ยานพาหนะในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีช่วยเหลือคนขับ ไปจนถึงระบบ infotainment สำหรับระบบบลูทูธคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างเป็นมาตรฐานทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถได้อย่างปลอดภัย อาทิ การรับสาย-โทรออก ตอบข้อความกลับ และเล่นเพลงจากโทรศัพท์ เชื่อมบลูทูธกับรถ toyota ไม่ได้ แม้ว่าการเชื่อมต่อบลูทูธอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่รถยนต์เพิ่งทำได้ และได้มีการอัพเดทซอฟต์แวร์มาหลายรุ่นในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็สามารถทำให้รถยนต์ โทรศัพท์ และผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง Toyota Sienta ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของการเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดี การเชื่อมต่อระบบบลูทูธในรถจะทำได้กับอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาต หรือที่จับคู่ (Pairing) กับระบบเรียบร้อยแล้วเท่านั้น โดยอุปกรณ์หนึ่งจะสามารถเชื่อมต่อได้ครั้งละ 1 เครื่อง แต่สามารถจับคู่อุปกรณ์ได้สูงสุด 5 เครื่อง ซึ่งสามารถสลับการใช้งานได้ตามความต้องการ วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota Sienta มีขั้นตอนดังนี้ เลือกการตั้งค่าที่หน้าจอ infotainment ของ Toyota Sienta 1. เปิด Bluetooth® ในโทรศัพท์ที่ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์โดยไปที่การตั้งค่า และเปิดใช้งานรายการเมนูที่ระบุว่า "Bluetooth" 2. กดปุ่มBluetooth® บนหน้าจอ infotainment ของ Toyota Sienta 3. เลือกการตั้งค่า Bluetooth® ในโทรศัพท์ และกดเลือกสแกนหาอุปกรณ์ 4. เลือก “ชื่ออุปกรณ์ของรถ” เพื่อเชื่อมต่อ จากนั้นไอคอน Bluetooth® จะปรากฏบนรถยนต์ และโทรศัพท์ของคุณ 5. หน้าจอของ Toyota จะแจ้งให้กดอนุญาตการเข้าถึงอุปกรณ์โทรศัพท์ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วย Toyota Entune ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างรถ และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับแอปพลิเคชั่นนี้ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย โดยมีขั้นตอนในการเชื่อมต่อ ดังนี้ รถจะต้องจอดนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะจับคู่โทรศัพท์กับ Bluetooth ของ Toyota Sienta จากนั้น 1. เปิด Bluetooth ใน iPhone
2. เปิดบลูทูธ ในระบบ Toyota Entune
3. เชื่อมต่อ Toyota Entune กับ iPhone
สำหรับ Toyota Sienta ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การประกอบจากโรงงาน แต่เกิดจากปัญหาของซอฟต์แวร์เสียมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth ของ Toyota Sienta ก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน ซึ่งมีเหตุผลมาจากเรื่องของการรองรับระบบปฏิบัติการ iOS แต่ไม่รองรับระบบปฏิบัติการ Android และได้มีการตั้งกระทู้ถามปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ในเว็บไซต์พันทิป ว่า “Toyota Sienta ปัญหาของการต่อ Bluetooth: ใช้เชื่อมต่อกับ HUAWEI Mate 9 หน้าจอของเครื่องเสียงมีขึ้นสามอย่าง หนึ่งในนั้นมีคำว่า AppManu: ล้มเหลว และในตั้งค่า Bluetooth ของโทรศัพท์ก็ขึ้นว่า เชื่อมต่อแล้ว (ยกเว้นเสียงสื่อ) พยายามทำตามคู่มือ ทำทุกอย่าง ตั้งค่าให้ระบบรับแอนดรอยด์ แล้วก็แล้ว ก็เป็นเหมือนเดิม ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรครับ มีใครเป็นเหมือนกันมั้ยครับ ต้องทำไงครับ” และได้มีคำตอบดังนี้ ความคิดเห็นที่ 1: เพื่อนผม ลิ้งก์ แค่เสียงใช้ได้อยู่ แต่เป็นซัมซุง ความคิดเห็นที่ 2: ลองใช้ยี่ห้ออื่นดูครับ ถ้าไม่หายก็เข้าศูนย์ครับ และความคิดเห็นที่ 3: ซัมซุง s5 ผมก็เป็นเหมือนกันครับ ผ่านทุกอย่าง ยกเว้น AppManu ผมลองไอโฟน 7 ของเพื่อน เชื่อมต่อ มันผ่านหมดทุกอย่างเลยครับ สำหรับการใช้งานจริงของผู้เขียนสามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android กับ Toyota Sienta ได้ แต่จะมีการเชื่อมต่อที่ช้ากว่าระบบปฏิบัติการ iOS ของ iPhone รวมถึงเมื่อดับเครื่องไปแล้ว การเชื่อมต่ออีกครั้งก็จะทำได้ช้ามาก หรือบางครั้งต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์อีกรอบหนึ่งเลย ดูเพิ่มเติม สรุปได้ว่าปัญหาของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ของ Toyota Sienta กับโทรศัพท์มือถือที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์อุปกรณ์ที่ไม่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการ Android ได้ 100% แม้ว่าล่าสุดจะเพิ่งมีการอัพเดทระบบปฏิบัติการของ infotainment ไป ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์เชื่อมต่อกันได้เร็วขึ้น แต่ก็ยังมีติดขัดอยู่บ้างในบางครั้ง สำหรับบทความต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรอย่าลืมติดตามกันได้ที่ Chobrod.com นะคะ ดูรถ Segment ใกล้เคียง Haval Jolion | Honda HR-V e:HEV | Toyota C-HR | Toyota Collora Cross | Mazda CX-3 | Mazda CX-30 | MG EP | MG ZS | MG ZS EV | NISSAN KICKS • NEW MG ZS EV 2022 มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยและมีสมรรถนะสูง ด้วยมอเตอร์ขนาด 177 แรงม้า แบตเตอรี่ 50.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง • ตอบโจทย์เอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์ด้วยฟีเจอร์ V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ • มั่นใจทุกการเดินทางด้วยเครือข่าย MG Super Charge หนึ่งในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของ MG ที่รองรับการเดินทางทั่วประเทศ พิสูจน์แล้วจากการทดสอบการเดินทางทั่วประเทศรวมระยะทางกว่า 4,880 กิโลเมตร ในโปรเจค EV Marathon MG ZS EV 2022 ราคา ราคารถ และสเปคใกล้เคียง ที่น่าสนใจ... รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ... โปรโมชั่นรถ MG พิเศษสำหรับออนไลน์เท่านั้น
#ออกรถง่าย #ออกรถได้ทุกอาชีพ #ออกรถได้ทั่วไทย#ไฟแนนซ์ผ่านง่าย #มีรถพร้อมส่งมอบ #เซลล์ใจดีมาก🥰
ราคา MG ZS EV ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ อุปกรณ์มาตรฐาน MG ZS EV มิติ และน้ำหนัก สมรรถนะ ระบบพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง MG ZS EV รุ่น D ภายนอก ภายในและความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัย ระบบเครื่องเสียง ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ) SMART CONNCET (ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ) MG ZS EV รุ่น X ภายใน และความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัย ระบบเครื่องเสียง ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART (เหมือนกับ MG ZS EV รุ่น D) NEW MG ZS EV รถพลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบ SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “TRULY EASY” ยนตรกรรมที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “ง่าย” ขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ภายนอกเรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง EASY & STYLISH – EXTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายนอกล้ำสมัย NEW MG ZS EV มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นตามแบบฉบับรถ SUV ของ MG เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สะท้อนภาพลักษณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มากยิ่งขึ้น
EASY & CONVENIENT – INTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายใน เพื่อการใช้งานที่ “ง่าย” และ สบาย ยิ่งขึ้น NEW MG ZS EV ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน
EASY DRIVE: สมรรถนะเพื่อการขับขี่ที่ง่าย มั่นใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น NEW MG ZS EV เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC) NEW MG ZS EV มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 20 ระบบ ได้แก่
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ EASY CHARGE: ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม NEW MG ZS EV ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบรองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า EASY CONNECT: ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ทำให้การใช้งานง่ายและสะดวกสบายอย่างแท้จริง NEW MG ZS EV มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่พร้อมทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน |