Fifty shades freed เต ม เร อง ภาค แรก

เป็นคนนึงที่ชอบดูมากกว่าอ่าน ตาม Fifty shades มาทุกภาคจนภาคสุดท้ายนี้ ถามว่า หนังขายอะไรหลักๆแล้วก็ขายเซ็กส์ อย่างที่เราเห็นๆกัน ขายความหื่นกระหายของชายหนุ่มและหญิงสาว (และภาคนี้ก็มาเต็มมากเยอะมากแน่นมาก น้ำลายหก😋)

แต่ถ้าเราแยกเรื่องเซ็กส์กับความรักออกจากกันแล้ว เรามาดูกันว่าหนังให้สารอะไรกับคนดูบ้าง บางคนอาจจะคิดว่าจริงๆแล้วมันก็แค่หนังเรทอาร์เรื่องนึง โชว์นมโชว์ตูด ใช่เลย นั่นคือจุดขาย ความรวยโอเว่อร์วัง ความเลี่ยนงู้น ที่มีของพระนางมันช่างเกิดได้บ่อยเหลือเกิน สัมผัสกันนิดโดนกันหน่อย ไฟลุกโชนแดงฉาด ได้ทุกที่ทุกเวลามิเกรงใจคนดูอย่างเราเลย ป้าบๆ อี้ย่าห์ ซี้ดซ้าด อู้ว์อ่าส์ 5555😆มากไปเนอะ

ตั้งแต่ภาคแรกจนภาคนี้ เราเห็นพัฒนาการของตัวละครมาอย่างเป็นลำดับ อาจจะเนือยๆในภาคDarkness แต่ภาคFreedนี้ คือเรื่องราวหลังชีวิตการแต่งงานของคนสองคน เพราะจริงๆแล้วหลังการแต่งงานมันก็ไม่ได้Happy ending สวยงามเสมอ หลังจากที่สองคนได้ใช้ชีวิตคู่ มันก็จะมีอุปสรรคต่างๆนานาเข้ามาเพื่อทดสอบความรักของคนทั้งสอง

ใช่ค่ะ!

นี่คือภาคของความซื่อสัตย์เชื่อมั่นทั้งกายและใจ เราเห็นความรักของผู้หญิงที่มีต่อชายที่รักอย่างหมดใจ ทำทุกอย่างได้เพื่อให้เขากลับใจ หลุดพ้นจากความทุกข์ระทม ส่วนผู้ชายก็พยายามซื้อใจผู้หญิงอย่างเธอมามากมาย เปย์หนักมาก สร้างความประทับใจต่างๆ ความแปลกใหม่ในแบบที่เธอไม่เคยได้พบมาก่อน พ่อหนุ่มรวยล้นฟ้า กับสาวมั่นคนธรรมดา มันทำให้ประทับใจจริงๆแหละค่ะ เพราะถ้าเราไปถึงจุดนั้นใครต่อใครก็ชอบทั้งนั้น แต่ด้วยความรักแท้ของทั้งสองมีเซ็กส์มาเป็นจุดเชื่อมโยงให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆมากๆมาย

แต่ด้วยทั้งหมดทั้งมวล ที่เราจับจุดของภาคFreedได้ คือสิ่งที่คนรักจะข้ามผ่านมันมาได้คือการหันหน้าหากัน พูดคุยกัน ถึงความต้องการของกันและกัน ปัญหาของเธอและฉัน และร่วมมือแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ความไม่เข้าใจเกิดจากการเราเงียบเมินเฉยกัน แก้แค้นกัน คุณทำได้ฉันทำได้ ประชดประชันกันไปมา กลับมีแต่ปัญหามากขึ้นกว่าเดิม ไม่หมดไปสักที แต่เพียงแค่เราต่างลดทิฐิลง หันหน้าคุยกันอย่างเข้าใจ และต่างเอาใจใส่กันและกัน พร้อมจะเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ มันก็จะไม่มีใครมาแทรกกลางระหว่างคนสองคนได้เลย

ส่วนครอบครัวของสองฝ่ายนั้นก็เป็นส่วนสำคัญ ต้องต่างช่วยเหลือให้ครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่ของทั้งสองให้เป็นไปได้ดีและราบรื่น ไม่ใส่ไฟ ว่าไปตามเหตุผลในสิ่งที่ควรจะเป็นหรือจะมองดูอยู่ห่างๆ แบบไม่ก้าวก่ายก็ดีกว่าถ้ามันจะทำให้เขาเข้าใจกันมากกว่า เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนไม่ใช่4,5,6คน ซึ่งในปัจจุบันมันยากแหละที่เราจะพบเจอคนที่เพอร์เฟคไปเสียทุกอย่างดั่งใจที่เราวาดฝันไว้และหวังไว้ เพียงแต่เราต่างยอมรับของเสียของเขาได้ และเราก็รับของเสียของเราได้เช่นกันค่อยๆประคอบประคองไป

เราเชื่อว่ามันก็จะผ่านไปได้ด้วยดีและสวยงามอย่างตอนท้ายของเรื่องนี้เช่นเดียวกัน.......😊

