การเปลี่ยนแปลง อดีต กับปัจจุบัน

ถ้าจะว่ากันถึงทิศทางความเป็นไป ของโลก-ของธรรมชาติ ภายในอนาคตเบื้องหน้าแล้ว...มันน่าจะหนักไปทาง พอเพียง-พอประมาณ เป็นหลักนั่นแหละทั่น คืออาจถึงขั้นถือเป็น ข้อเท็จจริงที่เอ็งมิอาจปฏิเสธ เอาเลยก็ไม่แน่!!! เพราะแค่ดูจากฉากสถานการณ์โควิด-ไม่โควิด ดูจากการก่อกำเนิดสายพันธุ์ เดลตา หรือ โอมิครอน ไปจนการเปลี่ยนแปลงของสภาวะดิน-ฟ้า-อากาศ ที่คงต้องส่งผลในทางหนึ่ง-ทางใดภายในอนาคตอันใกล้อยู่แล้วแน่ๆ ทิศทางความเป็นไปทางเศรษฐกิจแบบประเภท ทุนนิยมเสรี ที่เคยยกย่อง ชื่นชู กันมาโดยตลอด ยังไงๆ...มันคง เอาไม่อยู่ ได้โดยเด็ดขาด...

--------------------------------------------------

กระบวนการปรับเปลี่ยนทิศทางเศรษฐกิจ ที่อาจลุกลามไปถึงทิศทางการเมือง ในอีกไม่ช้า-ไม่นาน จึงเริ่มปรากฏให้เห็นมาเป็นช่วงๆ เป็นระยะๆ ในแต่ละสังคม แต่ละชาติ แต่ละประเทศ จนทำท่าว่าอาจกลายเป็น กระแสหลัก ในการเปลี่ยนแปลงแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง ไม่ใช่เป็นแค่ กระแสรอง แบบเดิมๆ ต่อไปอีกแล้ว การพูดถึงแนวคิดทางเศรษฐกิจแบบที่เรียกให้แปลกๆ ขึ้นมาหน่อย เช่น ทุนนิยมที่มีจิตวิญญาณ หรือกระทั่ง ทุนนิยมเผด็จการ ที่จำต้องหาทางควบคุมบรรดา ทุน ทั้งหลาย ให้อยู่ในร่อง ในรอย ไม่โลภจนเกิน หรือไม่คิดจะ พอเพียง เอาเลยแม้แต่น้อย ไปจนถึง เศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ หรือแม้กระทั่ง เศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ จึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกนำมาพูดถึง เอ่ยถึง แบบชนิดถี่ๆ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนอาจกลายเป็น ข้อเท็จจริงที่เอ็งมิอาจปฏิเสธ ภายในอนาคตเบื้องหน้าอีกไม่ใกล้-ไม่ไกล...

------------------------------------------------------

โดยบรรดาความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้...กำลังปรากฏให้เห็นในแต่ละสังคม แต่ละชาติ แต่ละประเทศ แบบนับวันยิ่งน่าจะชัดเจนยิ่งขึ้นไปทุกที ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อประเทศ เผด็จการ ฉบับของแท้และดั้งเดิมอย่างคุณพี่จีน ที่พร้อม เด็ดหัวนายทุน ไม่ว่าใหญ่โต มีอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช มาก-น้อยขนาดไหน ชนิดเดี้ยงกันไปเป็นรายๆ ออกจะเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมิใช่น้อย ไม่ว่าในการ ขจัดความยากจน ให้กับผู้คนนับร้อยๆ ล้าน ในชั่วเวลาแค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้นเองสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขัน กับประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก อย่างคุณพ่ออเมริกา  จนใกล้ๆ จะแซงทางโค้งแถวๆ วัดเบญจะยิ่งเข้าไปทุกที  แถมยังเป็นประเทศที่หวังจะนำพาผู้คนนับพันๆ ล้าน ให้ก้าวเข้าสู่ สังคมพอเพียง ภายในอนาคตอันใกล้ให้จงได้!!!  ฯลฯ...

-----------------------------------------------------

ชนิดเล่นเอาบรรดาประเทศประชาธิปไตยตะวันตก ที่เคยยืนหยัด ยืนกราน อยู่กับแนวคิดประเภท ทุนนิยมเสรี ทั้งหลาย หนีไม่พ้นต้องหันมาปรับตัว ปรับสภาพ ปรับความเป็น ทุนนิยม ของตัวเอง ให้สอดคล้อง รองรับ กับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง ถึงขั้นต้อง The Great  Reset กันใหม่หมด หรือต้องหันมาหาทางควบคุมและบังคับ ไม่ให้ทุนแต่ละทุนที่เคยอิสรเสรี ชนิดใครใคร่รวย-รวย ใครใคร่ขูดรีด-ขูด ใครใคร่กอบโกย-โกย ก่อให้เกิด ปัญหา กับมวลมนุษย์ไปจนถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไป อย่างไม่คิดบันยะ บันยัง เอาเลยแม้แต่น้อย ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็น ทุนนิยมที่มีความรับผิดชอบ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ไม่งั้นทุนนิยมเองนั่นแหละ ย่อมมีสิทธิ์ ล่มสลาย หรือ เอาไม่อยู่ ขึ้นมาไม่วันใดก็วันหนึ่งจนได้...

-----------------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้ทิศทางความเป็นไปของโลก-ของธรรมชาติ มีแนวโน้มที่กำลังจะปรับ จะเปลี่ยน ไปสู่ทิศทางใหม่ๆ อย่างเห็นได้โดยชัดเจนยิ่งขึ้นไปตามลำดับ ในขณะที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา อันเป็นประเทศที่ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเปรียบเสมือน ภูมิปัญญาแห่งสังคม อย่าง ล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เคยทรงชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาแล้วเห็นจะได้ ด้วยแนวคิดเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง แต่มาถึงทุกวันนี้ หรือ ณ ขณะนี้ คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า ยังไม่น่าจะมีอะไร เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มากมายซักเท่าไหร่ ยังคงสาวเท้า ก้าวเดิน ไปใน ทิศทางเศรษฐกิจ แบบเก่าๆ เดิมๆ นั่นแหละเป็นหลัก โดยสิ่งที่เรียกว่า เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเพียงแค่ ยันต์กันผี หรือเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้ตัวเองดูดี แค่ชั่วครั้ง ชั่วคราว อะไรประมาณนั้น...

----------------------------------------------------

คือยังเป็นประเทศที่ ทุน เป็นอิสระ-เสรีอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะในหมู่ นักประชาธิปไตย หรือ นักเผด็จการ ก็แล้วแต่ ที่ท้ายที่สุดแล้ว...ย่อมมีแต่ต้อง เสร็จทุน ไปด้วยกันทั้งสิ้น!!! เรียกว่า...ไม่ว่าปฏิวัติ-รัฐประหารกันกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไม่ว่าฉีกรัฐธรรมนูญแล้วเขียนใหม่ฉบับแล้ว-ฉบับเล่า ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นทหาร หรือเป็นพลเรือน ก็ตามที ล้วนแต่หนีไม่พ้นต้องยอม ศิโรราบ ให้กับ ทุน อย่างไม่คิดจะปฏิเสธ ด้วยเหตุเพราะความไม่ได้ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อความเป็นไปของโลก ของธรรมชาติ ของผู้คนที่เกิดและเติบโตอยู่ร่วมในผืนดินเดียวกัน หรือเพราะความ วิสั้น ใดๆ ก็แล้วแต่ ดังนั้น...การปรับตัว ปรับสภาพ เพื่อให้มีโอกาส ตามทัน ความเป็นไปของโลก จึงแทบมองไม่เห็น  ทุกสิ่งทุกอย่างเลยยังต้องวนไป-วนมาอยู่กับ วงจรอุบาทว์ ไปโดยตลอด...นั่นแล...

----------------------------------------------------------

และสิ่งที่อาจถือเป็น ภาพสะท้อน ของความไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่คิดปรับตัว ปรับสภาพ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ ที่กำลังรอคอยอยู่ในอนาคตเบื้องหน้า ก็เช่น กรณี โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลานั่นแหละ โดยไม่ว่าจะผิด-ถูก เหมาะ-ไม่เหมาะ  ควร-ไม่ควร หรือไม่ ประการใดก็แล้วแต่ แต่นับจากจุดเริ่มต้นจนมาถึงใกล้ๆ จะบั้นปลาย อยู่ ณ ขณะนี้ ต้องถือเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงความ เชยซ์ซ์ซ์ ของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ที่ออกจะ ตามไม่ทัน กับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ ไม่ได้ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง  จนแทบไม่อาจ มั่นใจ ได้เลยว่า โอกาสที่จะ เอาอยู่ ถ้าหากวันหนึ่ง-วันใดมาถึง จะเป็นไปได้มาก-น้อยขนาดไหน???

--------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Michael Cibenko...“One problem with gazing too frequently into the past  is that we may turn around to find the future run out of  us. - ปัญหาของการมัวแต่เหลียวหลังมองอดีตก็คือ เมื่อหันกลับมาอาจพบว่า...อนาคต...ได้ผ่านเลยเราไปแล้ว...”

--------------------------------------------------------

Tagsท่านขุนน้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง