รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ปทุมธานี

รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า , รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ , รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้แล้ว , รับซื้อ อุปกรณ์ไฟฟ้า , รับซื้อ อปุกรณ์ไฟฟ้าใหม่ สนใจจะขาย เครื่องใช้ไฟฟ้า เราพร้อมรับซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่  คุณตลอดเวลา โทรหาเรา  091-1206831 ได้ตลอดเวลาหรือ add  line id : @buyall (มีเครื่องหมาย @ด้วย)   เราพร้อมตีราคาให้คุณ ตลอด 24 hr และรับของถึงบ้านจ่ายเงิ

รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ปทุมธานี

เมื่อซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโดแล้ว หนึ่งในสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือการเลือก "เครื่องใช้ไฟฟ้า" สักชิ้นให้กับบ้าน หรือคอนโดมิเนียมของคุณ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือก ไม่ต่างจากเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุตกแต่งอื่น ๆ ภายในบ้าน

ลองมาดู 5 ปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะกับบ้านหรือคอนโดมิเนียมของคุณ ซึ่งนอกจากรสนิยมแล้ว ยังต้องคิดวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย

อ่านเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทเสียค่าไฟเท่าไหร่

1. ราคาของเครื่องใช้ไฟฟ้า

ถือเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้ของที่มีราคาไม่แพง แต่อย่าลืมว่าราคาไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นจะมีคุณภาพหรือประหยัดไฟได้มากกว่า สิ่งที่ควรทำ คือ การพิจารณาราคาควบคู่ไปกับคุณภาพ เปรียบเทียบหลาย ๆ ยี่ห้อ และเลือกยี่ห้อที่ราคาถูกกว่าแต่คุณภาพพอ ๆ กัน

2. คุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง

คุณภาพเป็นสิ่งที่ควรมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งคุณภาพดีก็หมายถึงความปลอดภัย และอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่แบบไหนถึงคุณภาพดี วิธีนี้อาจเลือกได้ง่าย ๆ จากแบรนด์ชั้นนำเป็นอันดับแรก การเลือกแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงและคนรู้จักแพร่หลายจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเชื่อมั่นในคุณภาพได้

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าเบื้องต้นด้วยสายตาก่อนได้ เช่น มีตำหนิตรงไหนหรือไม่ มีส่วนไหนชำรุดหรือไม่ รวมทั้งมีการออกแบบที่ดี ได้มาตรฐานที่ดีไหมและมีการรับรองคุณภาพจากสถาบันต่าง ๆ เช่น มอก. เพื่อที่จะได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัย

สัญลักษณ์ มอก. คืออะไร

เครื่องหมายมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. คือ เครื่องหมายรับรองถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สินค้าว่าเป็นไปตามมาตรฐาน และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งออกโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ปัจจุบัน มอก. สินค้าที่ สมอ. ดำเนินการและอนุญาตให้ผู้ประกอบการแสดงเครื่องหมายมาตรฐานบนสินค้า มีด้วยกัน 2 แบบ คือ

- เครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป อยู่บนสินค้าทั่วไป รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเครื่องหมายนี้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอรับรองคุณภาพสินค้าของตนเองได้ด้วยความสมัครใจ เพื่อพัฒนาสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยสินค้ากลุ่มนี้จะสามารถนำเข้าจากต่างประเทศโดยยังไม่มีการตรวจสอบคุณภาพ หรือไม่มี มอก. นั่นเอง อาทิ กระเบื้องซีเมนต์เส้นใยแผ่นลอน ปูนยิปซัมผสม และแผ่นหลังคาเมทัลชีต

- เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ ซึ่งจะอยู่บนสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าและวัสดุก่อสร้าง ยางรถยนต์ ของเล่น และหมวกกันน็อก

ตรวจสอบ มอก. ได้อย่างไร

สินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ผ่านการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐาน มอก. หรือไม่ สามารถสังเกตจากเครื่องหมาย มอก. ที่แสดงอยู่ที่ผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้น ๆ ทั้งเครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป หรือเครื่องหมายมาตรฐานบังคับ

โดยผู้บริโภคควรตรวจสอบเลขที่ มอก. ที่แสดงอยู่ใต้เครื่องหมาย มอก. ว่าตรงกับชื่อผลิตภัณฑ์หรือไม่ ตัวอย่างเช่น เลขที่ มอก. 2214-2548 ตู้เย็นสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันยังสามารถตรวจสอบเลขที่ มอก. และชื่อผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องได้จากเว็บไซต์ สมอ. 

3. จำนวนวัตต์

ปกติจำนวนวัตต์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีบอกไว้บนตัวสินค้าอยู่แล้วซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถคำนวณค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นภายหลังจากการใช้งานได้

วัตต์คืออะไร

วัตต์หรือแรงเทียนคือพลังไฟฟ้าหรือกำลังไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีวัตต์มากก็กินไฟมากกว่าที่มีวัตต์น้อย (ในเวลาเท่ากัน)

เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทใช้กี่วัตต์

โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทมีจำนวนวัตต์แตกต่างกัน ดังนี้

- พัดลมตั้งพื้น 45-75 วัตต์

- ตู้เย็น 2-12 คิว (ลบ.ฟุต) 53-194 วัตต์

- เครื่องปรับอากาศ 680-3,300 วัตต์

- หม้อหุงข้าวไฟฟ้า 500-1,000 วัตต์

- เครื่องดูดฝุ่น 625-1,000 วัตต์

- เครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำ 900-4,800 วัตต์

- โทรทัศน์ 43-95 วัตต์

- เครื่องซักผ้า 250-2,000 วัตต์

- เครื่องอบผ้าแห้ง 650-2,500 วัตต์

- เครื่องซักผ้าแบบมีเครื่องอบผ้า หรือเครื่องตั้งอุณหภูมิของน้ำ 250-2,000 วัตต์

หมายเหตุ: ข้อมูลจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทเสียค่าไฟเท่าไหร่

อุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชิ้น เมื่อเปิดใช้งาน 1 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเท่าไหร่ ดูได้ที่นี่

- เครื่องดูดฝุ่น ขนาด 1,400-2,000 วัตต์ ค่าไฟ 6-8 บาท/ชั่วโมง

- เตารีดไฟฟ้า 1,000-2,800 วัตต์ ค่าไฟ 3.5-10 บาท/ชั่วโมง

- เครื่องเป่าผม ขนาด 1,600-2,300 วัตต์ ค่าไฟ 6-9 บาท/ชั่วโมง

- เครื่องทำน้ำอุ่น ขนาด 3,500-6,000 วัตต์ ค่าไฟ 13.5 -23.5 บาท/ชั่วโมง

- เครื่องซักผ้า ฝาบน-ฝาหน้า ขนาด 10 กิโลกรัม ค่าไฟ 2-8 บาท/ชั่วโมง

- เครื่องปรับอากาศติดผนัง แบบ Fixed speed ขนาด 9,000-22,000 บีทียู/ชั่วโมง ค่าไฟ 2.5-6 บาท/ชั่วโมง

- พัดลมตั้งพื้น ขนาดใบพัด 12-18 นิ้ว ค่าไฟ 0.15-0.25 บาท/ชั่วโมง

- โทรทัศน์ LED backlight TV ขนาด 43-65 นิ้ว ค่าไฟ 0.40-1 บาท/ชั่วโมง

- เตาไมโครเวฟ ขนาด 20-30 ลิตร ค่าไฟ 3-4 บาท/ชั่วโมง

- ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 5.5-12.2 คิวบิกฟุต ค่าไฟ 0.30-0.40 บาท/ชั่วโมง

- หม้อหุงข้าว ขนาด 1.0-1.8 ลิตร ค่าไฟ 3-6 บาท/ชั่วโมง

- เครื่องปิ้งขนมปัง ขนาด 760-900 วัตต์ ค่าไฟ 3-3.5 บาท/ชั่วโมง

- เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 1-2 หัวเตา ขนาด 2,000-3,500 วัตต์ ค่าไฟ 8-14 บาท/ชั่วโมง

หมายเหตุ: คิดจากค่าไฟเฉลี่ยอัตรา 3.9 บาทต่อหน่วย ข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวง

หาคำตอบ ทำไม "ค่าไฟแพง"

4. ชนิดและขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า

เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ของบ้านหรือห้องของคุณ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออย่าลืมวัดโต๊ะ ชั้นวางของ ที่จะใช้ตั้งอุปกรณ์ หรือวัดขนาดพื้นที่ที่ต้องการวาง เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากต้องซื้ออย่างอื่นเพิ่มในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น

