จะเห็นว่าการที่เราจะสร้างประโยค Passive Voice ได้นั้น นอกจากต้องรู้โครงสร้างแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงก็คือ V3 ของคำแต่ละคำนั่นเองค่ะ ” Show
English Parks Unlimited English For Your Success เรียนไม่อั้น ครบทุกทักษะ สอนสดทุกวัน Top Places To Buy Tadalista เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงเคยสับสนว่า Active Voice กับ Passive Voice คืออะไร ใช้ต่างกันอย่างไร มีความสำคัญกับการใช้ในชีวิตประจำวันมากน้อยขนาดไหน แม้ว่าเป็นเรื่องที่เรียนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่หลายๆ คนก็ยังสับสนวิธีการใช้อยู่ วันนี้พี่ๆ Interpass จะมาสอน Active Voice และ Passive Voice ตั้งแต่หลักโครงสร้าง วิธีใช้อย่างละเอียด พร้อมยกตัวอย่างประโยคที่เข้าใจง่าย ไปดูกันเลย! Active Voice คืออะไรActive Voice คืออะไร? ให้เริ่มจากการจำหลักง่ายๆ ก่อนว่า Active = ผู้กระทำ เป็นคนทำสิ่งนั้นๆ เอง ยกตัวอย่างประโยค
เมื่อรวมประโยคแล้วจะแปลว่า ฉันคิดถึงแมวของฉัน (I เป็นประธานของประโยค = คนที่คิดถึงแมว) จึงใช้ Active Voice
เมื่อรวมประโยคแล้วจะแปลว่า เธอรักฉัน (ประธานเป็นผู้กระทำเอง = เป็นผู้รัก ไม่ได้เป็นผู้ถูกรัก) ดังนั้นประธานเป็นผู้กระทำ จะต้องใช้ Active Voice นั่นเอง โครงสร้างไวยากรณ์และตัวอย่างActive Voice จะใช้หลักโครงสร้างไวยากรณ์ตามปกติเลย ก็คือ Subject + Verb + Object แต่จะมีจุดเปลี่ยนไป ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ คือ กริยาของประโยค (Verb) ที่จะผันไปตาม Tenses หากน้องๆ คนไหนยังสับสนวิธีการใช้ Tenses สามารถตามไปดูคลิปสรุปTenseทั้ง12ใช้ยังไงได้เลย! Present Simpleโครงสร้าง Subject + Verb 1 ตัวอย่างประโยค I make a cupcake แปลว่า ฉันทำคัพเค้ก ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + make = กริยา (verb 1) + cupcake = object กรรมของประโยค Present Continuousโครงสร้าง Subject + is/ am/ are + Verb -ing ตัวอย่างประโยค I’m making a cupcake แปลว่า ฉันกำลังทำคัพเค้ก ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + am making = กริยา (is/am/are + verb-ing) + cupcake = object กรรมของประโยค Present Perfectโครงสร้าง Subject + has/ have + Verb 3 ตัวอย่างประโยค I have made a cupcake แปลว่า ฉันเพิ่งทำคัพเค้กเสร็จ (เพิ่งทำเสร็จเลย) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + have made = กริยา (has/have + verb 3) + cupcake = object กรรมของประโยค Present Perfect Continuousโครงสร้าง Subject + has/ have + been + Verb -ing ตัวอย่างประโยค I have been making a cupcake แปลว่า ฉันกำลังทำคัพเค้ก (ทำมานาน และยังคงกำลังทำอยู่) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + have been making = กริยา (has/ have been + verb -ing) + cupcake = object กรรมของประโยค Past Simpleโครงสร้าง Subject + Verb 2 ตัวอย่างประโยค I wrote a book แปลว่า ฉันเคยเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง (ในอดีต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + wrote = กริยา (verb 2) + book = object กรรมของประโยค Past Continuousโครงสร้าง Subject + was/were + Verb -ing ตัวอย่างประโยค I was writing a book แปลว่า ฉันกำลังเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง (ในอดีต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + was writing = กริยา (was/ were + verb -ing) + book = object กรรมของประโยค Past Perfectโครงสร้าง Subject + had + Verb 3 จะใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และจบลงไปแล้ว (Past Perfect) จากนั้นมีเหตุการณ์ในอดีตที่ตามมา (Past Simple) ตัวอย่างประโยค I had written a book แปลว่า ฉันเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง (เขียนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งในอดีต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + had written = กริยา (had + verb 3) + book = object กรรมของประโยค Past Perfect Continuousโครงสร้าง Subject + had been + Verb -ing จะใช้คล้ายๆ กับ Past Perfect มีการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และจบลงไปแล้ว (Past Perfect) จากนั้นมีเหตุการณ์ในอดีตที่ตามมา (Past Simple) ตัวอย่างประโยค I had been writing a book แปลว่า ฉันกำลังเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง (กำลังเขียนอยู่อย่างต่อเนื่องในอดีต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + had been writing = กริยา (had been + verb -ing) + book = object กรรมของประโยค Future Simpleโครงสร้าง Subject + will/ shall + Verb 1 ตัวอย่างประโยค I will write a book แปลว่า ฉันจะเขียนหนังสือ (ในอนาคต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + will write = กริยา (will/ shall + verb 1) + book = object กรรมของประโยค Future Continuousโครงสร้าง Subject + will be + Verb -ing ตัวอย่างประโยค I will be