โรงงานเครื่องสําอาง บางพลี

ผู้นำด้านโรงงานผลิตเครื่องสำอางแบบครบวงจร ครอบคลุมประเภทสินค้า skincare, personal care, color cosmetic, toiletries, hair product,nail products, food supplement, household products ซึ่งเป็น Joint Venture กับ Milott Corporation, Japan เริ่มก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2532 เป็นผู้นำด้านการรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และอื่นๆอีกมากมาย ได้รับการรับรองมาตรฐานตามระบบ GMP, HACCP,HALAN,ISO9001:2008, ISO14001:2004 และ ISO/IEC 17025 ,18001,Green industry เนื่องจากบริษัทฯ กำลังมีการขยายตัวของธุรกิจค่อนข้างสูงสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ จึงต้องการรับสมัครงานในตำแหน่งต่าง ๆ เพิ่มเติมจำนวนมาก
แม้ว่าในปัจจุบันนี้ผู้หญิงส่วนหนึ่งจะเริ่มแต่งหน้าน้อยลงเพราะต้องปกปิดใบหน้าด้วยการสวมหน้ากากอนามัย แต่ก็มีอีกส่วนใหญ่ที่ยังคงแต่งหน้าเหมือนเดิมเพราะสังเกตได้จากตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่เวลาหลายคนลงรูปก็มักจะถอดหน้ากากอนามัยออกชั่วคราวใบหน้าจึงต้องดูดีอยู่ทุกสถานการณ์หรือต่อให้ใส่หน้ากากอนามัยสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องแต่งก็คือคิ้วและตา ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า “ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้น ผู้หญิงก็ยังคงต้องการที่จะดูดีอยู่ตลอดเวลา” 

 

ในปี 2022 นี้สื่อด้านความงามชื่อดังของอเมริกาได้มีการออกมาคาดการณ์กันแล้วว่าปีนี้การแต่งหน้าแบบไหนจะเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุด

  1. เขียนขอบปากด้วยลิปไลเนอร์ ดูเหมือนว่าปีนี้เทรนด์การทาลิปสติกจะย้อนกลับไปเหมือนในช่วงปี 1990 ที่ผู้หญิงทุกคนจะให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์ริมฝีปากให้ดูสวยงามราวกับว่าเป็นงานศิลปะโดยการเขียนขอบปากด้วยดินสอเพื่อให้ได้รูปปากตามที่ต้องการแล้วจึงทาลิปสติกแท่งด้านในแบบบางเบา ทำให้ปีนี้ลิปแมตต์น่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าลิปประเภทกลอส
  2. การแต่งคิ้ว ปีนี้สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนเกี่ยวกับการเขียนคิ้วก็คือการแต่งขนคิ้วแบบเรียงเส้นที่เน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติ แต่อาจมีการเพิ่มลูกเล่นความเก๋ด้วยการตกแต่งคิ้วด้วยพาเลทสีต่าง ๆ ให้ดูสะดุดตามากขึ้น
  1. แต่งหน้าให้เหมือนไม่แต่ง ‘Tommy Napoli’ ช่างแต่งหน้าชื่อดังชาว New York กล่าวว่าการแต่งหน้าแบบเรียบง่ายให้ดูเหมือนไม่แต่งจะไม่มีวันตกยุค โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะเน้นไปที่งานผิวสวยแบบบางเบา ไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นหนา ๆ ก็ช่วยให้ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติได้
  2. สร้างดวงตาให้โดดเด่นด้วยอายไลน์เนอร์ เครื่องสำอางสำหรับการตกแต่งดวงตายังคงได้รับความนิยมอยู่ตลอดเวลา ยิ่งต้องสวมหน้ากากอนามัยการแต่งตายิ่งต้องเป๊ะทำให้เทรนด์การแต่งตาในปีนี้จะมาในรูปแบบการเล่นใหญ่ด้วยการวาดเส้นอายไลเนอร์เป็นลวดลายต่าง ๆ อาจจะใช้แบบสีดำหรือสีสันสดใสก็ได้ รวมถึง Foxy Eyes ที่จะยังคงฮิตอย่างต่อเนื่องและยังงมีการคาดการณ์อีกว่าในปีนี้เครื่องสำอางสำหรับดวงตาจะเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น
  3. ปัดแก้มโทนสีม่วง ปีนี้คาดว่าเทรนด์การปัดแก้มสีม่วงจะมาแรงเนื่องจากบริษัท Pantone ได้ออกมาประกาศ Pantone Color of the Year เป็นสี ‘Very Peri’ ซึ่งก็คือสีม่วงที่เกิดจากการผสมกันระหว่างสีฟ้าและแดงนั่นเอง นอกจากนี้ไม่ว่าคุณจะมีผิวโทนไหนก็สามารถปัดแก้มสีม่วงได้เพราะมันสามารถเข้าได้กับทุกโทนสีผิวโดยอาจใช้ที่ปัดแก้มทั้งแบบสูตรครีมเพื่อเพิ่มความติดทนนานหรือบลัชออนแบบเนื้อแป้งเพื่อเพิ่มความประกายจากชิมเมอร์ไปด้วยก็ได้

 

อ้างอิง : 

https://th.hellomagazine.com/beauty-health/beauty/makeup-trend-2022/

https://thestandard.co/beauty-trends-2022/

https://www.pantone.com/color-of-the-year-2022

เทรนด์เครื่องสำอางที่น่าจับตามองในปี 2022

ในปี 2021 ไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกเครื่องสำอางมากเป็นอันดับ 10 ของโลกเพราะปัจจุบันเครื่องสำอางไทยได้รับความนิยมทั้งในอาเซียน ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย และฮ่องกง และมีการคาดการณ์ว่าตลาดเครื่องสำอางจะค่อย ๆ กลับมาเติบโตเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมองการแต่งหน้าเป็นแฟชั่นไม่มีใครยอมตกเทรนด์กันอย่างแน่นอน มาดูกันว่าเทรนด์เครื่องสำอางในปี 2022 นี้แบบไหนจะเป็นที่น่าจับตามองเพื่อเติบโตในวงการนี้    

  1. เครื่องสำอางครอบคลุมทุกสีผิว

ปัจจุบันนี้หลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องความหลากหลายในตัวตนของมนุษย์มากขึ้น สินค้าต่าง ๆ รวมถึงเครื่องสำอางจึงต้องเพิ่มทางเลือกให้กับทุกคน อย่างเช่น ‘รองพื้น’ ที่เมื่อก่อนมีเฉดให้เลือกไม่มาก แต่ในปัจจุบันนี้บางแบรนด์มีถึง 50 เฉดสีเพื่อรองรับความแตกต่างของทุกคน

  1. เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย

เครื่องสำอางไม่ได้มีไว้ใช้แค่สำหรับผู้หญิงอีกต่อไปแล้ว เพราะล่าสุด “แฮร์รี่ สไตล์ส” เซเลบชาวอังกฤษก็ได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจความงามด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นอกจากนี้ “ดีเจ คาเลด” ก็ได้สร้างแบรนด์สกินแคร์สำหรับผู้ชายที่มีส่วนผสมของกัญชาด้วยเช่นกัน 

  1. เครื่องสำอางแบบซอง

เทรนด์เครื่องสำอางแบบซองยังคงได้รับความนิยมสูง เพราะคนไทยรู้สึกว่ามันมีราคาไม่แพง สามารถใช้งานได้นานและยังถือว่าเป็นการทดลองใช้สินค้าก่อนไปซื้อขนาดไซส์ใหญ่ได้แถมยังพกพาได้สะดวกอีกด้วย

  1. เครื่องสำอางสำหรับผู้สูงอายุ

ในปีนี้เทรนด์หญิงสูงวัยกำลังมาแรงโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ ฯลฯ ได้นำหญิงสูงวัยหลายคนมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในโลกโซเชียล เพราะต้องการเจาะกลุ่มคนในรุ่นนี้เนื่องจากมีกำลังซื้อสูงและมีแนวโน้มใช้จ่ายเงินบนโลกออนไลน์มากกว่าเด็กวัยรุ่นเสียด้วยซ้ำ

  1. เครื่องสำอางที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เพราะคนส่วนใหญ่มักเลือกใช้สินค้าที่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติเพราะเชื่อว่าดีต่อผิวมากกว่าและจะมักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

 

