บดินทร์ ธร จึงรุ่งเรืองกิจ pantip

รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” หรือ “วิ” สตรีผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางคล่องแคล่วว่องไวที่ปรากฏตัวตามสื่อแขนงต่างๆ ในช่วงหลายวันมานี้ เธอคือใคร เธอมาจากไหน เธอมีความสามารถอะไร และทำไมเธอถึงได้กุมหัวใจผู้ชายชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ พาไปย้อนดูเส้นทางชีวิตของเธอที่น้อยคนนักจะได้รู้

รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ คือ สะใภ้คนโตของ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เธอแต่งงานกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ลูกชายคนโตของสมพร กับพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ) มีบุตรธิดารวมกัน 4 คน ซึ่งคนโตอายุ 10 ขวบ คนที่สอง 8 ขวบ คนที่สาม 4 ขวบ และคนที่สี่ 11 เดือน

เมื่อย้อนไปดูประวัติการศึกษาของ รวิพรรณ พบว่า เธอจบปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์-การเงิน ซึ่งที่ผ่านมา คนในแวดวงธุรกิจการเงินรู้จักเธอในฐานะผู้หญิงทำงาน ที่มีประสบการณ์ด้านการเงินเป็นอย่างดี เพราะผ่านการบริหารด้านการเงินจากประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 6 ปี ในฐานะรองผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ สำนักงานใหญ่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเธอยังเป็นรองผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัท Lehman Brothers ประเทศญี่ปุ่นด้วย

จากนั้น เธอกลับมาเมืองไทย โดยมาทำงานอยู่ในสายการธนาคารต่อที่ธนาคารทหารไทย ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายคอร์ปอเรท แบงกิ้ง จนกระทั่งลูกเริ่มโต เธอจึงออกมาช่วยงานธุรกิจของครอบครัวสามี ตามประสาเวิร์กกิ้งวูแมน จึงอยู่เฉยไม่ได้

จากประสบการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เธอได้รับความไว้วางใจจากประธานบริษัท โซลิต มีเดีย (ประเทศไทย)ฯ ให้เข้ามาบริหารจัดการบริษัท โซลิตฯ (ต่อมาเข้าสู่ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด) เพื่อก้าวไปสู่ธุรกิจมีเดียแบบครบวงจร ชื่อบริษัทอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าพูดว่า นิตยสาร WHO? หลายคนคงเคยได้ยิน ซึ่งต่อมากลายเป็น “คดีธนาธรถือหุ้นสื่อ

รวิพรรณ เคยให้สัมภาษณ์สื่อภายหลังสามีเปิดตัวก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ว่า “เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเขา และกลัวว่าเขาจะเหนื่อยเพราะเป็นคนทำอะไรเต็มร้อย โดยเฉพาะงานการเมือง ซึ่งมีความปรารถนามุ่งมั่นมาตั้งแต่เป็นนักศึกษา แต่ก็รู้ว่าห้ามยากค่ะ”

อย่างไรก็ดี ในฐานะภรรยาคนดังการเมือง รวิพรรณ วางบทบาทตัวเองไว้อย่างชัดเจนว่าเธอเป็น “แม่บ้าน” คอยสนับสนุนสามีทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ และเมื่อสามีของเธอหันหลังมองกลับมาที่บ้าน เขาจะพบครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์ และพร้อมที่จะโอบกอดเขายามอ่อนล้าเสมอ.

  • หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ
  • ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย

28 พฤษภาคม 2018

บดินทร์ ธร จึงรุ่งเรืองกิจ pantip

ที่มาของภาพ, Wasawat Lukharang/BBC Thai

คำบรรยายภาพ,

สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เรียกประชุม "คณะกรรมการครอบครัว" หลังทราบข่าวบุตรชายจะเล่นการเมือง

คณะผู้ร่วมก่อตั้งพรรค สมาชิก รวมถึง "เพื่อนธนาธร" เข้าขอบคุณ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ที่อนุญาตให้บุตรชายลงเล่นการเมือง เธอยอมรับว่าทั้ง "เป็นห่วง" และ "เป็นทุกข์" กับการตัดสินใจของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้เขาเดินตามทาง

"เราห้าม เขาก็ไม่ฟัง อายุ 40 ปีแล้วนี่ พอเขาจะเดินตรงนี้ เราไปห้าม มันปีนรั้วแน่ ดังนั้นก็เลยเปิดประตูให้เดินเลย" สมพรหัวเราะเล็ก ๆ ขณะพูดคุยกับบรรดาผู้สนับสนุนธนาธร

  • ธนาธรนำทีมประกาศฉีก รธน. 60-นิรโทษกรรมคดีการเมืองยุค คสช.
  • ธนาธร-ปิยบุตร ตั้งพรรค "อนาคตใหม่" ประกาศไม่รับทุกส่วนประกอบ "อประชาธิปไตย"
  • "จึงรุ่งเรืองกิจ" รวยเพิ่มเกือบ 2 เท่าใน 5 ปี หลัง ธนาธร ช่วย แม่ สร้างอาณาจักร

นี่น่าจะเป็นครั้งแรก ๆ ที่ "มหาเศรษฐินี" วัย 67 ปี ผู้รั้งอันดับ 28 ในทำเนียบมหาเศรษฐีปีล่าสุดตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ยอมปรากฏตัวใน "วาระการเมือง"

การตัดสินใจหันหลังให้อาณาจักรไทยซัมมิท แล้วกระโจนลงสู่สมรภูมิการเมืองของธนาธร ทำให้สมพรทั้ง "ตกใจ" และ "ต่อต้าน" เมื่อได้ทราบข่าว ด้วยเพราะธนาธร-ซึ่งแปลว่า "ผู้รักษาทรัพย์สมบัติ" คือหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของครอบครัวกว่า 17 ปีที่ผ่านมา

ที่มาของภาพ, Wasawat Lukharang/BBC Thai

คำบรรยายภาพ,

หลังเปิดตัวพรรคได้ 73 วัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคตามคาด โดยเขามีแผนวางมือทางธุรกิจในเดือนหน้า

สมพรเล่านาทีล้มโปรแกรมทัวร์-เรียกประชุม กก.ครอบครัว

ธนาธรใช้เวลานับปีในการคิด-ใคร่ครวญเรื่องการจัดตั้งพรรคร่วมกับ "มหามิตร" อย่าง ปิยบุตร แสงกนกกุล และเพื่อนอีกคน ก่อนที่กระแสข่าวจะหลุดรอดถึงหูมารดาในช่วงต้นเดือน มี.ค. ซึ่งทำให้เธอร้อนใจยิ่ง ถึงขนาดล้มโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นร่วมกับเพื่อน 12 คน เพื่อเดินทางกลับเมืองไทยเร็วขึ้น

"ตอนอยู่นั่น เพื่อนฉันอ่านข่าวแล้วก็โวยวาย ๆ แต่ไม่ให้เราดูนะ ถามไปถามมาก็บอกว่าลูกเธอจะลงการเมืองแล้วนะ จะตั้งพรรค คราวนี้ฉันไม่เป็นอันเที่ยวแล้ว ก็กลับมาล่วงหน้าหนึ่งวัน มันรู้สึกร้อนใจ เป็นห่วง บอกตรง ๆ ไม่อยากให้ลูกเป็น" สมพรเล่าย้อนความรู้สึก

สิ่งที่ผู้นำสูงสุดของบ้าน "จึงรุ่งเรืองกิจ" ทำคือการเรียกประชุม "คณะกรรมการครอบครัว" เมื่อลูกทั้งห้าคน - ชนาพรรณ, ธนาธร, รุจิรพรรณ, สกุลธร, บดินทร์ธร -เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง คำถามแรกถูกยิงตรงใส่ธนาธรทันที "ระหว่างไทยซัมมิทกับประเทศไทย เธอจะเลือกอะไร" ทว่าคำตอบที่ได้กลับ "ไม่ได้ดั่งใจแม่"

