ตัวอย่าง ระเบียบงานศพ คริสเตียน

การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายของศาสนาและประเพณีไม่ใช่เรื่องยากลำบากเลย หากเราเรียนรู้จักการให้เกียรติกัน เข้าใจกันและกันในความจำกัดของแต่ละศาสนาให้มากที่สุด เห็นอกเห็นใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัย และใช้ความพยายามปรับตัวด้วยใจที่ปรารถนาจะรักษาความปรองดองต่อกัน

คริสเตียนที่มีความลำบากใจในการร่วมประเพณีต่างๆ โดยเฉพาะงานศพ ผมเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถตอบเราได้ทั้งในหลักคิดและวิธีการปฏิบัติซึ่งเป็นการตกลงรับทราบร่วมกันระหว่างคณะใหญ่ของโปรเตสแตนท์ คือ สภาคริสตจักรในประเทศไทย, คณะแบ๊บติสต์, และสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย

การร่วมงานศพ หนังสือเล่มนี้ได้ให้หลักคิดและแนวทางปฏิบัติไว้ค่อนข้างชัดเจน ผมขอสรุปหลังจากได้อ่านจบแล้วดังนี้ 1. พิธีศพเป็นพิธีที่ให้เกียรติผู้เสียชีวิต เป็นจุดรวมของการพบปะญาติมิตรที่จะสามารถแสดงความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจกันจากการสูญเสียผู้ที่เป็นที่รัก

2. ศพของผู้เสียชีวิตเป็นร่างกายที่ไร้วิญญาณ ไม่ได้เป็น "รูปเคารพ" แต่อย่างใด ฉะนั้นจึงมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติต่อศพของผู้ตายมากกว่าเรื่องของรูปเคารพซึ่งจะมาปนกันไม่ได้

3. หนังสือเล่มนี้เสนอแนวทางยืดหยุ่นให้แก่คริสเตียนให้สามารถทำความเคารพศพผู้ตายได้ สุดแล้วแต่จิตสำนึก และความสะดวกใจของตน เช่น ยืนไว้อาลัย, โค้งคำนับ, หรือกราบ โดยไม่ต้องมีการจุดธูปหรือไหว้พระแต่อย่างใด และคริสเตียนผู้อื่นที่อาจยึดแนวทางต่างกันไม่ควรรู้สึกสะดุดในเรื่องนี้

4. ให้คริสเตียนรักษาความสงบระหว่างการสวดอภิธรรม คริสเตียนไม่ต้องพนมมือ ไม่ควรพูดคุยกันหรือเล่นมือถือ ต้องระลึกไว้ว่าขณะที่ทุกคนพนมมือแต่คริสเตียนไม่พนมมือ คริสเตียนจะตกเป็นเป้าสายตาทันที ซึ่งคริสเตียนควรนิ่งสงบให้เกียรติพิธีศพด้วยความสุภาพอ่อนน้อมในขณะร่วมพิธีจะดีที่สุด

5. การให้กำลังใจญาติหรือผู้ที่ยังอยู่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ คริสเตียนควรใช้โอกาสนี้เข้าไปแนะนำตัว ให้กำลังใจ หรืออธิษฐานเผื่อญาติผู้ใหญ่ และผู้ที่รู้สึกสูญเสีย

การ​เสีย​ชีวิต​ของ​บุคคล​ซึ่ง​เป็น​ที่​รัก​ไป​อย่าง​กะทันหัน​และ​โดย​ไม่​คาด​คิด​นับ​ว่า​เป็น​โศกนาฏกรรม​อย่าง​ยิ่ง​ที​เดียว. ผล​กระทบ​คือ​ความ​ตกตะลึง ตาม​ด้วย​ความ​ปวด​ร้าว​สะเทือน​ใจ​อย่าง​รุนแรง. การ​เห็น​บุคคล​ซึ่ง​เป็น​ที่​รัก​สิ้น​ใจ​หลัง​จาก​นอน​ป่วย​อย่าง​ทุกข์​ทรมาน​มา​เป็น​เวลา​นาน​จะ​มี​ความ​รู้สึก​ต่าง​กัน แต่​ความ​โศก​เศร้า​และ​ความ​รู้สึก​ของ​การ​สูญ​เสีย​ที่​ฝัง​ลึก​อยู่​ใน​ใจ​นั้น​จะ​เหมือน​กัน.

ไม่​ว่า​สภาพการณ์​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​การ​ตาย​ของ​คน​ที่​รัก​จะ​เป็น​อย่าง​ไร ผู้​โศก​เศร้า​จำ​ต้อง​ได้​รับ​การ​เกื้อ​หนุน​และ​การ​ชู​ใจ. คริสเตียน​ผู้​สูญ​เสีย​อาจ​ต้อง​เผชิญ​การ​ข่มเหง​ด้วย​จาก​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ยืนกราน​จะ​ให้​ปฏิบัติ​ตาม​ธรรมเนียม​การ​จัด​งาน​ศพ​ซึ่ง​ไม่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. เรื่อง​แบบ​นี้​ถือ​เป็น​ธรรมดา​ใน​หลาย​ประเทศ​ทาง​แอฟริกา​และ​ใน​ภูมิภาค​อื่น ๆ ของ​โลก​ด้วย​เช่น​กัน.

อะไร​จะ​ช่วย​ให้​คริสเตียน​ผู้​โศก​เศร้า​หลีก​เลี่ยง​ธรรมเนียม​การ​จัด​งาน​ศพ​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล? เมื่อ​มี​ความ​ทุกข์​ร้อน​เช่น​นั้น เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​จะ​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ได้​อย่าง​ไร? คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​ข้าง​ต้น​เกี่ยว​โยง​ถึง​ทุก​คน​ซึ่ง​ประสงค์​จะ​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พอ​พระทัย เพราะ “แบบ​แห่ง​การ​นมัสการ​ที่​สะอาด​และ​ปราศจาก​มลทิน​จาก​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​และ​พระ​บิดา​ของ​เรา​เป็น​ดัง​นี้: ให้​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​ลูก​กำพร้า​และ​หญิง​ม่าย​ใน​ความ​ทุกข์​ลำบาก​ของ​เขา และ​รักษา​ตัว​ให้​พ้น​จาก​ด่าง​พร้อย​ของ​โลก.”—ยาโกโบ 1:27, ล.ม.

ความ​เชื่อ​ที่​เข้า​มา​เกี่ยว​ข้อง

สิ่ง​ที่​เหมือน ๆ กัน​ที่​เกี่ยว​ข้อง​อยู่​ด้วย​ใน​ธรรมเนียม​การ​จัด​งาน​ศพ​หลาย ๆ รูป​แบบ​นั้น​ได้​แก่​ความ​เชื่อ​ที่​ว่า​คน​ตาย​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​โลก​ของ​บรรพบุรุษ​ซึ่ง​ไม่​สามารถ​มอง​เห็น​ได้. เพื่อ​ทำ​ให้​บรรพบุรุษ​พอ​ใจ คน​ที่​อยู่​ใน​ระหว่าง​เศร้า​โศก​มี​ความ​รู้สึก​ถึง​พันธะ​ที่​ต้อง​ประกอบ​พิธี​อย่าง​ใด​อย่าง​หนึ่ง. หรือ​เขา​กลัว​จะ​สร้าง​ความ​ไม่​พอ​ใจ​ให้​เพื่อน​บ้าน​ซึ่ง​เชื่อ​กัน​ว่า​ถ้า​ไม่​มี​การ​ประกอบ​พิธีกรรม จะ​มี​ภัย​อันตราย​บังเกิด​แก่​ชุมชน.

คริสเตียน​แท้​ต้อง​ไม่​ยอม​แพ้​เพราะ​การ​กลัว​หน้า​มนุษย์​และ​เข้า​ร่วม​ปฏิบัติ​ตาม​ธรรมเนียม​ต่าง ๆ ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​ชอบ​พระทัย​พระเจ้า. (สุภาษิต 29:25; มัดธาย 10:28) คัมภีร์​ไบเบิล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คน​ตาย​ไม่​มี​จิต​สำนึก เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “คน​เป็น​ย่อม​รู้​ว่า​เขา​เอง​คง​จะ​ตาย, แต่​คน​ตาย​แล้ว​ก็​ไม่​รู้​อะไร​เลย . . . ,เพราะ​ว่า​ไม่​มี​การ​งาน, หรือ​โครงการ, หรือ​ความ​รู้​หรือ​สติ​ปัญญา​ใน​เมือง​ผี [“เชโอล,” ล.ม.] ที่​เจ้า​จะ​ไป​นั้น.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:5, 10) ด้วย​เหตุ​นี้ พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ได้​ทรง​เตือน​ไพร่พล​ของ​พระองค์​คราว​โบราณ​อย่า​ได้​พยายาม​เอา​ใจ​คน​ตาย​หรือ​ติด​ต่อ​กับ​คน​ตาย. (พระ​บัญญัติ 14:1; 18:10-12; ยะซายา 8:19, 20) ความ​จริง​เหล่า​นี้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ขัด​กับ​ธรรมเนียม​การ​จัด​งาน​ศพ​ใน​หลาย​รูป​แบบ​ซึ่ง​นิยม​ปฏิบัติ​กัน.

จะ​ว่า​อย่าง​ไร​เรื่อง “การ​ชำระ​ตัว​ด้วย​การ​ร่วม​ประเวณี”?

ใน​บาง​ประเทศ​ของ​แอฟริกา​ตอน​กลาง ฝ่าย​ที่​สูญ​เสีย​สามี​หรือ​ภรรยา ถูก​คาด​หมาย​ให้​ร่วม​เพศ​กับ​ญาติ​สนิท​ของ​ผู้​ตาย. หาก​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม เชื่อ​กัน​ว่า​คน​ตาย​จะ​ทำ​อันตราย​แก่​ครอบครัว​ที่​ยัง​อยู่. พิธีกรรม​นี้​เรียก​ว่า “การ​ชำระ​ตัว​ด้วย​การ​ร่วม​ประเวณี.” แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​นิยาม​การ​มี​เพศ​สัมพันธ์​นอก​สาย​สมรส​ว่า​เป็น “การ​ล่วง​ประเวณี.” เนื่อง​จาก​คริสเตียน​ต้อง ‘หลีก​หนี​การ​ล่วง​ประเวณี’ เขา​จำ​ต้อง​กล้า​ที่​จะ​ต้านทาน​ธรรมเนียม​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ตาม​หลักการ​ของ​พระ​คัมภีร์.—1 โกรินโธ 6:18.

