ช่อง ทางการ ประกาศ รับ สมัคร งาน

  • หน้าแรก

  • Articles All

  • Human Resource

  • Employee Recruitment

  • เทคนิคการประกาศรับสมัครงานที่มีประสิทธิภาพ

     การประกาศรับสมัครงานดังกล่าวอาจมีหรือไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าไม่มีการวางแผนที่ดีก็จะทำให้เสียงบประมาณและเวลา รวมถึงไม่สามารถทำการสรรหาพนักงานตามที่ต้องการได้

สำหรับแนวทางการประกาศรับสมัครงานในปัจจุบันดังกล่าวสามารถสรุปได้ดังนี้

1. ควรระบุกลุ่มเป้าหมายของเราให้ชัดเจน เพื่อเลือกสื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่นเราต้องการประกาศรับนักศึกษาที่กำลังจะจบวิศวกรรมศาสตร์ หรือต้องการรับผู้ที่จบการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าเราระบุกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนแล้ว จะทำให้เราสามารถเลือกสื่อที่จะลงประกาศได้อย่างเหมาะสม
 

2. ข้อความในประกาศรับสมัครงานควรระบุคุณสมบัติต่างๆ ของตำแหน่งงานที่ต้องการรับให้ชัดเจน ไม่ควรใช้ภาษาเทคนิคที่ใช้เฉพาะภายในบริษัท ควรเลือกภาษาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเช่น ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ และควรระบุกำหนดวันสิ้นสุดของประกาศรับสมัคร
 

3. กรณีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาที่กำลังจะจบ ก็สามารถส่งประกาศรับสมัครงานพร้อมเอกสารแนะนำบริษัทไปให้ที่กองกิจการนัก ศึกษาของคณะที่เราสนใจ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
 

4. กรณีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักวิชาชีพเฉพาะทางเช่นนักกฏหมาย นักการตลาด ก็อาจส่งประกาศรับสมัครไปที่สมาคมวิชาชีพที่เป็นศูนย์รวมของกลุ่มบุคคลเหล่า นั้น
 

5. กรณีเป็นตำแหน่งงานที่ไม่ได้ใช้ทักษะอะไรมาก เช่นพนักงานขายหน้าร้าน พนักงานเสริฟ และบริษัทก็ตั้งอยู่ในชุมชนหรือห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว ก็สามารถติดประกาศหน้าบริษัทได้เลย
 

6. กรณีต้องการรับนักคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเมอร์ ควรเข้าไปฝากข้อความไว้ที่เว็บไซต์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียงเช่น Puntip.com หรืออื่นๆ ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมของนักคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย  

7. การประกาศในหนังสือพิมพ์ สิ่งที่ควรพิจารณาคือคนที่อ่านหนังสือพิมพ์สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทเช่น ช่างเทคนิค อาจจะชอบอ่านสยามกีฬา คนในเมืองที่การศึกษาดีชอบอ่านกรุงเทพธุรกิจ หรือคนที่จบการศึกษาจากต่างประเทศ อาจจะชอบอ่าน The Nation เป็นต้น ดังนั้นในการพิจารณาเลือกลงหนังสือพิมพ์ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ที่เราต้องการเปิดรับ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลประกาศรับสมัครงานของเราได้ไปถึงกลุ่มเป้า หมายอย่างแท้จริง

8. การปิดประกาศในบริษัท เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ได้ผล เพื่อให้พนักงานภายในบริษัทได้แนะนำคนที่รู้จักให้เข้ามาสมัครงานกับบริษัท รวมถึงการขอโอนย้ายมาทำงานในตำแหน่งที่ตนเองสนใจ

     จะเห็นได้ว่าการประกาศรับสมัครงานที่มีประสิทธิภาพเราจะต้องพิจารณากลุ่ม เป้าหมายและประเภทของสื่อให้เหมาะสมกัน นอกจากนี้สื่ออินเตอร์เน็ตก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในยุคปัจจุบันที่น่าสนใจ โดยสรุปการประกาศรับสมัครงานที่มีประสิทธิภาพ เราควรวางแผนให้ข้อมูลของเราสามารถส่งตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ไม่ทำงานแบบเหวี่ยงแห เพื่อจะได้ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณและเสียเวลาในการสรรหาพนักงาน