ที่มาของภาพ, WASAWAT LUKHARANG/BBC THAI

คำบรรยายภาพ,

สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวัย 67 ปี ติดอันดับที่ 28 ทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีของไทย ประจำปี 2561 ตามการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์

"เขาตอบมาอย่างกล้าหาญเลยนะว่าประเทศไทย เราก็พูดไม่ออก วันนั้นถ้าตีมันได้ ตีไปแล้ว (หัวเราะ) เขาตอบอย่างนี้โดยที่ไม่เกรงใจเรา ไม่กังวลเลยว่าหม่าม้าจะฟีลลิ่ง (มีความรู้สึก) อย่างไร"

บทสนทนาว่าด้วยการตัดสินใจของธนาธรดำเนินไปอีกพักหนึ่ง ก่อนเกิด "คำถามวงแตก" เมื่อสมพรคนเดิมถามว่า "ถ้าเกิดวันไหน เธอเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา ก็จะมีคนประเคนผู้หญิงมาให้ มีคนเอาทรัพย์สินมาให้ เธอจะรับไหม"

คำตอบจากลูกชายคือ "หม่าม้าถามอย่างนี้ดูถูกผม" ว่าแล้วธนาธรก็สะบัดก้นลุกจากที่ประชุมไปทันที

นาทีนั้นสมพรคิดว่าประโยคนี้ของลูก "เชื่อถือได้" และน่าจะหมดทางโน้มน้าวให้ตัดสินใจใหม่ ทว่าในใจก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้

"ครอบครัวเราทำธุรกิจ ก็กลัวว่าเกิดไปทำอะไรกระทบกับผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้มีอิทธิพล เราก็ตาย ถูกไหมคะ ก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยมาก เราไม่สนับสนุนน่ะ"

ที่มาของภาพ, HATAIKARN TREESUWAN/BBC THAI

คำบรรยายภาพ,

สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้กำลังใจบุตรชายในวันประชุมพรรคอนาคตใหม่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 พ.ค.

ต่อมาระดับความกังวลใจของสมพรลดลง เมื่อ "ผู้ใหญ่" ที่เคารพหลายคนจากหลายแวดวงทั้งตำรวจ ทหาร อัยการ ปลอบว่าไม่ต้องห่วง เมื่อลูกมาขนาดนี้ถือว่าอยู่ในสายตาของประชาชนแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมาเล่นในทางไม่ถูกต้อง

แม้ "ไม่เห็นด้วย-ไม่ชอบ" กับการกระโจนลงสู่การเมืองของบุตรชาย แต่หัวอกคนเป็นแม่ย่อมไม่อยากให้ลูก "มีห่วง" เพราะจะทำการใดไม่สำเร็จ คืนวันที่ 14 มี.ค. เธอรุดไปหาเขาถึงบนห้องชั้นสอง นำส้มมงคลห้าผลที่ซุ่มเตรียมไว้แต่ช่วงเช้ามอบให้บุตรชาย พร้อมบอกว่า "หากขาดเหลืออะไรก็บอกมาม้านะ"

"คนจะทำการมงคล ถ้าเราไปทำให้เขาไม่สุขใจ มันก็จะไม่ฟีลกู๊ด (รู้สึกดี) มันจะนอนไม่หลับ เหมือนกับเราไปทำลายเขาไหม ก็เลยต้องหาวิธีแก้ด้วยธรรมเนียมของเรา การเอาส้มไปให้ก็เหมือนกับหม่าม้าให้ศีลให้พรเขา" สมพรเล่าย้อนถึงคืนก่อนวันแถลงเปิดตัวพรรรคอนาคตใหม่เมื่อ 15 มี.ค.

