช่วงความถี่ 4 GHz ซึ่งให้คุณภาพเสียงคมชัดที่สุด และสามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าคลื่นความถี่แบบอื่น ๆ อย่างไรก็ดีโทรศัพท์บ้านไร้สายที่ใช้คลื่นความถี่นี้มักจะมีราคาค่อนข้างสูง หากต้องการประหยัดงบประมาณ อาจเลือกใช้ที่คลื่นความถี่ 900 MHz ก็ได้ ซึ่งจะให้คุณภาพเสียงที่คมชัดเช่นกัน แต่จะมีระยะทางในการส่งสัญญาณค่อนข้างน้อย ไม่อาจส่งสัญญาณได้ไกลเท่ากับคลื่นความถี่ 2.4 GHz
• ฟังก์ชันต่าง ๆ ของโทรศัพท์บ้านไร้สาย ในแต่ละเครื่อง แต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานแตกต่างกันไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเลือกดูให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของคุณ ควรเลือกให้พอเหมาะพอสมกับการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเลือกให้มีฟังก์ชันมากเข้าไว้ เพราะอย่าลืมว่าฟังก์ชันที่เพิ่มมากขึ้น ก็หมายถึงราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน สำหรับฟังก์ชันที่ควรเลือกก็อาทิเช่น ระบบจดจำเบอร์หมุนอัตโนมัติ (Speed Dial) ซึ่งอาจจดจำได้ตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 100 เบอร์เลยทีเดียว, ระบบหมุนทวนเบอร์ให้ใหม่โดยอัตโนมัติ (Auto Redial), ระบบพูดสายโดยไม่ต้องถือหูโทรศัพท์ (Hand Free), ระบบต่อสายโทรศัพท์ได้ 2 สายนอก (2 Trunk Lines), ระบบสำรองไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดกรณีไฟฟ้าดับ (Battery Back-up), ระบบรับฝากข้อความ (Automatic Answering) เป็นต้น
• แบตเตอรี่ ควรพิจารณาเรื่องของคุณภาพและความจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์บ้านไร้สายด้วยเช่นกัน เพราะโทรศัพท์บ้านไร้สายก็ต้องอาศัยแบตเตอรี่ในการสแตนด์บายสำหรับใช้งานให้ได้อย่างเพียงพอ ควรเลือกเครื่องที่ใช้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ Nikel Metal Hydride (NiMH) ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาของการเปิด-ปิดเครื่องเพื่อให้พร้อมใช้งาน (Standby) ยาวนานขึ้น โดยในบางรุ่นอาจจะสามารถสแตนด์บายได้ยาวนานถึง 30 วันเลยทีเดียว แต่ก็ควรจะมีแบตเตอรี่สำรองเตรียมไว้ด้วยอีกสักก้อนไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินที่แบตเตอรี่หมดกะทันหัน จะได้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีสะดุด