ความรู้เกี่ยวกับงานอาชีพ มาตรฐานอาชีพ (Occupational Standard) เป็นการกำหนดมาตรฐานของสมรรถนะ รวมทั้งความรู้และความ เข้าใจที่คาดหวังว่าบุคคลจะบรรลุสำหรับอาชีพหนึ่ง มาตรฐานอาชีพนี้ใช้เป็นฐานในการกำหนดและประเมินเพื่อให้ได้ คุณวุฒิวิชาชีพ (Vocational Qualifications:VQ) มาตรฐานอาชีพทำโดยกลุ่มอาชีพเฉพาะนั้น ๆ บางครั้งเรียกว่า“มาตรฐานสมรรถนะ” 1.1 ความเป็นมา การจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย) เดิมเป็นภารกิจของกรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย จัดพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยใช้หลักเกณฑ์การจัดแบ่งหมวดหมู่ และกำหนดรหัสตามการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากล (Internationnal Standard Classification of Occupations : ISCO) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour OrganiZation : ILO) ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บสถิติด้านแรงงานและสามารถเปรียบเทียบข้อมูลกับนานาประเทศอย่างเป็นสากล ปัจจุบันการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย) เป็นภารกิจของกระทรวงแรงงาน โดยการจัดหางาน ที่เป็นหน่วยงานในการดำเนินการจัดทำข้อมูลและกำหนดรหัสหมวดหมู่อาชีพตามหลักเกณฑ์เดียวกับการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากล (ISCO) ซึ่งทาง ILO ได้ทำการปรับปรุง ISCO มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือ ปี ค.ศ. 1988 ซึ่งเป็นฐานของการจัดการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพของไทยในปัจจุบัน (กรมการจัดงาน.การจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย). 2554) ภาพที่ 1.1 แสดงภารกิจของกรมแรงงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1.2 วัตถุประสงค์ การจัดทำการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย) ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อปรับปรุงข้อมูลอาชีพของประเทศไทยให้ถูกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากลที่ได้มีการปรับปรุงใหม่ 2) เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลอาชีพและสะดวกแก่การนำไปใช้ประโยชน์ 3) เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการจัดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ 4) เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลอาชีพของประเทศไทย 1.3 ประโยชน์ กรมการจัดหางานได้ดำเนินการจัดทำการจัดประเภทอาชีพเพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันในเรื่องอาชีพ และเพื่อการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านแรงงาน เช่น การกำหนดค่าจ้าง การแนะแนวอาชีพ การฝึกอบรม การจ้างงาน รวมถึงการวิเคราะห์การเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตที่เกิดขึ้นจากอาชีพ การที่มีระบบฐานข้อมูลเดียวกันสามารถจะนำข้อมูลสถิติไปอ้างอิงและเปรียบเทียบได้ทั้งในระดับหน่วยงานและกับระดับประเทศ ภาพที่ 1.2 ภารกิจแสดงของกรมการจัดหางานเกี่ยวกับการแนะแนวอาชีพหรือการฝึกงาน 1.4 การดำเนินงาน เนื่องจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ISCO) ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยต้องทำการปรับปรุงข้อมูลอาชีพให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการจัดประเภทมาตรฐานสากล การจัดประเภท มาตรฐานอาชีพไทยฉบับนี้ใช้เอกสารการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากล ฉบับปี ค.ศ. 1988 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศเป็นหลัก และแนวทางในการดำเนินงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ดำเนินการดังนี้ 1) แปลและศึกษาข้อมูลจากเอกสาร International Standard Classification of Occupation (ISCO) ปี ค.ศ. 1988 ซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้เหมาะสมกับสภาพข้อเท็จจริง 2) สำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูลอาชีพจากกิจการและสถานประกอบการต่าง ๆ ในประเทศ 3) ศึกษาข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น เอกสารหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับต่าง ๆ เอกสารประกอบการจัดทำโครงสร้างอัตรากำลังละตำแหน่งงาน ในหน่วยงานภาครัฐ 4) เอกชน รวมทั้งการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น 5) วิเคราะห์และเขียนร่างนิยามอาชีพ 6) ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการปรับปรุงการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพเฉพาะสาขา เพื่อพิจารณาตรวจแก้ไขร่างและให้คำแนะนำรวมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนำเสนอคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพและอุตสาหกรรม 1.5 กรอบแนวคิด งาน (Job) หมายถึง ภารกิจ (Task) หรือหน้าที่ (Duties) ที่ต้องปฏิบัติงานหลายงาน ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันรวมกันเข้าเป็นอาชีพ “อาชีพ” ในเอกสารฉบับนี้ หมายถึง งานซึ่งบุคคลใดบุคคลหนึ่งปฏิบัติอยู่ไม่หมายถึงอุตสาหกรรม กิจการ สถานการณ์ทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงาน ของผู้ปฏิบัติงาน ในการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากลได้นำเอาทักษะ (Skill) หมายถึง ความสามารถในการทำงานที่ ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ มาพิจารณาโดยดูถึงระดับของ ทักษะ (Skilllevel) และทักษะเฉพาะด้าน (Skill Specialization) แบ่งทักษะออกเป็น 4 ระดับ โดยใช้ระดับการศึกษาเป็นตัวแบ่งหรืออธิบายถึงความสามารถ แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าการทำงานทั้งหมดต้องได้รับการศึกษาจากสถานศึกษาหรือการศึกษาในระบบ (Formal Education) เท่านั้น แต่อาจจะได้ทักษะจากการฝึกอบรม อย่างไม่เป็นทางการ (Informal Training) หรือจากประสบการณ์ทำงาน (Experience) ก็ได้ทักษะที่ต้องการเพียงแต่สามารถปฏิบัติงานหรือทำหน้าที่ได้ โดยไม่คำนึงว่า ผู้ประกอบอาชีพนั้นจะมีทักษะในการทำงานมากหรือน้อยกว่าบุคคลอื่นที่อยู่ในอาชีพเดียวกันตามทักษะทั้ง 4 ระดับที่เปรียบเทียบกับการศึกษาของไทยแล้วเป็น ดังนี้ 1) ทักษะระดับที่ 1 หมายถึง ผู้ที่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา 2) ทักษะระดับที่ 2 หมายถึง ผู้ที่จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา 3) ทักษะระดับที่ 3 หมายถึง ผู้ที่จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาสายอาชีพ ปวช. ปวส. อนุปริญญา 4) ทักษะระดับที่ 4 หมายถึง ผู้ที่จบการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป เกณฑ์การจัดแบ่งระดับการศึกษาตามการจำแนกประเภทอาชีพที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์การจัดกลุ่มเบื้องต้น มีดังนี้
*หมายเหตุ ในหมวดใหญ่ 1 และ 0 ไม่ได้กำหนดระดับการศึกษาไว้ เนื่องจากกลุ่มอาชีพในสาขาทั้ง 2 มีความแตกต่างกันมากจนทำให้ไม่สามารถจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาชีพได้ 1.6 โครงสร้างการจัดประเภทอาชีพ กรมการจัดหางาน ได้จัดแบ่งโครงสร้างการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย) โดยใช้หลักเกณฑ์การจัดแบ่งประเภทอาชีพ เช่นเดียวกับการจัดแบ่งประเภทมาตรฐานอาชีพสากล ปี พ.ศ. 2531 (Intermational Standard Classification of Occupations 1988 : ISCO) โดย ISCO จะจัดแบ่งจัดประเภทอาชีพ ออกเป็นหมวดใหญ่ (major) หมวดย่อย (Sub major) หมู่ (Group) และหน่วย (Unit) เท่านั้น ในระดับตัวอาชีพ (Occupation) จะเป็นหน้าที่ของแต่ละประเทศในการพิจารณาจัดจำแนกและจัดทำรายละเอียดอาชีพซึ่งจะแตกไปตามโครงสร้างเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของแต่ละประเทศ การจัดจำแนกประเภทอาชีพจะจัดแบ่งเป็นกลุ่มในระดับต่าง ๆ และกำหนดเลขรหัสในแต่ละระดับด้วยเลขตั้งแต่ 1 – 6 หลัก โดยเลขรหัสอาชีพแต่ละหลักจะแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาชีพและกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกันหลักการจัดทำโครงสร้างการจัดประเภทอาชีพและวิธีการให้เลขรหัส มีดังนี้
ในช่วงระหว่างการดำเนินการจัดทำการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย) ได้มีผู้เชี่ยวชาญจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ คือ Mr. Edwin Hoffman ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมดำเนินการปรับปรุงและจัดทำข้อมูลการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากลมาให้ความรู้และอธิบายหลักเกณฑ์โครงสร้างการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากล และได้เน้นย้ำให้ประเทศสมาชิกที่นำ ISCO ไปปรับใช้ให้กำหนดเลขรหัสตั้งแต่ระดับหมวดใหญ่ (MAJOR) ถึงหน่วย (Group) เป็นเลขรหัสเดียวกับสากล โดยแต่ละประเทศสามารถจะเพิ่มเลขตั้งแต่ระดับหมวดย่อยถึงหมู่ได้แต่ต้องไม่เป็นเลขรหัสที่ซ้ำกับเลขรหัสสากล และหากเลขรหัสในระดับใดก็ตามไม่ปรากฏกลุ่มอาชีพ ในประเทศนั้นก็จะสามารถจะคงเลขรหัสไว้หรือข้ามเลขรหัสนั้นไปได้ โดยต้องไม่นำกลุ่มอาชีพถัดไปหรือกลุ่มอาชีพที่เพิ่มเติมเข้ามาใช้เลขรหัสดังกล่าว ครั้งนี้เพื่อให้มิเกิดความสับสนของเลขรหัสที่เป็นสากล - การให้เลขรหัสของการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย) ฉบับนี้ตั้งแต่เลขที่ระดับหมวดใหญ่ หมวดย่อย หมู่และหน่วยจะให้เลขรหัสเหมือนกับของการจัดประเภทมาตรฐาน อาชีพสากล (ฉบับปี พ.ศ. 2531) ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะและเพื่อให้ข้อมูลสามารถเปรียบเทียบกับนานาประเทศได้ - การให้เลขรหัสในหมู่อาชีพ (Group เลขรหัส 4 หลัก) ซึ่งลงท้ายด้วยเลข 9 หมายถึง อาชีพอื่น ๆ ซึ่งไม่สามารถจัดประเภทไว้ในหมู่อาชีพใด ๆ จะมารวมกันไว้ในหมู่อาชีพนี้ - การให้เลขลักษณะตัวอาชีพ ซึ่งแสดงถึงตัวอาชีพที่อยู่ในหน่วยอาชีพใดหน่วยอาชีพหนึ่งนั้น จะให้เลขรหัสเรียงไปตามลำดับ โดยปกติจะมีช่วงห่างระหว่าง 10, 20, 30 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนตัวอาชีพที่มีอยู่ในหน่วยอาชีพเดียวกัน ถ้าช่วงห่างระหว่างเลขรหัสอาชีพในหน่วยอาชีพสั้น แสดงให้เห็นว่าอาชีพเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าอาชีพอื่น