สีผมสวยๆกว่าจะได้มาก็ต้องกัดสีผมกันตลอดทำให้เส้นผมแห้งแตกปลาย บางคนถึงขั้นพังเลยทีเดียว!! แต่พี่อะเครุจะมาบอกต่อ น้ำยากัดสีผมดีๆ ที่ไม่ทำให้แสบหนังศีรษะ แถมยังบำรุงให้ผมพลิ้วสวยไม่แห้งเสียอีกด้วย ใครชอบทำสีผมด้วยตัวเอง ห้ามพลาดเด็ดขาด! Show
หน้าร้อนแบบนี้ใครๆก็ต้องคิดถึงการทำสีผมให้โดดเด่นสีสันแสบทรวงกันไปข้าง แต่การจะย้อมสีเจ็บๆอย่างสีแดง สีเขียว สีบลอนด์ หรือสีเทา สีโทนสว่างทั้งหลายแหล่ พวกนี้จำเป็นจะต้องกัดสีผมอย่างน้อย 1-2 รอบเลยทีเดียว แน่นอนว่าการกัดแต่ละครั้งได้ทำลายเส้นผมไปมากอยู่แล้ว ยิ่งทำซ้ำๆบ่อยๆมีหวังขาดหลุดร่วงกระจายชัวร์ แต่เพื่อความสวยงามแล้วย่อมทนได้สินะ! ไม่ต้องกลัวค่ะ วันนี้พี่อะเครุได้คัดมาแล้วว่าน้ำยากัดสีผมยี่ห้อไหนดีต่อหัว ดีต่อใจเราบ้าง ควรตำสุดๆ ไปดูกันเลย! สารบัญ
พิกัด : ร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป, Eveandboyราคา : 35-40 บาท สำหรับแบรนด์นี้ถือว่าใช้ดีตั้งแต่สินค้าประเภทยาย้อมผมแล้วค่ะ และยิ่งเป็นน้ำยากัดสีผมบอกเลยว่าเริ่ด! ในราคาแค่ 35-40 บาท แต่คุณภาพดีมาก ไม่แสบหนังศีรษะ ไม่ทำให้ผมเสียหรือขาดหลุดร่วง แถมสูตรนี้เป็นแบบ Extra Light แปลว่าให้ความสว่าง โทนสีอ่อนแบบชัดเจน อ่อนระดับ 10 เต็ม 10!! เหมาะแก่การลงสีสวยๆในขั้นตอนถัดไป ถือว่าได้รับกระแสตอบรับและความนิยมในหมู่วัยรุ่นพอสมควรเลยล่ะ ^^ 2. NIGAO MAXXLightพิกัด : Nigao Thailand FanPageราคา : 189 บาท น้ำยากัดสีผมยี่ห้อ Nigao สาวๆที่รักการทำสีผมอาจคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้าง ด้วยความที่เป็นเนื้อครีมไม่ใช่ผง ง่ายต่อการใช้งานไม่ฟุ้งกระจายเลอะเทอะ สามารถฟอกให้ขาวได้มากถึง 8 ระดับในครั้งเดียว โอ้โหวววว คือใช้ครั้งเดียวเอาอยู่ ไม่ต้องฟอกหลายรอบเลย แถมยังไม่ทำให้ผมเสียแตกปลาย หรือแห้งกรอบด้วยนะ ของเค้าดีจริงๆ! 3. Farger Hight Lift Bleaching Creamพิกัด : fargerthailandราคา : 70-80 บาท แบรนด์นี้เค้าเคลมตัวเองไว้แรงม๊ากกกก สามารถกัดสีผมได้ถึง 10 ระดับในครั้งเดียว!! แต่ในความแรงนี้กลับไม่ทำให้เส้นผมเสียหายเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังฟอกสีหลุดเร็วกว่าที่คิดอีกต่างหาก ฟอกขาวสว่างไวโดยไม่มีอาการแสบหนังศีรษะแม้แต่น้อย ได้สีสว่างโดนใจ แถมราคาก็ถู๊ก..ถูก แบบนี้ควรสอยมา 2-3 กล่องแล้วล่ะ! 4. Dcash Master Bleaching Powder Lightenerพิกัด : Dcash Professionalราคา : 30-40 บาท ถ้าเรื่องความสว่างและราคาถูกต้องยกให้ของ Dcash เลยจ้า! หาซื้อง่ายมาก เป็นที่ถูกอกถูกใจสาวๆกันซะเหลือเกิน แต่ไม่ใช่ว่าของราคาถูกจะไม่ดีเสมอไปนะคะ ยี่ห้อนี้หลังจากทำเสร็จผมนุ่มกว่าเดิมอีก! ไม่แห้งเสียแตกปลาย ผมไม่กรอบ สีชัด อาจจะติดที่กลิ่นฉุนเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลค่ะ ^^ 5. CRUSET Hair Bleaching Cream A900 50 ml.พิกัด : crusetราคา : 65-70 บาท น้ำยากัดสีผมที่ไม่มีกลิ่นเหม็นฉุนแม้แต่น้อย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้งานง่ายสะดวก ตัวนี้จะช่วยบำรุงจากผมเสียเป็นผมสวยด้วยโอลีฟ ออยส์ และวิตามินอี บร๊ะะะ!! อลังการฝุดๆ ได้สีผมที่ชัดเจนโดยไม่ต้องลงหลายรอบ และพี่อะเครุบอกเลยว่าเบาสบายมากๆ ไม่แสบหนังศีรษะเลยสักนิด! 6. CRUSET Hair Bleaching Cream A000 75 g. (White)พิกัด : crusetราคา : 65-70 บาท สำหรับตัวนี้ถือว่าเด็ดกว่าตัวด้านบนอีกจ้า! เพราะอันนี้คือการฟอกให้เป็นสีขาวโดยตรง ยกระดับพื้นสีผมให้สว่างเจิดจ้าขั้นสูงสุด ถึงจะแรงกว่าเดิมแต่เต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ที่อ่อนโยนต่อเส้นผม เพื่อเป็นการเตรียมการย้อมสีผมโทนแฟชั่นนิสต้าของเหล่าสาวๆที่ชื่นชอบโทนสีอ่อนอย่างสีเทา สีขาว หรือสีสว่างอื่นๆ รับรองว่าได้ดั่งใจแน่นอน ^^ 7. Biowomanพิกัด : biowomanราคา : 139 บาท ที่สุดของความไม่แสบหนังศีรษะ!! ฟอกเสร็จแล้วลงสีทันทีก็ไม่มีปัญหา ตัวนี้ดีมากกก ดีเวอร์วังสุดๆ กลิ่นหอมเบาๆไม่แสบจมูก หลังจากล้างออกเห็นได้ชัดว่าเส้นผมดูดี พริ้วสวยไม่แห้งแตกปลายหรือจับตัวเป็นก้อน ปลอดภัยต่อโคนผมใหม่ ดีจนต้องร้องว้าวววว ราคาก็ไม่แพงเลย แถมตัวนี้หลายๆคนติดใจซื้อไปฟอกแล้วฟอกอีกเวลาจะเปลี่ยนสีผมตลอดเลยล่ะค่ะ ใครอยากลองต้องห้ามพลาดตัวนี้จริงๆ! + How to การกัดสีผมด้วยตัวเองแบบง่ายๆไม่ง้อช่าง +1. สำรวจเส้นผมก่อนที่เราจะกัดสีผม ต้องรู้ก่อนว่าผมเราหนา ยาว บาง หรือมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้กะปริมาณน้ำยาให้เพียงพอต่อ 1 ครั้งได้ง่าย 2. จำนวนในการกัดโดยปกติแล้วไม่แนะนำให้กัดเกิน 3 ครั้งรวดเดียวจบนะคะ เพราะว่าคุณอาจจะไม่มีโอกาสบำรุงผมให้กลับมาสวยได้ มันจะเสียอย่างรุนแรงเลย หากผมเส้นใหญ่และหนา สามารถกัดได้ 2-3 ครั้ง (ไม่ควรเกินกว่านี้) / ผมเส้นใหญ่แต่บาง ไม่ควรเกิน 2 ครั้ง / ผมเส้นใหญ่ปกติ ไม่ควรเกิน 3 ครั้ง ระวังผมขาดหลุดร่วงนะจ๊ะสาวๆ 3. การลงน้ำยากัดอย่างกน้ำยากัดค่ะ ใส่ไปเลยให้ชุ่มๆจะได้กัดสีออกมาทั่วถึงกัน ถ้าเราใส่แค่จำนวนน้อยๆ มีหวังออกมาดำๆด่างๆพี่อะเครุไม่รู้ด้วยนะคะ 4. แบ่งผมเป็นช่อวิธีทำคล้ายกับการย้อมผมนั่นแหละ แบ่งผมเป็นช่อๆเพื่อให้การกัดสีผมทั่วถึงกันให้มากที่สุด โดยใช้หวีแบ่งผมและหวีให้เป็นเส้นไม่พันกันก่อนที่จะลงน้ำยากัดหากใครถนัดแปรงย้อมผมก็ใช้ได้ แต่ถ้าจะใช้มือแล้วล่ะก็ .. ใส่ถุงมือป้องกันสารเคมีไว้ด้วยนะคะซิส 5. กัดสีเสร็จเรียบร้อยหากชโลมน้ำยากัดสีผมเสร็จเรียบร้อยทั้งศีรษะแล้วล่ะก็ ทิ้งไว้ 30 นาที หรือถ้าเกิดว่าได้สีผมที่ถูกใจแล้วไปล้างออกเลยก็ได้ค่ะ ล้างให้เกลี้ยงแล้วสระเท่านั้น ห้ามลงครีมนวดผมเด็ดขาด ไม่งั้นย้อมสีผมไม่ติดนะจ๊ะบอกเลย >,< + Trick & Tips +
+ 20 ปัญหาที่คนชอบทำสีหรือกัดสีผมต้องเจอ! +1. ผมร่วงโอ้แม่เจ้า ผมชั้นนนนนน ทำไงดีล่ะร่วงไม่หยุดเลย ? ง่ายมากๆ! พักผ่อนหนังศีรษะซะบ้าง อย่าย้อมถี่ๆบ่อยๆจนเกินไป เพราะในน้ำยากัดสีผมและย้อมสีผมนั้นล้วนมีแต่สารเคมี ไม่ร่วงก็แปลกแล้ว 2. สีหลุดเร็วสีผมหลุดเร็วนี่คือปัญหาใหญ่หลวงของสาวๆเลย บางคนทำมาแพงจัด แค่ทำสีเทาอ่อนสวยๆ อาจจะถึงกับเข่าอ่อนได้เหมือนกันเมื่อเห็นราคา และสีผมแบบนี้พี่อะเครุบอกเลยว่าอยู่ได้แปปเดียวจริงๆค่ะ เพราะเป็นสีที่ไม่ใช่สีธรรมชาติจึงไม่ค่อยติดทนนั่นเอง! 3. ผมแตกปลายแน่นอนว่ายิ่งผมทำสีแล้วดันมาแตกปลายอีกเนี่ย ดูไม่ได้สุดๆ ผมจะดูชี้ฟูไม่มีน้ำหนัก แถมเสียแล้วเสียอีกทำยังไงก็ไม่สวย พี่อะเครุแนะนำว่าให้ไปตัดผมส่วนที่แตกปลายออกแล้วไว้ยาวใหม่จะดีกว่าค่ะ เพื่อให้สารอาหารแก่ผมอย่างเต็มที่ด้วย 4. ผมแห้งกรอบเป็นที่ต้องยอมรับกันให้ได้ในหมู่คนรักการทำสีผมเนอะ ว่ายังไงก็หนีไม่พ้นผมแห้งกรอบแน่ๆ จับแล้วสากมือ ไม่นุ่มสลวย ลมพัดก็ไม่ปลิวจ้า! โอ๊ยพูดแล้วน้ำตาจะไหล ควรหมักผม, ทรีตเม้นท์, อบไอน้ำ ด่วน!! 5. สีผมด่าง ไม่เสมอกันยิ่งคนย้อมผมเองยิ่งด่าง เชื่อเถอะค่ะ ยกเว้นแต่คนที่ย้อมด้วยตนเองจนชิน มีเทคนิคนั่นนี่เยอะแยะมากมาย ส่วนคนที่ไม่เคยย้อมเองอย่างเรายังไงก็ด่างแน่นอน ไม่รู้ว่าจะเก็บผมส่วนไหนก่อน ไม่รู้ว่าจะลงสียังไง ตรงไหนเยอะตรงไหนน้อย แบบนี้ก็จะได้ผมสีทูโทนไปโดยไม่เต็มใจเล้ยยย 6. หน้าจืดสนิทเคยมีคนกล่าวไว้ว่าถ้าผมสีอ่อนก็ต้องแต่งหน้าจัดๆ อันนี้เป็นอะไรที่เหนื่อยมากค่าาา 555 นอกจากจะต้องบำรุงผมแล้วยังต้องมานั่งบล๊อกตาสโมคกี้อายไปอี๊กกก ไม่งั้นหน้าจะจืดชืดเหมือนวิญญาณเดินได้ แต่ก็นะ.. อยากสวยก็ต้องอดทนนี่นา ฮึบๆ! 7. สระผมบ่อยไม่ได้ในยาย้อมผมหรือกัดสีผมบางยี่ห้อบอกว่าหลังจากย้อมสีผม ห้ามสระผมเป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อให้สีเซ็ทตัวและไม่หลุดเร็วเกินไป.. เอาล่ะสิ แล้วสาวผมมันหัวเหนียวอย่างเราถ้าไม่สระจะมันเยิ้มเหมือนคุณป้าใส่เจล แค่คิดก็คันหนังศีรษะขึ้นมาเลยนะเนี่ย 8. ย้อมสีผมแต่ไม่เคยได้สีที่ต้องการเป็นไปได้ยากฝุดๆ กับการกัดสีผมครั้งเดียวแล้วได้ผมสว่างจ้าาา หรือ ย้อมสีผมครั้งเดียวแล้วสีได้ตามรูปหน้ากล่องเป๊ะ! อย่าลืมว่าเส้นผมคนเราไม่เหมือนกัน เส้นใหญ่ เส้นเล็ก ผมหนา ผมบาง และพื้นสีผมของคุณเอง จะให้ย้อมครั้งเดียวแล้วสวยเลย มันยากมากๆค่ะ 9. ไม่มีเวลาเติมสีผมงานก็เยอะ พักผ่อนก็น้อย จะเอาเวลาที่ไหนไปเติมสีผมล่ะคะแม่คุณ บอกพี่อะเครุที! ผมก็ยาวไวเกิ๊นนนน จนผมที่งอกใหม่มีสีดำสนิทตัดกับสีผมเดิมซะงั้น ดูแล้วไม่สวยอย่างแรง แต่ก็ไม่รู้จะทำตอนไหน เอาเป็นว่าอย่าปล่อยไว้นาน ต้องหาเวลาไปย้อมผมเติมสีแล้วล่ะ 10. ช่างทำผมชอบบอกว่าได้ๆไว้ก่อนไม่ว่าคุณจะเอาสีผมสีไหนไปให้ช่างดู เค้าก็จะบอกแค่ว่าทำได้ๆ ต้องซื้อนั่น ซื้อนี่ ใช้ตัวนั้น ใช้ตัวนี้ จนเราเคลิ้มและเอาทุกออพชั่นที่ช่างเสนอมา แต่ผลลัพท์หลังจากที่ทำออกมา.. อ้าวเฮ้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้ที่หน่า 555 ไม่ต้องเสียใจไป บำรุงใหม่แล้วกลับไปย้อมเองสวยๆเริ่ดๆที่บ้านก็ได้ 11. ผมฟูเป็นแอฟโร่สาวๆคะ คนที่พื้นผมเป็นสีเข้มอยู่แล้วอย่างสีดาร์คช็อกโกแลตหรือสีดำ จะให้กัดสีผมทีเดียวแล้วสว่างเลยไม่สามารถทำได้นะคะ อาจจะต้องกัด 2-3 รอบ ซึ่งการกัดในจำนวนเยอะๆแบบนี้มีโอกาสมากๆเลยจ้า.. โอกาสในการโดนตัดผมเนี่ยค่ะ !! เตรียมใจไว้เลยว่าฟูฟ่องและไร้น้ำหนักชัวร์ 12. ผมเป็นไม้กวาดไม่ต้องเสียใจไป ทำสีผมบ่อยๆ สภาพเส้นผมรับไม่ไหวอยู่แล้วล่ะ ยังไงก็เสีย เสีย เสียยยย! สารพัดปัญหาที่คุณจะต้องเจอกับการโดนแซวว่าหัวไม้กวาด, นี่ผมหรือไม่ปัดหยากไย่, ขอยืมผมไปกวาดใบไม้หน่อย ฮืออออ พูดแล้วน้ำตาจะไหล 13. ไม่ชินหน้าไม่ใช่แค่คุณไม่ชินหน้าตัวเอง แต่รวมไปถึงพ่อแม่พี่น้อง, เพื่อนที่ทำงาน