HIGHLIGHTS ผมสรุปขั้นตอนง่ายๆเพียง 4 ขั้ันตอน คือ (1.)แยกสมุดบัญชีส่วนตัวกับกิจการออกจากกันเด็ดขาด (2.)จัดทำรายงานเงินสดรับ-จ่าย (3.)ทำความเข้าใจกับค่าใช้จ่ายที่สรรพากรยอมให้นำมาใช้ได้ และ (4.)เก็บเอกสารประกอบการบันทึกค่าใช้จ่ายครับ การหักค่าใช้จ่ายมี 2 แบบคือ 1.การหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา 2.การหักค่าใช้จ่ายจริง แต่ต้องมีหลักฐานค่าใช้จ่ายด้วยครับ หลายคนอาจจะกุมขมับว่าการหักค่าใช้จ่ายตามจริง จะต้องทำยังไงหรือมีหลักฐานอะไร วันนี้ผมเลยมาสรุปขั้นตอนง่ายๆเพียง 4 ขั้ันตอนเท่านั้น สำหรับการยื่นหักค่าใช้จ่ายตามจริงครับ Skip to content เอกสารประกอบการหักค่าใช้จ่ายจริง ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากรมสรรพากรได้ออกตัวอย่างเอกสารการหักค่าใช้จ่ายจริงของบุคคลธรรมดามาครับ พรี่หนอมเห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาสรุปให้ฟังกันอีกที โดยส่วนตัวสิ่งที่แนะนำสั้นๆ สำหรับบุคคลธรรมดาที่อยากจะหักค่าใช้จ่ายจริง ขอแนะนำตามนี้ครับ
บัญชีรายรับรายจ่าย คือ หัวใจสำคัญของธุรกิจ ต้องทำ ต้องทำ และต้องทำ ย้ำ 3 คำนี้ไว้ครับ แต่คำถามว่าจะทำยังไงดี กรมสรรพากรมีตัวอย่างให้ครับ คลิกhttp://www.rd.go.th/publish/38052.0.html หลักฐานที่ดีที่สุดในการใช้หักค่าใช้จ่ายจริง คือ ใบเสร็จรับเงิน ดังนั้น ถ้ามีการซื้ออะไรทุกอย่าง อย่าลืมขอใบเสร็จนะครับผม อีกตัวหนึ่งที่ดีไม่แพ้กัน คือ ใบกำกับภาษี ครับ เพราะเป็นเอกสารที่ยืนยันว่าเราซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มถูกต้องตามกฎหมาย และถ้าหากเราเป็นบุคคลธรรมดาที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จำเป็นต้องเอามาใช้เป็นหลักฐานในการขอคืนภาษีด้วยนะครับ มีหลายคนบอกว่าบิลเงินสดใช้ไม่ได้ แต่ที่จริงคือใช้ได้ครับ เพียงแค่ต้องมีรายละเอียดที่ระบุชัดเจนว่าเราเป็นคนซื้อสินค้าหรือบริการ พร้อมรายละเอียดครบถ้วน บิลเงินสดก็จะใช้ได้ไม่แพ้ใบเสร็จรับเงินเลยล่ะครับ ตัวสุดท้าย คือ ใช้ในกรณีที่ผู้รับเงิน (คนขายหรือให้บริการ) ไม่สามารถออกเอกสารให้เราได้ครับ ให้เราทำใบสำคัญรับเงินให้เขาเซ็น พร้อมแนบรายละเอียดสำคัญๆที่เป็นหลักฐานได้ เช่น สำเนาบัตรประชาชน หลักฐานการเซ็นรับเงินจากเรา หรือหลักฐานการจ่าย แบบนี้ก็ใช้ได้เช่นเดียวกันครับ
Related Story |