ขอ​พิจารณา​เรื่อง​ราว​หญิง​ม่าย​ชื่อ​เมอร์ซี.a ตอน​ที่​สามี​ของ​เธอ​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​ปี 1989 ญาติ​พี่​น้อง​ต้องการ​ให้​เธอ​ปฏิบัติ​ตาม​พิธี​ชำระ​ตัว​ด้วย​การ​ร่วม​ประเวณี​กับ​ญาติ​ผู้​ชาย. เธอ​ไม่​ยอม พร้อม​กับ​ชี้​แจง​ว่า​พิธีกรรม​นี้​ขัด​ต่อ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า. ด้วย​ความ​ขัด​เคือง​ใจ ก่อน​จาก​ไป​พวก​ญาติ ๆ ได้​ด่า​ว่า​เธอ​อย่าง​หยาบคาย. เดือน​ถัด​มา​ญาติ​พา​กัน​บุก​เข้า​รื้อ​ค้น​บ้าน​ของ​เธอ และ​ถอด​รื้อ​แผ่น​สังกะสี​ที่​ใช้​มุง​หลังคา. พวก​เขา​บอก​ว่า “ศาสนา​ที่​แก​นับถือ​จะ​ดู​แล​แก​เอง.”

ประชาคม​ได้​ปลอบ​ประโลม​เมอร์ซี​และ​ยัง​ได้​ปลูก​บ้าน​ใหม่​ให้​เธอ​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. เพื่อน​บ้าน​รู้สึก​ประทับใจ​มาก บาง​คน​ถึง​กับ​ตก​ลง​ใจ​เข้า​ร่วม​โครงการ​นี้ โดย​ที่​ภรรยา​หัวหน้า​หมู่​บ้าน​ซึ่ง​เป็น​ชาว​คาทอลิก​ได้​นำ​เอา​หญ้า​สำหรับ​มุง​หลังคา​มา​ให้​เป็น​คน​แรก. ความ​ประพฤติ​อย่าง​ซื่อ​ตรง​ของ​เมอร์ซี​เป็น​แรง​สนับสนุน​ลูก ๆ ของ​เธอ. ลูก​สี่​คน​ได้​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​นับ​แต่​คราว​นั้น และ​คน​หนึ่ง​เพิ่ง​เข้า​เรียน​โรง​เรียน​ฝึก​อบรม​เพื่อ​งาน​รับใช้​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้.

เนื่อง​ด้วย​ธรรมเนียม​การ​ชำระ​ตัว​ด้วย​การ​ร่วม​ประเวณี​นี่​เอง คริสเตียน​บาง​คน​ปล่อย​ตัว​เอง​ถูก​กดดัน​ให้​แต่งงาน​กับ​ผู้​ไม่​เชื่อถือ. ยก​ตัว​อย่าง พ่อ​ม่าย​คน​หนึ่ง​วัย 70 เศษ ๆ รีบ​ร้อน​แต่งงาน​กับ​เด็ก​สาว​ญาติ​ของ​ภรรยา​ผู้​ล่วง​ลับ. โดย​การ​กระทำ​เช่น​นี้ เขา​จึง​อ้าง​ว่า​ตน​ได้​ประกอบ​พิธี​ชำระ​ตัว​ด้วย​การ​ร่วม​ประเวณี​แล้ว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม แนว​ทาง​ดัง​กล่าว​ขัด​ต่อ​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า​คริสเตียน​ควร​สมรส “กับ​ผู้​ที่​เชื่อถือ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” เท่า​นั้น.—1 โกรินโธ 7:39.

ประเพณี​เฝ้า​ศพ​คืน​ยัง​รุ่ง

ใน​หลาย​ประเทศ ญาติ​มิตร​ของ​ผู้​ตาย​จะ​รวม​ตัว​กัน​อยู่​ที่​บ้าน​ผู้​ตาย​และ​ไม่​นอน​ทั้ง​คืน. การ​อยู่​เฝ้า​ศพ​แบบ​นี้​ย่อม​มี​ทั้ง​การ​เลี้ยง​อาหาร​และ​เสียง​ดนตรี​ดัง​อึกทึก. ทั้ง​นี้​เชื่อ​กัน​ว่า​จะ​ทำ​ให้​คน​ตาย​พอ​ใจ​และ​เพื่อ​ปก​ป้อง​คน​ใน​ครอบครัว​ที่​ยัง​อยู่​ไม่​ให้​ต้อง​เวทมนตร์​คาถา. อาจ​มี​การ​กล่าว​ยกย่อง​โดย​หวัง​จะ​ให้​เป็น​ที่​ถูก​ใจ​คน​ตาย. หลัง​จาก​นั้น พวก​ญาติ​มิตร​ของ​ผู้​ตาย​อาจ​ร้อง​เพลง​สวด​คั่น แล้ว​จะ​มี​อีก​คน​หนึ่ง​ยืน​ขึ้น​พูด. การ​ทำ​เช่น​นี้​อาจ​จะ​ต่อ​เนื่อง​กัน​ไป​จน​รุ่ง​เช้า.b

คริสเตียน​แท้​จะ​ไม่​เข้า​ส่วน​กับ​พิธี​เฝ้า​ศพ​ตลอด​คืน​ดัง​กล่าว เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​แจ้ง​ไว้​ว่า​คน​ตาย​ไม่​สามารถ​ช่วยเหลือ​หรือ​ทำ​อันตราย​คน​เป็น. (เยเนซิศ 3:19; บทเพลง​สรรเสริญ 146:3, 4; โยฮัน 11:11-14) พระ​คัมภีร์​ตำหนิ​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​ลัทธิ​ภูตผี​ปิศาจ. (วิวรณ์ 9:21; 22:15) ถึง​กระนั้น หญิง​ม่าย​อาจ​ประสบ​ว่า​การ​จะ​ป้องกัน​คน​อื่น​ให้​พ้น​จาก​กิจ​ปฏิบัติ​แบบ​ลัทธิ​ผี​ปิศาจ​นั้น​ไม่​ง่าย​เสีย​ที​เดียว. คน​เหล่า​นั้น​อาจ​ยืนกราน​จะ​อยู่​เฝ้า​ศพ​ตลอด​คืน​ใน​บ้าน​ของ​เธอ. เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​พึง​ทำ​ประการ​ใด​เพื่อ​ช่วย​คริสเตียน​ผู้​โศก​เศร้า​เผชิญ​ความ​ทุกข์​ลำบาก​ที่​เพิ่ม​เข้า​มา?

บ่อย​ครั้ง​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​สามารถ​ให้​การ​ช่วยเหลือ​ครอบครัว​คริสเตียน​ใน​ยาม​โศก​เศร้า​ได้ โดย​การ​หา​เหตุ​ผล​กับ​หมู่​ญาติ​และ​เพื่อน​บ้าน​ใกล้​เคียง. หลัง​จาก​การ​หา​เหตุ​ผล​ดัง​กล่าว คน​เหล่า​นี้​ต่าง​ก็​อาจ​เห็น​ด้วย​และ​ลา​กลับ​ไป​อย่าง​สงบ แล้ว​จะ​มา​รวม​กัน​ใน​งาน​ศพ​วัน​อื่น​อีก. แต่​ถ้า​บาง​คน​มี​ท่าที​จะ​ไม่​ยอม​ล่ะ? หาก​ยัง​จะ​พยายาม​หา​เหตุ​ผล​กัน​ต่อ​ก็​อาจ​มี​ผล​เป็น​ความ​รุนแรง​ขึ้น​มา​ได้. “ทาส​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ต่อ​สู้ แต่ . . . เหนี่ยว​รั้ง​ตัว​ไว้​ภาย​ใต้​สภาพการณ์​ที่​ไม่​ดี.” (2 ติโมเธียว 2:24, ล.ม.) ดัง​นั้น หาก​วงศาคณาญาติ​ที่​ไม่​ร่วม​มือ​ด้วย เข้า​มา​แย่ง​จัด​งาน​เสีย​เอง แม่​ม่าย​คริสเตียน​พร้อม​กับ​ลูก ๆ อาจ​จะ​ไม่​สามารถ​ห้าม​ได้. แต่​พวก​เขา​จะ​ไม่​ร่วม​พิธี​ใด ๆ อัน​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​ศาสนา​เท็จ​ที่​จัด​ทำ​ขึ้น​ภาย​ใน​บ้าน เพราะ​เขา​เชื่อ​ฟัง​คำ​สั่ง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า “อย่า​เข้า​เทียม​แอก​กับ​คน​ไม่​มี​ความ​เชื่อ.”—2 โกรินโธ 6:14, ล.ม.

หลักการ​นี้​ใช้​ปฏิบัติ​ได้​ด้วย​ใน​วัน​ฝัง​หรือ​เผา​ศพ. พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ร่วม​ร้อง​เพลง, อธิษฐาน, หรือ​ร่วม​ใน​พิธีกรรม​ต่าง ๆ ซึ่ง​นำ​โดย​นัก​เทศน์​นัก​บวช​ของ​ศาสนา​เท็จ. ถ้า​คริสเตียน​ซึ่ง​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​ที่​ใกล้​ชิด​เห็น​ว่า​จำเป็น​ต้อง​อยู่​ด้วย​ใน​โอกาส​ดัง​กล่าว เขา​จะ​ไม่​เข้า​ส่วน​ร่วม​ด้วย.—2 โกรินโธ 6:17; วิวรณ์ 18:4.

จัด​งาน​ศพ​อย่าง​มี​เกียรติ

งาน​ศพ​ซึ่ง​ดำเนิน​การ​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​รวม​เอา​พิธี​ต่าง ๆ ด้วย​ตั้งใจ​ทำ​เพื่อ​เอา​ใจ​คน​ตาย. มี​การ​บรรยาย​ซึ่ง​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​หลัก ไม่​ว่า​การ​บรรยาย​จัด​ขึ้น​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร, ที่​ศาลา​ฌาปนกิจ, ที่​บ้าน​ผู้​ตาย, หรือ​ที่​ป่าช้า. วัตถุ​ประสงค์​ของ​การ​บรรยาย​ก็​เพื่อ​ปลอบโยน​ผู้​เป็น​ทุกข์​โศก​เศร้า​โดย​มี​การ​ชี้​แจง​ถึง​สิ่ง​ที่​กล่าว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​ความ​ตาย​และ​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. (โยฮัน 11:25; โรม 5:12; 2 เปโตร 3:13) อาจ​มี​การ​ร้อง​เพลง​สัก​บท​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​เนื้อร้อง​ที่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์ และ​จบ​การ​ประชุม​ด้วย​การ​อธิษฐาน​ที่​ปลอบ​ประโลม​ใจ.

ไม่​นาน​มา​นี้ มี​งาน​ศพ​แนว​เดียว​กัน​นี้​สำหรับ​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​บังเอิญ​เป็น​น้อง​สาว​คน​สุด​ท้อง​ของ​เนลสัน แมนเดลา ประธานาธิบดี​แห่ง​แอฟริกา​ใต้. หลัง​จาก​จบ​คำ​บรรยาย​แล้ว ท่าน​ประธานาธิบดี​ได้​กล่าว​จาก​ใจ​จริง​แสดง​ความ​ขอบคุณ​ผู้​บรรยาย. บุคคล​สำคัญ​รวม​ทั้ง​เจ้าหน้าที่​ระดับ​สูง​หลาย​คน​ร่วม​อยู่​ใน​งาน​นี้​ด้วย. รัฐมนตรี​ท่าน​หนึ่ง​ใน​คณะ​รัฐบาล​กล่าว​ว่า “นี่​เป็น​งาน​ศพ​ที่​มี​เกียรติ​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​ดิฉัน​เคย​เข้า​ร่วม.”

การ​ใส่​ชุด​ไว้​ทุกข์​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ไหม?

พยาน​พระ​ยะโฮวา​โศก​เศร้า​อาลัย​ถึง​บุคคล​ที่​ตน​รัก​เมื่อ​เขา​สิ้น​ชีวิต​ไป. เช่น​เดียว​กัน​กับ​พระ​เยซู เขา​อาจ​หลั่ง​น้ำตา​ร้องไห้. (โยฮัน 11:35, 36) แต่​เขา​ไม่​ถือ​เป็น​เรื่อง​ที่​จะ​ต้อง​แสดง​ความ​โศก​เศร้า​ให้​คน​อื่น​เห็น โดย​การ​แสดง​สิ่ง​บ่ง​บอก​ภาย​นอก​บาง​อย่าง. (เทียบ​กับ​มัดธาย 6:16-18.) ใน​หลาย​ดินแดน มี​การ​คาด​หมาย​จะ​เห็น​แม่​ม่าย​ใส่​เสื้อ​ผ้า​เฉพาะ​แบบ เป็น​เครื่อง​หมาย​แสดง​การ​ไว้​ทุกข์​เพื่อ​ให้​ผู้​ตาย​พอ​ใจ. หลัง​จาก​งาน​ศพ​ได้​ผ่าน​ไป แม่​ม่าย​จะ​ต้อง​ใส่​เสื้อ​ผ้า​เหล่า​นี้​ต่อ​ไป​อีก​นาน​หลาย​เดือน​หรือ​ถึง​หนึ่ง​ปี​ด้วย​ซ้ำ และ​การ​เลิก​ใส่​เสื้อ​ผ้า​ไว้​ทุกข์​นั้น​เป็น​อีก​โอกาส​หนึ่ง​สำหรับ​งาน​เลี้ยง.

ถือ​กัน​ว่า​การ​ไม่​แสดง​สิ่ง​บ่ง​บอก​ถึง​การ​ไว้​ทุกข์​เป็น​การ​ทำ​ผิด​ต่อ​ผู้​ตาย. ด้วย​เหตุ​นี้ ใน​บาง​ภูมิภาค​ของ​ประเทศ​สวาซิแลนด์ หัวหน้า​เผ่า​ถึง​กับ​ขับ​ไล่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไป​ให้​พ้น​จาก​บ้าน​เรือน​และ​ถิ่น​ที่​อยู่​ของ​พวก​เขา. อย่าง​ไร​ก็​ดี คริสเตียน​ที่​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นั้น​ได้​รับ​การ​ดู​แล​จาก​บรรดา​พี่​น้อง​ฝ่าย​วิญญาณ​ใน​ที่​อื่น ๆ เสมอ.

ศาล​ชั้น​ต้น​แห่ง​สวาซิแลนด์​ตัดสิน​ให้​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ชนะ​คดี โดย​ระบุ​ว่า​พวก​เขา​สม​ควร​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​เรือน​ของ​ตน. อีก​ราย​หนึ่ง แม่​ม่าย​คริสเตียน​คน​หนึ่ง​ได้​รับ​การ​ยินยอม​ให้​อยู่​ต่อ​ไป​บน​ที่​ดิน​ของ​ตัว​เอง หลัง​จาก​เธอ​ได้​ยื่น​จดหมาย​และ​เทป​บันทึก​เสียง​ของ​สามี​ที่​ตาย​ไป​ซึ่ง​ระบุ​ชัด​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​อย่า​ได้​ใส่​เสื้อ​ผ้า​ไว้​ทุกข์. ด้วย​เหตุ​นี้ เธอ​จึง​สามารถ​พิสูจน์​ตัว​เอง​ว่า​เป็น​ภรรยา​ที่​แสดง​ความ​นับถือ​สามี​อย่าง​แท้​จริง.

นับ​ว่า​เป็น​คุณประโยชน์​ใหญ่​หลวง​เมื่อ​มี​การ​ชี้​แจง​อย่าง​ชัดเจน​ไว้​ก่อน​ตาย​เกี่ยว​ด้วย​การ​จัด​งาน​ศพ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​ที่​ซึ่ง​คน​ทั่ว​ไป​มี​กิจ​ปฏิบัติ​ที่​ขัด​กับ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. ขอ​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ของ​วิกทอร์ ซึ่ง​มี​ถิ่น​ฐาน​อยู่​ใน​ประเทศ​แคเมอรูน. เขา​เขียน​เป็น​หนังสือ​แจ้ง​กำหนดการ​อัน​พึง​ปฏิบัติ​ใน​งาน​ศพ​ของ​เขา. ครอบครัว​ของ​เขา​มี​ผู้​ทรง​อิทธิพล​หลาย​คน​ยึด​วัฒนธรรม​ประเพณี​อย่าง​เคร่งครัด​ว่า​ให้​แสดง​ความ​นับถือ​คน​ตาย รวม​ถึง​การ​บูชา​หัว​กะโหลก​คน​ตาย​ด้วย. เนื่อง​จาก​วิกทอร์​เป็น​สมาชิก​ที่​ครอบครัว​ให้​ความ​นับถือ เขา​รู้​ว่า​จะ​มี​การ​ปฏิบัติ​ทำนอง​นี้​กับ​กะโหลก​ศีรษะ​ของ​เขา. ดัง​นั้น เขา​จึง​ให้​ข้อ​บ่ง​ชี้​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​พึง​จัด​งาน​ศพ​ของ​เขา​อย่าง​ไร. ทั้ง​นี้​ทำ​ให้​การ​จัด​งาน​ง่าย​ขึ้น​สำหรับ​ภรรยา​และ​ลูก​ของ​เขา และ​เป็น​การ​ให้​คำ​พยาน​อย่าง​ดี​ใน​ชุมชน​แห่ง​นั้น.