 
ที่มา : www.readypremium.com

  • ลงประกาศงานในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เช่น เว็บไซต์ประกาศงาน, Mobile Application และ Social Media
  • ใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ มาช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน เช่น Chatbot, Personality Test หรือ Skype
  • นำเสนอจุดเด่นขององค์กรผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ เพื่อดึงดูด Candidate ที่ Match กับบริษัท
  • สร้างเครือข่ายเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้เจอคนที่หลากหลาย และดึงกลุ่มคนที่มีศักยภาพแต่ไม่แสวงหางาน (Passive Candidate) ด้วย Social Media
  • สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร ในทุกกระบวนการสมัครงาน

หาคนได้ไว เพียงลงประกาศงานกับ JobThai ที่นี่

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน เราจึงอยู่ในยุคที่สามารถซื้อของผ่านออนไลน์ จองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักในมือถือ หรือแม้กระทั่งการสมัครงานง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน อย่าง JobThai Mobile Applicationเทคโนโลยีจึงเป็นอาวุธสำคัญในการแข่งขันกันในด้านธุรกิจ

วงการ HR เองก็เช่นกัน การหาคนด้วยวิธีเดิม ๆ อาจไม่ทันการ เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวสู่การเป็น Digital HR เพื่อให้การรับบุคลากรเข้าทำงานสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้

เริ่มต้น Go Online ด้วยการลงประกาศรับสมัครงานบนเว็บไซต์

คนหางานมีแพลตฟอร์มในการสมัครงานที่หลากหลายและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน นอกเหนือจากการที่องค์กรจะเลือกประกาศงานบนป้ายหน้าออฟฟิศ หรือผ่านทางการออกบูธรับสมัครงานตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แล้ว การลงประกาศรับสมัครงานบนเว็บไซต์ หรือบน Social Media ก็เป็นวิธีที่เข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น โดยการใช้บริการเว็บไซต์หางานสมัครงาน นอกจากประกาศงานขององค์กรจะได้แสดงผลบนเว็บไซต์ประกาศงานที่มีผู้สมัครงานจำนวนมากแล้ว เว็บไซต์ประกาศงานยังมีบริการช่วยโฆษณาประกาศงานเพิ่มเติมใน Social Media หรือ Mobile Application ของเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งเพิ่มโอกาสให้ประกาศงานขององค์กรเข้าถึงในวงกว้างมากขึ้นได้อีกด้วย

JobThai เป็น Platform ที่ให้บริการในการหาบุคลากร หางาน และสมัครงานที่ให้บริการครอบคลุมทั้งเว็บไซต์ และ Mobile Application และยังมี Social Media ที่ครอบคลุมหลากหลายช่องทาง ถูกพัฒนาขึ้นให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว มีฟีเจอร์จับพิกัดงานใกล้ตัว แถมยังรวบรวมงานใกล้รถไฟฟ้าไว้อีกมากมาย เพราะฉะนั้นในฝั่งของ HR เองก็จำเป็นต้องตามให้ทันด้วยการใช้แพลตฟอร์มประกาศงานเหล่านี้เข้ามาช่วยในการสรรหาและคัดเลือกคนเข้าทำงาน เช่น การลงประกาศงานกับเว็บไซต์หางานเหล่านี้ โดยวิธีสมัคร Package ประกาศงานที่ครอบคลุมทุกช่องทางการมองเห็นทั้ง Desktop, Mobile และ Application อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเวลารอใบสมัครด้วยการเข้าไปค้นประวัติ Candidate มาร่วมงานได้ด้วยตัวเอง

