เคสจากน้องอายุ 16 ปี เจ้าตัวมีรายได้จากการขายขนมสัปดาห์ละ 1-2 พันบาท ตั้งใจ อยากมีธุรกิจห้องเช่าหลังเล็กๆ สัก 2-3 หลังเป็นของตัวเอง สร้างขึ้นจากที่ดินเปล่าของพ่อแม่ ซึ่งแต่เดิมทางบ้านทำรีสอร์ตอยู่แล้ว แต่อยากทำแยกออกมาเอง จะเป็นไปได้ไหม ควรจะเริ่มจากตรงไหนดี ฟังคำแนะนำและแนวทางแก้ปัญหาจากโค้ชหนุ่มและโอมศิริในเอพิโสดนี้
สามารถฟังพอดแคสต์ The Money Case by The Money Coach Credits The Host จักรพงษ์ เมษพันธุ์ Show Producer เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์ Webmaster ไชยพร ศิริกลการ Social Media Admin สุทธกิตติ์ สุทธาวรรณกุล, ธิติกร ลิ้มทองมณี, ณัฐชัย ตั้งวงศ์วิวัฒน์ Archive Officer ชริน จำปาวัน Intern เอกราช มอเซอร์ สำหรับหลาย ๆ คน การมีบ้านเป็นของตัวเองอาจจะยังไม่ใช่ความต้องการที่เร่งด่วน หลายคนยังพอใจที่จะเช่าคอนโด หรือหอพักใกล้ที่ทำงาน เพราะประหยัดเวลาในการเดินทาง หลายคนพอใจที่จะอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ทั้งได้อยู่ดูแลท่าน แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีก ถึงการมีบ้านจะถูกมองว่ายังไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่ผมเชื่อว่า ในใจของหลาย ๆ คนก็ยังอยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเพื่อสร้างครอบครัว เพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ แล้วคุณเคยคิดไหมครับว่า เมื่อไหร่ถึงจะเป็นเวลาเหมาะสมที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองเสียที เมื่อมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนความต้องการที่ชัดเจนจะนำไปสู่การเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ดังนั้น ถามตัวเองก่อนเลยครับว่า ต้องการจะซื้อบ้านไปเพื่ออะไร เช่น หากต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานสำหรับอยู่เอง คอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม หากต้องการซื้อบ้านเพื่อวางแผนแต่งงาน เพื่อครอบครัวที่ขยายขึ้น การซื้อทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยวอาจจะเป็นคำตอบ หรือหากซื้อบ้านเพื่อเป็นการลงทุนสำหรับปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นคอนโด หรือทาวน์โฮม ทำเลย่อมเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อมีความสามารถในการซื้อบ้านความสามารถในการซื้อบ้าน ไม่ได้หมายความแต่เพียงว่าต้องมีเงินก้อนเพื่อไปซื้อบ้านด้วยเงินสด แต่ยังหมายรวมถึง ความสามารถที่จะผ่อนบ้านได้จนครบอายุสัญญา จริงอยู่ครับว่า การซื้อด้วยเงินสดย่อมเป็นการประหยัดดอกเบี้ย แต่ทว่า หนทางที่จะได้เงินก้อนมาซื้อบ้านคงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การขอ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มความสามารถในการซื้อบ้านของเราครับ แล้วเมื่อไหร่ ที่เราจะขอสินเชื่อได้
จากคุณสมบัติข้างต้นจะเห็นได้ว่า ในวัยเริ่มทำงาน หรือช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ก็เริ่มขอสินเชื่อได้แล้ว โดยข้อดีของการเริ่มขอสินเชื่อตั้งแต่อายุยังน้อย คือ ทำให้เรามีระยะเวลาผ่อนชำระได้นาน ซึ่งทำให้ได้รับสิทธิ์ในการผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า โดยทั่วไปแล้ว วัยเริ่มทำงานนับว่ายังมีภาระในการใช้จ่ายไม่มาก เมื่อเทียบกับภาระค่าใช้จ่ายเมื่ออายุมากขึ้น ที่ถึงแม้เงินเดือนจะสูงขึ้น แต่ภาระการใช้จ่ายก็มักจะสูงขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการวางแผนแต่งงาน ค่าใช้จ่ายสำหรับลูก ค่ากินอยู่ ค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุพการี หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของตัวเอง เพราะเมื่ออายุมากขึ้น โอกาสที่จะมีปัญหาสุขภาพก็มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวัยเริ่มทำงานอาจจะมีภาระทางครอบครัวดังกล่าวไม่มาก แต่พึงระวังค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคม ทั้งงานสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อน รวมทั้งการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นช่วงปีแรก ๆ ที่สามารถหารายได้ได้เอง และมีความเป็นอิสระสูง ทั้งนี้การสร้างภาระในการผ่อนชำระบ้าน อาจนับได้ว่าเป็นหนึ่งในอุบายที่จะช่วยฝึกวินัยการออมให้เราได้ครับ จริงอยู่ว่าหากเงินเดือนน้อย เราก็สามารถกู้เงินได้วงเงินน้อย ทำให้บางคนมีเทคนิคในการต่อยอดการซื้อบ้าน เช่น ในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน อาจตัดสินใจซื้อคอนโดห้องเล็ก ราคาไม่สูง และเมื่อมีรายได้สูงขึ้น มีความสามารถในการผ่อนชำระได้มากขึ้น ก็ตัดสินใจขายคอนโด เพื่อไปซื้อทาวน์โฮม และต่อมาขายทาวน์โฮมเพื่อไปซื้อบ้านเดี่ยวในที่สุด ซึ่งในช่วงที่ยังไม่ได้อาศัยอยู่เอง เราก็สามารถปล่อยเช่า สร้างกระแสเงินสด เพื่อนำมาลดภาระในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนได้อีกด้วยครับ ถึงบ้านอาจจะไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วนในชีวิตปัจจุบัน แต่หากคุณเล็งเห็นความสำคัญและความต้องการในอนาคตแล้วล่ะก็ อย่าลังเลที่จะเริ่มสำรวจตัวเอง เตรียมความพร้อมด้านการเงิน และหาข้อมูลราคาสินทรัพย์ตั้งแต่วันนี้ เพราะการเริ่มต้นได้เร็วย่อมเป็นการสร้างหลักประกันในอนาคตที่มั่นคงกว่าครับ |