บุคคลใดดูแลผ้าไหมไม่ถูกต้อง

        ๒) การรีดผ้าปักเลื่อมและลูกปัด ให้กลับด้านในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าชุบนํ้าจนทั่วพอหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมและลูกปัดรีดเบา ๆ จนเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง ต่อจากนั้นให้กลับด้านใช้ปลายเตารีดค่อย ๆ รีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมและลูกปัด เพื่อให้เรียบยิ่งขึ้น ส่วนตรงอื่น ๆ ก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอหมาดวางทับและรีดจนทั่วทั้งตัว โดยรีดตรงปกและตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนสุดท้าย

  แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) 

ชื่อ ______________________ นามสกุล________________ เลขที่______ชั้น _____
ให้ระบายคำตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)
1. เพราะเหตุใดจึงต้องขจัดรอยเปื้อนก่อนซักเสื้อผ้า
1    เพราะประหยัดค่าสารซักฟอก
        2     เพราะช่วยซักผ้าให้สะอาดได้ง่าย
3    เพราะจะทำให้เสื้อผ้ามีสีสดยาวนาน
4    เพราะเนื้อผ้าจะเหนียวและทนทานมากขึ้น

        1  ป้องกันเนื้อผ้าสีซีด         2 ประหยัดพลังงานไฟฟ้า

3    ป้องกันเนื้อผ้าหดตัว 4 ป้องกันเนื้อผ้าละลาย

2. การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีและประณีต มีความสำคัญอย่างไร
1    เสื้อผ้าเกิดความสวยงามมากขึ้น

        2    เสื้อผ้ามีอายุการใช้งานยาวนาน
3    ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ

        4    ปลูกฝังนิสัยรักความสะอาด มีระเบียบวินัย

3. ถ้าต้องการให้ผ้าลินินคงรูปควรทำอย่างไร
1    ลงแป้งให้ผ้าก่อนซักรีด
        2    ซักเสร็จแล้วนำมารีดทันที
3    แช่ผ้าในสารฟอกขาวก่อนซักรีด
        4    ใช้น้ำยาซักแห้งแทนสารซักฟอก

4. การรีดผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ด้วยอุณหภูมิต่ำมีวัตถุประสงค์ตรงกับข้อใด
1    ป้องกันเนื้อผ้าสีซีด

        2    ประหยัดพลังงานไฟฟ้า
3    ป้องกันเนื้อผ้าหดตัว

        4    ป้องกันเนื้อผ้าละลาย

5. ข้อใดเป็นการใช้ทรัพยากรในการดูแลเสื้อผ้าที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด
1  ใช้สารฟอกขาวผสมสารซักฟอกในการซักผ้าในอัตรา 50 : 50
        2    ใช้สารซักฟอก 1 ช้อนกับเสื้อผ้า 10 ตัว
3    ใช้น้ำล้างผ้าให้สะอาดเพียง 2 กะละมัง
        4    ใช้น้ำผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มครึ่งกะละมังต่อผ้า 10 ตัว

6. บุคคลใดไม่ได้ดูแลเสื้อผ้า
1    สมพร ระมัดระวังไม่ให้เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน
2    ศุภลักษณ์ ดูแลรักษาเสื้อผ้าโดยดูคำแนะนำที่ติดมากับเสื้อผ้า
3    สุภาวดี ถอดเสื้อกันหนาวใส่ไม้แขวนแล้วนำไปแขวนไว้ที่ตะปู
        4    สุภาพร นำกรรไกรใส่ไว้ในกระเป๋ากระโปรง

7.   สัญลักษณ์ที่เห็น เป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับอะไร
1    ห้ามซักด้วยเครื่องซักผ้า 2    ห้ามบิด
3    ห้ามอบหรือปั่นแห้ง 4    ห้ามซักแห้ง

8. สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการซักผ้า คือข้อใด
1    สารซักฟอก 2    สารปรับผ้านุ่ม
3    สารตกแต่งผ้าขาว 4    สารตกแต่งให้ผ้าคงรูป

9. ถ้าเสื้อนักเรียนเปื้อนเลือด นักเรียนควรขจัดรอยเปื้อนด้วยวิธีใด
1    นำแป้งโรยลงบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ให้แห้ง ใช้แปรงขนอ่อนปัดแป้งออก แล้วนำไปซัก
2    ใช้แป้งมันผสมน้ำให้เข้มข้นเหมือนแป้งเปียก ทาตรงส่วนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง      แล้วนำไปซัก
3    เช็ดออกด้วยน้ำมันสนแล้วซักในน้ำสบู่
4    แช่รอยเปื้อนลงในน้ำเกลือสักครู่แล้วซักตามปกติ

10. เสื้อผ้าชนิดใดไม่ควรซักด้วยเครื่องซักผ้า
1    เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ 2    ผ้าใยกึ่งสังเคราะห์

ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมผ้าไทยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย วันนี้ศูนย์การค้าดิโอลด์สยามช้อปปิ้งพลาซ่า มีเคล็ดลับในการดูแลรักษาผ้าไหมไทยให้สวยงามเหมือนใหม่มาฝากกันค่ะ

"ผ้าไหมไทย หรือ Thai silk" เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงเป็นเสมือนสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศไทย ทั้งในเรื่องของความสวยงาม ความอ่อนนุ่มสบาย และมีความเลื่อมเงางามโดยธรรมชาติ เมื่อสวมใส่ดูหรูหรา ภูมิฐาน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ “เมื่ออากาศร้อน ผ้าไหมช่วยคลายให้เย็นได้ ส่วนเวลาอากาศหนาว ผ้าไหมบางๆ กลับช่วยให้อุ่นสบาย” จึงเหมาะที่จะนำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้

วิธีการซักผ้าไหมอย่างถูกวิธี

น้ำยาซักผ้า หรือสบู่อาบน้ำเด็กไม่ว่าสบู่เหลวหรือสบู่ก้อนเหมาะสมที่สุดสำหรับใช้ซักผ้าไหม แชมพู หรือน้ำยาเอนกประสงค์ชนิดที่มีฤทธิ์เป็นกลาง หรือเป็นกรดอ่อนๆ ใช้ซักผ้าไหมได้ดีเช่นกัน ไม่ควรใช้ผงซักฟอก และน้ำยาฟอกขาว

วิธีการดูแลผ้าไหมตนเอง

นับแต่โบราณมา ผู้สวมใส่ผ้าไหมไทยส่วนใหญ่นุ่งซิ่น ห่มผ้า บ้างพาดบ่า ใช้ผ้าไหมทั้งใน ชีวิตประจำวันและในพิธีการ มีภูมิปัญญาการดูแลทำความสะอาดผ้าไหมไทย คือ การซักผ้าไหมด้วยน้ำมะพร้าว และลบรอยเปื้อนโดยใช้หัวหอมถูที่รอยเปื้อนก่อนนำไปซัก แม้ในปัจจุบันมีการนำผ้าไหมมาตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกายสมัยใหม่ ชุดผ้าไหมก็ ยังคงสามารถดูแลทำความสะอาดได้ด้วยตนเอง

วิธีการรีดผ้าไหม

ให้รีดขณะผ้าไหมยังเปียกหมาดๆ ผ้าที่แห้งเกินไปจะรีดให้เรียบได้ยาก ควรพรมน้ำแล้วม้วนผ้าไว้ให้ความเปียกชื้นแทรกเข้าเนื้อผ้าทั่วกันก่อน จึงนำมารีด ขณะรีดผ้าไหม ใช้ความร้อนระดับปานกลางถึงร้อนสำหรับผ้าไหมชนิดบางหรือผ้าไหม 1 เส้น ส่วนผ้าไหมที่หนาปานกลาง หรือผ้าไหม 2-4 เส้น ให้ใช้ความร้อนระดับร้อนมาก และให้รีดที่ด้านในของเสื้อผ้าไหมก่อน โดยรีดวนเป็น วงทางเดียว และขยายวงออกไปเรื่อยๆ หรือรีดไปทางเดียวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง จะทำให้รีดผ้าไหม ได้เรียบ และไม่เกิดรอยย่นในเนื้อผ้า