ค้นประวัติ Candidate มาร่วมงานกับคุณ ที่นี่

ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดขั้นตอน

การเอาเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการสัมภาษณ์งานได้ เช่น การมี Chatbot ในการถาม-ตอบ ข้อสงสัยของผู้สมัครที่มักเป็นคำถามที่เกิดขึ้นเป็นประจำเพื่อลดเวลาในการตอบคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ การใช้แบบทดสอบออนไลน์เพื่อทำ Personality Test หรือ เริ่มพิจารณาการนำระบบ Gamification เพื่อนำมาใช้คัดเลือกบุคคลเบื้องต้น การประเมินคุณสมบัติเบื้องต้น จาก VDO Clip แนะนำตัวสั้น ๆ การนำ Analytic มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ Social Media ของผู้สมัครเพื่อทำนายคุณสมบัติในการทำงานบางประเภท และการสัมภาษณ์งานผ่าน Skype เพื่อผู้สมัครจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 

มัดใจคนเก่ง ด้วยจุดเด่นขององค์กร

เราจำเป็นต้องมัดใจคนด้วยการนำเสนอจุดเด่นขององค์กร สมมติว่าบริษัทเราให้อิสระในการทำงานกับพนักงาน โดยมีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงานซึ่งแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการพนักงานในตำแหน่งเดียวกัน เราควรนำสิ่งนี้มาเป็นจุดขาย ด้วยวิธีการนำเสนอแบรนด์และวัฒนธรรมองค์กรผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น นำเสนอข้อดีนี้ใน Social Media ขององค์กร หรือในเว็บไซต์ประกาศงานต่าง ๆ ก็จะมีพื้นที่ให้เราบอกเล่าเรื่องราวขององค์กรเพื่อดึงดูด Candidate ที่ Match กับเรามากขึ้นด้วย

สร้างเครือข่ายเพื่อเจอคนที่หลากหลาย

คนทำงาน HR ในสาย Recruitment ต้องมี Multi-Skills มีความเร็ว สร้างเครือข่ายเก่งเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้เจอคนที่หลากหลายและมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการไปอีเวนต์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการเข้าไปมีตัวตนใน Social Media เพราะหลายคนก็ใช้โปรไฟล์ใน Social Media ตัวเองเสมือนกับ Resume และ Portfolio ที่บริษัทเข้าไปดูได้

การสร้างเครือข่าย หรือเข้าไปมีตัวตนใน Social Media อาจจะทำให้เราจะเจอกลุ่มคนทำงานบางกลุ่มที่มีศักยภาพแต่ไม่ได้รีบหางานหรือที่เราเรียกว่า Passive Candidate ด้วย คนกลุ่มนี้จะไม่แสวงหางานเหมือนผู้สมัครที่เป็น Active Candidate ในเว็บไซต์หางานที่มองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่ทุกวัน เราจึงต้องใช้ Social Media ทำให้พวกเขาเห็นแบรนด์ คุ้นเคย รู้จัก และมีการเชิญชวนด้วยอีเวนต์ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมบริษัท ซึ่งเราสามารถตามหาคนเหล่านี้ได้ด้วยเครื่องมือ เช่น Social Listening Tool เครื่องมือที่ดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ จากช่องทาง Social Media (Facebook, YouTube, Instagram, Twitter) โดยใช้วิธี Set Keyword ไว้ล่วงหน้า เพื่อดักจับสิ่งที่คนพูดถึงเรา

สร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกขั้นตอน

การสร้างความประทับใจในกระบวนการสมัครงานคือสิ่งสำคัญ เพราะตั้งแต่ผู้สมัครเปิดเว็บไซต์บริษัทจนถึงขั้นตอนกรอกเอกสารเป็นพนักงาน ทุกอย่างล้วนแสดงถึงภาพลักษณ์ของเราทั้งสิ้น ทุกกระบวนการของ HR จึงควรออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็ว และสร้าง Candidate Experience หรือประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร

ซึ่ง Candidate Experience คือเทคนิคการหาคนโดยการออกแบบและยกระดับประสบการณ์ที่ผู้สมัครได้รับ หากเราสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับเขาได้ ก็จะช่วยให้เขาตัดสินใจทำงานกับเราง่ายขึ้น หรือบอกต่อกับคนอื่น ๆ และสุดท้ายประโยชน์ก็จะมาอยู่ที่องค์กรของเรา

 
ช่อง ทางการ ประกาศ รับ สมัคร งาน
JobThai Official Group
Public group · 300,000 members