หลีก​เลี่ยง​การ​ปฏิบัติ​ตาม​ธรรมเนียม​ที่​ขัด​หลักการ​ของ​พระ​คัมภีร์

บาง​คน​ซึ่ง​มี​ความ​รู้​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล​นึก​กลัว​ที่​จะ​เป็น​คน​ที่​ต่าง​จาก​คน​อื่น. เพื่อ​เลี่ยง​การ​ก่อกวน​ทำ​ร้าย เขา​จึง​พยายาม​เอา​ใจ​ชาว​บ้าน​ด้วย​การ​ทำ​ประหนึ่ง​ว่า​ได้​จัด​งาน​เฝ้า​ศพ​ตาม​ธรรมเนียม​เพื่อ​เห็น​แก่​คน​ตาย. ถึง​แม้​เป็น​เรื่อง​น่า​ยกย่อง​ที่​จะ​เยี่ยม​ผู้​โศก​เศร้า​เพื่อ​การ​ปลอบโยน​เป็น​ส่วน​ตัว ทั้ง​นี้​ไม่​ได้​เรียก​ร้อง​ว่า​ทุก​คืน​ที่​บ้าน​ผู้​ตาย​จะ​ต้อง​มี​การ​บรรยาย​งาน​ศพ​เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน​การ​บรรยาย​งาน​ศพ​จริง ๆ. การ​ทำ​เช่น​นี้​อาจ​เป็น​เหตุ​ให้​คน​ที่​เฝ้า​สังเกต​สะดุด เนื่อง​จาก​เขา​จะ​มี​ความ​รู้สึก​ว่า จริง ๆ แล้ว​คน​ที่​เข้า​ส่วน​ร่วม​หา​ได้​เชื่อ​เรื่อง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ไม่​เกี่ยว​กับ​สภาพ​คน​ตาย.—1 โกรินโธ 10:32.

คัมภีร์​ไบเบิล​กระตุ้น​เตือน​คริสเตียน​ให้​จัด​เอา​การ​นมัสการ​พระเจ้า​ไว้​เป็น​อันดับ​แรก​ใน​ชีวิต และ​ใช้​เวลา​ของ​ตน​อย่าง​สุขุม. (มัดธาย 6:33; เอเฟโซ 5:15, 16) แต่​กิจกรรม​ของ​ประชาคม​ใน​ท้องถิ่น​บาง​แห่ง​ได้​หยุด​ชะงัก​ประมาณ​หนึ่ง​สัปดาห์​หรือ​นาน​กว่า​นั้น​เนื่อง​จาก​มี​งาน​ศพ. ปัญหา​นี้​ไม่​ใช่​มี​เฉพาะ​ใน​แอฟริกา​เท่า​นั้น. เกี่ยว​กับ​งาน​ศพ​ราย​หนึ่ง มี​รายงาน​จาก​อเมริกา​ใต้​ดัง​นี้: “การ​ประชุม​คริสเตียน​สาม​วาระ​มี​จำนวน​ผู้​เข้า​ร่วม​น้อย​มาก. ไม่​มี​คน​สนับสนุน​การ​ประกาศ​ใน​เขต​งาน​ประมาณ​สิบ​วัน. แม้​กระทั่ง​บุคคล​ภาย​นอก​ประชาคม​และ​คน​สนใจ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ก็​แปลก​ใจ​และ​รู้สึก​ผิด​หวัง​ที่​เห็น​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ของ​เรา​บาง​คน​เข้า​ส่วน​ร่วม​กิจกรรม​งาน​ศพ.”

ใน​ชุมชน​บาง​แห่ง ครอบครัว​ที่​โศก​เศร้า​เนื่อง​จาก​การ​สูญ​เสีย​อาจ​เชิญ​เพื่อน​สนิท​เพียง​ไม่​กี่​คน​มา​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ว่าง​ที่​บ้าน​หลัง​จาก​งาน​ศพ​ผ่าน​ไป​แล้ว. แต่​ใน​ภูมิภาค​หลาย​แห่ง​ของ​แอฟริกา ผู้​คน​นับ​ร้อย​ที่​มา​ร่วม​งาน​ศพ​จะ​พา​กัน​ย้อน​กลับ​ไป​บ้าน​ผู้​ตาย และ​คาด​หมาย​การ​เลี้ยง​ใหญ่ ซึ่ง​มัก​จะ​มี​การ​ฆ่า​สัตว์​บ่อย ๆ. บาง​คน​ที่​เข้า​มา​สมาคม​กับ​ประชาคม​คริสเตียน​ยัง​คง​เลียน​แบบ​ปฏิบัติ​ตาม​ธรรมเนียม​นี้ ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​ความ​รู้สึก​ฝัง​ใจ​ว่า​คน​เหล่า​นี้​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่​ตาม​ธรรมเนียม​ก็​เพื่อ​จะ​เอา​ใจ​คน​ตาย​นั่น​เอง.

งาน​ศพ​ที่​จัด​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ทำ​ให้​ผู้​สูญ​เสีย​ที่​โศก​เศร้า​ต้อง​แบก​รับ​ภาระ​ค่า​ใช้​จ่าย. ดัง​นั้น​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เตรียม​การ​เป็น​พิเศษ​เพื่อ​ให้​ผู้​มา​ใน​งาน​ช่วย​ออก​เงิน​เพื่อ​ให้​คุ้ม​กับ​ค่า​ใช้​จ่าย​ที่​มาก​เกิน​ไป. หาก​แม่​ม่าย​ที่​ขัดสน​ไม่​สามารถ​ใช้​จ่าย​ได้​ตาม​ความ​จำเป็น ไม่​ต้อง​สงสัย คน​อื่น ๆ ใน​ประชาคม​ยินดี​ให้​การ​ช่วยเหลือ. ถ้า​การ​ช่วยเหลือ​นั้น​ไม่​พอ พวก​ผู้​ปกครอง​อาจ​จัด​เตรียม​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ทาง​ด้าน​วัตถุ​ปัจจัย​แก่​บุคคล​ที่​สม​ควร​ได้​รับ.—1 ติโมเธียว 5:3, 4.

ธรรมเนียม​การ​จัด​งาน​ศพ​ไม่​ขัด​กับ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เสมอ​ไป. ใน​กรณี​ที่​ขัด​กัน คริสเตียน​ย่อม​มุ่ง​มั่น​จะ​ปฏิบัติ​สอดคล้อง​กับ​พระ​คัมภีร์.c (กิจการ 5:29) แม้​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​อาจ​หมาย​ถึง​ความ​ลำบาก​เพิ่ม​ขึ้น​ก็​ตาม ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​จำนวน​ไม่​น้อย​สามารถ​ให้​การ​เป็น​พยาน​ได้​ว่า​พวก​ตน​ผ่าน​การ​ทดสอบ​ดัง​กล่าว​อย่าง​ประสบ​ความ​สำเร็จ. พวก​เขา​ประสบ​ผล​สำเร็จ​เช่น​นั้น​เนื่อง​ด้วย​กำลัง​ที่​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา “พระเจ้า​แห่ง​การ​ปลอบโยน​ทุก​อย่าง” และ​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ด้วย​ความ​รัก​ของ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ซึ่ง​ได้​ให้​การ​ชู​ใจ​พวก​เขา​ใน​ยาม​ทุกข์​ลำบาก.—2 โกรินโธ 1:3, 4, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

มี​การ​ใช้​ชื่อ​สมมุติ​ใน​บทความ​นี้

คำ “เฝ้า​ศพ” ใน​บาง​กลุ่ม​ภาษา​หรือ​ใน​วัฒนธรรม​ของ​บาง​ประเทศ​หมาย​ถึง​การ​แวะ​เยี่ยม​ช่วง​สั้น ๆ เพื่อ​ให้​การ​ปลอบโยน​ผู้​โศก​เศร้า. อาจ​ไม่​เกี่ยว​ข้อง​แต่​อย่าง​ใด​กับ​ความ​ไม่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล. โปรด​อ่าน​ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ 22 พฤษภาคม 1979, หน้า 27-28.

ณ ที่​ซึ่ง​ธรรมเนียม​การ​จัด​งาน​ศพ​มัก​จะ​เกิด​การ​ทดลอง​อย่าง​รุนแรง​กับ​คริสเตียน พวก​ผู้​ปกครอง​อาจ​เตรียม​ผู้​ที่​เตรียม​ตัว​เพื่อ​จะ​รับ​บัพติสมา​ให้​รับมือ​กับ​สิ่ง​ซึ่ง​มี​อยู่​เบื้อง​หน้า. เมื่อ​ประชุม​กับ​คน​ใหม่​เหล่า​นี้​เพื่อ​พิจารณา​คำ​ถาม​จาก​หนังสือ​จัด​ให้​เป็น​ระเบียบ​เพื่อ​ทำ​ให้​งาน​รับใช้​ของ​เรา​สำเร็จ ควร​เอา​ใจ​ใส่​อย่าง​ถี่ถ้วน​ใน​ส่วน​ต่าง ๆ เป็น​ต้น​ว่า “จิตวิญญาณ, บาป, และ​ความ​ตาย” และ “การ​รวม​ความ​เชื่อ.” หัวข้อ​ทั้ง​สอง​ตอน​นี้​มี​คำ​ถาม​ที่​เลือก​ได้​ใน​การ​พิจารณา. ตอน​นั้น​ผู้​ปกครอง​อาจ​ให้​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​ธรรมเนียม​จัด​งาน​ศพ​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล เพื่อ​ผู้​ตั้งใจ​จะ​รับ​บัพติสมา​ทราบ​สิ่ง​ที่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เรียก​ร้อง​จาก​เขา หาก​เขา​ต้อง​เผชิญ​กับ​สภาพการณ์​ดัง​กล่าว.

[กรอบ​หน้า 23]

เขา​ได้​พระ​พร​เพราะ​การ​ยืนหยัด​มั่นคง

ซีโบนกีลี เป็น​หญิง​ม่าย​คริสเตียน​ผู้​กล้า​หาญ​อยู่​ใน​ประเทศ​สวาซิแลนด์. หลัง​จาก​สามี​ของ​เธอ​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้ เธอ​ไม่​ยอม​ปฏิบัติ​ตาม​ธรรมเนียม​ซึ่ง​หลาย​คน​คิด​ว่า​เป็น​การ​เอา​ใจ​ผู้​ตาย. อย่าง​เช่น เธอ​ไม่​โกน​ผม. (พระ​บัญญัติ 14:1) สมาชิก​แปด​คน​ของ​ครอบครัว​โกรธ​เพราะ​เหตุ​นี้​และ​ใช้​วิธี​บังคับ​โกน​ผม​เธอ​จน​ได้. นอก​จาก​นั้น พวก​เขา​กีด​กัน​ไม่​ยอม​ให้​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เข้า​บ้าน​เพื่อ​ปลอบโยน​ซีโบนกีลี. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คน​อื่น ๆ ที่​สนใจ​ข่าว​ราชอาณาจักร​ยินดี​จะ​เยี่ยม​เธอ พร้อม​กับ​นำ​จดหมาย​ของ​ผู้​ปกครอง​ที่​เขียน​หนุน​กำลังใจ​ไป​มอบ​ให้​เธอ. ใน​วัน​ที่​มี​การ​คาด​หมาย​จะ​ให้​ซีโบนกีลี​ใส่​ชุด​พิเศษ​แสดง​การ​ไว้​ทุกข์ มี​เหตุ​การณ์​ซึ่ง​ยัง​ความ​ประหลาด​ใจ​อุบัติ​ขึ้น. สมาชิก​คน​หนึ่ง​ของ​ครอบครัว​ซึ่ง​มี​อิทธิพล​ได้​เรียก​ประชุม​เพื่อ​พิจารณา​เรื่อง​ที่​เธอ​ไม่​ยอม​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​การ​ไว้​ทุกข์​อัน​เป็น​ประเพณี​นิยม.

ซีโบนกีลี​เล่า​ว่า “คน​เหล่า​นั้น​ถาม​ว่า​ความ​ศรัทธา​ทาง​ศาสนา​ของ​ดิฉัน​ยอม​ให้​ดิฉัน​แสดง​ความ​เศร้า​โศก​เสียใจ​โดย​การ​สวม​ชุด​สี​ดำ​ไว้​ทุกข์​หรือ​ไม่. หลัง​จาก​ได้​ชี้​แจง​ให้​เขา​ทราบ​สถานะ​ของ​ดิฉัน​แล้ว เขา​บอก​ว่า​จะ​ไม่​บังคับ​ดิฉัน. ดิฉัน​ประหลาด​ใจ​มาก​เมื่อ​ทุก​คน​กล่าว​ขอ​โทษ​ที่​ได้​ปฏิบัติ​ต่อ​ดิฉัน​อย่าง​หยาบคาย ทั้ง​ได้​โกน​ผม​ดิฉัน​อัน​เป็น​การ​ขืน​ใจ. พวก​เขา​ทั้ง​หมด​ได้​ขอ​ดิฉัน​ยก​โทษ​ให้.” ต่อ​มา น้อง​สาว​ของ​ซีโบนกีลี​พูด​อย่าง​เชื่อ​มั่น​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​ศาสนา​แท้ และ​เธอ​แจ้ง​ความ​ประสงค์​อยาก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล.

ขอ​พิจารณา​อีก​ตัว​อย่าง​หนึ่ง: ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​แอฟริกา​ใต้​ชื่อ​เบ็น​จา​มิน เขา​อายุ 29 ปี​ตอน​ที่​ได้​ข่าว​บิดา​เสีย​ชีวิต​อย่าง​กะทันหัน. ตอน​นั้น​เบ็น​จา​มิน​เป็น​พยาน​ฯ คน​เดียว​ใน​ครอบครัว. ระหว่าง​การ​ทำ​พิธี​ปลง​ศพ ทุก​คน​ถูก​คาด​หมาย​ให้​เดิน​เรียง​แถว​รอบ​หลุม​ฝัง​ศพ​และ​โยน​ดิน​หนึ่ง​กำ​มือ​ใส่​ใน​โลง.d หลัง​จาก​การ​ฝัง​ศพ​ผ่าน​ไป สมาชิก​ทุก​คน​ของ​ครอบครัว​นั้น​จะ​โกน​ผม. เนื่อง​จาก​เบ็น​จา​มิน​ไม่​ได้​ร่วม​ทำ​พิธี​ต่าง ๆ เช่น​นั้น เพื่อน​บ้าน​และ​คน​ใน​ครัว​เรือน​ได้​ทำนาย​ว่า​วิญญาณ​ของ​พ่อ​ที่​ตาย​จะ​ลง​โทษ​เขา.

“เพราะ​ผม​ไว้​วางใจ​พระ​ยะโฮวา จึง​ไม่​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​กับ​ผม” เบ็น​จา​มิน​พูด. สมาชิก​ครอบครัว​ได้​สังเกต​ว่า​เขา​ไม่​ได้​รับ​อันตราย​แต่​อย่าง​ใด. ใน​ที่​สุด​สมาชิก​หลาย​คน​ใน​ครอบครัว​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​และ​ได้​รับ​บัพติสมา​เป็น​เครื่องหมาย​แสดง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า. เบ็น​จา​มิน​ล่ะ? เขา​ก้าว​สู่​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา. ช่วง​สอง​สาม​ปี​หลัง​นี้ เขา​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ด้วย​การ​รับใช้​ประชาคม​หลาย​แห่ง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ฐานะ​เป็น​ผู้​แล​เดิน​ทาง.

[เชิงอรรถ]

บาง​คน​อาจ​คิด​ว่า​ไม่​เสียหาย​ที่​จะ​โยน​ดอกไม้​หรือ​ดิน​สัก​กำ​มือ​หนึ่ง​ใส่​ใน​หลุม​ฝัง​ศพ. แต่​คริสเตียน​จะ​เลี่ยง​กิจ​ปฏิบัติ​เช่น​นี้​ใน​เมื่อ​สังคม​นั้น​ถือ​เป็น​แนว​ทาง​ที่​จะ​เอา​ใจ​ผู้​ตาย หรือ​ถ้า​เรื่อง​นี้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​พิธีกรรม​ซึ่ง​ดำเนิน​การ​โดย​นัก​เทศน์​นัก​บวช​ของ​ศาสนา​เท็จ.—โปรด​อ่าน​ตื่นเถิด! (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ 22 มีนาคม 1977 หน้า 15.