อ้างอิง :

https://marketeeronline.co/archives/216591  

https://mgronline.com/celebonline/detail/9650000000510 

https://positioningmag.com/1320107 

https://www.bangkokbiznews.com/business/966109

ข้อมูลสำคัญบนฉลากเครื่องสำอางที่ต้องใส่ตามกฎหมาย

ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอางฉบับล่าสุดในปี พ.ศ. 2562 เรื่อง “ฉลากของเครื่องสำอาง” ได้ระบุให้ผู้ที่ขายเครื่องสำอางในประเทศไทยต้องติดฉลากไว้ในที่เปิดเผยและสามารถอ่านหรือมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยสามารถติดไว้บนบรรจุภัณฑ์หรือตัวภาชนะบรรจุก็ได้ ซึ่งข้อความบนฉลากที่ต้องระบุไว้ มีดังนี้

  1. ชื่อเครื่องสำอาง (ต้องมีขนาดใหญ่กว่าข้อความอื่น)
  2. ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง
  3. ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง (ต้องเป็นชื่อตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด และต้องเรียงลำดับสารตามปริมาณจากมากไปหาน้อย)
  4. วิธีใช้
  5. ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต
    1. กรณีที่ผลิตในประเทศไทยให้แสดงชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต
    2. กรณีที่นำเข้าเครื่องสำอางให้ระบุชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้าพร้อมกับชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต
  1. ปริมาณสุทธิ
  2. แสดงเลขอักษรครั้งที่ผลิต
  3. วันที่ผลิต โดยระบุเป็น เดือน/ปี หรือ ปี/เดือน 
  4. วันหมดอายุ โดยระบุเป็น เดือน/ปี หรือ ปี/เดือน หรือความหมายในทำนองเดียวกันสำหรับเครื่องสำอางที่มีอายุการใช้น้อยกว่า 30 เดือน
  5. คำเตือนตามที่กฎหมายคำหนด
  6. เลขที่ใบรับจดแจ้ง

หมายเหตุ :

  • ในกรณีที่ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์มีพื้นที่แสดงฉลากน้อยกว่า 20 ตารางเซนติเมตร อย่างน้อยต้องแสดงข้อความตามข้อ 1, 7, 8, 9 และ 11
  • หากผู้ผลิตได้จัดทำฉลากไว้ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้ ให้ทำการแก้ไขฉลากให้ถูกต้องและสามารถใช้ฉลากเดิมที่เหลืออยู่ต่อไปได้ แต่ต้องไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้

 

อ้างอิง : www.fda.moph.go.th/sites/Cosmetic/Shared%20Documents/Laws/14%20ฉลาก/14_1%20ฉลากของเครื่องสำอาง%202562.pdf

แผนงานขั้นต้นก่อนเริ่มสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง

สำหรับที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางโดยการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองเพื่อที่จะได้ขายสินค้าที่ตัวเองชื่นชอบ การสร้างแบรนด์และการขายสินค้าในปัจจุบันนี้ถือว่าง่ายกว่าเมื่อก่อนมากเพราะสามารถทำได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือการโปรโมท ผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นแผนงานยังไง คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ได้เลย

  1. วางแผนสินค้าที่ต้องการ

อันดับแรกก่อนที่จะเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจคุณต้องเริ่ม ‘วางแผน’ ก่อนว่าต้องการขายสินค้าประเภทใด เพราะหากพูดถึงคำว่าเครื่องสำอางมันจะครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ความสวยงามหลายอย่าง คุณอาจจะเริ่มวางแผนก่อนว่าต้องการขายสินค้าแค่ประเภทเดียวเอาหรือว่าจะขายหลาย ๆ อย่างภายใต้แบรนด์ของคุณ

  1. ดูเทรนด์ในตลาด

เมื่อคุณรู้แล้วว่าคุณต้องการขายสินค้าประเภทไหนต่อไปก็ให้ดูเทรนด์ในตลาดว่าสินค้ามีแบบไหนบ้าง? กลุ่มเป้าหมายของคุณชื่นชอบแบบไหน? หรือในขณะนั้นมีส่วนผสมอะไรที่กำลังเป็นที่นิยมที่คุณสามารถนำมาปรับให้ใช้กับผลิตภัณฑ์และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้

