‘Alice in Borderland’ หรือ ‘อลิซในดินแดนมรณะ’ Show ออริจินัลซีรีส์จาก Netflix ที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกัน เป็นเรื่องราวของ ‘อะริสุ’ ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ แบบไร้เป้าหมาย เขาและเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนคือ ‘คารุเบะ’ และ ‘โจตะ’ วิ่งหนีตำรวจเข้าไปในห้องน้ำที่สถานีชิบูย่า แต่เมื่อพวกเขากลับออกมาอีกครั้งผู้คนรอบข้างก็หายไปหมดและพวกเขาก็ได้ข้ามเข้ามาเป็นผู้เล่น ในเกมการแข่งขันที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน สิ่งที่เราประทับใจตั้งแต่ฉากแรก ๆ ที่เราเริ่มดูคือโทนของเรื่องที่ดูต่างกับซีรีส์ไลฟ์แอคชั่นของญี่ปุ่นเรื่องอื่น ๆ ที่เคยดูมามีความสมจริงและเป็นสากลมากขึ้น ด้วยการแสดงที่น้อยแต่มาก โดยเฉพาะพระเอกนางเอกของเรื่องอย่าง อะริสุ ที่รับบทโดย ‘เคนโตะ ยามาซากิ’ ก็เล่นดีสมฉายาเจ้าชายแห่งวงการไลฟ์แอคชั่น และ อุซางิ รับบทโดย ‘ทาโอะ ทสึจิยะ’ ที่เล่นได้พอดี ๆ มีความนางเอกแต่ก็กระฉับกระเฉงสมตัวละคร อีกสองคนที่เราอยากชื่นชมเป็นพิเศษคือ ‘คิเอตะ มาชิดะ’ ในบท คารุเบะ และ ‘อายะ อาซาฮินะ’ ในบบท คูอินะ ที่สร้างความสมดุลระหว่างตัวละครทีมีสีสันค่อนข้างฉูดฉาดและการแสดงที่มีมิติได้เป็นอย่างดี ส่งให้ตัวละครดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ แต่ข้อดีตรงนี้ค่อย ๆ เลือนหายไปหลังจากตอนที่ 4 เมื่อตัวละครเข้าไปสู่ ‘เดอะ บีช’ พร้อมกับการเปิดตัว ตัวละครที่ การ์ตูน เหมือนเดินออกจากมังงะมาทั้งแผง และเริ่มทำให้เรื่องมีกลิ่นของการเป็นซีรีส์ไลฟ์แอคชั่นแบบดั้งเดิม แม้นักแสดงทุกคนจะเล่นได้ดีมีมาตราฐานและซีรีส์ก็ยังคงดูสนุกแต่เราก็อดเสียดายนิดๆ กับความแปลกใหม่ที่เจือจางไปไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีคนกฏที่ทุกคนต้องเล่นเกมต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อต่อวีซ่าที่จะทำให้มีชีวิตอยู่รอด ก็เป็นภาพเหมือนของชีวิตของเราที่แม้ในหลายครั้งเราจะไม่อยากเล่นเกม หักหลัง ฆ่า หรือเหยียบหัวใครเพื่อขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่า แต่ระบบก็จะบีบให้เราต้องเดินหน้า ไหลไปตามระบบที่ถูกวางไว้และต่อสู้ต่อไป. โดยรวมเเล้วก็ถือว่าเป็นซีรีส์ของญี่ปุ่นที่ทำออกมาได้ดีมากๆๆอีกเรื่องเลยคร้าาาา☺ ( 9/10 ) เเต่ๆเเอดชอบผู้ชายผมขาวในเรื่องมากเเต่หา วาร์ปไม่เจออุเเง๊5555 #รีวิวหนัง #Alice in Borderland #อลิซในดินแดนมรณะ #วันนี้ดูอะไรดี ทราบมาว่าญี่ปุ่นจบนานแล้ว แต่แปลไทย,Engพึ่งตามทัน อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมชอบเกมK♧ที่สุดแล้ว ป.