คนท แฟนตายแล ว ม แฟนใหม ได ย งไง

หลายต่อหลายครั้งที่ถูกคนรักนอกใจ หลายคนมักโทษตัวเอง ตีโพยตีพายว่าตัวเองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมี “เหตุผล” อื่น ๆ ที่ทำให้คนรักของคุณปันใจให้คนอื่นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ “ความใกล้ชิด” และสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการเกิดความสัมพันธ์ที่ผิด เช่น ได้เจอกันทุกวัน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน จากเพื่อนร่วมงานก็กลายเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวในที่สุด

นอกจากนี้ก็ยังมีเหตุอื่น ๆ ที่จะบอกว่าเริ่มจาก “จุดเริ่มต้น” ก็ว่าได้ เช่น คู่สามีภรรยาที่ “ไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก” แต่มีเหตุที่ทำให้ต้องแต่งงานกัน อาทิ การโหยหาความมั่นคง ความเหมาะสม รวมถึงผลประโยชน์ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกอยากที่จะเปิดใจให้คนที่ตัวเองรู้สึกดี หรือรู้สึกรักมากกว่า แม้จะเป็นการทำตามหัวใจตัวเอง แต่ในท้ายที่สุดก็กลายเป็น “การคบซ้อน” และสร้างแผลใจให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่น่าให้อภัย

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่นอกใจมักมีเหตุผลมารองรับการกระทำที่ผิดของตัวเองอยู่เสมอ และเหตุผลที่เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้แฟนนอกใจ ก็ไม่มีกำหนดออกมาอย่างชัดเจนว่าเพราะอะไร แต่ถ้าคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ควรจะเตรียมรับมือกับสถานการณ์ให้ดี เศร้าและเสียใจได้แต่อย่าฟูมฟายจนเกินไปนัก

หากคุณกำลังสงสัยว่าพฤติกรรมของแฟนหรือคู่รักเปลี่ยนไป แต่ยังไม่แน่ใจว่าเขากำลัง “นอกใจ” อยู่หรือเปล่า สามารถเช็กลิสต์วิธี จับผิด แฟนนอกใจ อย่าง มือ อาชีพได้ดังนี้

1. ไม่ค่อยกลับบ้านหรือไม่ค่อยมาเจอหน้า

สังเกตไหมว่าช่วงที่จีบกันใหม่ ๆ แฟนหรือคนรักมักจะมาหาคุณบ่อยมาก ต่อให้ไม่ว่างก็สามารถเจียดเวลามาหาได้เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป “ความถี่” ดังกล่าวก็เริ่มห่างออกไปเรื่อย ๆ จากมาหาทุกวันก็กลายเป็นสัปดาห์ละครั้ง, เดือนละ 2-3 ครั้ง หรือมากสุดก็คือ 2-3 เดือนมาหาที แถมยังมีข้ออ้างทุกครั้งที่คุณถามว่าจะมาเจอกันเมื่อไหร่ ในบางครั้งแค่คำถามเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กลายเป็นชนวนที่ทำให้ทะเลาะกันแบบงง ๆ

2. มี “ข้ออ้าง” ทุกครั้ง ที่ขอให้ทำอะไรให้ หรือให้พาไปไหน

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณวานให้เขาทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ หรือให้พาไปไหนก็ตาม เขามักจะมีข้ออ้างตลอด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ เช่น ติดงาน ติดประชุม มีนัดแล้ว และสารพัดข้ออ้างที่จะหยิบยกขึ้นมา หรือในบางครั้งอาจมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขา “ไม่เห็นความสำคัญ” ของคุณ และไม่ใส่ใจคุณเหมือนเดิม ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่าแฟนกำลังนอกใจ หรือมีใครอีกคนอยู่

3. ขัดขวางทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องในอนาคต

เมื่อคบกันไปนาน ๆ แน่นอนว่า “การแต่งงาน” คือจุดมุ่งหมายสำคัญ ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ให้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังรวมถึง “การมีลูก” หากคุณเอ่ยปากถามไถ่ในเรื่องดังกล่าวเพียงแค่นิดเดียว เขาก็จะบอกปัด ขัดขวาง เช่น ตอบไม่เต็มเสียง บอกว่ายังไม่พร้อม นานาจิตตัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การบอกว่าแฟนกำลังนอกใจได้อย่างเดียว แต่ยังหมายถึงว่าเขายังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคุณ และไม่ได้มองเห็นคุณในอนาคตของเขาแม้แต่นิดเดียว

4. ไม่กล้าสบตาเวลาพูดคุยกัน

หากคุณค่อนข้างมั่นใจว่าแฟนนอกใจ และต้องการหยั่งเชิงด้วยจิตวิทยา แฟนนอกใจ เช่น การถามออกไปตรง ๆ หรือการทำเป็นตำหนิถึงการกระทำที่ไม่ดีของคนอื่นที่สมมติขึ้นมา แล้วเขาเกิดไม่กล้าสบตาหรือไม่กล้าแม้แต่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แสดงความเขากำลังโกหกหรือมีเรื่องที่ปิดบังคุณอยู่แน่นอน

5. แอบตอบแชตในขณะที่เราเผลอ

ช่วงแรก ๆ ที่คบกันเขามักจะจับมือคุณมากกว่าจับมือถือใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าหากวันเวลาผ่านไปเขาเลือกที่จะจับมือถือมากกว่า ไม่ว่าจะตอบแชต หรือขอตัวออกไปรับสายแล้วอ้างว่า “สายสำคัญ” อยู่บ่อย ๆ หรือแม้กระทั่งเล่นโทรศัพท์ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่ยอมหลับยอมนอน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปกับหน้าจอเล็ก ๆ การกระทำแบบนี้ชัดเจนมาก ๆ เลยว่าแฟนของคุณ “กำลังมีคนอื่น”

6. ประวัติการโทรล่าสุดมักถูกเคลียร์อยู่เสมอ

หากคุณมีโอกาสได้เช็กโทรศัพท์ของแฟน และพบว่าประวัติการโทรล่าสุดหายไป หรือในบางครั้งก็หายไปทั้งหมด บอกเลยว่าพฤติกรรมนี้น่าสงสัยเป็นที่สุด เพราะคนปกติทั่วไป “น้อยมาก” ที่จะเคลียร์ประวัติการโทร รวมถึงพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนในตอนที่คุณจับโทรศัพท์ของเขา หรือแม้กระทั่งแค่เอ่ยปากขอยืมโทรศัพท์ก็ตาม

7. เข้าถึงยาก และไม่ค่อยพูดคุยกันเหมือนเมื่อก่อน

ไม่ว่าคุณจะชวนคุยเรื่องไหน ประเด็นใด เขามักจะเงียบและไม่แสดงความคิดเห็นแบบเมื่อก่อน หรือเขามีพฤติกรรมที่แสดงออกชัดเจนว่ารำคาญ เดินหนีไปแบบดื้อ ๆ หากไม่ได้มีเรื่องราวให้ต้องง้องอนกัน ก็อาจเป็นเพราะว่าเขาเบื่อ และมีสิ่งที่เขากำลังให้ความสนใจมากกว่าคุณอยู่ยังไงล่ะ

8. ค่อนข้าง “หวงพื้นที่ส่วนตัว”

พื้นที่ส่วนตัวในที่นี้หมายถึงโทรศัพท์มือถือของเขานั่นเอง หากเมื่อก่อนสามารถจับโทรศัพท์ของเขาได้ตลอดเวลา มีแม้กระทั่งรหัสผ่านหรือเพิ่มลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ แต่ในตอนนี้กลับไม่ให้ยุ่งแม้แต่ปลายเล็บ เมื่อเผลอไปโดนแม้แต่นิดเดียวก็จะมีท่าทีลน ๆ บ้างก็โวยวาย บ้างก็โกรธ พฤติกรรมแบบนี้บอกเลยว่ามีโอกาสนอกใจสูงถึง 70% เลยล่ะ

9. อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในตอนที่อยู่กับคุณ

เมื่อความรักที่ว่าหวานกลายเป็นขม อยู่ดี ๆ สิ่งที่เคยทำก็กลายเป็นความน่ารำคาญ ขยับตัวนิดหน่อยก็ทำให้เขาหงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ หรือการเผลอทำอะไรที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นเหตุให้ทะเลาะจนถึงขั้นเลิกราได้ง่าย ๆ บอกเลยว่าเตรียมใจให้ดี เพราะคุณกำลังเป็น “ของตาย” เข้าแล้ว

หากคุณกำลังเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ลืมแฟนเก่า ยังไม่ Move On จากรักครั้งเก่า แต่อีกคนเขา Move Out คุณออกไปจากชีวิตแล้วหรือเปล่าคะ แล้วหากเป็นความสัมพันธ์ที่คบกันมานานมาก คบกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่น มีความตั้งใจว่าคนนี้ละคือคนที่คุณจะใช้ชีวิตด้วยตลอดไป

ซึ่งตลอดไปของคุณกับของแฟนเก่าดันไม่เท่ากัน แต่ก็นั่นละค่ะ ถ้าคุณสามารถตกลงปลงใจว่าต้องพอแค่นี้ คุณก็ควรจะจบความสัมพันธ์ลงด้วยดี แต่ปัญหามันเกิดเมื่อคนหนึ่งพร้อมไป แต่อีกคนลืมแฟนเก่าไม่ไหว ยังคิดถึงความรักครั้งเก่า มันจะคาราคาซัง จะมีการยื้อยุดจนวินาทีสุดท้าย

ซึ่งคนที่หมด Passion ในความสัมพันธ์เขาก็เสียใจไม่นาน แต่คนที่ยังไม่ลืมแฟนเก่าแบบคุณนี้สิเสียศูนย์กันเลยทีเดียว ซึ่ง Sigmund Freud บิดาจิตวิทยาสายจิตวิเคราะห์ได้อธิบายไว้ว่า การที่เราลืม หรือไม่ลืมคนรักเก่า เกิดจากความรู้สึกที่เรามีต่อความอิสระ เสรีที่เราได้จากการจบความสัมพันธ์

โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ คนที่เข้มแข็งหลังจากจบความสัมพันธ์ (ยินดีกับอิสระ เสรี ที่ได้รับ) คนแบบนี้จะ Move On ได้ไว กับคนที่รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอหลังจบความสัมพันธ์ ซึ่งคนในกลุ่มหลังนี่ละค่ะที่น่าเป็นห่วง

ดังนั้น ด้วยความห่วงใยจากดิฉัน ผู้มีประสบการณ์ทั้งเป็นผู้ที่ยังไม่ลืมเขา และฉันลืมเธอแล้ว จึงขอนำเสนอเทคนิคจิตวิทยาในการลืมแฟนเก่าแบบหมดใจ ล้างใจกันไปเลย มาฝากค่ะ

1. กลับไปอยู่กับครอบครัวสักพัก

เมื่อการเลิกกันทำให้คุณรู้สึกเคว้งคว้าง อ่อนแอ ขาดที่พึ่งพิง รู้สึกว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเขา ก็ขอให้พาตัวเองกลับไปสู่จุด Safe Zone คือ “บ้าน” หรือครอบครัวของคุณที่มีแม่ มีพ่อ มีพ่อ มีน้อง มีสัตว์เลี้ยง ที่คุณมั่นใจว่ารักคุณแน่ ๆ รออยู่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ให้ใจเข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง

หรือออกไปใช้เวลาอยู่กับเพื่อนรัก เพื่อนสนิท กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักคุณ หวังดีกับคุณให้เต็มที่ เพื่อให้คุณได้ตระหนักกับตัวเองว่า คุณสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องมีเขา และยังมีคนที่รักคุณอยู่เสมอ

