การที่ลูกหนี้จะเป็น NPL หรือเป็น"หนี้เน่า"ได้นั้น เกิดขึ้นจากการที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้เป็นเวลานานติดต่อกันถึง 3เดือน แล้วหลังจากนั้น สถานะของลูกหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นหนี้ NPL ทันที Show
NPL หมายถึง หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan) หรือที่เรียกกันว่าหนี้เสีย ซึ่งเกิดจากลูกหนี้เงินกู้ของสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่สามารถที่จะชำระดอกเบี้ยและเงินต้นให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยให้กู้เป็นระยะเวลาเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป โดยมีหลักการพิจารณาลูกหนี้ว่ามีการผิดนัดเกิน 3 เดือนหรือไม่ หากเกินจะถือว่าเป็นลูกหนี้ NPL ในทันที ประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรสำหรับลูกหนี้ที่ใช้วิธีหยุดจ่าย แต่ถ้าหากวันใดที่ลูกหนี้ได้ทำการจ่ายปิดบัญชีหนี้จนหมดแล้ว (โดยไม่สนใจว่าลูกหนี้จะจ่ายปิดบัญชีด้วยวิธีการ Haircut หรือด้วยวิธีการใดๆก็ตาม รวมทั้งการขายหนี้เน่าของลูกหนี้ออกไปด้วย) ลูกหนี้ก็จะต้องติด Blacklist อยู่ต่อไปอีกแค่ 3ปี เท่านั้น แล้วหลังจากนั้น ประวัติหนี้เสียที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปจนหมดสิ้น แถมกฏหมายฉบับใหม่ของเครดิตบูโร ยังเขียนไว้ด้วยอีกว่า ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายชำระหนี้คืนเลยก็ตาม และเจ้าหนี้ก็ไม่มีการขายหนี้ออกไปด้วย...ก็กำหนดให้ลูกหนี้ต้องติด"บัญชีดำ"(Blacklist)อยู่ในเครดิตบูโร เพียงแค่ 8ปีเท่านั้น หากเมื่อเกิน 8ปีไปแล้ว ต้องทำการลบล้างประวัคิเสีย(Blacklist)ของลูกหนี้ ออกจากระบบข้อมูลของเครดิตบูโรทันที *** กำหนดไว้อยู่ใน ข้อ ๑๘ (๒) และ (๓) ของราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง *** ผมเคยอธิบายไว้มานานแล้ว อยู่ในกระทู้นี้ครับ เหมือนเกิดใหม่"ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศชัด ล้างประวัติลูกหนี้แบล็คลิสต์ 6 แสนราย ดังนั้น...ใครก็ตามที่ติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรมานานจนครบ 8ปีแล้ว ประวัติ Blacklist (บัญชีดำ) ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปทันทีตามที่กฎหมายฉบับใหม่ได้บัญญัติเอาไว้ ไม่มีใครเขาติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรไปจนตลอดชีวิตหรอกครับ ถึงแม้จะไม่จ่ายหนี้เลยก็ตาม อ้างอิงข้อมูลจาก ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20 พลาดท่าติดแบล็คลิสต์เสียแล้ว แบบนี้จะทำอย่างไรดี มีวิธีแก้ได้บ้างไหม? จริงหรือเปล่า ที่เขาว่าติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ทำให้กู้สินเชื่อ หรือสมัครบัตรเครดิตต่าง ๆ ไม่ผ่าน แล้ว เครดิตบูโร เช็คอะไรบ้างนะ? วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณไปหาคำตอบกัน! รู้จักกันให้มากขึ้น กับ เครดิตบูโรเครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิต (Credit Bureau) คือ บริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้งานทั่วโลก คอยทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่ง มีจุดประสงค์เพื่อเป็นฐานข้อมูลวัดระดับความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้า