ต ก-น ย พาตะล ย ม ลด ฟส เม องไทย

ทว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ทำอย่างนั้น เน้นย้ำเป็น “แผ่นเสียงตกร่อง” แต่เรื่องเศรษฐกิจทรุดหนักจนต้องกู้มาแจกคนไทยรายละหมื่น...ตอกหัวตะปูไตรมาส 3 จีดีพีขยับแค่ 1.5%

เป็นงั้นไป...ก่อนลอยกระทงโพล ม.หอการค้าไทยชี้เทศกาลปีนี้คึกคักกว่าปีก่อน คนไทยใช้เงินเฉลี่ยหัวละ 1,900 บาท เกิดกระแสสะพัดกว่า 1 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 8 ปีที่ “3 ป.” บริหารประเทศ...เล่นเอาคนขอบเวทีสับสนไปตามกัน ตกลงปีนี้เศรษฐกิจฟื้นหรือฟุบกันแน่?

ขณะฝ่ายค้านบูลลี่ใส่รัฐบาลปล่อยให้บ่อนเต็มบ้านส่วยเต็มเมือง แถมทิ้งโผแต่งตั้งผู้กำกับการตำรวจหกเรี่ยราดอยู่ได้ แต่ทีนักโทษเด็ดขาดชั้น 14 โรงพยาบาลแถวราชประสงค์กลับเงียบเฉย?...เคล้าบรรยากาศดูเหมือนคนไทยไม่น้อยดูจะเครียดหนัก บางคนถึงขั้นฟั่นเฟือนเป็นรายวันกันมากขึ้น?

เอาเถอะ...เรื่องดีๆพอมีอยู่บ้างให้ “คนทำทัวร์” พอใจ...ก็เรื่องทัวร์จีนเดินหน้าเที่ยวไทยมั่านใจอย่างไรเสียสถิติก่อนสิ้นปีทนทู่ซี้จบอยู่ที่ 4.4 ล้านคน จากผลพวงปล่อยผี “ฟรีวีซ่า”

หน้าแหกก็ตรงมีจีนเทา “หน้าบาก” แฝงตัวมาขอทานโกยรายได้วันละหมื่นเดือนละสองสามล้าน มากกว่าขอทานและแรงงานไทยที่เย้วๆขอค่าแรงเพิ่ม 400 บาทยังยากยิ่ง

ต่อมาเริ่มซีนใหม่เปิดฟรีให้ทัวร์แขกกับตี๋หมวยไต้หวันบ้าง กติกาเที่ยวได้ 30 วันยาว 6 เดือน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ไม่มีพิธีต้อนรับตะลุ้งตุงแฉ่หน้าประตูเครื่องบินอย่างทัวร์มังกร

คอนเทนต์นี้ สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการ ททท.ด้านตลาดในประเทศ ออกแขกฉากแรกว่า...

“ไทยเปิดฟรีวีซ่าให้อินเดียช่วงนี้เวลาเหมาะพอดีกับเศรษฐกิจอินเดียกำลังอยู่ในขาขึ้น รัฐบาลส่งเสริมให้คนของตนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รายได้ปานกลางเริ่มมีเงินเพิ่มขึ้น

...สองทศวรรษผ่านมาจะเห็นคนรุ่นนี้เกี่ยวก้อยมาแต่งงานบ้านเรา ที่มีศาสนสถานฮินดูและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านจัดเลี้ยง ที่พัก แล้วยังเป็นสวรรค์สำหรับการฮันนีมูนอีกด้วย”

ปัจจุบันพฤติกรรมคนชมพูทวีปนอกจากท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนแล้ว ยังมีบางกลุ่มชอบที่จะเป็นเอฟไอที.ออกเวิร์กเคชันทัวร์ เที่ยวพร้อมทำงานโดยอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยใช้ไทยเป็นห้องทำงานแห่งที่สอง

น่าสนใจว่าอีกทั้งคอร์ปอเรตขนาดใหญ่มีสมาชิกสี่ถึงห้าพันแพ็ก ก็เลือกที่จะจัดประชุมสัมมนาและจัดเลี้ยงในไทยทั้งกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต สมุย

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่คนอินเดียชื่นชอบเป็นพิเศษ ได้แก่ ทะเลอย่างชลบุรี พัทยา ภูเก็ต พังงา สมุย เกาะเต่า และพะงัน โดยใช้ กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางก่อนกระจายกันออกไป

สมฤดี ออกแขกฉากสองอ้างข้อมูลกองตลาดอาเซียน เอเชียใต้ฯ ททท. ก่อนจะเปิดฟรีวีซ่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ พบว่าสถิติภารตะเที่ยวไทยตั้งแต่ต้นปีถึง 23 พฤศจิกายนแล้ว 1.42 ล้านคน

เพิ่มขึ้นมหาศาล 73 เปอร์เซ็นต์...พักเฉลี่ย 7 วัน ใช้จ่ายคนละ 39,503 บาทต่อทริป ทำรายได้ 56,291 ล้านบาท

นั่นหมายถึงตลอดปี 2566 ตัวเลขคงขยับขึ้นอย่างน่าพอใจแน่นอน

กัลยกร เด็ดขาด เอ็มดี.โคโคนัท ทราเวล แอนด์ อีเวนท์ พัทยาแลนด์มือโปรตลาดฮัดช้าสาเกให้ลักษณะนิสัยคนแดนนี้ไว้น่ารับฟัง เธอเสริมว่า ปกติถ้าเป็นคนชั้นล่างพวกนี้ร้องขอพร่ำเพรื่อ

ตัวอย่างถ้าเป็นผู้โดยสารเครื่องบินชั้นประหยัด แอร์ครูจะรู้เลยว่าบาบูมักขอนั่นขอนี่ อาหารฮอทเทรย์ที่เสิร์ฟให้คนละเซตอินเดียจะขอเพิ่มอีก ต้องบอกให้รอจนผู้โดยสารได้ครบทุกคนก่อนถึงจะเพิ่มให้ใหม่

สาเหตุไม่มีอะไรมาก...เพราะคนอินเดียถูกสอนมาว่า เมื่ออยากได้อะไรก็ตามให้เอ่ยปากขอไว้ก่อน...ได้ไม่ได้นั่นอีกเรื่องหนึ่ง!