  1. หาโรงงานรับผลิตที่ได้มาตรฐาน

หลังจากที่คุณพอจะมองออกแล้วว่าสินค้าของคุณจะเป็นอะไรก็ให้หาโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่ต้องการ โดยโรงงานที่เป็น OEM ส่วนใหญ่จะมีบริการให้คุณแบบครบวงจรทั้งให้คำปรึกษา แกะสูตรผลิตภัณฑ์ ทดสอบสูตรใหม่ ๆ ออกแบบบรรจุภัณฑ์/โลโก้ หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญอย่าลืมเลือกเฉพาะโรงงานที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาตต่าง ๆ อย่างถูกต้อง

  1. ค้นหาสูตรผลิตภัณฑ์ที่คุณชื่นชอบ

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้คุณได้สินค้าตามแบบที่ตัวเองต้องการ โดยหลังจากเลือกโรงงานรับผลิตที่ได้มาตรฐานแล้วให้คุณหาสูตรสินค้าที่ชื่นชอบไปให้ทางโรงงานแกะสูตรหรือหากคุณอยากจะพัฒนาสูตรใหม่ขึ้นมาเองด้วยการใส่สารสกัดอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถปรึกษากับโรงงานได้

  1. ทดสอบสินค้า

เมื่อคุณได้สูตรสินค้าตามที่ต้องการแล้วสามารถขอทดสอบสินค้าที่โรงงานผลิตเป็นตัวอย่างมาก่อนได้เพื่อลองทดสอบดูว่าสินค้าของคุณเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่

  1. วางแผนการตลาด

ขณะที่รอตัวอย่างสูตรสินค้าที่คุณต้องการ คุณสามารถวางแผนการตลาดต่อได้เลย เพราะหากวางแผนไว้แต่เนิ่น ๆ มันจะช่วยตัดสินใจได้ว่าต่อไปคุณจะตั้งชื่อแบรนด์ว่าอะไร ขายที่ไหน บรรจุภัณฑ์จะเป็นอย่างไรเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนของการออกแบบแพคเกจจิ้งต่อไป 

  1. ออกแบบบรรจุภัณฑ์

เมื่อคุณวางแผนการตลาดได้แล้วคุณสามารถปรึกษาโรงงานเรื่องการออกแบบโลโก้ ชื่อแบรนด์ รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้เลย 

  1. สั่งผลิต

ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อคุณมีสินค้าแล้ว มีแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณแล้ว คุณก็สามารถสั่งผลิตกับทางโรงงานได้เลย

 

อ้างอิง :

https://www.locopack.co/th/articles/4#

สัญลักษณ์บนเครื่องสำอางที่เจ้าของแบรนด์ควรรู้จัก

เครื่องสำอางทุกชนิดหลายคนอาจจะเห็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่งผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ควรทำความรู้จักกับสัญลักษณ์เหล่านี้ไว้เพื่อใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของแต่ละคนได้ โดยสัญลักษณ์ที่เป็นสากลเหล่านั้น คือ

  1. Green Dot

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Green Dotรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Green Dot

สัญลักษณ์ลูกศรที่เชื่อมกันในวงกลมนั้นแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากรายได้จะนำไปมอบให้แก่องค์กรที่ดูแลเรื่องการกำจัดขยะบรรจุภัณฑ์อย่างถูกวิธี 

 

  1. PAO (Period After Opening)

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-PAO (Period After Opening)รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-PAO (Period After Opening)สัญลักษณ์รูปกระปุกเปิดฝานี้จะเห็นได้แทบทุกผลิตภัณฑ์เนื่องจากมันเป็นตัวที่บ่งบอกว่าเครื่องสำอางที่เราใช้มีอายุการใช้งานกี่ปีหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ถูกเปิดใช้แล้ว ส่วนใหญ่จะบอกว่ากี่เดือน เช่น 3M, 6M, 12M, 24M 

 

  1. Best Before End of (of)

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Best Before End of (of)รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Best Before End of (of)สัญลักษณ์รูปนาฬิกาทรายคือตัวที่บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานถึงเมื่อไหร่ซึ่งจะระบุเป็นวันหมดอายุบางครั้งจะใช้เป็นตัวอักษรย่อ BBE หรือ EXP

 

  1. Leaping Bunny

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Leaping Bunnyรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Leaping Bunnyสัญลักษณ์รูปกระต่ายแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่มีการทดลองกับสัตว์ในตลอดทุกขั้นตอนการผลิตรวมถึงไม่มีส่วนผสมใด ๆ ที่ผ่านการทดลองในสัตว์มาก่อน