*มโนได้ค่ะ มิสเตอร์เกรย์นี่น่ากินจริงๆ มิสซิสเกรย์ก็แซ่บซี้ดมาก

ดูหนังแล้วเอามาปรับใช้ค่ะ แบบให้สมกับความเป็นจริงในชีวิต เวลา2-3ชั่วโมงในห้องโถงสี่เหลี่ยมจะมีคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิม ในทุกเรื่องทุกรอบที่คุณเดินเข้าไป ภาพยนตร์ทุกเรื่องผู้เขียนและผู้กำกับเขาต้องการสื่อสาร สารบางอย่างกับคนดูอย่างแน่นอนค่ะ แต่แค่ว่าคนดูแล้วเอาไปตีความได้เท่าไหน และได้หรือไม่ได้อะไรมันสุดแล้วแต่คุณจะเก็บเกี่ยวได้ในตอนนั้น

หวีดร้องหนักมากกกก สำหรับหนังเฟรนไชส์ความรักอีโรติก-ระทึกขวัญ อย่าง Fifty Shades ที่กลับมาอีกครั้งในภาคสุดท้าย Fifty Shades Freed (ฟิฟตี้ เชดส์ ฟรีด) บทสรุปของความสัมพันธ์ระหว่าง คริสเตียน เกรย์ และ แอนัสตาเซีย สตีล เซอร์วิสแฟนๆให้ฟินเช่นเคย

ยังคงสร้างความเสียวซ่านต่อเนื่อง เป็นอีกเรื่องที่คนดูอย่างเราไม่ควรคาดหวังอะไร ชวนคนรักรู้ใจหรือใครก็ได้อายุ 20+ เข้าไปดูมาฟินพระนางเข้าคู่อวดเรือนร่างเซ็กซี่ ลีลาเซ็กซ์เร้าร้อน ที่จัดเต็มแบบถี่ยิบเช่นเคย รวมถึงไปดูภาพสวยๆ เพลงดีๆ ดูเพลินกับสองนักแสดงหนักที่ขนเสน่ห์มาแบบล้นจอเช่นเคย มิสซิสเกรย์นี่แหละ ชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนฝันอยากจะเป็น... สวย เก่ง ชีวิตแสนสบาย วาสนาดี สามีหล่อรวยฯ

Fifty Shades Freed เล่าถึงชีวิตหลังแต่งงานของ คริสเตียน เกรย์ และ แอนัสตาเซีย สตีล ดื่มด่ำชีวิตที่เพอร์เฟกต์ของทั้งคู่ ฉากชวนฝันพาฟินไปกับการฮันนีมูนที่ไม่รวยจริงทำไม่ได้ มีการปองร้ายไล่ล่าจากหัวหน้าเก่าให้พอระทึก รวมถึงเน้นการครองคู่ที่ต้องใช้ความเข้าใจ มีช่องว่างระหว่างกัน ต้องมาดูว่าเขาทั้งคู่จะทำให้รักครั้งนี้ไปถึงฝั่งได้หรือไม่ หรือต้องมีใครออกไปจากชีวิตกลางคัน

เพลินมากกกกกกกกกกกกก ถึงแม้ตัวบทจะไม่ต่างจากละครทีวีไทยสามีภรรยาปัญหาชู้รัก หึงหวง การตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อมต่างๆ แต่โปรดักชั่นงานภาพแสงสีมุมกล้องดูดีมีระดับ เพลงประกอบที่ใส่เข้ามาถูกจังหวะทำให้มันดูแพงน่าสนใจไม่ไก่กา ฉากเซ็กซ์ที่หลายคนรอดูก็เดิมๆเพิ่มเติมอุปกรณ์ใหม่ๆใช้ให้หมดห้องแดง แถมยังพาไปลองกันนอกสถานที่สร้างความตื่นเต้นอีกขั้น ซี๊ดอูยยยยยย ฉันอยากทานไอศกรีม

บอกไว้เลยว่า นักแสดงทั้งคู่ชูรักชูรส ให้หนังเรื่องนี้น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ดาโกต้า จอห์นสัน จะสวยเป๊ะอะไรขนาดนี้แถมวางมาดคุณนายได้น่าหมั่้นไส้ ผัวข้าใครอย่าแตะ!! ส่วน เจมี่ ดอร์แนน งานดีหุ่นฟิตเฟิร์มไม่เปลี่ยนละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ อยากหวีดดดดดดดดร้องปลดกระดุมให้สักเม็ดสองเม็ด ปล.บอดี้การ์ดหล่อมากหล่อแย่งซีน

ส่วนตัวแล้วชอบภาคนี้มากกว่าภาคสองรวมๆดี แต่ชอบภาคแรกที่สุด ดูเพลินไม่วุ่นวายเพราะไม่มีอะไร จากข้อตกลงที่พํนธการด้วยเซ็กซ์พิสดารสู่ความรักที่ไม่อยากแยกจากกัน ปล.หนังจบอย่าเพิ่งรีบลุก..เพราะมันยังมีต่อ