สำหรับการทำไอเทนเนอรีขายเอเย่นต์ทัวร์อินเดีย “เอเย่นต์ไทย” รู้ดีจะต้องเตรียมรับมือคู่ค้าเอาไว้อย่างไร เพราะการขอเพิ่มบางรายการถ้าไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปเพิ่มอีกรายการหนึ่ง ไม่รวมถึงการต่อรองราคาที่ตื้อจนกว่าจะได้...นี่คือธรรมชาติของคู่ค้าอินเดีย

“แต่ถ้าเป็นอินเดียไฮเอนด์มีกำลังจับจ่ายสูงส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา มีบ้างที่อาจต่อรองแต่ถ้าไม่ได้ก็ตอบตกลง โอเคตามนั้น”

ถึงตรงนี้ยอมรับว่าเห็นด้วยกรณีรัฐบาลเปิด “ฟรีวีซ่า” เพราะ เท่ากับเป็นช่องทางขับเคลื่อนตลาดอินเดียคุณภาพ ลดความยุ่งยากจากความไม่สะดวกล่าช้า การตรวจลงตราเอกสารเดินทางเช่นแต่ก่อน

“พัทยาเห็นผลจากการขายโปรแกรมยอร์ชทัวร์ให้กับกลุ่มไฮเอนด์เวลานี้ เป็นรูทใหม่ได้เอนจอยทางทะเลกับเรือยอร์ช เริ่มสี่โมงเย็น ถึงหนึ่งทุ่มบริการอาฟเตอร์นูนทีรวมสแน็ก...ไฮไลต์ฟินสุดก็ตอนซันเซต ราคาขายวอล์กอินคนละสองพันห้า เรือจุผู้โดยสารร้อยคน”

แต่กรุ๊ปอินเดียชั้นดีนิยมใช้บริการเป็นส่วนตัวแบบเช่าเหมาลำไม่เกี่ยงเรื่องราคาที่สูงถึงแสนห้าหมื่นบาท

บรรยากาศหลังวีซ่าเปิดฟรีมี “เอเย่นต์อินเดีย” ขายอินเซ็นทีฟแฟมิลีไฮเอนด์ร้อยคน เลือกมาสมุยซึ่งต้นทุนแพงเพราะเป็นนิวเดสติเนชัน มี ททท.สำนักงานสมุย มากล่าวต้อนรับแนะนำ สมุย พะงัน ทัวร์คณะนี้เป็นปลื้มและนับเป็นไฮเอนด์อินเดียร้อยคนแรกที่เอเย่นต์พามาทัวร์สมุย

“เที่ยวนี้พบความไม่พร้อมบางอย่างแต่ไม่ถึงติดลบ” กัลย์ ว่า “คือโรงแรมถนัดรับ เอฟไอที.ไม่คุ้นกับการรับหมู่คณะ จัดให้พ่อแม่อยู่ตึกหนึ่งลูกอยู่อีกตึกหนึ่ง ห้องอาหารไม่พอคนร้อยคน ขาดเชฟอินเดียต้องมีแคทเทอริงไปเสริม ทั้งที่อาหารอินเดียไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก”

ชิเชอร์ ชาร์มา ผู้บริหารคอร์เปอเรทเครื่องไฟฟ้ารายใหญ่อินเดีย มีเครือข่ายร่วม 90 ประเทศทั่วโลก บอกว่า รู้สึกพอใจกับการให้บริการโดยรวมระดับหนึ่ง ผมเข้าใจถึงปัญหาเพราะเคยพาคณะมาแล้วหลายหน

และหลายเดสติเนชันในไทย

“ยอมรับสมุยมีเสน่ห์ด้านธรรมชาติและบริการโดยเฉพาะนวดแผนไทย สปา เวลล์เนส คนอินเดียรู้สึกคุ้มค่ากับเวลาและคุณภาพที่ได้รับ...อย่างไรก็ตาม การที่ไทยเปิดฟรีวีซ่าแก่คนอินเดีย แม้ช่วงสั้นๆ เพียง 6 เดือนก็เท่ากับได้สร้างแรงจูงใจคนอินเดีย ให้อยากมาเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ๆจากเมืองไทย”

ที่สำคัญ...คนเหล่านี้มีโอกาสกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง

ชิเชอร์หยอดคำหวานทิ้งท้าย...จุดขายที่ “คนอินเดีย” ประทับใจ คือ “คนไทยเฟรนด์ลี่” มีความปลอดภัยสูง ค่าครองชีพต่ำ จึงมีแผนนำสมาชิกมาพูลวิลล่า ยอร์ชทัวร์พัทยาและสมุยตลอดปีหน้า เป็นคณะเล็กๆเดือนละ 40–80 คน โดยมีแผนจะขยายธุรกิจมาลงทุนในไทยอีกด้วย.