รูปถ่าย 4x6 ซม. ตัวอย่าง วีซ่าท่องเที่ยว

สถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา, ราชอาณาจักรไทย

(66-74) 311-544, 312-219, 313-900

[email protected]

(66-74) 313-905, 312-220

1. ได้รับการรับรองและร้องขอจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำการตรวจรักษา โดยให้ปรากฏรายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วย , ระยะเวลาในการรักษา และความเห็นของแพทย์ผู้รักษาว่าอาการป่วยนั้นเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง

2. กรณีดูแลผู้ป่วยต้องได้รับการรับรอง และร้องขอจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำการตรวจรักษา หรือจากสถานทูต หรือ สถานกงสุล

3. ผู้ดูแลผู้ป่วย นอกจากบิดามารดา คู่สมรส บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรสแล้ว ให้อนุญาตได้อีกไม่เกิน 1 คน

ข. กรณีคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรับการรักษาพยาบาลและผู้ติดตามได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินเก้าสิบวัน สำหรับคนชาติราชอาณาจักรบาร์เรน รัฐคูเวต รัฐสุลต่านโอมาน รัฐกาตาร์ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ และประเทศอื่น ตามที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยจะได้กำหนด

1. ผู้รับการรักษาพยาบาลและผู้ดูแลผู้ป่วย ต้องได้รับการรับรองและร้องขอจากสถานพยาบาลในประเทศไทยตามประกาศรายชื่อที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดที่ทำการตรวจรักษา และออกโดยกระทรวงสาธารณสุข

2. ผู้ดูแลผู้ป่วย ได้แก่ บิดามารดา คู่สมรส บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุคคลอื่นตามเอกสารแสดงรายชื่อที่ผู้รับการรักษาพยาบาลลงลายชื่อรับรองเอกสาร จำนวนไม่เกิน 4 คน

เอกสารประกอบที่ต้องใช้

ก. กรณีเพื่อรับการรักษาพยาบาลหรือการพักฟื้นหรือเพื่อดูแลผู้ป่วย

1. แบบคําขอ ตม.7 พร้อมรูปถ่ายขนาด 4X6 ซม. จํานวน 1 รูป (Link ดาวน์โหลดเอกสาร)

2. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ – หนังสือเดินทางหน้าแรก ที่แสดงของมูลประจําตัวชาวต่างชาติ – หน้าแสดงวีซ่าปัจจุบันของผู้ป่วย– หน้าที่มีตราประทับขาเข้าประเทศไทยครั้งล่าสุด – Departure Card (TM.6)

3. หนังสือรับรองและขอให้อยู่ต่อจากแพทย์ ประจำโรงพยาบาลที่ทำการตรวจรักษา – หนังสือรับรองและขออยู่ต่อจากแพทย์ประจําโรงพยาบาล พร้อมชี ้แจงว่าผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางได้ด้วยตนเอง – ภาพถ่ายเพื่อยืนยันการพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาล องค์ประกอบในภาพถ่ายผ้ป่วย ต้องประกอบด้วย

  1. 1. ผู้ป่วย
    1. หนังสือพิมพ์รายวัน ซึ่งแสดงวันที่ ณ ปัจจุบัน
    2. บุคลากรทางการแพทย์ในชุดเครื่องแบบของโรงพยาบาล (สามารถใส่หน้ากากอนามัย หรือปกปิดภาพใบหน้าและชื่อของบุคลากรได้)
    3. ตราสัญลักษณ์ของโรงพยาบาล เช่น ตราสัญลักษณ์บนชุดผู้ป่วย ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าปูเตียง ฯลฯ หรือ ตราสัญลักษณ์บนชุดเครื่องแบบของบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในภาพ เพื่อแสดงว่า ผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลแห่งนันจริง

– สําเนา TM.30 แสดงการเข้าพักของผู้ป่วย ณ โรงพยาบาล

4. เฉพาะกรณีญาติ ที่ต้องขอต่ออายุวีซ่าเพื่ออยู่ดูแลผู้ป่วยระหว่างพักฟื้นที่โรงพยาบาล ให้แนบหนังสือรับรองเพื่อขอให้อยู่ต่อจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำการตรวจรักษา ให้เเนบเอกสารแสดงความสัมพันธ์ดังนี้ (กรณีผู้ดูแลซึ่งเป็นส่วนแห่ง ครัวเรือน) เช่น หลักฐานการสมรส สำเนา สูติบัตร หลักฐานการจดทะเบียนรับรองบุตร เป็นต้น โดยได้รับการรับรองจากสถานทูต หรือสถาน กงสุลประจําประเทศไทย

5. ค่าธรรมเนียมในการต่ออายุวีซ่า ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 1,900 บาท

ข. กรณีคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรับการรักษาพยาบาลและผู้ติดตามได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินเก้าสิบวัน สำหรับคนชาติราชอาณาจักรบาร์เรน รัฐคูเวต รัฐสุลต่านโอมาน รัฐกาตาร์ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่น ตามที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยจะได้กำหนด

1. แบบคำขอ ตม.7

2. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ

– หนังสือเดินทางหน้าแรก ที่แสดงของมูลประจําตัวชาวต่างชาติ

– หน้าแสดงวีซ่าปัจจุบันของผู้ป่วย

– หน้าที่มีตราประทับขาเข้าประเทศไทยครั้งล่าสุด – Departure Card (TM.6)