เช่น ข้อมูลการใช้บัตรเครดิต, ประวัติชำระบัตรเครดิตจากธนาคารต่าง ๆ , รายงานความเคลื่อนไหวเครดิต เป็นต้น โดยการจะเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตหรือเปิดเผยข้อมูลเครดิตนั้น จะต้องเป็นไปตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ทางเครดิตบูโรจะจัดเก็บข้อมูลทางการเงิน ประวัติการทำธุรกรรม หรือการชำระหนี้ไว้ไม่เกิน 3 ปี หากชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว สถานะบัญชีจะขึ้นเป็น ปิดบัญชี และแสดงข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโรไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ได้รับรายงานข้อมูลการปิดบัญชี หรือให้สรุปเข้าใจแบบง่าย ๆ เครดิตบูโรไม่ใช่สถานะผิดปกติ ภาระชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดอะไรทั้งนั้น แต่เป็นการเก็บข้อมูล เพื่อให้สถาบันการเงินใช้เช็กเครดิตต่าง ๆ ของลูกค้าของตน ว่ามีหนี้สินมากน้อยแค่ไหน เป็นลูกหนี้ที่ดีหรือไม่ นั่นเอง เบื้องต้นแล้ว เราสามารถเช็คแบล็คลิสต์ เครดิตบูโรของตนได้ง่าย ๆ ดังนี้ หากเป็นบุคคลธรรมดา มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ฉบับ/คน/ครั้ง สามารถตรวจเครดิตบูโรได้ที่
หากเป็นนิติบุคคล มีค่าธรรมเนียม 200 บาท/ฉบับ/ครั้ง สามารถตรวจสอบเครดิตบูโร ได้ที่
นอกจากเอกสารที่จะจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์แล้ว ปัจจุบันขณะที่มีโรคโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ บางแห่งที่ให้คุณได้รอรับผลตรวจสอบทางออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชันของแต่ละธนาคาร หรือทางอีเมล ได้อีกด้วย โดยต้องเสียค่าธรรมเนียม 150 บาท เช็คแบล็คลิสต์เครดิตบูโร มีจริงไหม ส่งผลเสียอะไรต่อเราบ้าง?หลายคนมักเข้าใจว่า การติดเครดิตบูโร หมายถึง การติดแบล็คลิสต์ต่าง ๆ ทำให้การกู้ขอสินเชื่อ ทำบัตรเครดิต หรือทำธุรกรรมด้านการเงินใด ๆ ลำบาก และถูกปฎิเสธได้ง่าย แต่แท้จริงแล้ว เครดิตบูโรเป็นเพียงบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติที่คอยเก็บรวบรวมข้อมูลด้านการเงินตามความจริงเท่านั้น หากถามว่า เครดิตบูโร เช็คอะไรบ้าง จะเน้นไปที่ข้อมูลธุรกรรมด้านการเงิน และไม่มีหน้าที่ขึ้นแบล็คลิสต์แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่การกู้ยืมขอสินเชื่อ หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ถูกปฎิเสธ อาจมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการ ที่ทางสถาบันการเงินมองว่ามีความเสี่ยง เช่น รายได้, อาชีพ, การออมเงิน, การลงทุน ไปจนถึงบุคคลหรือหลักทรัพย์ที่เรานำมาค้ำประกัน เป็นต้น สรุปแล้ว เครดิตบูโรไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เป็นเพียงการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาในการอนุมัติธุรกรรมด้านการเงินเท่านั้นดังนั้น หากเห็นว่ามีบัตรเครดิต หรือสินเชื่ออื่น ๆ ที่เขียนแจ้งไว้ว่าไม่เช็กเครดิตบูโร หมายความว่า สถาบันการเงินแห่งนั้น ๆ อาจเลือกพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ทดแทน อย่าง บัญชีต้องมีเงินหมุนเวียนสม่ำเสมอ, มีสลิปเงินเดือน หรือหลักฐานด้านการเงินว่ามีรายได้ที่มั่นคง, ไม่มีหนี้สินเยอะเกินที่กำหนด เป็นต้น และในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง สามารถจยื่นคำขอพร้อมแสดงหลักฐานประกอบเพื่อให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินพิจารณาแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องได้ หรือขอให้ทางสถาบันเงินพิจารณาคำขอกู้ใหม่ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเช็คแบล็คลิสต์แต่อย่างใด แต่ต้องทำภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับคำปฏิเสธการขอสินเชื่อที่มีข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่มีผลก็จริง แต่อยากแก้เครดิตให้ดีขึ้น ทำอย่างไรดี?บอกเลยว่าแนวทางการกู้เครดิตเสียให้กลับมามีดี ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด! โดยคุณสามารถจัดการได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
ทั้งนี้ก็เพื่อหาปรึกษาร่วมกันกับทางสถาบันทางการเงิน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ หาทางออกในการชำระหนี้สินให้หมดได้ไวขึ้นนั่นเอง
พยายามเคลียร์หนี้สินต่าง ๆ ให้ตรงต่อเวลา ครบถ้วน เพื่อสร้างเครดิตใหม่ และล้างชื่อไม่ดีออกจากเครดิตบูโร หลังจากที่เคลียร์หนี้เสียเรียบร้อยแล้ว ทางเครดิตบูโรจะทำการลบประวัติเสียออกให้ภายใน 3 ปี โดยอัตโนมัติ เมื่อเคลียร์หนี้สินเรียบร้อยแล้ว แต่ยังติดว่ายังมีชื่ออยู่ในเครดิตบูโร เพราะต้องรอระยะเวลาในการลบข้อมูลออก แต่คุณเองก็มีความจำเป็นต้องขอสินเชื่อ หากจำเป็นแบบนี้ คุณอาจจะ
อย่าง สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ บัตรเครดิต ที่ แรบบิท แคร์ นอกจากบริการรวบรวมสินเชื่อที่น่าสนใจ สมัครง่าย อนุมัติไว มาพร้อมโปรโมชั่นเด็ด ๆ แล้ว ยังมี บัตร เงินสด สินเชื่อ รายย่อยสำหรับผู้มีประวัติติดแบล็คลิสต์ อีกด้วย! ให้คุณได้อุ่นใจ ไร้กังวล เมื่อจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน คลิกเลย! ผ่อนสบาย! ซื้อประกันรถทุกชั้น ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน เลือกยี่ห้อรถของคุณ Toyota Nissan Mitsubishi Mazda Isuzu Honda ชื่อนามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ของแรบบิท แคร์ หรือ เอเชียไดเร็ค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์* จะติดต่อกลับหาคุณภายใน 24 ชม.
Δ เครดิตบูโร บทความแคร์การเงินของเราแคร์การเงินของเราอัปเดตภาษีที่ดิน 2566 ใครต้องจ่ายบ้าง จ่ายที่ไหน จ่ายเมื่อไหร่ ที่นี่มีคำตอบ!ขึ้นปีใหม่ 2566 หลายคนอาจจะกำลังคิดเรื่องการเสียภาษีของปีนี้ ซึ่งบางคนนอกจากจะต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาแล้ว ยังต้องเสียภาษีที่ดินอีกด้วย Janamon 19/01/2023 แคร์การเงินของเราอัปเดตมาตรการ LTV ปี 2566 กู้บ้านปีนี้ต้องใช้เงินดาวน์เท่าไหร่สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้าน คงอาจจะเคยได้ยินคำว่า “มาตรการ LTV” กันมาบ้างแล้ว และหลายคนอาจจะทราบว่าในปี 2566 นี้ มีการยกเลิกการปลดล็อก LTV Janamon 11/01/2023 แคร์การเงินของเราภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร? ใครต้องจ่าย? ยื่นภาษีออนไลน์ได้หรือไม่?แน่นอนว่าสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนผู้มีเงินได้จากการทำงานทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือ การยื่นภาษี เพื่อนำจ่ายตามที่กฎหมายกำหนด |