วิธีเลือกบีทียู (btu) เครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดห้อง

โดยรายละเอียดและปัจจัยต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้

- ขนาดห้องของหน้าต่างและมุมต่าง ๆ ของห้อง

- ทิศทางของห้องนั้น ๆ ว่าโดนแดดมากน้อยเพียงใด

- วัสดุหลังคามีฉนวนกันความร้อนภายในบ้านหรือไม่

- จำนวนผู้อยู่อาศัยในห้องนั้น

สูตรการคำนวณ btu เครื่องปรับอากาศ

btu = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ความแตกต่าง

ความแตกต่างแบ่งได้ 2 ประเภท คือ

600-700 = ห้องที่มีความร้อนน้อยใช้เฉพาะเวลากลางคืน

700-800 = ห้องที่มีความร้อนสูงและส่วนใหญ่ใช้ในเวลากลางวัน

ขนาด btu เครื่องปรับอากาศเบื้องต้น

- 9,000 btu ห้องปกติ ขนาด 12-15 ตารางเมตร ห้องโดนแด ขนาด 11-14 ตารางเมตร

- 12,000 btu ห้องปกติ ขนาด 16-20 ตารางเมตร ห้องโดนแด ขนาด 14-18 ตารางเมตร

- 18,000 btu ห้องปกติ ขนาด 24-30 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 21-27 ตารางเมตร

- 21,000 btu ห้องปกติ ขนาด 28-35 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 25-32 ตารางเมตร

- 24,000 btu ห้องปกติ ขนาด 32-40 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 28-36 ตารางเมตร

- 25,000 btu ห้องปกติ ขนาด 35-44 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 30-39 ตารางเมตร

- 30,000 btu ห้องปกติ ขนาด 40-50 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 35-45 ตารางเมตร

- 35,000 btu ห้องปกติ ขนาด 48-60 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 42-54 ตารางเมตร

- 48,000 btu ห้องปกติ ขนาด 64-80 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 56-72 ตารางเมตร

- 80,000 btu ห้องปกติ ขนาด 80-100 ตารางเมตร ห้องโดนแดด ขนาด 70-90 ตารางเมตร

วิธีเลือกขนาดโทรทัศน์ให้เหมาะกับห้อง

วิธีการวัดขนาดโทรทัศน์ คือ การวัดหน้าจอโทรทัศน์แบบเส้นทแยงมุม โดยวัดจากมุมหนึ่งของจอภาพด้านในเฉียงไปยังมุมตรงข้าม ซึ่งโทรทัศน์แต่ละขนาดมีระยะห่างที่เหมาะสมดังนี้

- ขนาดหน้าจอ 26 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 0.98 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 32 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 1.25 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 42 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 1.58 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 47 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 1.76 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 50 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 1.90 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 2.06 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 60 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 2.25 เมตร

- ขนาดหน้าจอ 70 นิ้ว ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 2.63 เมตร

5. การติดตั้งและการบำรุงรักษาหลังการซื้อ

หลังจากที่คำนวณทั้งราคา คุณภาพ จำนวนวัตต์ และความเหมาะสมระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะซื้อกับบ้านหรือคอนโดมิเนียมของคุณแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย คือ ค่าติดตั้งและค่าบำรุงรักษาที่จะต้องจ่ายในภายหลัง

กรณีที่เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีขั้นตอนในการติดตั้งที่ยุ่งยาก พยายามเลือกซื้อจากร้านที่รับประกันว่าจะติดตั้งและขนส่งให้ถึงบ้าน ส่วนในเรื่องการบำรุงรักษา ลองสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เคยใช้และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าวัสดุของอุปกรณ์นั้นรักษายากไหม ชำรุดง่ายหรือไม่ และหากซ่อมแซมจะต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ปทุมธานี

Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : โทร :  081-9160211 , 081-9160211รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า , รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ , รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้แล้ว , รับซื้อ อุปกรณ์ไฟฟ้า , รับซื้อ อปุกรณ์ไฟฟ้าใหม่ 

รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า

1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์

———————————————————

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ

———————————————————
3.ภาคกลาง

มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี

———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว

———————————————————

5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี

———————————————————

6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา