หญิงชราคนนึงกำลังเดินทางแบกสัมภาระ ระหว่างทางได้เจอกับชายคนหนึ่ง มาช่วยอาสา ผู้ซึ่งหญิงชราเองก็ไม่ทราบเลยว่าเค้าคือใคร เกิดอะไรขึ้นกับเธอน่ะ รูปร่างของท่านนาบีมูฮัมหมัด (ซ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวะซั่ลลัม) ท่าน นาบีมีรูปร่างขนาดปานกลางได้ส่วน ไม่เตี้ย ไม่สูงมาก โครง สร้าง และกระดูกแข็งแรงได้ส่วน ผิวขาวอมแดง เกลี้ยงเกลา ผมดำหยักโศรกน้อยๆ คิ้วดก ตาสีดำ ขนตายาว จมูกโด่ง ใบหน้างาม แต่ไม่อวบอูม ท่านมีเคราดกดำ ไหล่กว้าง แข็งแรง และ ตรงกึ่งกลางระหว่างช่วงไหล่ มีเครื่องหมายอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการเป็นนาบี การอพยพของท่านนะบีมุฮัมหมัด เมื่อผู้ปฏิเสธชาวกุเรชเห็นว่าบรรดามุสลิมได้อพยพ และรอดพ้นจากน้ำมือพวกเขาไปได้ จึงทวีความโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น จึงทำให้รู้ว่าภัยอันตรายที่คิดว่ามาจากนะบีมุฮัมมัด และจงรำลึกถึงขณะที่ บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้วางแผนต่อเจ้า(มุฮัมมัด) เพื่อกักขังเจ้า หรือเพื่อจะฆ่าเจ้า หรือขับไล่เจ้าออกไป และพวกเขาได้วางแผนกัน และอัลลอฮ์ ก็ทรงวางแผน และอัลลอฮ์ นั้นเป็นผู้ทรงเยี่ยมกว่าในบรรดาผู้ที่วางแผน (อัลอันฟาล 8 : 30) แล้วที่ประชุมได้เห็นชอบตามข้อเสนอของอบีญะฮ์ล ที่เสนอให้ทำการสังหารท่านนะบีมุฮัมมัด ท่านเราะซูล สถานที่ตั้งของถ้ำ เซ๊าร์ นั้น อยู่ตรงข้ามกับเส้นทางที่จะไปมะดีนะฮ์ ท่านอยู่ที่นั่นเพื่อหลบบรรดาผู้ตามล่า โดยที่ อับดุลลอฮ์ บุตรชายของอบูบักร์ จะมาหาคนทั้งสองที่ถ้ำในตอนกลางคืน เพื่อแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของพวกกุเรชและเรื่องราวต่างๆที่ได้ยินมา แล้วจะกลับไปก่อนรุ่งสาง เช่นเดียวกับที่ อามิร บิน ฟุฮัยเราะฮ์ คนรับใช้ของอบูบักร จะมาพร้อมฝูงแพะที่เขาเลี้ยงดูอยู่ เหมือนคนเลี้ยงเแพะ และรอให้ถึงเวลาที่ความมืดปกคลุมไปทั่ว แล้วนำเอานมให้ท่านทั้งสองได้ดื่มกิน ท่านนะบี สำหรับสิ่งที่นอกเหนือจากความสามารถของมนุษย์ เป็นเรื่องของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พระองค์จะทรงจัดการเรื่องนั้นเอง โดยที่พระองค์ทรงให้ท่านนะบี (( ماظنك ياأبابكر بإثنين الله ثالثهما )) โอ้อบูบักร อย่านึกว่าเราจะอยู่กันเพียงแค่สองคนเท่านั้น อัลลอฮซุบฮานะฮูวะตะอาลา ต่างหากคือผู้ที่สาม ที่ทรงอยู่กับเรา (*1*) อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงทำให้พวกนั้นมองไม่เห็น พวกเขาจึงกลับไปโดยมั่นใจว่าในถ้ำนั้น ไม่มีใครอาศัยอยู่สักคน สุรอเกาะฮ์ บิน มาลิก ได้ปกปิดเรื่องราวของท่านนะบี ท่านนะบี ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ท่านเราะซูล เจ้าอย่าไปร่วมยืนละหมาดในมัสยิดนั้นเป็นอันขาด แน่นอน มัสยิดที่ถูกวางรากฐานบนความยำเกรงตั้งแต่วันแรกนั้นสมควรอย่างยิ่งที่เจ้าจะเข้าไปยืนละหมาดในนั้น เพราะในมัสยิดนั้นมีคณะบุคคลที่ชอบจะชำระตัวให้บริสุทธิ์ และอัลลอฮ์นั้นทรงรักบรรดาผู้ที่ชำระตัวให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ (อัตเตาว์บะฮ์ 9 : 108) ต่อจากนั้น ท่านนะบี โอ้ มุฮัมมัด โอ้เราะซูลของอัลลอฮ์ ในแต่ละครั้งที่ท่านผ่านหมู่บ้าน พวกเขาจะพากันจับเชือกสะพายอูฐของท่านนะบี ท่านทั้งหลาย ปล่อยมันเถิด แท้จริงแล้ว มันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ในที่สุด อูฐของท่านนะบี ท่านเราะซูล บรรดาชื่อและสกุลที่เป็นโครงสร้างประจำเผ่าได้มลายหายไป คำว่า อัลมุฮาญิรีน กลายเป็นชื่อที่รู้จักกัน หมายถึงผู้ที่อพยพจากมักกะฮ์มายังมะดีนะฮ์ บรรดามุสลิมชาวมะดีนะฮ์ จึงได้ชื่อใหม่ว่า อัลอันศ็อร (ผู้ให้การช่วยเหลือ) ชื่อเมืองที่เคยเรียกว่า ยัษริบ มีชื่อใหม่ว่า มะดีนะตุรเราะซูล (เมืองของผู้เป็นเราะซูล) จากการอพยพก่อให้เกิดผลในแง่ประวัติศาสตร์มากมาย ด้วยเหตุนี้การอพยพจึงเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์อิสลาม ที่มุสลิมทั้งหลายต้องศึกษา และจารึกไว้ตราบจนกระทั่งวันกิยามะฮ์ เมื่อรัฐอิสลามได้เริ่มก่อตั้งขึ้น จึงต้องการพลังเพื่อปกป้องตนเองท่ามกลางกระแสสังคมที่เชี่ยวกราก ขณะที่บรรดาศัตรูจ้องฉวยโอกาสทำลาย และที่สำคัญคือการรวบรวมบรรดามุสลิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญและพลังของการดำเนินการ ด้วยเหตุนี้การอพยพไปยังเมืองมะดีนะฮ์จึงเป็นภาระหน้าที่สำหรับบรรดามุสลิมทุกคนที่อยู่นอกเมืองมะดีนะฮ์ อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงคาดโทษบรรดาผู้ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งในการอพยพ ด้วยการลงโทษอย่างรุนแรงโดยไม่มีการละเว้น จะผ่อนปรนให้เฉพาะผู้ที่ไร้ความสามารถและบรรดาผู้ที่ถูกบีบบังคับ หรือถูกขัดขวางเท่านั้น อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสไว้ว่า : แท้จริง บรรดาผู้ที่มลาอิกะฮ์ได้เอาชีวิตของพวกเขาไปในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้ก่ออธรรมต่อตัวของพวกเขาเองนั้น มลาอิกะฮ์ได้กล่าวแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าปรากฏอยู่บนสิ่งใด ? พวกเขากล่าวว่า พวกเราเป็นผู้ที่ถูกนับว่าเป็นผู้ที่อ่อนแอในแผ่นดิน มลาอิกะฮ์ กล่าวว่า แผ่นดินของอัลลอฮ์ มิได้กว้างขวางพอดอกหรือที่พวกเจ้าจะอพยพไปอยู่ ชนเหล่านี้แหละ ที่อยู่ของพวกเขาคือ นรก ญะฮันนัม และเป็นที่กลับไปอันชั่วช้ายิ่งนัก (อันนิซาอ์ 4 : 97) อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ยังได้ทรงสัญญากับบรรดาผู้ที่อพยพ ด้วยการให้ได้รับความดีอย่างท่วมท้น และผลบุญอันยิ่งใหญ่ ในคำตรัสของพระองค์ ที่ว่า : และผู้ใดที่อพยพไปในหนทางของอัลลอฮ์ เขาจะพบว่าในผืนแผ่นดินนั้นมีความกว้างขวางและมีความมั่งคั่งอันมากมาย และผู้ที่ออกจากบ้านช่องของเขาไปในฐานะผู้อพยพไปยังอัลลอฮ์ และเราะซูลของพระองค์ แล้วความตายก็มาถึงเขา แน่นอน รางวัลของเขานั้นย่อมปรากฏอยู่แล้ว ณ ที่อัลลอฮ์ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ (อันนิซาอ์ 4 : 100) ภายหลังจากที่รัฐอิสลามเข้มแข็ง มีพลังสามารถปกป้องตนเองได้ อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีบัญชาให้เผยแพร่ไปยังเผ่าต่างๆ ภายหลังสนธิสัญญาสงบศึกที่ อัลฮุดัยบียะฮ์ และหลังจากการพิชิตนครมักกะฮ์ได้แล้ว เรื่องฟัรฎู(บังคับ) ของการอพยพที่ได้เคยเป็นวาญิบ (สิ่งจำเป็น) จึงหมดไป ท่านเราะซูล لاهجرة بعد الفتح ไม่มีการอพยพใดๆอีกแล้ว ภายหลังจากที่ได้พิชิตนครมักกะฮ์ (บันทึกโดย อิมาม บุคอรีย์) (*3*) ดร.อัดุลลอฮฺ อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน ...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด
|