สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) เรียกโดยย่อว่า "สทศ" ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "National Institute of Educational Testing Service (Public Organization)" เรียกโดยย่อว่า "NIETS" จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2548 ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2548 ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Show สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นเป็นองค์การมหาชนเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิสามารถใช้ประโยชน์ทรัพยากรและบุคลากรได้สูงสุด มีความเป็นอิสระและหน้าด้าที่ขึ้นอยู่กับสายการบริหารของหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบการจัดการศึกษาจึงมีความเป็นกลาง เป็นสถาบันที่มีการกำหนดหลักการ นโยบาย มาตรการและเป้าหมาย โครงสร้างการบริหาร และการดำเนินกิจการ ความสัมพันธ์กับรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากร การเงิน การตรวจสอบ และการประเมินผลที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งสถาบันเพื่อบริหารจัดการและดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษา วิจัย และให้บริการ ทางด้านการประเมินผลทางการศึกษาและทดสอบทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านการทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติและนานาชาติ การจัดสอบ[แก้]
การบริหารงาน[แก้]สทศ. มีการบริหารงานในรูปแบบของคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ รายชื่อต่อไปนี้มีผลตั้งแต่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย
รายนามประธานคณะกรรมการบริหาร[แก้]สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รายนามประธานคณะกรรมการบริหาร วาระการดำรงตำแหน่ง 1. ดร.สงบ ลักษณะ พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2553 2. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ พ.ศ. 2553 - พ.ศ. 2558 3. ดร.ชาคร วิภูษณวนิช พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2562 4. นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน รายนามผู้อำนวยการ[แก้]ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีดังนี้ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง 1. รองศาสตราจารย์ ประทีป จันทร์คง 3 กันยายน พ.ศ. 2548 - 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 (รักษาการ) -. ดร.วิเชียร เกตุสิงห์ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2549 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 2. ศาสตราจารย์ ดร.อุทุมพร จามรมาน 2 ตุลาคม พ.ศ. 2549 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 (รักษาการ) 3. รองศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 (วาระแรก) 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 (วาระที่สอง) 4. ดร.ทรายทอง พวกสันเทียะ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561 - 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 (รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ) 5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริดา บุรชาติ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน ข้อวิพากษ์วิจารณ์[แก้]ข้อสอบโอเน็ต[แก้]สทศ.ได้รับการวิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับการออกข้อสอบผิดทุกปี รวมไปถึงการทำข้อสอบกำกวมในบทวิเคราะห์ หรือออกข้อสอบที่คำตอบถูกมากกว่า 1 ข้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชั้น ม.6 ที่ต้องใช้เป็นคะแนน 30% หรือคิดเป็น 9,000 คะแนนจากคะแนนรวมทั้งหมด 30,000 คะแนน ที่ทำให้นักเรียนบางส่วนไม่พอใจ และเกือบทุกปีข้อสอบโอเน็ตมักถูกนำเสนอแบบรายข้อผ่านทางรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ นอกจากนี้ยังมีกรณีข้อสอบโอเน็ตวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาปีการศึกษา 2553 ที่ตั้งคำถามเชิงคำถามเปิดเกี่ยวกับ นก นพวรรณ เลิศชีวกานต์ นักเทนนิสอาชีพหญิง จนภายหลังมีคนไปโพสต์คำถามนี้ในเฟสบุ๊คของ นก นพวรรณ ปรากฏว่าเจ้าตัวตอบไม่ตรงเฉลยกับ สทศ. ทั้งหมด กรณีตรวจข้อสอบผิดชุดในปีการศึกษา 2556 (โอเน็ตมีข้อสอบ 2 ชุดต่อหนึ่งวิชา) จนทำให้ต้องแจกคะแนนฟรีให้กับคนที่สอบอีกชุด แต่อีกกลุ่มกลับไม่ได้คะแนนฟรี ในข้อสอบโอเน็ตปีการศึกษา 2558 ได้มีการเฉลยข้อสอบรายวิชาสังคมศึกษาผิด 1 ข้อ จนทำให้ผู้มีสิทธิ์สอบ 423,519 คน มีผู้ที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้น จำนวน 135,514 คน ได้คะแนนลดลง 131,292 คน และคะแนนคงเดิม 156,713 คน แต่ถึงอย่างไรก็ดีมีนักวิชาการบางส่วนรวมถึงครูกวดวิชาชื่อดัง ได้ออกมาวิจารณ์ สทศ.เพิ่มเติม ว่ายังมีข้อสอบผิดอีกหลายข้อ เช่น อ.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ จากภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ออกมาตำหนิข้อสอบโอเน็ตสังคมศึกษา ม.6 ผ่านเฟซบุ๊กว่ามีความกำกวมและขาดมาตรฐาน รวมถึง อ.ปิง เจริญศิริวัฒน์ ครูกวดวิชาภาษาไทยและสังคมศึกษาจากสถาบันกวดวิชาดาว้องก์ ที่ได้ออกมาโพสต์วิจารณ์ข้อสอบโอเน็ตสังคมศึกษาผ่านเฟสบุ๊คไลฟ์ความยาวกว่า 1 ชั่วโมง โดยได้นำเอกสารของกระทรวงเข้ามาประกอบในข้อที่ อ.ปิง อ้างว่า สทศ.เฉลยผิดอีกด้วย โดย อ.ปิงได้กล่าวว่าข้อที่ผิดทั้งหมด 5 ข้อคิดเป็นคะแนนถึง 90 คะแนน แอนดรูว์ บิ๊กส์ ครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดังที่ได้ทำการตรวจคำตอบโอเน็ตวิชาภาษาอังกฤษ ม.3 แล้วพบว่าข้อสอบพาร์ทวิเคราะห์และพาร์ทบทสนทนา (Conversation) มีข้อที่คำตอบถูกมากกว่า 1 และมีข้อที่ สทศ.เฉลยผิด รวมทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของทั้งหมด อ้างอิง[แก้]
|