หวังแต่ไม่คิด ธนาธรนั่งนายกฯ แต่ขอให้เป็น "สี จิ้นผิง เมืองไทย"

73 วันผ่านไป ธนาธรก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย "มติเอกฉันท์" จากสมาชิกพรรค 473 เสียง ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคอนาคตใหม่ ครั้งที่ 1 เมื่อ 27 พ.ค. เขาประกาศความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชน

ตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองที่นักการเมืองทุกคนใฝ่ฝัน แต่ยากจะไปถึง หญิงผู้ให้กำเนิดชีวิตของธนาธรก็อยากให้ลูกไปถึงจุดนั้น แต่ไม่กล้าหวัง

ที่มาของภาพ, WASAWAT LUKHARANG/BBC THAI

คำบรรยายภาพ,

ในสายตาของผู้เป็นแม่อย่างสมพร เธอหวังในบุตรชาย "ธนาธร" เป็น "สี จิ้นผิง เมืองไทย"

"ตำแหน่งตรงนี้ไม่ใช่ง่าย นอกจากคุณมีพลัง ตัวคุณต้องมีบารมี มีความสามารถ ดังนั้นถามว่าอยากหวังไปถึงตรงนั้นไหม อยากหวัง แต่ไม่คิดว่าจะต้องได้ เพราะเดี๋ยวเราจะเฟล (รู้สึกล้มเหลว)... ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า วันนี้ใครถาม เราก็อยากให้ลูกเป็นนะ แต่ไม่กล้าหวัง ให้ทุกอย่างเป็นไปตามสัจธรรม หรือที่พระเจ้าอยากให้เป็น ในกรณีที่ไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็ได้สร้างเครดิตให้ตัวเอง แต่ถ้าเกิดได้ ก็เป็นบุญของเขาและเป็นบุญให้กับประเทศไทยที่ได้เขามาช่วยสังคมไทย" มารดาของว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าว

ในวัยเยาว์.. สมพรสอนให้ลูกซื่อสัตย์ ห้ามขโมยของเพื่อนที่โรงเรียนกลับบ้าน

เมื่อเติบโตขึ้น.. เป็นผู้บริหารไทยซัมมิทกรุ๊ป สมพรยืนยันว่าค้าขายทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส และเสียภาษีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ที่มาของภาพ, Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรือง

คำบรรยายภาพ,

วันอำลาเพื่อนพนักงานและผู้บริหารบริษํทไทยซัมมิทของธนาธร

ในอนาคต เธอจึงฝันจะเห็นธนาธรเป็น "เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย" หรือไม่ก็ "สี จิ้นผิง เมืองไทย" กล่าวคือ ไม่โกง เข้ามาช่วยบ้านเมือง ไม่ใช่เข้ามากอบโกย

ทั้งนี้หลัง สี จิ้นผิง ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำจีนเมื่อปี 2012 เขาดำเนินนโยบายปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังภายใต้นโยบาย "ปราบเสือและแมลงวันไปพร้อมกัน" ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 1 ล้านคนถูกลงโทษ

ส่วนฉายา "ไพร่หมื่นล้าน" ที่นักธุรกิจหนุ่มผู้ไม่เคยหยุดสนใจการเมืองได้รับ สมพรเห็นว่าต้องสลัดภาพลักษณ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่สงครามสีเสื้อเหลือง-แดงให้จงได้

"วันนี้เรามีพรรคอนาคตใหม่ เราต้องพยายามให้พรรคลบล้างคำนี้ให้ได้ คนในสังคมกำลังต่อสู้เรื่องความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และความเสมอภาค แล้วเรามายอมรับทำไมคำว่า 'ไพร่หมื่นล้าน' ต้องพยายามลบคำนี้" ประธานเครือไทยซัมมิท ซึ่งติดทำเนียบ "50 มหาเศรษฐีของไทย" ด้วยมูลค่าทรัพย์สินราว 4.11 หมื่นล้าน ระบุ

ที่มาของภาพ, ISARIN NOOMUANG

คำบรรยายภาพ,

นายสกุลธร น.ส.ชนาพรรณ และนายบดินทร์ธร (จากซ้ายไปขวา) ร่วมแสดงความยินดีของนายธนาธรในวันแถลงเปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเดือน มี.ค.

ส่วนการจัดทัพทางธุรกิจของไทยซัมมิท เพื่อรองรับการพ้นจากสถานะฝ่ายบริหารของธนาธรในเดือน มิ.ย. สมพรบอกว่าจะให้สกุลธร บุตรชายคนรองเข้ามารับช่วงต่อการบริหารตลาดต่างประเทศจากพี่ชาย ส่วนชนาพรรณ บุตรสาวคนโตผู้เป็นพี่สาวธนาธร ยังรับผิดชอบงานบริหารบุคคล จัดซื้อจัดจ้าง และการเจรจาเปิดโครงการใหม่ในต่างแดน และถ่ายโอนงานเดิมในมือสกุลธรให้น้องชายคนที่สามอย่างบดินทร์ธร

ภรรยาเผยมีทายาทใหม่ 5 เดือนแล้ว จ่อชื่อ "น้องฟิวเจอร์"

ขณะที่การจัดแจงภายในบ้าน ซึ่งกำลังจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มอีกหนึ่งคน บทหนักคงตกอยู่กับ รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาของธนาธร

"ตอนนี้มีน้องได้ห้าเดือนแล้วค่ะ น้อง ๆ ที่พรรคอนาคตใหม่ก็มาแซว บอกให้ชื่อ 'น้องฟิวเจอร์' ไหม" รวิพรรณเล่าพลางเอามือลูบครรภ์ของตนเอง

ที่มาของภาพ, WASAWAT LUKHARANG/BBC THAI

คำบรรยายภาพ,

รวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ

เวลากว่าสองเดือนที่สามีเดินหน้าทำงานการเมือง ความรู้สึกของเมียก็ไม่ต่างจากแม่ เพราะการตัดสินใจของธนาธรจะทำให้ทุกชีวิตในครอบครัวต้องพบกับ "ชีวิตใหม่"

"เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเขา และกลัวว่าเขาจะเหนื่อยเพราะเป็นคนทำอะไรเต็มร้อย โดยเฉพาะงานการเมือง ซึ่งมีความปราถนามุ่งมั่นมาตั้งแต่เป็นนักศึกษา แต่ก็รู้ว่าห้ามยากน่ะค่ะ" เธอบอก

สิ่งที่คุณแม่ลูก 4 ทำคือการอธิบายกับลูก โดยเฉพาะคนโตวัยสิบปีว่าคุณพ่อกำลังทำอะไร นักการเมืองคืออะไร และตัวเด็กจะได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งที่โรงเรียนก็มีสอนเรื่องประชาธิปไตย มีสภานักเรียนอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากในการทำความเข้าใจกับลูก ๆ

ส่วนบทบาท "หลังบ้านคนดัง" ที่เข้ามาช่วยบงการ-จัดการการเมืองแบบในยุคก่อนหน้า รวิพรรณเห็นว่าสามีจะทำการเมืองใหม่ ดังนั้นเธอจึงจำกัดตัวเองอยู่ที่บทบาท "แม่บ้าน"

"วิคงไม่เข้าไปยุ่งเรื่องการจัดการการเมือง แต่ถ้ามีประชุมก็อำนวยความสะดวกเรื่องอาหาร น้ำ เป็นแม่บ้านมากกว่า แต่เรื่องนโยบาย เท่าที่เราเข้าใจกัน วิจะยังไม่ได้เข้าไปยุ่ง" ภรรยาธนาธรกล่าว

นี่คือเสียงจากสองสตรีในบ้านที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของธนาธรในวัย 40 ปี