การจดทะเบียนบริษัทสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์และความรู้ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาสามารถจ้างสำนักงานบัญชีได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจในแต่ละบุคคล ท้ายที่สุดสิ่งที่ผู้ประกอบการควรตระหนักคือความถูกต้องและชัดเจน ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยรักษาผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว แต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคที่ต้องการความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการอีกด้วย เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องของเอกสารแต่เป็นการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต Show
สำหรับผู้ประกอบการ SME แล้ว เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง อาจจะเริ่มคิดถึงเรื่องการจดทะเบียนบริษัทที่ว่ากันว่าจำเป็นขึ้นมาแล้วใช่มั้ยครับ แต่ผู้ประกอบการอาจจะยังไม่แน่ใจในข้อดีข้อเสีย รวมถึงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้างที่จะบอกเราได้ว่านี่แหละ คือเวลาที่ควรจดทะเบียนบริษัทแล้ว จดทะเบียนบริษัทเมื่อไหร่ดีกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าเมื่อไหร่กันแน่ที่ควรจดทะเบียนการค้า แต่สิ่งที่เป็นสัญญาณบอกได้ว่าถึงเวลาแล้วคือ รายรับของบริษัทนั่นเองครับ เมื่อรายได้มากกว่า 750,000 ?ตราบใดที่ยังไม่จดทะเบียนบริษัทฐานเงินได้เมื่อต้องจ่ายภาษีจะถูกคำนวณแบบเป็นเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีฐานภาษีสูงสุดที่ 750,000 บาท เสียภาษีที่ 35% แต่ถ้าจดทะเบียนบริษัทแล้ว ภาษีเงินได้สูงสุดที่ต้องจ่ายจะอยู่ที่ 20% ซึ่งตรงนี้จะมองว่ามากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ เพราะปัจจัยในการคำนวณเงินได้ของบุคคลกับบริษัทที่ผ่านการจดทะเบียนมาแล้วมีความแตกต่างกัน ผู้ประกอบการควรพิจารณาส่วนนี้ให้ดีค่ะ เมื่อต้องการสร้างเครดิตทางบัญชีเมื่อบริษัทเติบโตถึงจุดหนึ่ง ผู้ประกอบการที่ต้องการขยับขยายให้บริษัทเติบโตขึ้น จะมีอีกเรื่องที่ต้องคิดถึงนั่นคือหลักฐานที่ใช้แสดงเพื่อยื่นขอสินเชื่อ ซึ่งบัญชีรายรับรายจ่าย งบการเงินต่างๆ จะเป็นเครดิตที่ดีหากมีการยื่นขออนุมัติ การจดทะเบียนบริษัทที่มาพร้อมการแยกบัญชีรายรับรายจ่ายของผู้ประกอบการออกจากบัญชีของบริษัทเองจะช่วยให้เห็นตัวเลขจริงที่เกิดจากการบริหารงานของบริษัทนั้นๆ ซึ่งช่วยให้การยื่นขออนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น จดทะเบียนบริษัทมีกี่ประเภทนอกจากความสงสัยว่าการจดทะเบียนบริษัทควรจดเมื่อไหร่แล้ว ผู้ประกอบการบางรายอาจยังสงสัยเรื่องของการจดทะเบียนบริษัทเพิ่มเติมว่า การจดทะเบียนมีกี่ประเภท การจดทะเบียนบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้ค่ะ จดทะเบียนบริษัทแบบทะเบียนพาณิชย์ (บุคคลธรรมดา)คือการจดทะเบียนบริษัทของกิจการที่มีผู้ประกอบการเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว คิดเอง ทำเอง มีอิสระและสามารถตัดสินใจทุกอย่างเกี่ยวกับกิจการได้เต็มที่หรือเหมาะกับกิจการขนาดเล็กที่ขายสินค้าหรือบริการง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก มูลค่าของกิจการไม่สูงมาก ข้อดีคือผู้ประกอบการจะได้รับกำไรเต็ม ๆ และเสียภาษีโดยคำนวณอัตราภาษีหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเท่านั้น แต่ถ้ากิจการขาดทุนก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างรวมถึงหนี้สินแบบไม่จำกัดเช่นกัน จดทะเบียนบริษัทแบบทะเบียนนิติบุคคลสำหรับกิจการที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลงทุนและเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน การกระทำทุกอย่างจะเป็นไปในนามกิจการทั้งหมด ข้อดีคือ ภาษีเงินได้สูงสุดที่ต้องจ่ายจะอยู่ที่ 20% ซึ่งน้อยกว่าจดทะเบียนบริษัทแบบทะเบียนพาณิชย์ ส่วนข้อเสียคือ การดำเนินกิจการอาจมีความล่าช้าเพราะมีผู้ตัดสินใจหลายคน โดยทะเบียนนิติบุคคลมี 3 ประเภทแบ่งตามการรับผิดชอบหนี้สิน ที่ "จำกัด" หรือ "ไม่จำกัดจำนวน"ดังนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามัญห้างหุ้นส่วนจำกัดสามัญ คือ กิจการที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จะจดหรือไม่จดทะเบียนนิติบุคคลก็ได้ โดยความรับผิดชอบของหุ้นส่วนมีประเภทเดียวเท่านั้น คือ ผู้ที่รับผิดชอบในหนี้สินแบบ “ไม่จำกัดจำนวน” ผู้เป็นหุ้นส่วนสามารถตกลงทำกิจการร่วมกันและแบ่งปันกำไรจากกิจการได้อีกด้วย แต่ถ้ากิจการขาดทุน หุ้นส่วนทุกคนจะต้องรับผิดชอบหนี้สินร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ กิจการที่มีผู้ประกอบการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ต้องจดทะเบียนนิติบุคคล ความรับผิดชอบของหุ้นส่วน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือแบบ "จำกัด" และ แบบ "ไม่จำกัด" ผู้ที่รับผิดชอบในหนี้สินแบบ “จำกัด” จะไม่สามารถตัดสินใจในกิจการได้ และผู้ที่รับผิดชอบในหนี้สินแบบ “ไม่จำกัดจำนวน” จะมีสิทธิในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในกิจการได้ทั้งหมด ถ้าหากกิจการขาดทุน ห้างหุ้นส่วนจำกัดจะไม่ต้องจ่ายภาษีบริษัทจำกัดบริษัทจำกัด คือ กิจการที่มีผู้ประกอบการ 3 คนขึ้นไป ต้องจดทะเบียนนิติบุคคล ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนมีประเภทเดียว คือ ผู้ที่รับผิดชอบในหนี้สินแบบ "จำกัด" ไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ค้างชำระ ซึ่งกิจการแบบนี้ต้องมีภาพลักษณ์ดี มีการวางแผนกิจการรัดกุม และมีการบริหารงานในรูปแบบของคณะกรรมการบริษัท เพื่อทำให้กิจการเกิดความน่าเชื่อถือ จดทะเบียนบริษัทมีขั้นตอนอะไรบ้าง1. ตรวจและจองชื่อบริษัท2. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
3. รอนายทะเบียนตรวจสอบเอกสารเมื่อส่งเอกสารตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ให้รอการตรวจสอบจากนายทะเบียน หากมีส่วนไหนจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมจะได้รับการแจ้งกลับ 4. เตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อใช้จดทะเบียนบริษัทเอกสารที่ต้องเตรียมมา
หมายเหตุ: เอกสารทุกฉบับผู้ขอจดทะเบียนจะต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งคน ยกเว้นสำเนาบัตรประจําตัวหรือหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน เจ้าของบัตรจะต้องเป็นผู้เซ็นรับรองความถูกต้องด้วยตนเอง 5. ยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัทยื่นคำขอได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเขตที่ใกล้บ้านผู้ประกอบการทุกจังหวัดทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 87 แห่ง เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนและมอบหนังสือรับรอง ก็แสดงว่าผู้ประกอบการเป็นเจ้าของบริษัทที่ได้จัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จดทะเบียนบริษัทกับคำถามที่พบบ่อยจดทะเบียนบริษัท ทำด้วยตนเองหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญดีกว่า?