ล.2 วิบูลย์กิจออกเล่ม8ได้รึยังฟะ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อลิสในแดนมรณะ (ญี่ปุ่น: 今際の国のアリス; โรมาจิ: Imawa no Kuni no Arisu; อังกฤษ: Alice in Borderland) เป็นละครชุดสตริมมิงทางโทรทัศน์ญี่ปุ่นประเภทระทึกขวัญ–วิทยาศาสตร์ที่ได้รับเค้าโครงจากมังงะในชื่อเดียวกันโดย ฮาโระ อาโซ กำกับโดย ชินซูเกะ ซาโต ละครชุดนำแสดงโดย เค็นโตะ ยามาซากิ และ ทาโอะ สึจิยะ เมื่อพวกพ้องติดอยู่ในโตเกียวที่ไร้ผู้คนถูกบังคับให้แข่งกันในเกมที่มีความอันตราย ประเภทและความยากของแต่ละเกมได้รับการกำหนดโดยไพ่ผู้เล่น หลังจากเอาตัวรอดจากเกมแรกได้สำเร็จ ผู้เล่นจะได้รับ "วีซ่า" ซึ่งจะยืดเวลาชีวิตให้นานขึ้น หากวีซ่าหมดอายุ ผู้เล่นจะถูกกำจัดโดยลำแสงเลเซอร์สีแดงยิงลงมาจากท้องฟ้า การผลิตได้รับการประกาศครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 แต่ละตอนของละครชุดเขียนโดย ซาโต, โยชิกิ วาตาเบะ และ ยาซูโกะ คูรามิตสึ การถ่ายทำในบริเวณต่าง ๆ ของชิบูยะและสตูดิโอฉากเขียวซึ่งใช้เป็นพื้นที่จำลองของทางม้าลายชิบูยะที่ฉากส่วนใหญ่ของละครชุดปรากฏนั้นเริ่มต้นในเดือนสิงหาคมและเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน และในการร่วมมือนานาชาติ ดิจิทัลฟรอนเทียของญี่ปุ่นทำงานกับทีมจากสิงคโปร์, สหรัฐ และอินเดียเพื่อสร้างเทคนิคพิเศษทางภาพ (visual effect) เพิ่มเติมจากที่ให้กิตติประกาศปิดเรื่อง (post-credit) และเพลงในละครชุดได้รับการประพันธ์โดย ยูตากะ ยามาดะ ซึ่งมักทำงานร่วมกับซาโต อลิสในแดนมรณะ เผยแพร่เป็นครั้งแรกบนเน็ตฟลิกซ์ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2020 และได้รับบทปริทัศน์เชิงบวกจากผู้ชมและนักวิจารณ์สำหรับเทคนิคพิเศษทางภาพ, การถ่าย, การตัดต่อ และการจำลองความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเปรียบเทียบละครชุดกับภาพยนตร์ เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด (ค.ศ. 2000) และ ลูกบาศก์มรณะ (ค.ศ. 1997) สองสัปดาห์ให้หลังการเผยแพร่ฤดูกาลแรก เน็ตฟลิกซ์ตัดสินใจผลิตฤดูกาลที่สองของละครชุด ซึ่งกำหนดการเผยแพร่ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2022 นักแสดง[แก้]ตัวละครหลัก[แก้]
ตัวละครสมทบ[แก้]
ตอน[แก้]การผลิต[แก้]การพัฒนา[แก้]วันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 เน็ตฟลิกซ์ประกาศว่าพวกเขาจะผลิตละครชุดภาคคนแสดงที่ดัดแปลงจากมังงะเรื่องอลิสอินบอเดอร์แลนด์ โดยมี โยชิกิ วาตาเบะ, ยาซูโกะ คูรามิตสึ และ ชินซูเกะ ซาโต เป็นผู้ประพันธ์บทของแต่ละตอน ขณะที่ซาโตจะเป็นผู้กำกับทิศทางของละครชุดให้เป็น "ภาพยนตร์ที่ยาวมาก ๆ เรื่องหนึ่ง"[2][9][10] ไม่กี่เดือนต่อมา ในวันที่ 4 สิงหาคม เค็นโตะ ยามาซากิ และ ทาโอะ สึจิยะ ได้รับการเปิดเผยว่าเป็นตัวละครหลักของละครชุดโดยแสดงเป็น เรียวเฮ อาริซุ และ ยูซูฮะ อูซางิ ตามลำดับ[11] การถ่ายทำ[แก้]การถ่ายทำละครชุดเริ่มต้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2019 เมื่อยามาซากิถูกพบเห็นระหว่างการถ่ายทำในโดเง็นซากะ เขตหนึ่งของชิบูยะ ในวันที่ 8 สิงหาคม[12] วันถัดมา มีการพบเห็นทีมถ่ายทำใกล้ร้านค้าแห่งหนึ่งในเมืองฟูกูโตมิ นครโยโกฮามะ[12] ตั้งแต่วันที่ 17 จนถึง 20 กันยายน ยามาซากิและสึจิยะถูกพบเห็นระหว่างการถ่ายทำในกลุ่มอาคารอพาร์ทเมนท์ (apartment complex) ทางด้านหน้าของสถานีคิตะซูซุรันไดในเส้นทางสายอาริมะในนครโคเบะ[12] อ้างจากบริษัทผู้ผลิต โรบอทคอมมูนิเคชัน บทละครชุดได้รับการแก้ไขใหม่ "ให้เข้ากับผังอาคาร"[5] ฉากจากตอนปฐมทัศน์ปรากฏตัวละครที่เล่นโดยยามาซากิ อาริซุ พบเพื่อนของเขา โชตะ และ คารูเบะ ใกล้กับทางม้าลายชิบูยะที่วุ่นวายในโตเกียวนั้นจะต้องถ่ายทำในสตาร์บัคส์แต่เดิม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความซับซ้อนของฉากกระจกพื้นหลัง จึงเปลี่ยนมาเป็นด้านหน้าของป้ายนอกสถานีชิบูยะ[13] นอกจากนี้ ฉากที่ถ่ายทำภายในสถานีชิบูยะซึ่งตัวละครหลักเข้าไปยังห้องน้ำและออกมาพบกับโตเกียวที่ไร้ผู้คนนั้นถ่ายทำในเทกอย่างต่อเนื่องความยาวสี่นาที[13][14] ขณะที่ตัวละครประกอบฉากได้รับการสรรหาสำหรับละครชุดตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม จนถึง 11 ธันวาคมในหลากหลายเมือง[12][15][16] ผู้เขียนมังงะต้นฉบับของละครชุดซึ่งได้รับเค้าโครงในการผลิต ฮาโระ ฮาโซ ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมชมฉากส่วนหนึ่ง[17] การถ่ายทำเกิดขึ้นในหลากหลายเมืองและสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019[12] การถ่ายทำสำหรับฤดูกาลที่สองเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022[18] เทคนิคพิเศษทางภาพ[แก้]ระหว่างการถ่ายทำ ฉากที่ให้ความสำคัญกับเมืองโตเกียวร้างนั้นถ่ายโดยใช้เทคนิคพิเศษทางภาพเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังใช้ฉากเขียวเป็นจำนวนมาก ซาโตอธิบายว่าเขามีผู้ช่วยผู้กำกับเป็นผู้วิ่งบนทางม้าลายชิบูยะพร้อมด้วยกล้องเล็ก ๆ หนึ่งตัว "เพื่อตัดสินใจว่าส่วนไหนควรที่จะสร้างขึ้นมาจริง ๆ หรือส่วนไหนควรใช้เทคนิคพิเศษ"[10][19] โดยใช้สตูดิโออาชิกางะสแครมเบิลซีตี[19] ฉากขนาดใหญ่ราว 100 กิโลเมตรจากโตเกียวถูกสร้างขึ้นสำหรับภาพยนตร์เรื่องแก๊งม่วนป่วนโตเกียว (ซึ่งถ่ายทำในช่วงเดียวกัน)[20][21] ฉากซึ่งปรากฏทางม้าลายชิบูยะถูกถ่ายทำโดยใช้ฉากเขียวเป็นหลัก ขณะที่ถนนและประตูตั๋วที่ทางเข้าฝั่งตะวันออกถูกสร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกส์[5][22] เพื่อคงไว้ซึ่ง "ความถูกต้อง" ของฉาก ผู้กำกับเทคนิคพิเศษทางภาพ อัตสึชิ โดอิ ได้สร้างเงาจากอาคารโทกีวซึ่งมักจะทอดแสงเป็นปกติ[14] ฉากในตอนที่ 4 ซึ่งแสดงทางลอดอุโมงค์ท่วมไปด้วยน้ำนั้นถูกสร้างขึ้นโดยความช่วยเหลือของการสร้างมโนภาพขั้นต้น (previsualization) ซึ่งทำให้ทีมผลิตละครชุดสามารถ "ทดลองกับองค์ประกอบที่หลากหลายก่อนถ่ายทำจริง"[5] เสือดำซึ่งปรากฏในตอนเดียวกันถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษทางภาพหลังทีมผลิตเข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์หลายแห่ง[19] นอกจากนี้ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ Erik-Jan de Boer ได้เข้าร่วมกำกับการผลิตเสือที่ปรากฏในตอนที่ 5 ซึ่งผลิตโดยแอนิเบรน สตูดิโอแอนิเมชันในอินเดีย[13] ผู้สร้างเทคนิคพิเศษทางภาพนอกจากกิตติประกาศปิดเรื่อง (post-credit) ที่ให้ไว้ท้ายตอนถูกเพิ่มเติมโดยการช่วยเหลือของดิจิทัลฟรอนเทียของญี่ปุ่นซึ่งทำงานร่วมกับทีมจากสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และอินเดียในการร่วมมือนานาชาติ[23] ดนตรี[แก้]ดนตรีประกอบสำหรับอลิสในแดนมรณะ ได้รับการประพันธ์ทั้งหมดโดยยูตากะ ยามาดะ ซึ่งเคยทำงานกับซาโตในภาพยนตร์เรื่องเทพมรณะ (ค.ศ. 2018) และ คิงดอม มหาสงครามกู้แผ่นดิน (ค.ศ. 2019) ละครชุดอำนวยการผลิตโดย โคเฮ ชิดะ เพลงเล่นโดยวงดุริยางค์ฟิลม์ฮาร์โมนิกแห่งปราก เพลง "กูดไทมส์" โดย Jan Erik Nilsson ถูกนำมาเล่นหลายครั้งตลอดละครชุด[5] การตลาดและการเผยแพร่[แก้]ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2020 เน็ตฟลิกซ์เผยแพร่วิดีโอแนะนำ (teaser) เปิดเผยว่าอลิสในแดนมรณะ จะเปิดตัวใน 190 ประเทศบนแพลตฟอร์มในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2020[24] ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ภาพจำนวน 6 ชุดได้รับการเผยแพร่เพื่อส่งเสริมละครชุด[25] 4 วันถัดมา เน็ตฟลิกซ์เผยแพร่วิดีโอตัวอย่าง (trailer) ร่วมกับใบปิดและรายชื่อนักแสดงหลัก[4] อ้างอิงจากนักวิจารณ์หลายคน ฤดูกาลแรกของอลิสในแดนมรณะ ครอบคลุม 31 บทของมังงะต้นฉบับโดยเว้น 33 บทที่เหลือไว้[7] ฤดูกาลแรกถูกเผยแพร่ในวันที่ 10 ธันวาคม[20] และในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ละครชุด "ได้รับการจัดให้อยู่ในรายการสิบอันดับแรกที่ชมเยอะที่สุด" บนเน็ตฟลิกซ์ในราว 40 ประเทศ รวมถึง มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม[20] ในภาพรวม ละครชุดทำได้ดีกว่าในประเทศที่ตั้งอยู่ในเอเชียและยุโรปมากกว่าประเทศในอเมริกาเหนือ[20] ในวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2020 เน็ตฟลิกซ์ประกาศผลิตฤดูกาลที่สองของละครชุดเพียงสองสัปดาห์หลังการเผยแพร่ฤดูกาลแรก[20][26] ในวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ฮาโระ อาโซ ผู้เขียนมังงะต้นฉบับของละครชุดซึ่งได้รับเค้าโครงในการผลิต ประกาศแผนที่จะ "ร่วมฉลอง" และส่งเสริมละครชุดเน็ตฟลิกซ์โดยการเขียนมังงะชุดใหม่ภายใต้ชื่ออลิสในบอเดอร์แลนด์รีไทร์ (Alice in Borderland Retry) ลงโชเน็งซันเดย์รายสัปดาห์[27] จัดจำหน่ายในวันที่ 14 ตุลาคม (ฉบับที่ 46, ค.ศ. 2020 ของโชเน็งซันเดย์รายสัปดาห์) และมังงะเล่มแรก ทังโกบง ในวันที่ 11 ธันวาคม หนึ่งวันหลังการเผยแพร่ครั้งแรกของอลิสในแดนมรณะ มังงะชุดสิ้นสุดลงในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2021 (ฉบับที่ 8, ค.ศ. 2021 ของนิตยสารโชเน็งฯ) เล่มที่สองและสุดท้ายของทังโกบง ได้รับการจัดจำหน่ายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021[28][29] การตอบรับ[แก้]หลังจากการเผยแพร่อลิสในแดนมรณะ ละครชุดได้รับบทปริทัศน์เชิงบวกเป็นส่วนใหญ่จากนักวิจารณ์ซึ่งชมเชยการใช้เทคนิคพิเศษทางภาพ, การถ่ายภาพ, การตัดต่อ, การแสดงของ เค็นโตะ ยามาซากิ และ ทาโอะ สึจิยะ และการจำลองความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ[30][31] แต่ได้รับข้อคิดเห็นผสมกันทั้งบวกและลบในการดำเนินเรื่องโดยไม่มีการให้ความสำคัญอย่างพิเศษเกี่ยวกับการพัฒนาตัวละครและเนื้อเรื่องในภาพรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังของละครชุด[32][33] รอตเทนโทเมโทส์ในฐานะผู้รวบรวมบทปริทัศน์ได้รับอัตราเห็นชอบ 71% โดยยึดตามบทปริทัศน์ 7 บท ด้วยอัตราเฉลี่ยที่ 7/10[34] หนึ่งเดือนหลังจากการเผยแพร่ฤดูกาลแรกได้รับการเผยแพร่ นิตยสารไวราตี เปิดเผยว่าละครชุดได้รับการเข้าชมใน 18 ล้านครัวเรือน[35] จากเดอะเจแปนไทมส์ เจมส์ แฮดฟิลด์ ชื่นชมการกำกับของซาโตแต่วิจารณ์ตัวละครว่า "ตัวละครเพียงบางตัวเท่านั้นที่ได้สร้างความประทับใจ แต่สึจิยะนำไปสู่ตัวละครนำหญิงโลดโผนนั้นเป็นผล และนิจิโร มูรากามิ สนุกกับการเป็นสันโดษพร้อมด้วยรอยยิ้มแสยะ (smirking loner) ของเขา"[32] เขียนให้กับเรดีสเตดีคัต โจนาธาน วิลสัน ให้บทปริทัศน์เชิงบวกในภาพรวม ยกย่องละครชุดสำหรับการข้าม "อรรถาธิบาย (exposition) และการสร้างปูมหลังอย่างระมัดระวัง" และ "เข้าเรื่องอย่างไม่อ้อมค้อม" วิลสันยังเปรียบเทียบละครชุดเชิงบวกกับภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องเกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด และภาพยนตร์ระทึกขวัญอเมริกันซอว์ เกมต่อตาย..ตัดเป็น[36] Ars Technica นักสื่อมวลชน เจนนิเฟอร์ อูลเล็ตต์ เรียกละครชุดว่า "เข้มข้นทางอารมณ์" และเปรียบเทียบเกมในละครชุดกับเกมที่พบในหนังสือสงครามเกมคนอัจฉริยะ และวัยเยาว์อันสิ้นสูญ และภาพยนตร์ ค.ศ. 1997 ลูกบาศก์มรณะ[7] Melanie McFarland จากซาลอน เปรียบเทียบอลิสในแดนมรณะ กับละครชุดของซีบีเอสออลแอ็กเซสเดอะสแตนด์ โดยกล่าวว่าอลิสในแดนมรณะ "รับมือกับกลไกของการนำเสนอตัวละครได้มีประสิทธิภาพกว่าและไม่ได้สลัดผู้ชมทิ้งโดยเอนเอียงอย่างหนักไปทางภาพย้อนหลัง [...] แต่ไม่เหมือนกับ "เดอะสแตนด์" ที่โครงร่างเนื้อเรื่อง "ขั้นก่อนหน้า" ไม่ได้ครอบคลุมจนถึงจุดที่จะดึงการดำเนินเรื่อง"[3] จากยาฮู! นิวส์ Lim Yian Lu สรรเสริญละครชุดสำหรับ "โครงเรื่องที่ระทึกขวัญ" โดยกล่าวว่ามัน "จะทำให้คุณเพลิดเพลินและต้องการมากยิ่งขึ้นแม้ว่าจะมีฉากที่น่าสยดสยองและเต็มไปด้วยเลือดก็ตาม"[37] เขียนให้กับอนิเมะนิวส์เน็ตเวิร์ก Theron Martin จัดละครชุดให้อยู่ในระดับ ซี+ และบทปริทัศน์เชิงผสมบวกและลบในด้านการผลิตของละครชุด, ดนตรีประกอบ, เนื้อเรื่องหลัก และการแสดง ขณะที่อธิบายว่ามันให้ "ความเพลิดเพลินในปริมาณน้อย" สำหรับความยาวตอนเท่านี้[33] หลังจากการชมตอนแรกของละครชุด และชื่นชมบรรยากาศ เพลงประกอบ และความสามารถในการ "สับเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว" พนักงานที่ดีไซด์เดอร์ แนะนำให้ผู้ชมชมละครชุดนี้[38] อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
|