ๆ ที่อยู่ในหน่วยอาชีพเดียวกัน เช่น อาจเป็น 10, 15 หรือ 10, 12, 14, 16, 18 เป็นต้น - เลขรหัสสองตัวสุดท้ายของตัวอาชีพ เลขรหัสหลักที่ 5 ที่ลงท้ายด้วย 10 แสดงให้เห็นว่า อาชีพนั้นเป็นอาชีพที่มีลักษณะงานแบบทั่ว ๆ ไปหรือลักษณะงานของอาชีพนั้นครอบคลุมไปหมดทุกอาชีพที่อยู่ในหน่วยเดียวกันไม่ได้ทำงานหรือมีความชำนาญงานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ - เลขรหัสสองตัวสุดท้ายของตัวอาชีพ เลขรหัสหลักที่ 5 ที่ลงท้ายด้วย 90 หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติงานเบ็ดเตล็ด ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาชีพอื่น ๆ ในหน่อยอาชีพเดียวกัน แต่เป็นงานซึ่งไม่มีความสำคัญเพียงพอที่จะจัดประเภทออกเป็นตัวอาชีพเลขรหัสหลักที่ 5 ได้ 1.6.2 หลักการให้ชื่ออาชีพ สำหรับชื่อของกลุ่มอาชีพ ตั้งแต่ระดับหมวดใหญ่ถึงหน่วยอาชีพนั้นจะใช้ตามอย่างมาตรฐานสากล คือ หมวดใหญ่ ให้ชื่อที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะงาน ซึ่งบุคคลนั้นทำอยู่ เช่น งานจัดการ งานที่ต้องใช้วิชาชีพ งานบริการ งานเสมียน พนักงานหรือพนักงานด้านการเกษตรหรืออุตสาหกรรม ฯลฯ หมวดย่อย ให้ชื่อกลุ่มอาชีพที่จำแนกย่อยจากหมวดใหญ่โดยจะแสดงถึงลักษณะงานที่จำแนกออกเป็นส่วน ๆ ชัดเจนขึ้น หมู่ จะเป็นชื่อกลุ่มอาชีพที่จำแนกย่อยจากหมวดย่อยและแสดงถึงลักษณะงานที่ขีดวงจำกัดขึ้น อาจใช้ชื่ออย่างเดียวกับหน่วยอาชีพซึ่งอยู่ในหมู่นั้นโดยรวม ชื่อหน่วยงานอาชีพทุกหน่วยหรือเพียงบางหน่วย หน่วย เป็นกลุ่มอาชีพที่จำแนกย่อยจากหมู่และชื่อจะแสดงถึงกลุ่มตัวอาชีพที่อยู่ในหน่วยงานอาชีพนั้น ๆ ตัวอาชีพ เป็นหน่วยที่เล็กที่สุด จำแนกย่อยจากหน่วยอาชีพ การให้ชื่อตัวอาชีพและกลุ่มอาชีพนี้ได้ใช้เรียกอย่างเป็นทางการ และเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามได้พยายามรวบรวมและใส่ชื่อที่เรียกกันในท้องถิ่นหรือในตลาดแรงงานกำกับไว้ด้วย เพื่อสะดวกแก่ผู้ประโยชน์ 1.6.3 หลักการเขียนนิยามอาชีพ นิยามอาชีพของกลุ่มอาชีพในระดับ หมวดใหญ่ หมวดย่อย หมู่และหน่วยนั้น ส่วนใหญ่เป็นนิยามอาชีพที่ทำการคัดลอกจากนิยามอาชีพสากล โดยผ่านการพิจารณาและปรับให้เข้ากับสภาข้อเท็จจริงของประเทศ ซึ่งนิยามแต่ละกลุ่มจะแสดงถึงความหมายของหน้าที่และลักษณะงานของกลุ่มอาชีพนั้น นิยามอาชีพในเอกสารฉบับนี้ ได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่ได้สละทั้งเวลาความรู้และความสามารถในการช่วยแก้ไขร่าง พร้อมให้ข้อเสนอแนะจนได้นิยามอาชีพแต่ละอาชีพโดยมีรูปแบบการเขียนนิยามอาชีพ ดังนี้ นิยามของตัวอาชีพแต่ละตัวจะแสดงถึงลักษณะงานอาชีพที่ต้องปฏิบัติ โดยแยกเนื้อหาออก ดังนี้ ในประโยคแรกจะเป็นการอธิบายถึงลักษณะหน้าที่งานหลักของตัวอาชีพซึ่งจะจบด้วยเครื่องหมาย : ประโยคหลังเครื่องหมาย : จะเป็นการบรรยายลักษณะงานหรือการปฏิบัติ ซึ่งในบางหน่วยอาชีพจะบรรยายตามลำดับขั้นตอนงานและแยกประโยคด้วยเครื่องหมาย “,” บางอาชีพมีการบรรยายถึงลักษณะงานส่วนย่อยซึ่งบางคนอาจทำงานส่วนนี้อยู่ด้วยหรือไม่ขึ้นกับขนาดของสถานประกอบการหรือองค์กร และจะขึ้นต้นประโยคด้วยคำว่า “อาจ” ข้อสังเกต เนื่องจากความแตกต่างทางด้านการศึกษาของผู้ประกอบการอาชีพในละประเทศ เช่น บางอาชีพในสาขาต่าง ๆ เกี่ยวกับการสอนสุขอนามัยและสังคม บางประเทศจำเป็นต้องมีการศึกษาในระดับปริญญา เพื่อปฏิบัติงานในอาชีพต่าง ๆ เหล่านี้ ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ อาจต้องการเพียงผู้จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรเท่านั้น ฉะนั้น ในการจัดประเภทมาตรฐานอาชีพสากลจึงได้มีการสร้างกลุ่มอาชีพขึ้น 2 กลุ่มที่ขนานกัน คือ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ 2 และหมวดใหญ่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มช่างเทคนิคและวิชาชีพสาขาต่าง ๆ เพื่อให้แต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกันในฐานการศึกษาสามารถจัดจำแนกประเภทอาชีพดังกล่าวได้ตามความเหมาะสม สำหรับหมวดใหญ่ 7 และ 8 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการผลิตนั้นมีความใกล้เคียงในลักษณะงานแต่แตกต่างกันในด้านฝีมือและความสามารถที่ต้องการกล่าวคือ ผู้ที่ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่ 7 จะเน้นหนักไปทางด้านการใช้ฝีมือและความสามารถในการปฏิบัติงาน อาจมีเครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรประกอบการปฏิบัติงานบ้าง ในขณะที่หมวดใหญ่ 8 จะเน้นหนักไปทางด้านการควบคุมและใช้เครื่องจักรในการปฏิบัติงานส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจำเป็นต้องรู้วิธีการใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ที่ทันสมัยและซับซ้อน สำหรับอาชีพบางสาขาอาชีพที่ต้องใช้หลักการทางด้านเทคนิคหรือความรู้เฉพาะ จะพิจารณากำหนดอาชีพไว้ในหน่วยอาชีพด้านเทคนิค (หมวดใหญ่ 3) แต่มีบางหน่วยอาชีพ เช่น หน่วยที่ทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และคุณภาพ ถ้าเป็นการตรวจสอบและทำงานด้านเทคนิค จะจัดไว้ในหน่วยอาชีพ 3152 แต่ถ้าเป็นการตรวจสอบคุณภาพในสายงาน (Quality Control, QC) จะจัดประเภทไว้กับผู้ปฏิบัติงานในด้านการผลิตนั้น ๆ เช่นเดียวกับการควบคุมดูแลหรือการเป็นหัวหน้างาน หัวหน้าซึ่งต้องปฏิบัติงานในสายงานด้วยจะจัดไว้ในสายงานเทคนิคหรือปฏิบัติตามประเภทงาน แต่ถ้างานหลักประกอบด้วยงานด้วยงานด้านวางแผนจัดการ จะจัดไว้ในกลุ่มอาชีพด้านการบริหารจัดการ คือ หมวดย่อยที่ 12 และ 13 สำหรับที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เป็นการกำหนดตำแหน่งในการพิจารณาอาชีพให้พิจารณาว่าให้คำปรึกษาด้านใดหรือมีความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพใดให้จัดแยกไว้ในกลุ่มอาชีพนั้น ๆ สำหรับผู้ที่ฝึกงานได้กำหนดไว้เป็นกลุ่ม T แต่ถ้าหากจะนับรวมเป็นอาชีพให้พิจารณาว่าฝึกงานในสาขาอาชีพใดให้จัดจำแนก ไว้ตามงานอาชีพที่ทำการฝึกนั้น (http://www.doe.go.th) หมวดใหญ่ 1 ผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการระดับอาวุโส ผู้จัดการ ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้บัญญัติกฎหมาย รัฐบาลแหละผู้จัดการของวิสาหกิจและองค์การต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่ พิจารณาตัดสินใจ กำหนดวิทีการ กำกับดูแล หรือแนะนำเกี่ยวกับนโยบายเกี่ยวกับรัฐบาลในระดับต่างๆ หรือนโยบายขององค์กร บัญญัติกฎหมาย กฎและระเบียบสาธารณะชนต่างๆ เป็นตัวแทนของรัฐบาลหรือปฏิบัติงานแทนในนามของรัฐบาลรวมถึงพรรคการเมือง สหภาพ วิสาหกิจ และองค์กรต่างๆ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 11. ผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการระดับอาวุโส 12. ผู้จัดการบริษัท เจ้าหน้าที่บริหารของหน่วยงานเองชน 13. ผู้จัดการทั่วไป (จำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม :ISIC) หมวดใหญ่ 2 ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่าง ๆ ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ที่ทำงานวิเคราะห์ วิจัย รวมถึงการสร้างแนวคิดทฤษฎีใหม่ การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ให้คำแนะนำความรู้ทางวิชาชีพ วิชาการด้านวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์กายภาพ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ กีฬาและศิลปะ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 21. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ 22. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์เกียวกับสิ่งมีชีวิตและสุขอนามัย 23. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการสอน 24. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านอื่น ๆ หมวดใหญ่ 3 ช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ที่ทำงานทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าวิจัย และการประยุกต์ใช้ความคิดและวิธีปฏิบัติงานด้านวิทยาศาสตร์และศิลปะ เช่น วิทยาศาสตร์กายภาพ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์การแพทย์ สังคมวิทยา มนุษยศาสตร์ การศึกษา ศาสนา ศิลปะ และกีฬา รวมถึงการควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติงานอื่น ๆ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 31. ผู้ปฏิบัติงานเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์กายภาพและวิศวกรรมศาสตร์ 32. ผู้ปฏิบัติงานด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต และสุขอนามัย 33. ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการสอน 34. ปฏิบัติงานเทคนิคที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ หมวดใหญ่ 4 เสมียน เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล ตัวเลขและสถิติในเรื่องต่าง ๆ อาจเป็นเจ้าหน้าที่ในห้องสมุด ไปรษณีย์ สำนักงาน ผู้ที่ให้บริการลูกค้าทางด้านการเงินและข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการควบคุมดูแลปฏิบัติงานอื่น ๆ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 41. เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน เสมียนสำนักงาน 42. เจ้าหน้าที่บริการลูกคา หมวดใหญ่ 5 พนักงานบริการ พนักงานขายในร้านค้าและตลาด ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ให้บริการต่าง ๆ ในระหว่างการเดินทาง การดูแลบ้านเรือน การจัดเตรียมและการบริการอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ การดูแลเด็ก การรักษาพยาบาลเบื้องต้นและการดูแลอื่น ๆ ในบ้านเรือนหรือสถานที่ต่าง ๆ การให้บริการส่วนบุคคล เช่น การเสริมสวย การทำนายโชคชะตา การป้องกันภัยต่อบุคคลและทรัพย์สินอันเกิดจากอัคคีภัยและการกระทำผิดกฎหมาย งานแสดงแบบเพื่อการโฆษณา และงานสร้างสรรค์ด้านศิลปะ การแสดงและการสาธิตสินค้าเพื่อการขาย กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 51. ผู้ให้บริการส่วนบุคคลและบริการด้านความปลอดภัย 52. นายแบบ นางแบบ พนักงานขาย และพนักงานสาธิตสินค้า หมวดที่ 6 ผู้ปฏิบัติงานฝีมือด้านการเกษตรและประมง ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ที่มีฝีมือในด้านการเกษตรและการประมงทำงานปลูกพืช เลี้ยงสัตว์หรือใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ล่าสัตว์ และประมง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตสำหรับการจำหน่ายและการดำรงชีพ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 61. ผู้ปฏิบัติงานฝีมือด้านการเกษตรและการประมงเพื่อการขาย 62. ผู้ปฏิบัติงานฝีมือด้านการเกษตรและประมงเพื่อการดำรงชีพ หมวดที่ 7 ผู้ปฏิบัติงานโดยใช้ฝีมือในธุรกิจต่าง ๆ ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่ ได้แก่ ผู้ที่ใช้ฝีมือและความชำนาญเฉพาะด้านมาประยุกต์ใช้กับงานในด้านการทำเหมืองแร่ การก่อสร้าง การขึ้นรูปโลหะการติดตั้งและการปรับใช้เครื่องจักร การใช้ฝีมือในงานหัตถกรรม การพิมพ์ ละงานฝีมืออื่น ๆ รวมถึงการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องจักรหรือเครื่องมือเพื่อการใช้งานและการควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติงานอื่น ๆ กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 71. ผู้ปฏิบัติงานในเหมืองแร่และงานก่อสร้าง 72. ผู้ปฏิบัติงานด้านโลหะ เครื่องจักรและงานอื่นที่เกี่ยวข้องกัน 73. ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำ งานหัตถกรรม งานการพิมพ์และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 74. ผู้ปฏิบัติงานที่ใช้ฝีมืออื่น ๆ หมวดใหญ่ 8 ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน ผู้ควบคุมเครื่องจักรและผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ที่ควบคุมดูแลเครื่องจักรและอุปกรณ์ ณ จุดที่เครื่องจักรทำงานหรือโดยวิธีการควบคุมจากจุดอื่น ในงานอุตสาหกรรมและงานกสิกรรม รวมถึงผู้ที่ทำงานด้านการบังคับและขับเคลื่อนรถไฟ ยานยนต์หรือเครื่องจักรและอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ ผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ การแปรูปโลหะ อุตสาหกรรม เครื่องแก้ว เซรามิก ยาง ไม้ พลาสติก กระดาษ สิ่งทอ ขนสัตว์ เครื่องหนัง และการผลิตอาหาร เป็นต้น กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 81. ผู้ควบคุมเครื่องจักรประจำที่ภายในโรงงาน 82. ผู้ควบคุมเครื่องจักรและผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ 83. ผู้ควบคุมการขับเคลื่อนยานยนต์และเครื่องจักรที่เคลื่อนที่ได้ หมวดที่ 9 อาชีพงานพื้นฐาน ผู้ปฏิบัติงานอาชีพในหมวดใหญ่นี้ ได้แก่ ผู้ที่ทำงานเรียบง่ายและเป็นประจำหรือทำซ้ำ ๆ หากมีการใช้เครื่องมือก็จะเป็นเครื่องมือแบบใช้มือถือ ไม่ซับซ้อนและใช้แรงกาย อาชีพในหมวดนี้รวมถึง ผู้ขายสินค้าและให้บริการตามท้องถนน ที่สาธารณะ บริการทำความสะอาด ซักล้าง รีดผ้า ดูแลบ้านพัก ห้องเช่า โรงแรม สำนักงานและอาคารสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ บริการรับส่งข้อมูล เอกสาร ขนสัมภาระ เฝ้าประตู ยามรักษาการณ์ในสถานที่ต่าง ๆ กวาดถนน ขนขยะ รวมถึงการปฏิบัติงานเรียบง่ายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรม การเกษตร ประมง ล่าสัตว์ เหมืองแร่ ก่อสร้าง การผลิตและประกอบสินค้าด้วยมือ รวมทั้งการขับเคลื่อนยานพาหนะด้วยแรงกาย เช่น รถเข็น สามล้อถีบ เป็นต้น กลุ่มอาชีพในหมวดใหญ่ มีดังนี้ 91. อาชีพงานพื้นฐานต่าง ๆ ด้านการขายและการให้บริการ 92. แรงงานด้านเกษตร ประมงและงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 93. แรงงานเหมืองแร่ ก่อสร้าง การผลิตและการขนส่ง |