ที่อาจจะงงๆหน่อยเมื่อคุณเข้าไปทำงานในวันถัดไปว่าเอ๊ะนั่นใคร.. เดินตามหลังเราก็ไม่กล้าทักเพราะกลัวผิดคน! 14. ต้องใช้แชมพูสูตรอ่อนๆหนังศีรษะของเราเมื่อถูกทำร้ายมาอย่างหนักหน่วงด้วยสารเคมีต่างๆแล้ว ก็ต้องสระผมด้วยแชมพูอ่อนๆอย่างแชมพูเด็กนี่แหละค่ะเป็นทางเลือกที่ไม่อยากเลือกแต่ก็ต้องใช้นะคะ เพราะแชมพูเด็กจะไม่ทำร้ายผมให้เสียมากกว่าไปนี้แน่นอน! 15. ใช้เวลานานมากเวอร์จะบอกว่าทำสีผมแต่ละทีนี่ไม่ใช่เล่นๆนะจ๊ะ ควรเคลียร์คิวของตัวเองให้ว่างจริงๆ เพราะทั้งกัดสี ทั้งลงสี บำรุงผม อบไอน้ำ 12 ชั่วโมงก็ไม่พอค่ะพูดเลย ใจไม่รักจริงทำไม่ได้นะคะซิส 555 16. หัวมันเยิ้มเพราะน้ำมันบำรุงผมบางคนอาจจะบอกว่าฉันไม่ชอบทา ฉันไม่ใส่หรอกน้ำมันบำรุงผมเนี่ย! ใช่ค่ะ แต่ในที่นี้หมายถึง ‘คนที่กัดผมบ่อยจนผมเสียแต่ไม่อยากตัดผม’ ในที่นี้คือต้องบำรุงอย่างเดียวละ ใส่เข้าไปค่ะน้ำมันบำรุงผมเอย วิตามินผมเอย ต้องมองข้ามความหัวมันไปนะคะไม่งั้นจิตตกสุดๆ 17. อาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่นไม่ได้ไม่เชิงว่าจะไม่ได้ซะทีเดียว แต่หลีกเลี่ยงไว้จะเวิร์คกว่า น้ำอุ่นมีโอกาสทำให้ผมที่แห้งเสียอยู่แล้ว กลับเสียหนักไปกว่าเดิมอีกนะคะบอกเลย ทั้งแห้ง ทั้งกรอบ งานนี้ล่ะแก้ยากแน่ 18. สีเฟดเหมือนกางเกงยีนส์เลย ยิ่งซักยิ่งซีด แต่อันนี้ยิ่งสระยิ่งหลุด จากสีผมสวยๆ จะเริ่มด่างไม่เท่ากัน ที่เคยเทาๆสวยๆจะเริ่มออกส้มๆ โอ๊ยทนดูไม่ได้จริงๆ อย่าพยายามไปยุ่งกับผมมากเลยดีกว่าค่ะ Let It Goooooo 19. ผมเป็นที่กักเก็บฝุ่นโอ้โหพูดแล้วขึ้นเลย! ปัญหาผมเก็บฝุ่นที่สาวๆบางคนต้องเคยเจอมาแน่ๆ เกิดขึ้นกับคนที่ผมเสียแตกปลาย เส้นผมไม่เรียบลื่นเป็นเส้นเดียวกัน เพราะฉะนั้นฝุ่นผงต่างๆที่ลอยมากับลมก็จะเกาะบนผมแห้งๆของเราได้ง่ายกว่าปกติ เจอแบบนี้แล้วไม่สระผมก็คงเกินทนจริงๆ 20. นักกีฬามีโอกาสผมเสียเร็วกว่าคนอื่นอย่างงเลยค่ะว่าทำไมนักกีฬาถึงต้องผมเสียเร็วกว่าคนอื่น ก็เพราะเส้นผมไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าที่ควร ซ้ำไปกว่านั้นยังเจอทั้งแดด ลม เหงื่อ หนักไปกว่านั้นคือนักกีฬาว่ายน้ำจ้าาาา! เดี๋ยวผมก็เปียก เดี๋ยวผมก็แห้ง ไหนจะคลอรีนในสระอีก โอ้วววว ต้องดูแลให้ดีกว่าคนอื่น 3 เท่าเลย! เจ๋งมากๆกับน้ำยากัดสีผม หรือที่เรียกอีกอย่างว่าน้ำยาฟอกผม ใครที่เป็นสาวกตัวยงในการเปลี่ยนสีผมล่ะก็ พลาดไม่ได้เชียว ต้องลองสักยี่ห้อแล้วล่ะค่ะ ^^
|