หน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรในองค์กร แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ Show 1. ฝ่ายปฏิบัติงาน (line position) มีหน้าที่ปฏิบัติงานโดยตรงให้บรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เช่น ผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้จัดการฝ่ายผลิต เป็นต้น 2. ฝ่ายสนับสนุน (staff position) มีหน้าที่คอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำปรึกษา และสนับสนุนฝ่ายปฏิบัติงานให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ลุล่วงได้ เช่น ผู้จัดการแผนกบัญชี ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ผู้จัดการฝ่ายบุคลากร ผู้จัดการฝ่ายแผนและงบประมาณ เป็นต้น นักบัญชีเพื่อการจัดการเป็นฝ่ายสนับสนุนทำหน้าที่รวบรวมและจัดเตรียมข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย นอกจากนี้ บางองค์กรอาจกำหนดสายการจัดองค์กรให้มีผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งรองประธานฝ่ายการเงิน (chief finance officer: CFO) เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านการเงินและด้านการบัญชี ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่ของบุคลากรเป็น 2 ฝ่ายคือ ผู้จัดการฝ่ายบัญชี (controller or comptroller) และผู้จัดการฝ่ายการเงิน (treasurer) (Garrison & Noreen. 2000) ดังนี้ 1. ผู้จัดการฝ่ายบัญชี มีหน้าที่จัดการข้อมูลทั้งด้านการบัญชีการเงินและการบัญชีเพื่อการจัดการ เช่น ออกแบบระบบบัญชี จัดทำงบประมาณ วางแผนภาษีอากร จัดทำรายงานการประเมินผลการปฏิบัติงาน และวิเคราะห์ข้อมูลทางการบัญชีเสนอผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น 2. ผู้จัดการฝ่ายการเงิน มีหน้าที่จัดการด้านสินทรัพย์และเงินทุนขององค์กรและรับผิดชอบด้านการบริหารความเสี่ยง สรุปว่า นักบัญชีเพื่อการจัดการเป็นฝ่ายสนับสนุน ทำหน้าที่รวบรวมและจัดเตรียมข้อมูลทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้จัดการฝ่ายบัญชีและผู้จัดการฝ่ายการเงินโดยมีรองประธานฝ่ายการเงิน หรือ CFO เป็นผู้บริหารระดับสูงของงานด้านการเงินและบัญชี บริหารงานฝ่ายบัญชีการบริหารงานฝ่ายบัญชี คือการวางแผน กำหนดหน้าที่ มอบหมาย ประสานงาน ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการบัญชี การเงิน ภาษีอากร ให้นักบัญชีหรือพนักงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรกำหนดโครงสร้างการบริหารงานฝ่ายบัญชีขององค์กรองค์กรขนาดเล็กจะใช้นักบัญชีไม่มากนัก เพียง 1 หรือ 2 คนเท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ และภาระงานที่ไม่มากเท่าองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ การบริหารจัดการฝ่ายบัญชีจึงทำได้โดยไม่ยุ่งยากซับซ้อนองค์กรขนาดกลางโดยมากมีนักบัญชีไม่เกิน 5 คน ทำหน้าที่รวบรวมเอกสารและบันทึกบัญชี มีสมุห์บัญชีทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร บันทึกรายการค้าและรายการภาษี การจัดทำงบการเงินต่าง ๆ เพื่อส่งรายงานให้กับผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีโครงสร้างการบริหารงานบัญชี ตามลำดับ ดังนี้ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี > ผู้จัดการฝ่ายบัญชี > สมุห์บัญชี > พนักงานบัญชีผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีองค์กรขนาดใหญ่จะมีผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี ทำหน้าที่ควบคุม วางแผน ด้านบัญชีและการเงินทั้งหมดขององค์กรผู้จัดการฝ่ายบัญชี เป็นตำแหน่งรองจากผู้บริหารฝ่ายบัญชี ผู้จัดการจะทำหน้าที่ รับนโยบาย ดูแล ตรวจสอบ จัดการทางด้านบัญชีภาษีและการเงิน ทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลสมุห์บัญชี ทำหน้าที่บันทึกข้อมูล จัดทำเอกสารทางบัญชีและภาษี จัดทำงบการเงินและจัดทำรายงานทางการเงินตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ปิดบัญชี ตรวจสอบและยื่นแบบรายงานภาษี ติดต่อประสานงานกับกรมสรรพากรพนักงานบัญชีเป็นพนักงานในระดับปฏิบัติการ องค์กรขนาดใหญ่จะแบ่งพนักงานบัญชีเป็นฝ่ายบัญชีต้นทุน มีหน้าที่ทำบัญชีต้นทุนของผลิตภัณฑ์ สินค้าคงเหลือ สรุปยอด เป็นต้นฝ่ายบัญชีเจ้าหนี้ มีหน้าที่เช่น ตรวจสอบเอกสารการจ่ายเงินต่าง ๆ สรุปยอด ทำบัญชีการซื้อ และฝ่ายลูกหนี้ มีหน้าที่ จัดทำบัญชีเกี่ยวกับการรับชำระหนี้จากลูกหนี้ สรุปยอดขาย จัดทำรายงานภาษีขาย เป็นต้นรับวางระบบบัญชี วางระบบงานฝ่ายบัญชี ครบวงจรหน้าที่ของผู้บริหารงานฝ่ายบัญชี บริหารงานฝ่ายบัญชี1. กำหนดนโยบายและวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนเพราะเป็นแนวทางหลักของงานที่ต้องยืดมั่นและปฏิบัติ มีการศึกษาวิจัยความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ ปรับปรุงการทำงาน ศึกษา พัฒนา ปรับใช้เครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านบัญชี2. การกำหนดความคาดหวัง มาตรฐาน เป้าหมายของงานด้านบัญชีเป็นการศึกษาความต้องการของลูกค้าและฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อความชัดเจนในการดำเนินงาน3. การกำหนดกระบวนการทำงานด้านบัญชีต้องมีความชัดเจน ทั้งในด้านมาตรฐานและเป้าหมายของงานเพื่อให้สามารถสร้างความเชื่อมั่น ผ่านการใช้บุคลากรและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ4. การวางแผนงานด้านบัญชีเพื่อกำหนดการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม พอเพียง และเกิดประสิทธิภาพของการทำงาน มีแผนงานหลัก แผนงานประจำปี หรือแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้5. มีการปรับปรุงงานด้านบัญชีอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาไว้ซึ่งมาตรฐาน ความถูกต้อง และความต้องการของลูกค้า ปรับตัวตามสภาพการแข่งขันในตลาด สภาวะของเศรษฐกิจและสังคม ที่ไม่คงที่แน่นอน6. สร้างระบบงาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน เช่น ระบบการสื่อสาร เพื่อเชื่อมโยง ประสานงานให้กับแต่ละฝ่าย ระบบประเมินคุณภาพและตรวจสอบคุณภาพ ระบบการฝึกอบรมพนักงาน ระบบลูกค้าสัมพันธ์ เป็นต้นบริการรับตรวจสอบบัญชี โดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)การพัฒนาบุคลากรฝ่ายบัญชีการบริหารงานฝ่ายบัญชีจะต้องคำนึงถึงแนวคิดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ดีของนักบัญชี การปรับตัวและพัฒนาตนเอง เพื่อให้เกิดแนวทางในการบริหารที่ชัดเจนเหมาะสมบรรลุเป้าหมายขององค์กรที่ตั้งไว้1.
นักบัญชีต้องเป็นผู้ที่ตื่นตัวและแสวงหาความรู้ให้มาก ทั้งในศาสตร์ด้านบัญชี และความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี เพราะข้อมูลบัญชีเป็นข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความต้องการของผู้ใช้ข้อมูลก็เปลี่ยนไป ดังนั้นจึงต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ โปร่งใส สะท้อนภาพจริงขององค์กรได้2.
นักบัญชีต้องเป็นผู้เรียนรู้และเข้าใจถึงแหล่งที่มาและที่ไปของข้อมูลตลอดจนกระบวนการของการเกิดรายการทางบัญชี เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจใหม่ๆได้เกิดขึ้นมา ข้อกำหนดหรือนโยบายของภาครัฐได้มีการเปลี่ยนแปลงไป นักบัญชีต้องมีความเข้าใจในบทบาทของตนเองจากการเป็นผู้บันทึกตัวเลข มาเป็นผู้ที่มีส่วนในการวิเคราะห์และกำหนดตัวเลขเหล่านั้นมากขึ้น3.นักบัญชีต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีสารสนเทศที่เปลี่ยนแปลง |