writing a book แปลว่า ฉันกำลังจะเขียนหนังสือ (ในอนาคต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + will be writing = กริยา (verb -ing) + book = object กรรมของประโยค Future Perfectโครงสร้าง Subject + will have + Verb 3 พูดถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดในช่วงอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต โดยจะไปจบในอนาคต) ตัวอย่างประโยค I will have written a book แปลว่า ฉันกำลังเขียนหนังสือ (เขียนอยู่ และจะใกล้เสร็จในอนาคต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + will have written = กริยา (will have + verb 3) + book = object กรรมของประโยค Future Perfect Continuousโครงสร้าง Subject + will have been + Verb -ing ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่ระบุได้ว่าได้ทำต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาเท่าใด และเหตุการณ์นั้นจะไปจบลงที่อนาคต ตัวอย่างประโยค I will have been writing a book แปลว่า ฉันจะเขียนหนังสือ (เขียนอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และจะไปจบในอนาคต) ในที่นี้ I = subject หรือประธานของประโยค + will have been writing = กริยา (will have been + verb -ing) + book = object กรรมของประโยค Passive Voice คืออะไรPassive Voice คือ ประโยคที่แสดงให้เห็นว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำ หรือไม่รู้ว่าผู้กระทำเป็นใคร แต่รู้ว่าใครเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่ง Passive Voice สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ จะเห็นได้จากบริบทสนทนาทั่วไป การเขียนนวนิยาย หรือแม้แต่การเขียนภาษาทางการอีกด้วย โครงสร้างไวยากรณ์และตัวอย่างสำหรับการใช้ Passive Voice ต้องมีโครงสร้าง Subject + Verb to be + Past Participle (Verb 3) อยู่เสมอ และตัวที่จะเปลี่ยนรูปร่างไปตาม Tenses ก็คือ Verb to be นั่นเอง ก่อนที่จะไปดูตัวอย่างประโยค น้องๆ จะต้องรู้จักPast Participle กันก่อน Past Participle คือ กริยาช่องที่ 3 ที่มีทั้งการเติม -ed ลงท้าย หรือผันรูปออกไปจากเดิมบางส่วน ซึ่งจะใช้กับการใช้ Passive Voice และ Perfect Tenses ซึ่งในการทำประโยคเป็น Passive Voice จะใช้ Past Participle วางหลัง Verb to be เพื่อแสดงว่า ประธานนั้น เป็นผู้ถูกกระทำนั่นเอง Present Simpleโครงสร้าง Subject + is/ am/ are + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A cupcake is made (by me) แปลว่า คัพเค้กถูกทำขึ้นโดยฝีมือฉัน ในที่นี้ A cupcake = subject หรือประธานของประโยค + is made = กริยา (is,am,are + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Present Continuousโครงสร้าง Subject + is/ am/ are + being +Verb 3 ตัวอย่างประโยค A cupcake is being made (by me) แปลว่า คัพเค้กกำลังถูกทำขึ้นโดยฝีมือฉัน ในที่นี้ A cupcake = subject หรือประธานของประโยค + is being made = กริยา (is,am,are + being + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Present Perfectโครงสร้าง Subject + has/ have + been + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A cupcake has been made (by me) แปลว่า คัพเค้กถูกทำโดยฝีมือฉัน (เพิ่งถูกทำเสร็จเลย) ในที่นี้ A cupcake = subject หรือประธานของประโยค + has been made = กริยา (has/ have + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Present Perfect Continuousโครงสร้าง Subject + has/ have + been + being + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A cupcake has been being made (by me) แปลว่า คัพเค้กกำลังถูกทำขึ้นโดยฝีมือฉัน (ถูกทำมานาน และยังคงกำลังทำอยู่) ในที่นี้ A cupcake = subject หรือประธานของประโยค + has been being made = กริยา (has/ have + been + being + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Past Simpleโครงสร้าง Subject + was/ were + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book was written (by me) แปลว่า หนังสือถูกเขียนโดยฉัน ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + was written = กริยา (was/ were + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Past Continuousโครงสร้าง Subject + was/ were + being + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book was being written (by me) แปลว่า หนังสือกำลังถูกเขียนโดยฉัน (ในอดีต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + was being written = กริยา (was/ were + being + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Past Perfectโครงสร้าง Subject + had + been + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book had been written (by me) แปลว่า หนังสือถูกเขียนโดยฉัน (ถูกเขียนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งในอดีต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + had been written = กริยา (had + been + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Past