 

  1. Refer To Insert

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-refer to insertรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-refer to insertสัญลักษณ์รูปมือชี้บนหนังสือมักจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่มีชิ้นเล็กมากจนไม่สามารถใส่รายละเอียดสินค้าได้ ซึ่งจะหมายถึงมีแผ่นพับเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติม

 

  1. E-mark

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-E-markรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-E-markสัญลักษณ์ตัวอักษร ‘e’ หมายความว่าสินค้านั้นได้รับการรับรองจากสหภาพยุโรปในเรื่องของปริมาณและน้ำหนักว่าสินค้าตัวนี้มีปริมาณและน้ำหนักที่ระบุไว้อย่างแท้จริง

 

  1. Mobius loop

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Mobius loopรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Mobius loopสัญลักษณ์รูปลูกศร 3 ดอกที่เรียงกันเป็นรูปสามเหลี่ยมนี้ หมายความว่าภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์สามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยแต่ละดอกหมายถึง Recycling, Recyclale และ Recycled Product 

 

  1. Ecocert

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Ecocertรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Ecocertสัญลักษณ์นี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ  COSMOS ORGANIC CERTIFICATION และ COSMOS NATURAL CERTIFICATION ซึ่งหากเห็นคำว่า Organic จะหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนผสมจากออร์แกนิกมากกว่า 95% ส่วน Natural จะหมายความว่ามีส่วนผสมของออร์แกนิกมากกว่า 50%

 

  1. Open Flame

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Open Flameรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Open Flameสัญลักษณ์รูปไฟก็จะสื่อความหมายตามรูปโดยตรงเลยว่าผลิตภัณฑ์นี้สามารถก่อให้เกิดประกายไฟได้เพราะมีส่วนผสมจำพวกแอลกอฮอล์หรือสารขับดันในสเปรย์ ดังนั้นควรเก็บให้ห่างจากพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง

 

  1. Halal Certified 

รูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Halal Certifiedรูปภาพ สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง-Halal Certifiedสัญลักษณ์เครื่องหมายฮาลาลจะแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ได้ผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐานฮาลาลซึ่งก็คือจะไม่มีส่วนผสมของสุกร รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ ที่ผิดต่อหลักของศาสนา เช่น สัตว์เลื้อยคลานหรือแมลง 

 

อ้างอิง :

www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/541/สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง/

คำถามพบบ่อยของการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ขั้นตอนทั่วไปในการผลิตเครื่องสำอางแบบ OEM?

กำหนดความต้องการของผลิตภัณฑ์, ปรึกษาเจ้าหน้าที่, พัฒนาสูตร, เมื่อลูกค้าถูกใจแล้วจึงสั่งผลิต, ขึ้นทะเบียนสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกับ อย., ดำเนินการผลิตและตรวจสอบคุณภาพ และจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า

โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ดี ดูได้อย่างไร?>

มีการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้อง, มีใบรับประกันมาตราฐาน (ISO GMP Halal เป็นต้น) และให้บริการแบบครบวงจร

ประเภทเครื่องสำอางที่นิยมผลิตแบบ OEM?>

ผลิตภัณฑ์ตกแต่งใบหน้า เช่น แป้งตลับ, รองพื้น, ลิปสติก, อายไลเนอร์ และ อายแชโดว์

OEM รับผลิตเครื่องสำอาง กับโรงงานที่ดีที่สุด

หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตเครื่องสำอาง เมคอัพประเภทต่างๆ ที่มีคุณภาพ ได้มาตราฐาน และเป็นโรงงานจริงไม่ผ่านนายหน้า คุณสามารถติดต่อบริษัทผู้ผลิตเหล่านั้นได้ง่ายๆ เพียงกรอกแบบฟอร์มความต้องการให้โรงงานผู้ผลิตติดต่อกลับ เพื่อนำเสนอรายละเอียดของผลิตภัณฑ์, ขั้นต่ำในการสั่งผลิต, ขั้นตอนการผลิตและโปรโมชั่นต่างๆของบริษัท พร้อมรับสิทธิพิเศษเมื่อกรอกแบบฟอร์มผ่านเว็บไซต์ รับผลิต.com | มองหา โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ต้องที่รับผลิต.com