ผู้ประกอบการสามารถจดทะเบียนด้วยตนเองได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อดีก็คือผู้ประกอบการจะได้เรียนเกี่ยวกับขั้นตอนการจดทะเบียนตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ถ้าผู้ประกอบการไม่อยากเสียเวลาหรือไม่อยากวุ่นวายในขั้นตอนและเอกสาร ก็สามารถจ้างสำนักงานบัญชีได้เช่นกัน จดทะเบียนบริษัท ใช้ทุนเท่าไหร่กิจการทั่วไปไม่มีกำหนดทุนจดทะเบียน โดยปกติแล้วทุนที่ใช้มากน้อยจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับกิจการนั้นๆ โดยมูลค่าหุ้นจะต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท/หุ้น จดทะเบียนบริษัท ต้องมีเงินสดไปวางตามจำนวนที่จดทะเบียนหรือไม่ก่อนอื่นผู้ประกอบการจะต้องชำระค่าหุ้น 25% ของทุนจดทะเบียน โดยส่วนที่เหลือสามารถค้างชำระไว้ก่อนได้ ยกตัวอย่างเช่น ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ต้องชำระค่าหุ้น 250,000 บาทก่อน จดทะเบียนบริษัท ต้องมีหุ้นส่วนกี่คนสำหรับห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องมีหุ้นส่วน 2 คนขึ้นไป และสำหรับบริษัทจำกัดจะต้องมีหุ้นส่วน 3 คนขึ้นไป เราสามารถให้พ่อแม่เป็นผู้ถือหุ้นได้หรือไม่ผู้ประกอบการสามารถให้พ่อแม่ถือหุ้นให้คนละ 1% และผู้ประกอบการถือหุ้นจำนวนที่เหลือทั้งหมด หรือตามความต้องการได้ โดยผู้ประกอบการเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามกระทำแทนบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ขอบเขตการรับผิดชอบจะไม่มากเกินกว่ามูลค่าหุ้นที่ถือเอาไว้ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ควรเป็นที่ไหนการจดทะเบียนบริษัทควรจะมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งชัดเจน จะเป็นเจ้าของเองหรือเช่าคนอื่นก็ได้ ถ้าเป็นเจ้าของเองก็ต้องทำหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่เป็นสถานประกอบการ แต่ถ้าเป็นผู้เช่าก็ต้องทำสัญญาเช่าให้ชัดเจน ค่าธรรมเนียมเป็นอย่างไร ใช้เวลากี่วัน
การจดทะเบียนบริษัทส่งผลดีกับบริษัทของผู้ประกอบการหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษี ความน่าเชื่อถือของธุรกิจ รวมทั้งสร้างโอกาสในการขอสินเชื่อเพื่อพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการและสร้างความถูกต้องในเรื่องของกฎหมาย เพราะฉะนั้นเมื่อผู้ประกอบการศึกษาการจดทะเบียนบริษัทอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จะพบว่าการจดทะเบียนย่อมสร้างประโยชน์มากกว่าโทษ เพียร์ พาวเวอร์ คือผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งระบบคราวด์ฟันดิงคือตัวกลางในการระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ด้วยวิธีการออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง สำหรับธุรกิจที่ต้องการระดมทุนผ่านหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงบนแพลตฟอร์มของเพียร์ พาวเวอร์ จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้1. ธุรกิจของคุณ จดทะเบียนนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือบริษัทจำกัดมหาชน และเปิดดำเนินการมาแล้วอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป 2. ธุรกิจของคุณ มีผู้ถือหุ้นหลักเป็นคนไทยอย่างน้อย 1 ท่าน (ถือหุ้นอย่างน้อย 20% ขึ้นไป) ที่บริหารหรือดำเนินงานธุรกิจดังกล่าว และอาศัยอยู่ในประเทศไทย หากคุณมีคุณสมบัติดังกล่าว และสนใจขอระดมทุนสามารถคลิกที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ _______________________________________________________________________ คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว |