เฉลยใบงานเรื่องระบอบฟิวดัล

เอกสารเพม่ิ เตมิ สำหรับครู เรอ่ื ง การปฏิรูปศาสนาของฝ่ายคาทอลกิ การปฏิรปู ศาสนาของฝ่ายคาทอลกิ หรือเรยี กอกี ชื่อหน่ึงว่า การตอ่ ตา้ นการปฏิรปู ศาสนา (Counter Reformation) เป็นการตอ่ ตา้ นการปฏริ ูปศาสนาของฝา่ ยโปรเตสแตนตข์ องสนั ตะปาปา คณะบาทหลวงเยซอู ิต กษตั ริย์ผคู้ รองแผ่นดินและเจา้ ผู้ครองรัฐท่ีเคร่งครดั ในศาสนา เริม่ ตั้งแต่ ค.ศ. 1545 และส้นิ สดุ ลงใน ค.ศ. 1563 ดังมเี หตกุ ารณ์สำคัญดงั น้ี 1. การจัดต้ังสมาคมเยซอู ติ (Jesuits) ใน ค.ศ. 1534 ผูก้ อ่ ตงั้ คือ นักบุญอคิ เนเทียส โลโญลา (St.Ignatius Loyola) ชาวสเปน สมาคมเยซอู ิตมใิ ช่เปน็ เพยี งสมาคมของพระเท่านั้น แตเ่ ปน็ กองทพั ที่มรี ะเบียบ วินยั เคร่งครัด หัวหน้าของสมาคมจะดำรงตำแหน่งเป็นนายพลทีท่ ำหน้าทบี่ ังคับบัญชาบาทหลวง เจ้าคณะ มณฑล จังหวดั และตำบลตามลำดับ ขึน้ ตรงต่อสนั ตะปาปา ส่วนสมาชกิ สมาคมต้องปฏญิ าณตนว่าจะยดึ มน่ั ตอ่ สัญญา 4 ประการ ไดแ้ ก่ รกั ษาความบริสุทธิ์ ความยากจน ความนอบน้อมตอ่ สันตะปาปา และเชือ่ ฟังนายพล ของสมาคม คณะบาทหลวงจะจัดตงั้ วิทยาลัยในสเปน อติ าลี โปรตุเกส เยอรมนีตอนใต้ ฝรัง่ เศส เพ่ือสอน ความรสู้ าขาต่างๆ เช่น มานุษยวทิ ยา ภาษากรกี ละตินโบราณ โดยไม่ตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ย นอกจากน้ี สมาคม เยซอู ติ ยงั สง่ บาทหลวงออกไปเผยแผศ่ าสนายงั ดินแดนตา่ งๆ ด้วย จากการปรบั ปรุงขอ้ บกพรอ่ งตา่ งๆ ส่งผลให้ ดนิ แดนหลายแหง่ ทน่ี ับถือนกิ ายโปรเตสแตนตห์ ันกลับมานับถอื นกิ ายคาทอลิกดังเดิม อย่างไรกต็ าม เนือ่ งจากสมาคมนไี้ ม่มเี ครอ่ื งแบบและไม่ใชว้ ธิ กี ารปกครองแบบสมาคมศาสนาท่วั ไป จงึ ไมไ่ ด้รบั การยอมรบั จากกล่มุ ศาสนาทีเ่ กิดขน้ึ ก่อน แต่สมาคมก็ได้รวบรวมชาวคาทอลกิ ให้เปน็ ปกึ แผ่น ซึ่งตรงกนั ข้ามกบั ฝ่ายโปรเตสแตนตท์ แี่ ตกสาขาออกไปเรื่อยๆ 2. การจดั ตั้งศาลศาสนา (The Inquisition) เพอื่ พจิ ารณาลงโทษผู้ท่ีกระทำการนอกรีตโดยใชว้ ิธกี าร เผาท้ังเปน็ จดุ ประสงค์สำคญั นอกจากจะสรา้ งความหว่นั เกรงให้แก่พวกคาทอลิกแล้ว ยงั ปอ้ งกนั มิให้ความคิด นอกรีตเผยแผเ่ ข้าไปในหมู่คาทอลิก วธิ ีการนี้ใชม้ ากในสเปนและอิตาลี 3. การประชุมทางศาสนาท่ีเมืองเทรนต์ (Council of Trent) ทางเหนอื ของอิตาลี ระหวา่ ง ค.ศ. 1545-1563 ผู้จดั ใหม้ กี ารประชมุ คือ สันตะปาปาปอลท่ี 3 โดยมจี ุดประสงค์เพื่อ กำหนดข้อปฏิบัติในนิกายคาทอลกิ และปรับปรุงการบรหิ ารงานใหม้ ีประสิทธิภาพมากขน้ึ รวมทงั้ กำหนดข้อปฏบิ ัติใหผ้ นู้ ับถือคาทอลกิ ปฏบิ ตั ิ โดยท่ีประชมุ ได้ขอ้ ตกลงรว่ มกันว่า สันตะปาปา คือ 129

ประมขุ ของศาสนา บาทหลวงจะเป็นผู้ประกาศคำสอนทางศาสนา มกี ารยอมรับการแปลคัมภีรเ์ ป็น ภาษาละตนิ เทา่ น้นั และมสี ิ่งทต่ี อ้ งปรับปรงุ แกไ้ ข คอื ห้ามขายใบบุญไถ่บาปและการขายตำแหนง่ ทาง ศาสนา มีการกำหนดระเบยี บวนิ ัยและยกมาตรฐานการศกึ ษาของพระและบางครั้งควรใชภ้ าษาท้องถิ่น ในการเทศนเ์ พ่ือให้ประชาชนเข้าใจงา่ ยมากข้ึน นอกจากนี้ยงั มีการทำบัญชรี ายช่อื ตอ้ งห้าม (Index of Black List) ท่ผี ู้เครง่ ศาสนาไม่ควรอ่าน ตอ่ มาภายหลังได้มกี ารประชุมห้ามการขายและซ้ือ หนงั สือเรือ่ งศาสนาทีไ่ มป่ รากฏนามผูแ้ ต่ง ห้ามอ่านหนงั สอื ของอรี สั มสุ (Erasmus) หนังสือท่ไี ด้รับ การอนญุ าตใหจ้ ดั พิมพ์ไดบ้ นปกจะตอ้ งปรากฏคำว่า “ไมข่ ดั ขอ้ งถ้าจะพิมพห์ นงั สือน้ี” หรือ “อนุญาตให้ จัดพมิ พ์ได้” ภายหลงั ศาสนจักรคาทอลกิ มกี ารเปลย่ี นแปลงไปในทางทดี่ ขี ้ึนแล้วก็ได้สรา้ งความเล่ือมใสศรัทธา มากขึน้ ช่วยปอ้ งกนั การเกิดนิกายโปรเตสแตนตใ์ นบางประเทศ เช่น สเปน อติ าลี โปรตุเกสเพมิ่ ข้นึ สง่ ผล ใหน้ กิ ายคาทอลิกยงั คงดำรงอยู่ต่อมาและมีผู้นับถือมากกว่านกิ ายอ่ืน 130

ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ระบอบฟวิ ดัล คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นดภู าพจำลองภายในแมเนอร์ในระบอบฟิวดลั แลว้ ตอบคำถามท่ีกำหนดให้ถกู ต้อง  ภาพจาลองภายในแมเนอร์ ในระบอบฟิ วดลั     131

1. ใหน้ ักเรยี นระบุตำแหนง่ ตามหมายเลขตอ่ ไปนี้ หมายเลข 1 คอื หมายเลข 2 คือ หมายเลข 3 คือ หมายเลข 4 คอื หมายเลข 5 คือ 2. ภายในแมเนอร์ หมายเลข 1 และ 2 มีความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร 3. หมายเลข 4 มีความสำคัญตอ่ สงั คมฟวิ ดัลอย่างไร 132

4. ในปจั จุบันอิทธิพลของระบอบฟิวดัลยงั คงเหลือให้เห็นอยหู่ รือไม่ อย่างไร ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ระบอบฟิวดัล คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนดภู าพจำลองภายในแมเนอร์ในระบอบฟวิ ดัล แล้วตอบคำถามทีก่ ำหนดให้ถกู ต้อง ภาพจำลองภายในแมเนอร์ ในระบอบฟวิ ดลั 133

     1. ให้นกั เรียนระบุตำแหน่งตามหมายเลขต่อไปน้ี หมายเลข 1 คือ ปราสาทของขนุ นางเจา้ ของทีด่ ิน หมายเลข 2 คือ หมบู่ า้ นของชาวนาและทาสติดทดี่ ิน หมายเลข 3 คือ ทุ่งนา หมายเลข 4 คือ โบสถ์ หมายเลข 5 คอื ทุ่งหญ้าเลีย้ งสตั ว์ 2. ภายในแมเนอร์ หมายเลข 1 และ 2 มคี วามสมั พันธ์กนั อย่างไร ในระบอบฟวิ ดัล ขุนนางเจา้ ของแมเนอรแ์ ละชาวนาและทาสตดิ ท่ีดินจะมีภาระผูกพนั กันและ กัน กลา่ วคือ ขนุ นางจะให้ความคุม้ ครองและให้ท่ีอยู่อาศัยแก่ชาวนาและทาสตดิ ท่ีดินในแมเนอรข์ อง ตน สว่ นชาวนาและทาสติดทดี่ นิ จะตอบแทนขุนนางโดยเป็นผทู้ ำไร่ ไถนาบนท่ดี นิ ของขนุ นาง และ ทำงานบริการอน่ื ๆ เชน่ สร้างถนน บ่อนำ้ สะพาน โรงสี เป็นต้น 3. หมายเลข 4 มีความสำคญั ต่อสังคมฟิวดัลอย่างไร โบสถ์เป็นศนู ย์กลางของชมุ ชน มอี ยู่ทกุ แมเนอร์ โดยจะมีบาทหลวงทำหนา้ ท่ีสง่ั สอนอบรม จติ ใจผคู้ นทีอ่ าศัยอยู่ในแมเนอร์ รวมทัง้ ใชเ้ ป็นสถานที่ในการประกอบพธิ กี รรมทางศาสนา และสวดมนต์ภาวนา 134

4. ในปัจจุบนั อิทธิพลของระบอบฟิวดัลยังคงเหลือให้เหน็ อยหู่ รอื ไม่ อยา่ งไร ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยูใ่ นปจั จุบนั โดยจะเป็นอทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรม ดังจะเหน็ ได้จาก ตำแหนง่ ของขุนนางตา่ งๆ เช่น ดุก๊ บารอน เอิรล์ เซอร์ เป็นตน้ รวมทง้ั ข้อปฏบิ ัติของอัศวนิ ท่ีตอ้ งให้เกยี รติและปกป้องคุม้ ครองสตรี 135

ใบงานที่ 1.2 เร่ือง สงครามครูเสด คำชี้แจง ให้นักเรียนวเิ คราะหป์ ระเดน็ คำถามเกี่ยวกับสงครามครเู สดใหถ้ กู ต้องและได้ใจความ สงครามครเู สด สาเหตุ ผลท่เี กดิ ข้นึ จากความขัดแยง้ ทางศาสนาที่เกิดข้นึ ในปัจจุบนั ให้นักเรยี นเสนอแนะวธิ ีการป้องกนั มิใหเ้ กิดความ ขดั แยง้ รุนแรงมากข้นึ 136

ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง สงครามครูเสด คำชแี้ จง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์ประเด็นคำถามเกย่ี วกับสงครามครเู สดใหถ้ กู ต้องและไดใ้ จความ สงครามครเู สด สาเหตุ ผลท่ีเกดิ ข้นึ 1. ความขัดแย้งเร่ืองดนิ แดนปาเลสไตน์ 1.สถาบันกษตั ริยเ์ ขม้ แข็งมากขึน้ อำนาจ 2. อทิ ธิพลของศาสนจักร ของขนุ นางลดลง 3. ผลประโยชน์ทางการค้า 2. การคา้ ขยายตวั เกดิ เมอื งการค้าสำคัญ 4. ความขดั แย้งเรือ่ งความเชื่อทางศาสนา 3. ระบอบฟิวดลั ถูกทำลาย 5. ความต้องการแสวงโชค 4. มกี ารแพร่หลายของวทิ ยาการต่างๆ ทั้งของมุสลมิ และกรกี -โรมัน จากความขัดแยง้ ทางศาสนาท่ีเกดิ ขึน้ ในปัจจุบนั ใหน้ ักเรยี นเสนอแนะวธิ กี ารป้องกันมใิ ห้เกิดความ ขดั แยง้ รนุ แรงมากขึ้น 137 วิธีการปอ้ งกันมใิ ห้เกดิ ความขดั แย้งรุนแรงมหี ลายวิธี เชน่ ทกุ ฝา่ ยร่วมกนั แสวงหาสันติวธิ ี โดยการประชุมอภปิ รายร่วมกันเพือ่ หาทางออก และควรปลกู ฝงั เยาวชนในประเทศใหเ้ กิดความรู้

138

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 6 ชั่วโมง ประวัตศิ าสตรส์ ากล หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เหตุการณ์สำคญั ทางประวัตศิ าสตรท์ ่ีมีผลต่อโลกปจั จุบัน เรื่อง เหตุการณส์ ำคญั ในสมยั ใหม่-ปจั จบุ ัน  สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกมีความสำคัญต่อพัฒนาการและวิวัฒนาการของมนุษยชาติ มาตัง้ แต่อดีตจนถงึ ปัจจุบัน ดงั น้ันจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เพื่อจะได้เข้าใจในการเปล่ียนแปลงของสังคมโลกท่ี เกิดขึ้นอยา่ งตอ่ เน่ือง  ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2.1ตวั ช้วี ดั ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตกุ ารณ์สำคัญต่างๆ ทีส่ ง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมืองเข้าสู่โลกสมยั ปัจจบุ นั ม.4-6/3 วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในทวีปยโุ รป ไปยังทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย 2.2จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์เหตุการณ์เก่ียวกับการสำรวจทางทะเล การปฏิรูปศาสนา การปฏิวัติทาง วิทยาศาสตร์ และการปฏิวัติอตุ สาหกรรมได้ 2. อธบิ ายลกั ษณะของลทั ธิเสรีนยิ ม ลัทธจิ กั รวรรดนิ ยิ ม และลัทธชิ าตนิ ยิ มได้ 3. วิเคราะห์อทิ ธิพลของลัทธิเสรีนยิ ม ลัทธจิ ักรวรรดนิ ยิ ม และลทั ธิชาตินยิ มทีม่ ีตอ่ โลกได้  สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เหตกุ ารณส์ ำคญั ต่างๆ ที่สง่ ผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของโลกในปจั จุบนั เช่น - การสำรวจทางทะเล - การปฏริ ปู ศาสนา - การปฏิวตั ทิ างวทิ ยาศาสตร์ - การปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม 135

- แนวคิดเสรนี ยิ ม แนวคิดจักรวรรดนิ ิยม แนวคดิ ชาตินยิ ม 2. การขยาย การล่าอาณานิคม และผลกระทบ 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่ -  สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 4.2 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการทำงานกลุ่ม - กระบวนการปฏิบตั ิ  คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน  กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วิธสี อนแบบบรรยาย วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนกลุ่ม) ชว่ั โมงที่ 1-2 4 1. ครนู ำภาพเจา้ ชายเฮนรี ราชนาวกิ คริสโตเฟอร์ โคลัมบสั เฟอรด์ นิ านด์ แมกเจลแลน มาใหน้ ักเรยี นดู แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตอบในประเดน็ คำถามต่อไปนี้ - เป็นภาพของบคุ คลใด - เป็นชนชาติใด - บุคคลดงั กลา่ วอยู่ในชว่ งสมัยใด - มีบทบาทสำคญั ทางประวัติศาสตรอ์ ยา่ งไร 2. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ ว่าบุคคลเหลา่ น้มี คี วามสำคญั ตอ่ ประวัตศิ าสตรต์ ะวนั ตกในหลายด้านซ่ึงทำให้ 136

ยโุ รปมกี ารเปลี่ยนแปลงไปจากสมยั กลางทอ่ี ยใู่ ต้อทิ ธิพลของคริสตจกั ร ทำให้ยุโรปเจรญิ กา้ วหน้า จนกลายเปน็ ประเทศมหาอำนาจของโลก 3. นกั เรียนแบง่ เปน็ 4 กลุ่ม สมาชกิ แต่ละกลมุ่ เลือกประธาน รองประธาน เลขานกุ าร 4. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาจับสลากหวั ขอ้ ดงั น้ี - กลมุ่ ท่ี 1 การสำรวจทางทะเล - กลุ่มที่ 2 การปฏิรูปศาสนา - กลมุ่ ที่ 3 การปฏิวัตทิ างวทิ ยาศาสตร์ - กลุ่มที่ 4 การปฏิวัติอุตสาหกรรม 5. ครูชแี้ จงให้ทุกกลุ่มทราบวา่ เมื่อแตล่ ะกลุ่มได้รับหัวข้อไปแลว้ ใหไ้ ปศกึ ษาค้นคว้าขอ้ มูลจาก หนงั สอื เรยี นและแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ และเตรยี มนำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น ช่วั โมงท่ี 3-4 1. ครูซกั ถามนักเรียนแต่ละกลุ่มเก่ยี วกบั ความพร้อมในการนำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น 2. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เตรยี มความพร้อม 5 นาที จากนั้นเรม่ิ จากกลมุ่ ที่ 1-4 ตามลำดบั ระหวา่ งทก่ี ลุ่มท่ี 1 นำเสนอเสร็จ ใหเ้ ปดิ โอกาสใหเ้ พอ่ื นกลมุ่ อ่นื ซกั ถามขอ้ สงสัยและเสนอแนะ เพิม่ เตมิ ทำเชน่ นจี้ นครบทงั้ 4 กลุ่ม 3. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับการสำรวจทางทะเล การปฏิรปู ศาสนา การปฏวิ ัติ ทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม เพือ่ เปน็ การทบทวนความรทู้ ้งั หมด ชัว่ โมงที่ 5-6 1. ครนู ำวีดิทัศนเ์ กี่ยวกบั การปฏิวัติฝร่ังเศส ค.ศ. 1789 มาใหน้ ักเรยี นชม ภายหลงั การชมวีดิทศั น์แลว้ ครตู ั้งคำถามให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบว่า - เปน็ เหตกุ ารณ์เก่ยี วกบั อะไร - เกิดขึ้นทใ่ี ด - มีสาเหตมุ าจากอะไรและส่งผลอย่างไร 2. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ การปฏิวตั ฝิ รงั่ เศส ค.ศ. 1789 เพื่อล้มลา้ งการปกครองระบอบ สมบูรณาญาสิทธริ าชย์ มีส่วนก่อให้เกดิ แนวคดิ เสรนี ยิ มและต่อมาถงึ ไดแ้ ผ่ขยายไปยังดินแดนอื่นๆ ทว่ั ยุโรป โดยเสรนี ยิ มเปน็ หลักการพืน้ ฐานในการดำเนนิ การปกครองแบบประชาธิปไตย ทง้ั ยงั สรา้ งความรูส้ กึ ให้ประชาชนรกั และภาคภูมใิ จในชาตขิ องตน จนเกดิ ความร่วมมือรว่ มใจกนั สรา้ ง 137

ชาติขนึ้ และชาติยโุ รปได้ใชค้ วามเหนือกว่าของเผ่าพันธุ์ในการเข้าไปรกุ รานดินแดนอ่ืนทด่ี ้อยกว่า 3. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับลัทธิเสรีนิยม ลัทธิจักรวรรดินิยม ลัทธิชาตินิยม และลัทธิสังคมนิยม จากหนงั สอื เรียน 4. ใหน้ กั เรยี นภายในหอ้ งจบั คู่กนั อาจจะเป็นชายกบั ชาย หญิงกับหญงิ หรือชายกับหญงิ และแจก ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง ลัทธิเสรนี ิยม จกั รวรรดนิ ยิ ม ชาตินยิ ม และสงั คมนิยม ใหแ้ ตล่ ะคู่รว่ มกัน ระดมความคิด เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของลัทธิทงั้ 4 และอิทธิพลท่มี ตี อ่ โลกลงใน ใบงาน 5. ครูสุม่ เรียกตัวแทนนักเรยี นออกมานำเสนอผลงาน 4-5 คู่ โดยครูคอยชแี้ นะและเปดิ โอกาสให้ นกั เรยี นซักถามขอ้ สงสยั 6. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ สาระสำคัญเก่ยี วกับลัทธิเสรีนยิ ม จกั รวรรดินิยม ชาตินยิ ม และ สงั คมนยิ ม  การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วิธกี าร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ นกั เรยี นทำใบงานที่ 2.1 สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม  สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน ประวัตศิ าสตรส์ ากล ม.4-ม.6 2. วดี ทิ ศั น์เกี่ยวกบั การปฏวิ ตั ิฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 3. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ลัทธิเสรีนิยม จักรวรรดินยิ ม ชาตนิ ยิ ม และสงั คมนยิ ม 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1. ห้องสมุด หรอื ห้องสมดุ ประชาชน 2. สำนักหอสมุดแห่งชาติ 3. ห้องเทคโนโลยีสารสนเทศ 138

บันทึกผลหลังการสอน ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ญั หา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ….………………………………ผูส้ อน ( นางสุชาดา ประมุข ) 139

ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสตรีปากพนงั  เหน็ ควรใหใ้ ช้แผนการจัดการเรยี นรู้  เห็นควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชือ่ ................................................. ( นายจริ พล ลิวา ) หวั หนา้ กลุ่มสาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม  เหน็ ควรให้ใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้  เหน็ ควรปรบั ปรงุ แก้ไข ........................................................................................................................................ ลงชอื่ .............................................. ( นางกัญญารัตน์ สาระพนั ธ์ ) หัวหน้ากล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ  เห็นควรให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้  เหน็ ควรปรับปรงุ แกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชอ่ื ................................................. ( นางจริ าพร รัตนกลุ ) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนัง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ลำดับ ชือ่ – ความร่วมมอื การแสดง การรบั ฟัง การตั้งใจ การรว่ ม รวม ท่ี สกลุ ความคดิ เหน็ ความคดิ เห็น ทำงาน ปรับปรุง 20 ผลงานกล่มุ คะแนน 43214321432143214321 140

เกณฑ์การใหค้ ะแนน = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ = ปรับปรุงให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรงุ ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง ลทั ธเิ สรีนยิ ม จกั รวรรดนิ ยิ ม ชาตนิ ิยม และสังคมนยิ ม 141

คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนวิเคราะหใ์ นประเด็นท่กี ำหนดใหถ้ กู ต้อง อิทธพิ ลทีม่ ตี ่อโลก แนวคิด ลกั ษณะสำคัญของแนวคิด ลัทธิเสรี นยิ ม ลทั ธิ จกั รวรรดิ นิยม แนวคดิ ลกั ษณะสำคญั ของแนวคิด อิทธิพลท่ีมตี อ่ โลก 142

ลทั ธิ ชาตินิยม ลทั ธิ สังคมนยิ ม 143

ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง ลัทธเิ สรีนยิ ม จักรวรรดินยิ ม ชาตินยิ ม และสงั คมนยิ ม คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์ในประเด็นท่ีกำหนดให้ถกู ตอ้ ง แนวคดิ ลักษณะสำคญั ของแนวคดิ อิทธิพลทม่ี ตี ่อโลก ลทั ธเิ สรี เป็นแนวคิดท่ีให้ปัจเจกบุคคลมีเสรภี าพ ก่อให้เกดิ การเรียกร้องการปกครองระบอบ นิยม ทัง้ ทางดา้ นการเมอื งการปกครอง และ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภาทใ่ี หป้ ระชาชนมีสว่ น ร่วม เศรษฐกิจภายใต้กฎหมาย ซึ่งเกดิ ขนึ้ ในการปกครองประเทศ โดยมีรฐั ธรรมนูญ เป็น ในช่วงคริสตศ์ ตวรรษที่ 18 กฎหมายสงู สดุ เชน่ ในฝรั่งเศสได้มกี ารปฏริ ปู กฎหมายการเลือกต้ังใน ค.ศ. 1824 และ 1830 หรอื องั กฤษใช้ พ.ร.บ. ปฏิรปู ระบบการเลอื กตงั้ สมาชกิ รัฐสภาครงั้ ใหญ่ ค.ศ. 1832 นอกจากนใี้ นทาง เศรษฐกจิ ระบบการค้าเสรีได้ทำให้ชนชั้นกลางมี บทบาทมากข้นึ ทางการเมือง การค้าเติบโตมากขึน้ ลทั ธิ เป็นนโยบายการขยายอำนาจเข้าควบคุม ทำให้ชาตมิ หาอำนาจยโุ รปตา่ งๆ เข้าไปยึดครอง จกั รวรรดิ ดนิ แดนอื่นทอ่ี อ่ นแอกว่า ท้งั การเข้า ดนิ แดนโพ้นทะเลเป็นอาณานิคม โดยอ้างว่าเป็นภาระ ครอบครองดนิ แดน การเข้าควบคุม ของคนผวิ ขาวในการนำอารยธรรมท่ีสูงกว่า นยิ ม ทางดา้ นเศรษฐกิจและการเมอื ง ซง่ึ ไปเผยแพร่ ทำให้ชาวพื้นเมอื งไดร้ ับอิทธิพลทาง เกิดข้นึ ในกลางครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 19 วัฒนธรรมตะวันตก เช่น การนับถือคริสต์ศาสนา ภาษาตะวนั ตก การศกึ ษาแบบตะวนั ตก การให้ ชาวพืน้ เมืองปลกู พชื เศรษฐกจิ เพอ่ื แสวงหากำไร จน นำไปสู่ความขดั แยง้ ระหวา่ งประเทศ การศกึ ษาแบบ ตะวนั ตก ทำให้เกิดขบวนการชาตินยิ มขึน้ ในเวลาตอ่ มา 144

แนวคิด ลกั ษณะสำคัญของแนวคิด อทิ ธิพลทีม่ ีตอ่ โลก ลัทธิ เป็นความรู้สึกรักชาติ รักประเทศ ไดก้ ระต้นุ ให้ดินแดนต่างๆ เกดิ การรวมตัวเป็นชาติขน้ึ ชาตนิ ิยม รู้สึกภาคภูมิใจทเี่ กิดมาเป็นพลเมือง เชน่ การรวมชาตเิ ยอรมนี การรวมชาตอิ ิตาลี ทง้ั ของชาติหรือประเทศนัน้ ๆ จึงทา ยังทำให้ชนกลมุ่ น้อยต่างๆ พากันเคลอ่ื นไหวแยกตวั ให้เกิดความรู้สึกผูกพนั หวงแหน จากการปกครองของคนต่างเชอื้ ชาติ เช่น การกอ่ และร่วมกนั ปกป้องรักษาความ การปฏิวัติของชาวฮงั การตี อ่ จกั รวรรดิออสเตรยี ค.ศ. เป็นชาติ ซ่ึงเกิดขึน้ ในช่วง 1848 ตลอดจนนำไปสู่การทำลายล้างเผ่าพนั ธอุ์ ่นื คริสต์ศตวรรษที่ 19 เพอื่ แสดงความยิง่ ใหญ่ของชาติตน ดังเช่นการฆา่ ลา้ ง เผา่ พนั ธ์ุชาวยวิ ของนาซเี ยอรมันในช่วงสงครามโลก คร้งั ที่ 2 เป็นตน้ ลัทธิ เป็นแนวคิดที่เน้นความเสมอภาคท้ัง ขบวนการสงั คมนยิ มและขบวนการแรงงานท่ี สงั คมนิยม ทางสังคมและเศรษฐกจิ เป็นสังคมท่ี ยอมรบั ในแนวคดิ มีบทบาทสำคัญในการเคลอ่ื นไหวทาง บคุ คลแตล่ ะคนทำงานให้แกส่ งั คม การเมืองและพยายามผลกั ดนั การก่อการปฏิวตั ติ าม ส่วนรวมอยา่ งเตม็ กำลงั ความสามารถ แบบรัสเซยี รัสเซียสามารถสร้างระบอบสงั คมนยิ ม และสงั คมกใ็ ห้การตอบแทนแตล่ ะคน ขึน้ ไดส้ ำเรจ็ และเปน็ ประเทศมหาอำนาจภายหลงั ตามทแ่ี ต่ละบคุ คลต้องการ สงครามโลกครง้ั ที่ 2 ท้งั ยงั สรา้ งแนวความคิด ศลิ ปวัฒนธรรมคอมมิวนสิ ต์ขึน้ ทีเ่ รียกวา่ แนวความคิดสจั สังคมนยิ ม 145

146

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 4 ชวั่ โมง ประวัตศิ าสตรส์ ากล หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เหตุการณส์ ำคัญทางประวตั ศิ าสตร์ทมี่ ีผลต่อโลกปัจจบุ นั เรอื่ ง ความร่วมมือและความขดั แย้งของมนุษยชาตใิ นคริสตศ์ ตวรรษที่ 20 - ปจั จุบนั  สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด การเกิดความขัดแย้งและความรุนแรงหลายเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ทำใหท้ ่ัวโลกหันมาใหค้ วามสำคัญและรว่ มมอื กันแก้ไขปญั หาทีเ่ กดิ ข้นึ  ตัวช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตัวช้ีวดั ส 4.2 ม.4-6/2 วเิ คราะห์เหตกุ ารณ์สำคญั ต่างๆ ทีส่ ่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมืองเข้าสู่โลกสมยั ปัจจุบัน ม.4-6/3 วิเคราะหผ์ ลกระทบของการขยายอิทธพิ ลของประเทศในยุโรปไปยงั ทวปี อเมรกิ า แอฟริกา และเอเชยี 2.2จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความรว่ มมือและความขดั แย้งของมนุษยชาตโิ ดยสังเขปได้ 2. วเิ คราะห์ความรว่ มมือและความขัดแย้งทส่ี ง่ ผลตอ่ มนษุ ยชาตใิ นโลกได้  สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ความร่วมมือและความขัดแย้งของมนุษยชาติในโลกคริสตศ์ ตวรรษท่ี 20 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น - 144

 สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ - ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต - กระบวนการทำงานกลุ่ม - กระบวนการปฏิบตั ิ  คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน  กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกล่มุ , กระบวนการคิดวิเคราะห์) ชั่วโมงที่ 1-2 1. ครนู ำวดี ิทศั นเ์ กี่ยวกบั สงครามโลกคร้ังท่ี 1 หรอื สงครามโลกครั้งท่ี 2 มาให้นักเรยี นชม แล้วครูตง้ั คำถามเพื่อกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นคดิ วเิ คราะห์ ดงั นี้ - สาเหตุของความขดั แย้งเกิดจากอะไร - เกิดข้นึ ท่ไี หน - สง่ ผลต่อมนษุ ยแ์ ละโลกโดยรวมอย่างไร 2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ถงึ ความขดั แย้งของมนษุ ยชาตินับตงั้ แต่อดีตจนถึงปจั จบุ ันมีอยู่ มากมายหลายเหตุการณ์ โดยมสี าเหตแุ ตกตา่ งกนั ไป แตผ่ ลจากความขดั แย้งกก็ ่อใหเ้ กิดการสูญเสยี ท้งั ชวี ติ และทรัพย์สนิ ของผคู้ นจำนวนมาก 145

3. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม คละกันตามความสามารถ จากนั้นเลือกประธาน รองประธาน เลขานุการ และใหส้ มาชกิ ในกลุ่มแบ่งหนา้ ท่ีความรบั ผดิ ชอบกัน 4. ให้ตวั แทนกลุ่มออกมาจับสลากหมายเลขกลมุ่ เพอ่ื ศกึ ษาในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี - กลมุ่ ท่ี 1 ศกึ ษาเรอ่ื ง สงครามโลกครงั้ ที่ 1 - กลุม่ ที่ 2 ศกึ ษาเรื่อง สงครามโลกครัง้ ที่ 2 - กลมุ่ ท่ี 3 ศึกษาเรื่อง สงครามเย็น - กล่มุ ท่ี 4 ศกึ ษาเรือ่ ง สงครามอริ กั 5. ครูให้นกั เรยี นไปศึกษาคน้ คว้าข้อมลู จากหนังสอื เรยี นและแหล่งการเรยี นรอู้ ื่นๆ เช่น หอ้ งสมุด อนิ เทอรเ์ นต็ และใหน้ ักเรยี นนำเสนอผลงานในชว่ั โมงต่อไป โดยเปิดโอกาสให้สมาชกิ ในกลมุ่ ระดมสมองในการวางแผนการทำงาน ชว่ั โมงท่ี 3 1. ครสู นทนากบั นกั เรียนถึงความพร้อมในการคน้ หาขอ้ มูลตามท่คี รูมอบหมาย โดยซกั ถามถึงวิธีการหา ขอ้ มลู และการแบ่งหนา้ ท่ีกนั รับผิดชอบภายในกลุ่ม 2. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยกลุ่มอื่นแสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เตมิ 3. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั ประเมินการนำเสนอผลงานของกลุ่มตา่ งๆ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ นำ ผลงานไปจดั ปา้ ยนิเทศหน้าชนั้ เรียน 4. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปสาระสำคัญท่ีไดศ้ กึ ษามา และให้นกั เรียนกลมุ่ เดิมทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความขดั แยง้ ระหว่างประเทศ เมอื่ ทำเสรจ็ แล้วใหต้ รวจสอบความถกู ต้องรว่ มกนั ชว่ั โมงที่ 4 1. ครนู ำบัตรคำเก่ียวกับอักษรยอ่ ขององคก์ ารตา่ งๆ เชน่ UN EU NATO OPEC APEC WTO UNESCO ASEAN เปน็ ตน้ มาให้นกั เรยี นดู แล้วต้ังคำถามถามนักเรยี น ดังน้ี - อกั ษรยอ่ นย้ี ่อมาจากองคก์ ารอะไร - องค์การแต่ละแหง่ เปน็ ความร่วมมอื ในระดับใด - องค์การเหล่าน้จี ดั ต้ังขนึ้ เพอื่ วตั ถุประสงค์อะไร 2. เม่อื นกั เรียนตอบเรียบรอ้ ยแล้ว ครูอธิบายสรุปให้นักเรยี นเข้าใจวา่ องค์การต่างๆ เหลา่ นเ้ี กดิ จาก 146

ความรว่ มมือกันของประเทศตา่ งๆ ในโลก ทงั้ ที่อยใู่ นภมู ภิ าคเดยี วกนั และตา่ งภมู ภิ าคกนั โดยมี จุดมงุ่ หมายเพือ่ ผลประโยชน์ท่จี ะเกดิ ขึ้นรว่ มกนั ของประเทศสมาชกิ 3. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน จากนั้นให้จบั คูก่ นั เป็น 3 คู่ โดยแตล่ ะคู่รับผดิ ชอบหัวขอ้ ดงั นี้ - คทู่ ่ี 1 ศกึ ษาเร่อื ง องค์การสหประชาชาติ หรอื ยูเอ็น - คู่ที่ 2 ศึกษาเร่อื ง สหภาพยุโรป หรืออยี ู - ค่ทู ี่ 3 ศกึ ษาเรื่อง สมาคมประชาชาตเิ อเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ หรืออาเซียน 4. ครูสนทนากบั นักเรียนในกลมุ่ ถงึ ความพรอ้ มของแตล่ ะคู่ในการสบื ค้นขอ้ มูลเกี่ยวกับความรว่ มมอื ของมนษุ ยชาติที่กำหนดให้ว่าได้ข้อมูลมาจากแหล่งใด มีอปุ สรรคในการทำงานหรือไม่ อย่างไร ตลอดจนวธิ กี ารแบ่งงานกันในการค้นควา้ ข้อมูล 5. ให้นักเรียนแตล่ ะค่ผู ลดั กนั เลา่ เรอ่ื งรอบวงในหวั ขอ้ ท่ตี นไดร้ บั มอบหมายใหเ้ พื่อนฟงั จนทกุ คน เขา้ ใจเนอ้ื หาสาระสำคัญท้งั หมด 6. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มช่วยกันตอบคำถามเก่ยี วกบั ความร่วมมอื ของมนษุ ยชาติลงในใบงานท่ี 3.2 เรื่อง ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ 7. ให้แตล่ ะกลุม่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอใบงานที่ได้ร่วมกนั ทำหน้าช้นั เรยี น ทลี ะกลมุ่ จนครบทุกกลุ่ม โดยครูช่วยเสนอแนะเพม่ิ เติมให้สมบรู ณ์ 8. ใหน้ กั เรยี นทำแผ่นพบั เหตกุ ารณส์ ำคญั ทางประวัติศาสตร์ท่มี ีผลต่อโลกปัจจบุ นั  นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4  การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ นกั เรียนทำใบงานท่ี 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรยี นทำใบงานที่ 3.2 ใบงานที่ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรยี นทำแผน่ พับเหตกุ ารณ์สำคัญ ใบงานท่ี 3.2 ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ทางประวตั ศิ าสตร์ท่มี ีผลต่อโลก แบบประเมนิ แผน่ พบั เหตุการณ์ ปัจจบุ นั สำคญั ทางประวตั ศิ าสตรท์ ีม่ ีผล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ นักเรยี นนำเสนอผลงาน ต่อโลกปจั จุบัน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบประเมินการนำเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น การทำงานกลมุ่ แบบทดสอบหลงั เรียน  สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 147

1. หนงั สอื เรยี น ประวัตศิ าสตรส์ ากล ม.4-ม.6 2. วีดิทัศน์เกีย่ วกบั สงครามโลกครัง้ ท่ี 1-2 3. ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง ความขัดแย้งระหว่างประเทศ 4. ใบงานที่ 3.2 เรอื่ ง ความร่วมมือระหว่างประเทศ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุด หรอื ห้องสมุดประชาชน 2. สำนักหอสมุดแห่งชาติ 3. google classroom บันทึกผลหลงั การสอน ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ญั หา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ….………………………………ผู้สอน ( นางสุชาดา ประมขุ ) ครชู ำนาญการพิเศษ โรงเรยี นสตรปี ากพนงั  เห็นควรให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้  เหน็ ควรปรบั ปรุงแก้ไข ........................................................................................................................................ ลงชื่อ................................................. ( นายจิรพล ลวิ า ) หวั หน้ากลุ่มสาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 148

 เห็นควรใหใ้ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้  เห็นควรปรับปรงุ แก้ไข ........................................................................................................................................ ลงชอ่ื .............................................. ( นางกัญญารัตน์ สาระพนั ธ์ ) หัวหน้ากลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ  เหน็ ควรให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้  เห็นควรปรับปรงุ แกไ้ ข ........................................................................................................................................ ลงชื่อ................................................. ( นางจิราพร รัตนกลุ ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นสตรปี ากพนัง แบบประเมินแผ่นพับเหตกุ ารณ์สำคัญทางประวตั ิศาสตร์ท่ีมีผลต่อโลกปัจจุบนั ลำดับที่ รายการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 1 การวเิ คราะห์เหตกุ ารณ์สำคัญ ทางประวัตศิ าสตร์ที่มีผลต่อโลกปัจจุบนั 2 การวิเคราะหผ์ ลกระทบของการขยายอทิ ธิพล ของประเทศในยุโรป 3 การเรยี บเรียงเน้ือหา 4 รูปแบบ รวม ลงช่ือ ผปู้ ระเมนิ ( ) // 149

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก ชว่ งคะแนน 3 หมายถึง ดี 14-16 2 หมายถึง พอใช้ 11-13 1 หมายถงึ ปรับปรงุ 8-10 5-7 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 432 1 เนือ้ หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา 3 ภาษาท่ใี ชเ้ ข้าใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการนำเสนอ 5 วธิ ีการนำเสนอผลงาน รวม 150

ลงชื่อ ผ้ปู ระเมิน () // เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน การนำเสนอผลงานไม่สอดคล้องกับรายการประเมิน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 17-20 4 หมายถงึ ดมี าก 13-16 3 หมายถงึ ดี 9-12 2 หมายถึง พอใช้ 5-8 1 หมายถึง ปรับปรงุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ลำดบั ชอ่ื – ความรว่ มมอื การแสดง การรบั ฟัง การตั้งใจ การร่วม รวม ท่ี สกลุ 4321 ความคดิ เหน็ ความคิดเหน็ ทำงาน ปรับปรุง 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 4321 4321 151

เกณฑ์การใหค้ ะแนน = ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง = ปรับปรงุ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรุง เอกสารเพ่ิมเติมสำหรบั ครู เร่อื ง บิมสเทค กรอบความร่วมมอื ทางเศรษฐกจิ บิมสเทค (BIMSTEC) ก่อตงั้ ข้ึนตามปฏญิ ญากรงุ เทพฯ เมอ่ื วนั ที่ 6 มถิ ุนายน พ.ศ. 2540 โดยในชนั้ ตน้ สมาชกิ ประกอบด้วย บังกลาเทศ ศรลี ังกา อนิ เดยี และไทย ภายใตช้ ่อื BIST- 152

EC ต่อมาได้รับสหภาพพมา่ เข้าเป็นสมาชิกอย่างเปน็ ทางการในวนั ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2540 พร้อมท้งั เปลย่ี น ชอื่ กรอบความรว่ มมือเป็น BIMST-EC ภายหลงั ต่อมามีสมาชกิ เพิ่มอีก 2 ประเทศ ได้แก่ เนปาล และภฏู าน โดยมีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือสร้างความเจริญทางเศรษฐกจิ และสังคมในภูมภิ าค และเพอื่ สง่ เสริมผลประโยชน์รว่ มกัน ในดา้ นเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและการให้ความช่วยเหลือระหวา่ งประเทศสมาชิก กำหนดให้มีความรว่ มมอื ในสาขาหลัก 6 สาขา ได้แก่ การค้าและการลงทุน เทคโนโลยี การคมนาคมและส่อื สาร พลงั งาน การท่องเที่ยว การประมง โดยแบง่ หนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบของประเทศสมาชิกจำแนกตามสาขาความร่วมมอื ดังนี้ - บงั กลาเทศ เป็นผ้นู ำสาขาการค้าและการลงทุน - ศรีลงั กาเป็นผูน้ ำสาขาเทคโนโลยี - อนิ เดียเปน็ ผูน้ ำสาขาการคมนาคมและสอ่ื สาร และการท่องเทยี่ ว - สหภาพพม่าเปน็ ผ้นู ำสาขาพลงั งาน - ไทยเป็นผู้นำสาขาการประมง บมิ สเทคมแี นวทางความร่วมมือทางเศรษฐกจิ จัดต้ังเขตการค้าเสรีในอนาคตหลายประการ หากความ ตกลงเป็นไปตามทีก่ ำหนด บมิ สเทคจะเปน็ ตลาดขนาดใหญ่สำหรับขยายการค้าและการลงทุน ซง่ึ จะช่วย บรรเทาปญั หาภาวะการแข่งขันทางการคา้ ของประเทศไทยและประเทศในกล่มุ บิมสเทคยงั เปน็ แหล่งวตั ถุดิบใน การผลติ สินคา้ สง่ ออกที่สำคญั ของไทย บิมสเทคมขี อ้ ตกลงทช่ี ว่ ยลด/เลิกอปุ สรรคทางการค้าทัง้ ดา้ นภาษีและมิใช่ภาษีระหวา่ งประเทศสมาชิก จะทำให้สมาชกิ มีการปรบั มาตรฐานกฎเกณฑ์ของประเทศสมาชิกให้สอดคล้องกันเปน็ มาตรฐานเดยี วกนั เพ่ือ เป็นการอำนวยความสะดวกทางการคา้ เช่น มกี ารปรับกฎเกณฑ์มาตรฐานด้านคุณภาพ พธิ ีการศุลกากร เป็น ตน้ ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง โดยท่ปี ระเทศในกล่มุ บมิ สเทคมพี ื้นที่ทเี่ ชื่อมตอ่ กัน จงึ มคี วามร่วมมือดา้ นคมนาคม ในการสร้างถนนเช่ือมโยงกัน คอื ไทย-พมา่ -อนิ เดยี และไทย-พมา่ -บงั กลาเทศ และความร่วมมือในการ พฒั นาการเดินเรือเลียบชายฝั่งระหวา่ งสมาชิกในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดยี หากการดำเนนิ การ ดงั กลา่ วสำเร็จจะสามารถสง่ เสรมิ การคา้ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี การมคี วามร่วมมอื ทางดา้ นเศรษฐกิจการคา้ ท่ีดแี ละสำคัญของสมาชกิ บิมสเทค จะเป็นการสรา้ งความ นา่ เช่อื ถือให้กบั บิมสเทค และจะทำใหป้ ระเทศต่างๆ สนใจในภูมิภาคนมี้ ากข้ึน อนั จะนำไปสกู่ ารขยายตัวทาง การค้าและการลงทนุ ของประเทศสมาชิก ท่มี า : กรมเจรจาการค้าระหวา่ งประเทศ www.dtn.moc.go.th ใบงานท่ี 3.1 153

เรื่อง ความขัดแยง้ ระหวา่ งประเทศ ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรยี นวิเคราะห์เก่ยี วกับความขดั แย้งของมนุษยชาตติ ามหัวข้อท่ีกำหนดให้ถูกตอ้ ง ความขดั แยง้ ในสมัยโบราณ-สมยั กลาง ตัวอยา่ งความขัดแยง้ ผลทมี่ ีต่อโลก ความขดั แย้งในสมัยใหม่ ผลท่มี ีตอ่ โลก ตัวอยา่ งความขัดแย้ง ความขดั แย้งในสมัยปจั จุบนั ผลทีม่ ีตอ่ โลก ตวั อย่างความขดั แย้ง 154

ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรยี นเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของความขัดแย้งของมนษุ ย์ในอดีตกับ ปัจจุบนั ความเหมอื น ความแตกตา่ ง ตอนท่ี 3 นกั เรยี นคดิ ว่าแนวทางในการสรา้ งสนั ติภาพมิให้เกดิ ความขดั แย้งขนึ้ ในโลกสามารถทำได้อยา่ งไร 155

ใบงานที่ 3.1 เร่อื ง ความขดั แยง้ ระหว่างประเทศ ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรยี นวิเคราะห์เกี่ยวกับความขัดแย้งของมนษุ ยชาติตามหวั ข้อทีก่ ำหนดใหถ้ กู ต้อง ความขดั แยง้ ในสมัยโบราณ-สมัยกลาง ตัวอยา่ งความขัดแยง้ ผลที่มีตอ่ โลก 1. สงครามเพโลพอนนีเชยี น ระหว่างเอเธนส์กบั - ดนิ แดนตา่ งๆ ของกรกี ตอ้ งพินาศและเปิดโอกาส สปารต์ าเพ่ือแยง่ ชิงความเป็นใหญ่ในดินแดนกรกี ให้พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชขยายอำนาจเข้า ครอบครองกรกี 2. สงครามครูเสด ระหว่างชาวครสิ ต์กับชาวมุสลมิ - เกดิ การแลกเปลี่ยนศิลปวิทยาการระหว่างโลก เพ่ือแยง่ ชิงดนิ แดนปาเลสไตน์ ตะวันตกกบั โลกตะวันออก ทำลายระบอบฟิวดลั และกษตั ริย์กลับมามีอำนาจแท้จริง ความขดั แยง้ ในสมยั ใหม่ ตวั อย่างความขดั แย้ง ผลทม่ี ีตอ่ โลก 1. สงครามการปฏวิ ตั ขิ องชาวอเมริกัน ค.ศ. 1776 - ชาวอาณานิคมไดร้ บั เอกราช กลายเปน็ ประเทศใหม่ ระหว่างชาวอาณานิคมกับอังกฤษ ท่ภี ายหลังได้พฒั นาเปน็ ประเทศมหาอำนาจ 2. สงครามโลกครง้ั ท่ี 1 ระหว่างกลมุ่ สนธสิ ญั ญา - ยโุ รปตอ้ งประสบความพนิ าศทางเศรษฐกิจ สงั คม พันธไมตรไี ตรภาคกี ับกลุ่มสนธิสัญญาไตรภาคี การเมือง มีการนำอาวุธอันทันสมยั มาใช้ในการรบ 3. สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ระหวา่ งฝา่ ยพนั ธมติ รกับ - เศรษฐกจิ ตกต่ำ เกดิ ประเทศมหาอำนาจใหม่ คอื ฝา่ ยอักษะ สหรฐั ฯกับสหภาพโซเวียต เกิดประเทศยโุ รปใหมๆ่ 156

ความขัดแย้งในสมยั ปัจจุบัน ตวั อย่างความขดั แยง้ ผลท่ีมีตอ่ โลก 1. สงครามเยน็ ระหว่างกลุ่มประเทศโลกเสรี - สหรัฐฯกลายเป็นประเทศอภมิ หาอำนาจเดียวในโลก ประชาธิปไตยนำโดยสหรัฐฯกับโลกคอมมิวนสิ ต์ นำ สหภาพโซเวยี ตล่มสลาย เกิดสาธารณรัฐใหมๆ่ มีการ โดยสหภาพโซเวยี ต พฒั นาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - มี 2. สงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เพื่อ การสญู เสียชีวติ และทรพั ยส์ นิ ของประเทศท่ีเกี่ยวข้อง แยง่ กนั อ้างสทิ ธเิ หนือดินแดนปาเลสไตน์ และผนู้ ำของทั้ง 2 ฝา่ ย ได้รับรางวลั โนเบลสาขา สนั ติภาพ แตป่ ัญหาน้กี ็ยงั ไมย่ ุติ ตอนท่ี 2 ให้นักเรยี นเปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกตา่ งของความขัดแย้งของมนษุ ย์ในอดตี กบั ปัจจบุ นั ความเหมอื น ความแตกตา่ ง สาเหตุของความขัดแยง้ บางประการ ในอดตี รูปแบบการทำสงครามจะเปน็ การใช้ เหมอื นกัน เชน่ การแย่งชงิ ที่อยอู่ าศัย การแสวงหา ทหารราบเปน็ หลกั ใชอ้ าวุธประเภทดาบ โล่ เทา่ ท่ี ผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ความแตกต่างทาง สร้างได้ในขณะนัน้ แตใ่ นสมัยปัจจบุ ัน ได้มกี ารพัฒนา ศาสนา ความเช่อื ซงึ่ นำไปส่กู ารต่อสปู้ ะทะกนั ดา้ นประสิทธภิ าพของอาวธุ ยุทโธปกรณ์ จึงมี การนำระเบิดนิวเคลยี ร์ท่ีมีพลังทำลายลา้ งสงู มาใช้ จรวด เครอ่ื งบนิ เรอื ดำน้ำ ปืนสมัยใหม่ จงึ ทำให้ สรา้ งความเสียหายไดม้ ากกว่าในอดีต นอกจากนี้ ยัง อย่ใู นรปู แบบของการใชร้ ะเบดิ พลชี ีพทไี่ มไ่ ดโ้ จมตี เป้าหมายหลัก แต่พงุ่ เปา้ ไปทผี่ ู้บริสทุ ธิ์คนอ่ืนๆ ด้วย จงึ ทำใหไ้ ม่ทราบตวั ผ้บู งการทีอ่ ย่เู บือ้ งหลงั 157

ตอนท่ี 3 นักเรียนคิดวา่ แนวทางในการสร้างสันติภาพมิใหเ้ กิดความขดั แย้งขนึ้ ในโลกสามารถทำไดอ้ ยา่ งไร ประเทศหรอื ฝ่ายท่ีมคี วามขดั แย้งกนั ควรหนั มาเจรจาร่วมกนั โดยหาข้อตกลงซ่ึงเป็นทพี่ อใจของทกุ ฝ่าย และ ควรมีประเทศทมี่ อี ำนาจเป็นตัวกลางมาชว่ ยไกลเ่ กลี่ย และมีบทลงโทษสำหรบั ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ ละเมิดข้อตกลง รว่ มกนั นอกจากนีภ้ าครัฐควรสง่ เสริมใหเ้ ยาวชนของประเทศตระหนักถึงผลกระทบจากความขดั แยง้ และส่งเสรมิ ให้ เห็นความสำคัญของการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันติ (พจิ ารณาจากคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน) ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั ความรว่ มมือของมนษุ ยชาตทิ ่ีกำหนดให้ ความรว่ มมือในระดับ  ภมู ภิ าคเดยี วกนั  ตา่ งภมู ภิ าคกัน วัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือ 158

องคก์ ารสหประชาชาติ ความรว่ มมือในระดบั  ภูมภิ าคเดยี วกัน  ต่างภูมภิ าคกนั วตั ถุประสงค์เพื่อ สหภาพยุโรป ความร่วมมอื ในระดบั  ภูมภิ าคเดียวกัน  ตา่ งภมู ภิ าคกัน วัตถุประสงคเ์ พ่อื องคอก์ งาครก์ าอราอเาซเซียียนน นักเรียนคิดวา่ การร่วมมือของมนุษยชาติก่อให้เกดิ ผลดีต่อโลกอย่างไร ใบงานที่ 3.2 เรือ่ ง ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ 159

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์เกยี่ วกับความรว่ มมือของมนษุ ยชาตทิ ่กี ำหนดให้ องค์การสหประชาชาติ ความรว่ มมือในระดับ  ภูมิภาคเดยี วกัน  ตา่ งภูมภิ าคกนั วัตถปุ ระสงค์เพอื่ รกั ษาสนั ตภิ าพและความมน่ั คงของโลก พฒั นา ความสัมพนั ธฉ์ นั มติ รระหว่างประเทศ รว่ มมอื กนั แก้ปญั หาระหวา่ ง ประเทศ สง่ เสริมสทิ ธมิ นษุ ยชน และเป็นศนู ยก์ ลางในการสร้างความ สมานฉนั ทใ์ นการดำเนนิ นโยบายของชาติต่างๆ สหภาพยุโรป ความร่วมมือในระดับ  ภมู ภิ าคเดียวกนั  ต่างภมู ภิ าคกนั วัตถุประสงคเ์ พอ่ื ใหเ้ กิดการจดั ตัง้ เป็นตลาดเดียว ใช้เงินตราสกุลเดียว เสรมิ สร้างบรรยากาศท่ีเอ้ืออำนวยต่อการคา้ การลงทุน และการแข่งขนั ภายในสหภาพยุโรป ให้ประเทศสมาชิกปรบั ประสานนโยบายเศรษฐกิจ ในด้านตา่ งๆ เพ่ือลดความแตกต่างในด้านค่าเงินของแตล่ ะประเทศ องคอก์ งาครก์ าอราอเาซเซียียนน ความร่วมมอื ในระดับ  ภูมภิ าคเดยี วกัน  ตา่ งภูมภิ าคกัน วตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ความรว่ มมือทางเศรษฐกจิ สงั คม วิชาการและ วฒั นธรรม เพ่ือสร้างความมัน่ คง ความเปน็ ปกึ แผ่นของประชาชาติและ ภมู ภิ าค และตอ่ มาได้มีการเพิ่มข้อตกลงความรว่ มมือทางการทหาร นักเรียนคดิ ว่าการร่วมมือของมนษุ ยชาติกอ่ ใหเ้ กิดผลดีต่อโลกอยา่ งไร ความรว่ มมือกอ่ ให้เกิดการประชมุ รว่ มกันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปญั หาต่างๆ ที่เกิดข้นึ นอกจากนย้ี ัง เปน็ การเจรจาเพอ่ื ผลประโยชนร์ ว่ มกนั ทางเศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม ถอื เปน็ การสร้างความสัมพันธ์อัน ดตี อ่ กันและทำให้ประเทศท่ีมีความสัมพนั ธ์ที่ดอี ยู่แล้วมีความม่นั คงถาวรมากขึ้น เมอื่ ต่างฝา่ ยรว่ มมือกนั ดว้ ยดีก็จะสรา้ งความเจริญให้แก่ชาตแิ ละช่วยให้โลกเกดิ สันตภิ าพและความสงบสขุ 160

5 ประวตั ศิ าสตรส์ ากล กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลาเรยี น 6 ช่วั โมง  มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ส 4.2 ม.4-6/4 วิเคราะห์สถานการณ์ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21  สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สถานการณ์ของโลกยุคปจั จุบนั มปี ัญหาท้ังทางดา้ นการเมือง การขาดแคลนทรพั ยากร การก่อการร้าย และการตอ่ ต้านการก่อการร้าย ความขัดแย้งทางศาสนา ส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยูข่ องมนษุ ย์  สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สถานการณส์ ำคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 เชน่ - เหตกุ ารณ์การระเบดิ ตึกWorld Trade Center (เวลิ ด์เทรด เซ็นเตอร์) 11 กนั ยายน 2001 - การขาดแคลนทรัพยากร - การกอ่ การรา้ ยและการต่อตา้ นการก่อการรา้ ย - ความขัดแยง้ ทางศาสนา 3.2 สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ - 160

 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการทำงานกลมุ่ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ  คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน  ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) การจดั ปา้ ยนิเทศแสดงสถานการณ์สำคญั ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21  การวดั และการประเมินผล 7.1การประเมินกอ่ นเรยี น - นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 7.2การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง วเิ คราะห์หาสาเหตุ 2. ใบงานที่ 1.2 เร่ือง ความขดั แย้งทางศาสนา 3. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ภาวะโลกรอ้ นและผลกระทบ 4. ใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง วิกฤตกิ ารณพ์ ลังงานโลก 5. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 6. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 161

7.3การประเมินหลังเรยี น - นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ ปา้ ยนเิ ทศแสดงสถานการณ์สำคญั ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21 การประเมนิ ชนิ้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินปา้ ยนิเทศแสดงสถานการณส์ ำคญั ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21 รายการประเมนิ คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน 1. การวเิ คราะห์ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) สถานการณข์ อง โลกใน วเิ คราะหส์ ถานการณ์ วิเคราะหส์ ถานการณ์ วเิ คราะห์สถานการณ์ วเิ คราะห์สถานการณ์ ครสิ ตศ์ ตวรรษ ของโลกใน ท่ี 21 ของโลกใน ของโลกใน ของโลกใน ครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21 ไดถ้ กู ตอ้ งบางประเดน็ 2. ตวั อยา่ ง คริสตศ์ ตวรรษที่ 21ได้ ครสิ ต์ศตวรรษที่ 21ได้ คริสตศ์ ตวรรษที่ 21 และมคี วามบกพร่อง สถานการณ์ของ มาก โลกใน ถกู ตอ้ ง ชัดเจน และ ถูกตอ้ ง ชดั เจนเปน็ ส่วน ได้ถกู ตอ้ ง แต่มคี วาม ยกตัวอย่างสถานการณ์ คริสต์ศตวรรษ ของโลกใน ท่ี 21 ครบถ้วนทกุ ประเดน็ ใหญ่ และครบทุก บกพร่องบางประเด็น คริสต์ศตวรรษที่ 21 ได้ ถกู ตอ้ ง 2 เรื่อง แตม่ ี 3. ความคิดริเร่มิ ประเดน็ ความบกพร่องเป็น สร้างสรรค์ บางสว่ น ยกตัวอย่างสถานการณ์ ยกตัวอย่างสถานการณ์ ยกตวั อย่าง การนำเสนอข้อมูล 4. รปู แบบการ มขี อ้ คดิ ท่ไี มเ่ ป็น จดั ปา้ ยนิเทศ ของโลกใน ของโลกใน สถานการณข์ องโลก ประโยชน์ 5. การมีส่วนรว่ ม ครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21ได้ ครสิ ต์ศตวรรษ ในคริสต์ศตวรรษที่ รปู แบบไม่สวยงาม ในการจัด ไมม่ คี วามสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และ ที่ 21 ได้ถกู ต้อง 21ได้ถกู ต้อง 3 เรอ่ื ง และเปน็ รูปแบบท่พี บ ไดท้ ่ัวไป ชัดเจน 4 เร่ือง เหมาะสม 3 เรื่อง แต่มีความบกพรอ่ ง สมาชิกมีสว่ นรว่ มใน การจัดกจิ กรรมตาม บางส่วน การนำเสนอข้อมูล การนำเสนอข้อมูล การนำเสนอขอ้ มูล มปี ระโยชน์และแสดงถึง มีประโยชน์และแสดงถึง มีประโยชน์ แต่เปน็ ความคิดสร้างสรรคแ์ ละ ความคิดสร้างสรรค์ การนำมาจากขอ้ มลู สามารถนำไป แตส่ ามารถนำไปปฏบิ ัติ เดมิ ทม่ี อี ยูแ่ ล้ว ประยุกต์ใช้ได้ ไดย้ าก รปู แบบมคี วามสวยงาม รปู แบบมคี วามสวยงาม รปู แบบมคี วาม ดงึ ดูดความสนใจได้ดี ดงึ ดดู ความสนใจ สวยงาม แตไ่ ม่มี มคี วามสรา้ งสรรค์ มคี วามสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ แปลกใหม่ แปลกใหม่ สมาชกิ มสี ่วนร่วมในการ สมาชกิ มีส่วนรว่ มในการ สมาชกิ มีสว่ นร่วมใน จัดกิจกรรมตามหนา้ ทท่ี ี่ จดั กจิ กรรมตามหน้าทท่ี ่ี การจัดกจิ กรรมตาม 162

ปา้ ยนเิ ทศ ได้รบั มอบหมายอย่าง ได้รบั มอบหมายเป็น หนา้ ที่ท่ไี ด้รบั หนา้ ที่ทไี่ ด้รับ มอบหมายเปน็ มอบหมายเป็น เปน็ ข้นั ตอน ส่วนมาก บางส่วน ส่วนน้อย เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ช่วงคะแนน ดี 17-20 พอใช้ 13-16 ปรับปรงุ 9-12 5-8  กจิ กรรมการเรยี นรู้ • นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เหตุการณ์วันที่ 11 กนั ยายน ค.ศ. 2001 และความขัดแยง้ ทางศาสนาและเชื้อชาติ กจิ กรรมที่ 1 วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด เวลา 3 ชว่ั โมง 1. นักเรียนดูคลิปวีดีโอเก่ียวกับเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 แล้วร่วมกันวิเคราะห์ เก่ยี วกับผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ 2. ครตู ัง้ ประเด็นคำถามวา่ เราจะป้องกันมใิ ห้เกดิ โศกนาฏกรรมแบบน้ไี ด้อยา่ งไร 3. ครูใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ และรวบรวมข้อมลู เก่ียวกับเหตุการณว์ นั ท่ี 11 กนั ยายน ค.ศ. 2001 4. ครูให้นักเรียนวิเคราะห์และสรุปความรู้เก่ียวกับเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 และ เหตุการณ์ทีท่ ำให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาและเช้อื ชาติ 5. ครูใหน้ กั เรยี นทำใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง วเิ คราะห์หาสาเหตุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ 6. นกั เรียนศึกษาและรวบรวมเหตุการณท์ ี่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาและเช้ือชาติ 7. ครูให้นักเรยี นทำใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ความขัดแย้งทางศาสนา ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยคำตอบ ภาวะโลกร้อน วิกฤตกิ ารณพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม กจิ กรรมท่ี 2 วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม เวลา 3 ชัว่ โมง 163

1. ครูนำขา่ ว คลปิ วีดีโอเกี่ยวกับภาวะโลกรอ้ น ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนจากสอ่ื ตา่ งๆ มาแสดงให้ นักเรียนดู และรว่ มกันสนทนาเกีย่ วกับภาวะโลกร้อน 2. ให้นักเรยี นร่วมกนั บอกสาเหตุของการเกิดภาวะโลกรอ้ น และยกตัวอย่างภาวะโลกร้อนท่ีเกดิ ข้นึ 3. นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มเท่าๆ กัน แล้วมอบหมายให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาค้นคว้าและ รวบรวมขอ้ มูลตามประเดน็ ทต่ี ัวแทนนักเรยี นออกมาจับสลาก 4. ครูกำหนดประเดน็ ในการนำเสนอผลงานกล่มุ เพอื่ ให้นักเรียนเตรยี มความพรอ้ มและสรุปข้อมูลที่ได้ ศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งถูกต้องและตรงประเด็น 5. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันสรปุ ความรู้ และวางแผนการนำเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ 6. ให้ตวั แทนนกั เรยี นกลมุ่ ทมี่ คี วามพร้อมมากท่ีสดุ ออกมานำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี นกอ่ น 7. ครูเปิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่มอ่ืนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเก่ียวกับประเด็นที่สนใจได้ โดยมีครู คอยอธิบายเพิม่ เตมิ หากยังมขี ้อบกพร่อง 8. ให้นักเรียนทุกกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้ แล้วทำใบงานที่ 2.1 เร่ือง ภาวะโลกร้อนและผลกระทบ และทำใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง วกิ ฤตกิ ารณพ์ ลงั งานโลก 9. ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์สำคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 และสรุปผลการ วิเคราะห์ พรอ้ มท้งั นำเสนอผลงานด้วยการจดั ป้ายนทิ ศ • นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5  สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน ประวตั ิศาสตรส์ ากล ม.4-ม.6 2. ตัวอย่างข่าว คลิปวีดีโอ เกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 คลิปวีดีโอ บทความเกีย่ วกับภาวะโลกร้อน ผลกระทบจากภาวะโลกรอ้ น 3. เอกสารเพ่มิ เตมิ สำหรบั ครู 4. ใบงาน 5. gooogle classroom 9.2แหล่งการเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุด 2. หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. สื่อตา่ งๆ เช่น หนังสอื พมิ พ์ วิทยุ โทรทศั น์ 164

4. gooogle classroom แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน ประจำหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถกู ตอ้ งที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ข้อใด ไมใ่ ช่ วธิ ีการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ก. ปลูกตน้ ไมใ้ ห้มาก ข. ใช้ถงุ พลาสตกิ รไี ซเคิล ค. ขบั รถในการเดนิ ทางอยเู่ สมอ ง. ปิดเครอื่ งใช้ไฟฟ้าเมือ่ ไม่ใชง้ าน 2. น้ำมันมีราคาสงู ขึ้น บุคคลใดท่ไี ดร้ ับผลประโยชนม์ ากทส่ี ุด ก. ประชาชน ข. บริษัทขนสง่ ค. บริษทั ผลติ สินคา้ ง. ประเทศผู้ผลิตนำ้ มัน 165

3. ข้อใดคือวิธีแก้ไขปญั หาโลกร้อนที่มีประสิทธิภาพมากที่สดุ ก. ร่วมกันปลกู ต้นไมส้ รา้ งความร่มรน่ื ข. ใชท้ รัพยากรตา่ งๆ อย่างประหยัดและคุ้มค่า ค. การติดตัง้ กระจกเพ่อื สะท้อนแสงพระอาทติ ยก์ ลบั ไป ง. เปดิ เครอ่ื งทำความเยน็ เพ่ือคลายความร้อนให้โลก 4. ขอ้ ใดคือสาเหตสุ ำคญั ทก่ี อ่ ใหเ้ กิดวกิ ฤติด้านพลงั งาน ก. มนุษยใ์ ช้พลงั งานอย่างฟุ่มเฟอื ย ข. กลมุ่ โอเปกลดการผลิตน้ำมนั ทำให้นำ้ มันราคาสูงขึ้น ค. พลังงานที่ใช้ในปัจจบุ ันเป็นทรพั ยากรทใ่ี ช้แล้วหมดไป ง. เกิดสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้ผลิตนำ้ มันไดน้ ้อย 5. เพราะเหตใุ ดเมื่อราคานำ้ มนั สูงข้นึ ค่าครองชพี จงึ สูงข้นึ ดว้ ย ก. นำ้ มันเปน็ ตน้ ทุนในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร ข. มนษุ ย์ต้องการใช้ไฟฟา้ ซึง่ ส่วนใหญ่ผลติ มาจากนำ้ มนั ค. มนษุ ยต์ อ้ งใช้น้ำมนั เพอื่ ใชใ้ นการขนสง่ และเดนิ ทาง ง. นำ้ มนั แพงจะเกิดภาวะเงนิ เฟอ้ ทำใหส้ นิ ค้าอน่ื มรี าคาสงู ดว้ ย 6. ภาวะโลกรอ้ นเปน็ ผลมาจากปรากฏการณใ์ ด ก. คล่นื ยักษส์ ึนามิ ข. นำ้ แขง็ ขวั้ โลกละลาย ค. ปรากฏการณเ์ อลนโี ญ่ ง. ปรากฏการณเ์ รือนกระจก 7. ขอ้ ใดเปน็ ผลกระทบท่ีร้ายแรงท่สี ุดท่เี กิดจากภาวะโลกร้อน ก. การขาดแคลนน้ำ ข. เกิดภัยธรรมชาติ ค. อุณหภูมขิ องโลกสูงข้ึน ง. ส่ิงมชี ีวิตเปลีย่ นแปลงพฤติกรรม 8. ข้อใดคอื ผลกระทบสำคญั ท่ีเกิดจากความขัดแยง้ ในโลก ก. การปฏริ ปู ศาสนา ข. การพฒั นาทางการทตู 166

ค. การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ง. สงครามและการก่อการรา้ ย 9. จุดประสงค์ในการโจมตอี ริ กั และอฟั กานิสถานของสหรัฐอเมริกา คืออะไร ก. ทำลายศัตรทู างการเมอื ง ข. กวาดลา้ งกลมุ่ กอ่ การร้าย ค. ควบคมุ แหลง่ น้ำมันในตะวันออกกลาง ง. รักษาสนั ตภิ าพใหเ้ กิดข้นึ ในตะวนั ออกกลาง 10. ข้อใดคอื วิธีการแกไ้ ขความขัดแยง้ ทางศาสนา ก. ตัดขาดความสมั พนั ธก์ บั ผู้ทน่ี บั ถือศาสนาอน่ื ข. ให้ผลประโยชน์กบั ทุกศาสนาอยา่ งเท่าเทยี มกัน ค. ให้มนษุ ย์นับถือศาสนาทกุ ศาสนา เพราะศาสนาทำให้คนเปน็ คนดี ง. ศึกษาหลกั คำสอนของศาสนาต่างๆ ใหเ้ ขา้ ใจ และมคี วามเปน็ กลาง 11. การสง่ เสริมลัทธชิ าตนิ ิยมอย่างรนุ แรงใหก้ ับประชาชน อาจกอ่ ให้เกิดปัญหาใด ก. ความขัดแยง้ กบั ประเทศอ่ืน ข. การลกุ ฮอื ประท้วงรฐั บาล ค. การมุ่งทำร้ายชาวต่างชาติ ง. การไมย่ อมรบั วิทยาการจากชาตอิ ืน่ 12. ขอ้ ใด ไม่มี ความสมั พนั ธ์กบั ขบวนการอัล เคดา ก. นายอซุ ามะ บิน ลาเดน ข. กลมุ่ มสุ ลมิ หัวรนุ แรงฮามาส ค. เหตุการณว์ ันที่ 11 กนั ยายน ค.ศ. 2001 ง. ตอ่ ตา้ นสหรัฐอเมรกิ าและประเทศพนั ธมติ รโดยเฉพาะอสิ ราเอล 13. การทำจิฮัด (Jihad) คอื อะไร ก. การกชู้ าติ ข. การถือศลี อด ค. การตอ่ สเู้ พ่ือศาสนา 167

ง. การทำเพอื่ พระเจ้า 14. กล่มุ อสิ ลามิก จฮิ ดั (Islamic Jihad ) อย่ใู นประเทศใด ก. อียปิ ต์ ข. ไอรแ์ ลนด์ ค. เซอรเ์ บยี ง. ปาเลสไตน์ 15. กลุ่มมสุ ลิมหวั รุนแรงฮามาส มีจดุ ประสงคอ์ ยา่ งไร ก. เพอ่ื ต่อต้านชาติตะวันตก ข. เพอื่ ปกครองดินแดนอนั ศักด์ิสทิ ธิ์ ค. เพอื่ ก่อต้งั รัฐปาเลสไตน์ ง. เพ่ือตอ่ ต้านชาวคริสตน์ ิกายโรมันคาทอลกิ 168

เฉลย 2. ง 3. ข 4. ค 5. ก 7. ข 8. ง 9. ค 10. ง 1. ค 12. ข 13. ค 14. ก 15. ค 6. ง 11. ก 169

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 3 ชว่ั โมง ประวตั ิศาสตร์สากล หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 สถานการณส์ ำคญั ของโลกในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 เรอื่ ง เหตุการณ์วันที่ 11 กนั ยายน ค.ศ. 2001 และความขดั แยง้ ทางศาสนา และเชอื้ ชาติ  สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด โลกในช่วงคริสต์ศตวรรษท่ี 21 ไดเ้ ผชญิ กับสถานการณ์รา้ ยแรงตา่ งๆ มากมายในรปู แบบใหม่ สถานการณ์เหล่านเ้ี ป็นปัญหาที่มีความสำคัญและนบั วันยิ่งทวีความรุนแรงมากย่งิ ขนึ้ จึงควรชว่ ยกนั หาวธิ กี าร แกไ้ ขปญั หาเพือ่ การอย่รู ว่ มกันในสังคมโลกอยา่ งสันติสขุ  ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1ตัวชีว้ ดั ส 4.2 ม.4-6/4 วิเคราะห์สถานการณ์ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21 2.2จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ยกตัวอยา่ งเหตกุ ารณส์ ำคัญทม่ี ีผลกระทบตอ่ พัฒนาการและการเปลยี่ นแปลงของโลกได้ 2. วเิ คราะหผ์ ลกระทบต่อพัฒนาการและการเปล่ยี นแปลงของโลกได้  สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เหตกุ ารณ์การระเบิดตกึ World Trade Center (เวิลด์เทรด เซ็นเตอร)์ 11 กนั ยายน 2001 2. การกอ่ การร้ายและการตอ่ ตา้ นการกอ่ การร้าย 3. ความขดั แยง้ ทางศาสนา 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ - 170