Perfect Continuousโครงสร้าง Subject + had + been + being + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book had been being written (by me) แปลว่า หนังสือกำลังถูกเขียนโดยฉัน (ถูกเขียนอย่างต่อเนื่องในอดีต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + had been being written = กริยา (had + been + being + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Future Simpleโครงสร้าง Subject + will/ shall + be + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book will be written (by me) แปลว่า หนังสือจะถูกเขียนโดยฉัน (ในอนาคต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + will be written = กริยา (will/ shall + be + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Future Continuousโครงสร้าง Subject + will + be + being + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book will be being written (by me) แปลว่า หนังสือกำลังจะถูกเขียนโดยฉัน (ในอนาคต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + will be being written = กริยา (will/ shall + be + being + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Future Perfectโครงสร้าง Subject + will + have + been + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book will have been written (by me) แปลว่า หนังสือกำลังถูกเขียนโดยฉัน (ถูกเขียนอยู่ และจะใกล้เสร็จในอนาคต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + will have been written = กริยา (will + have + been + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค Future Perfect Continuousโครงสร้าง Subject + will + have + been + being + Verb 3 ตัวอย่างประโยค A book will have been being written (by me) แปลว่า หนังสือกำลังถูกเขียนโดยฉัน (เขียนอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และจะไปจบในอนาคต) ในที่นี้ A book = subject หรือประธานของประโยค + will have been being written = กริยา (will + have + been + being + verb 3) + by me = object กรรมของประโยค รู้ได้ยังไงว่า Active Voice หรือ Passive Voice จะใช้ตอนไหนน้องๆ สามารถจำสูตรนี้ไปใช้ได้เลยว่า Active = ผู้กระทำเอง ส่วน Passive = ผู้ถูกกระทำ ซึ่งส่วนมากจะเห็นการใช้ Active Voice ในภาษาพูด เนื่องจากสื่อความหมายชัดเจน และฟังง่าย ในส่วนของ Passive Voice มักใช้ในงานเขียน ใช้ Active Voice ตอนไหนดีหลักการใช้ Active Voice มีดังนี้
ใช้ Passive Voice ตอนไหนดีหลักการใช้ Passive Voice มีดังนี้
เลี่ยง Passive Voice ตอนไหนดีการใช้ Passive Voice อาจทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหาที่เขียนได้ ให้หลีกเลี่ยงการใช้ในกรณี ดังนี้
เคล็ดลับอื่นๆเคล็ดลับอื่นๆ สำหรับการอ่าน หรือวิธีการเดาว่าต้องใช้ Active Voice หรือ Passive Voice ใส่ในประโยค ให้เริ่มจากการหาประธานของประโยคก่อนว่า ประธานคือใคร จากนั้นดูที่กรรมของประโยค แล้วลองแปลคำกริยาดูก่อนว่ามีความหมายว่าอะไร เช่น Question: I … (play) … football yesterday
I = Subject เป็นประธานของประโยค football = Objectหรือกรรมของประโยค จากประโยคจะแปลว่า ฉัน…(verb)…ฟุตบอลเมื่อวานนี้ ให้น้องๆ ลองเลือกใช้ดู หากเป็น Active Voice จะแปลว่า ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ หากใช้ Passive Voice จะได้คำว่า ฉันถูกเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ ดังนั้นให้ตัดข้อ B. was played ก่อนได้เลย เพราะฉัน = ประธาน จะต้องเป็นคนเล่นฟุตบอล ต่อมาให้ตัดข้อ C. will play ที่แปลว่า ฉันจะเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ เนื่องจาก will + verb 1 จะเป็นรูปใน Future Simple Tense คำตอบของข้อนี้ คือ ข้อ A. played นั่นเอง สลับใช้ประโยค Active Voice และ Passive Voice ต้องทำอย่างไรขั้นตอนในการเปลี่ยนจาก Active Voice เป็น Passive Voice
ยกตัวอย่างการเปลี่ยนประโยค I will buy a cat next year แปลว่า ฉันจะซื้อแมวปีหน้า ให้วนกลับไปดูขั้นตอนการเปลี่ยนทั้ง 3 ขั้นตอนก่อน จึงจะสามารถเปลี่ยนได้ ดังนี้
สรุป รู้กันไปแล้วว่า active voice และ passive voice คืออะไร และจะเห็นได้ว่าหลักการใช้ Active Voice และ Passive Voice นั้น เป็นเรื่องสำคัญมากในการใช้ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน น้องๆ ควรเข้าใจเนื้อหาเรื่องนี้ให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะเรื่องหลักการใช้ Passive Voice เป็นที่นิยมในงานเขียน รวมทั้งในข้อสอบภาษาอังกฤษอีกด้วย หากน้องๆ อยากพัฒนาทักษะการเขียนเพิ่มเติม หัดเขียนโดยใช้ Passive Voice ให้ถูกต้อง และอัพคะแนนสอบพาร์ทการเขียนของตนเอง สามารถเข้าไปดูทริคการเขียน Essay Writing ได้เลย และนอกจากนี้ สำหรับน้องๆ ที่อยากเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ ติวเข้มพร้อมสอบทุกสนาม พัฒนาทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน สามารถลงเรียนคอร์ส Writing for IELTS หรือ Speaking for IELTS กับทาง Interpassได้เลย! |