3. หนังสือรับรองจากสถานพยาบาลในประเทศไทย ตามประกาศรายชื่อที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดที่ทำการตรวจรักษาหรือจากกระทรวงสาธารณสุข

– หนังสือรับรองและขออยู่ต่อจากแพทย์ประจําโรงพยาบาล พร้อมชี้แจงว่าผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางได้ด้วยตนเอง

– ภาพถ่ายเพื่อยืนยันการพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาล

– สําเนา TM.30 แสดงการเข้าพักของผู้ป่วย ณ โรงพยาบาล

4. ผู้รับการรักษาพยาบาล แนบเอกสารเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่ออกโดยสถานพยาบาลในประเทศไทยตามประกาศรายชื่อที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่

– เอกสารการนัดหมายเข้ารับการรักษาพยาบาล

– เอกสารการรับรองการรักษาพยาบาลของแพทย์

-เอกสารยืนยันการเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือเอกสารทางการแพทย์ประเภทอื่น

5. ผู้ดูแลผู้ป่วย

5.1 กรณีที่เป็นบิดา มารดา คู่สมรส บุตรหรือบุตรบุญธรรม ให้แนบเอกสารแสดงความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาสูติบัตร สำเนาใบรับรองบุตร หรือหนังสือรับรองความสัมพันธ์จากผู้รับการรักษาพยาบาล

5.2 กรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส สำหรับบุคคลอื่นนอกเหนือจากบิดา มารดา คู่สมรส บุตร หรือบุตรบุญธรรมให้แนบสัญญาจ้าง หรือหนังสือรับรองจากผู้เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยทั้งสองกรณีต้องแนบเอกสารแสดงรายชื่อผู้ดูแลแลผู้ป่วย ซึ่งผู้รับการรักษาพยาบาลลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร

ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวข้างต้น ต้องรับรองโดยสถานทูตหรือหน่วยงานราชการของประเทศในกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC : Gulf Cooperation Council) (ตามแบบฟอร์มเอกสารหนังสือรับรองความเป็นญาติและผู้ติดตามของผู้รับบริการรักษาพยาบาล – Affidavit of Support) โดยแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ

แนวทางการออกใบรับรองแพทย์ เพื่อใช้ประกอบการขอต่อวีซ่าของผู้ป่วยต่างชาติ

– การข้ออยู่ต่อกรณีผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางได้ และรักษาตัวในโรงพยาบาล เฉพาะการรักษาด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น ไม่ใช่การรักษา

โดยแพทย์ทางเลือก

– ใบรับรองแพทย์ หรือ ใบสําคัญความเห็นแพทย์ ให้ใช้เอกสารต้นฉบับที่มีตราประทับของโรงพยาบาลเท่านั้น

– ใบรับรองแพทย์ต้องเขียนให้ชัดเจน สามารถอ่านได้ ถ้าไม่สามารถอ่านได้ ตม.มีสิทธิปฏิเสธในการพิจารณาต่อวีซ่าให้ผู้ป่วย

– ใบรับรองแพทย์สามารถเขียนเป็นภาษาไทยได้โดยระบุข้อมูลให้ครบถ้วนดังต่อไปนี้

ใบรับรองแพทย์ มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  1. ระบุข้อมูล ชื่อ ชื่อกลาง (ถ้ามี) และนามสกุล และเลขที่หนังสือเดินทาง เป็นภาษาอังกฤษ ตามที่ปรากฏในหนังสือเดินทางให้ถูกต้อง
  2. การวินิจฉัยโรคของแพทย์ (ระบุชื่อโรคภาษาไทยกํากับ อาการสําคัญ) กรณีตั้งครรภ์ กรุณาระบุอายุครรภ์ (สัปดาห์) และอาการผิดปกติ (ถ้ามี)
  3. รายละเอียดการรักษา เช่น ระบุวันที่ เช่น ผ่าตัด เก็บไข่ ย้ายตัวอ่อน และช่วงเวลารักษา (Date Start to Finish) ให้ยาเคมีบําบัดรังสีรักษา
  4. โรคที่ทําการรักษาอยู่ เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางหรือไม่ (โปรดระบุว่า เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร)
  5. ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการรักษา (โดยประมาณ) จนกระทั่งสามารถเดินทางได้
  6. ชื่อและเลขที่ของใบประกอบวิชาชีพ ของแพทย์ผู้ตรวจรักษา หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้
  7. วันที่ออกใบรับรองแพทย์
  8. ตราประทับของโรงพยาบาล

หมายเหตุ กรณีต้องต่ออายุวีซ่าให้กับญาติผู้ดูแลผู้ป่วย ซึ่งเป็นคนต่างชาติด้วยนั้น ต้องระบุ ชื่อ ชื่อกลาง(ถ้ามี) นามสกุล สัญชาติ และเลขที่หนังสือเดินทางของผู้ดูแลผู้ป่วยดังกล่าว ลงในใบรับรองแพทย์ฉบับเดียวกันนี้ด้วย มิเช่นนั้น ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยจะไม่สามารถต่อวีซ่าตามผู้ป่วยได้

Reference : Immigration Bureau of Thailand, “Visa Extension – In the case of receiving medical treatment, attending rehabilitation, or taking care of a patient”,