2. ทิ้งสิ่งของเตือนใจไปให้ไกลตา

เหตุผลหนึ่งที่คุณยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ นั่นก็อาจเป็นเพราะคุณยังเก็บสิ่งของที่เขาให้เอาไว้อยู่ คุณยังคงกลับไปอ่านข้อความเก่า ๆ โพสต์เก่า ๆ ที่คุยกัน ยังคงไปในสถานที่ที่คุ้นเคย หรือยังคงใช้ชีวิตเหมือนตอนที่อยู่กับเขา การอยู่กับสิ่งเตือนความทรงจำเหล่านี้ บรรยากาศเดิม ๆ เช่นนี้ จะยิ่งทำให้คุณคิดถึงคนรักเก่า โหยหา และไปง้อขอให้เขากลับมา

ซึ่งการทำเช่นนั้นยิ่งทำให้คุณเจ็บ และเกิดความคิดทางลบต่อตนเองขึ้นมาเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ใช่นักจิตวิทยาก็แนะนำได้ ก็คือ ทิ้งสิ่งของเตือนใจไปให้หมดเลยค่ะ จะลบ จะทิ้ง จะบริจาค จะส่งคืน ขายต่อ ก็แล้วแต่คุณตัดสินใจเลยค่ะ

3. พาตัวเองออกสู่โลกกว้าง

ข้อเสียอย่างหนึ่งเวลาที่คุณมีคนรัก ก็คือ การที่คุณต้องแบ่งปันเวลามาใช้ร่วมกัน ทำให้หลาย ๆ ครั้งคุณจำเป็นต้องเลือกว่าจะใช้เวลาเพื่อตัวเอง หรือใช้เวลาเพื่อ “เราสองคน” เพราะฉะนั้น เมื่อความสัมพันธ์จำเป็นต้องจบลง ก็ขอให้มองมุมกลับ มองหามุมบวก ว่าเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ใช้เพื่อตัวเองจริง ๆ แล้วละ

อะไรที่อยากทำก็สามารถไปทำได้ โดยไม่ต้องห่วงอีกคนที่เคยรักกัน หรือถ้ามันเศร้าจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ก็ขอให้ฝืนพาตัวเองออกนอกห้อง ออกไปเจอผู้คนใหม่ ๆ ทำกิจกรรมใหม่ ๆ ไปเรียนรู้โลกกว้าง เปิดหู เปิดตา เปิดใจ เพื่อเติมความสดใสให้ชีวิต

4. แบ่งเวลาสร้างประโยชน์ให้สังคม

เป็นปกติที่เมื่อเลิกกับคนที่รู้สึกรักมาก หรือคบกันมานานมาก แล้วจะเกิดคำถามว่า “ฉันมีค่าแค่ไหน?” ดังนั้นเพื่อหาคำตอบให้ข้อสงสัยในคุณค่าของตัวเอง ก็ลองพิสูจน์โดยการใช้เวลาเศร้า ๆ เหงา ๆ ของคุณไปกับการสร้างประโยชน์ให้ผู้คน สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม

เช่น ไปปลูกต้นไม้แสนต้นกับท่านผู้ว่าชัชชาติ ไปสอนหนังสือเด็ก ๆ ในชุมชน อาสาดูแลผู้สูงอายุตามบ้านพักคนชรา เก็บขยะริมทะเล หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำแล้วโลกน่าอยู่มากขึ้น แล้วคุณจะได้เห็นว่า “ตัวเองมีค่า” มากกว่าที่คุณคิด

5. เมื่อคิดถึงเขา ให้รีบทำตัวไม่ว่าง

ข้อแนะนำในข้อนี้ต้องใช้สติพอสมควรทีเดียวค่ะ โดยคุณต้องรู้ทันความคิดและความรู้สึกตัวเองว่าคุณกำลังคิดถึงเขาอยู่นะ คุณกำลังเศร้าอยู่นะ เมื่อคุณรู้ทัน คุณก็ต้องรวบรวมแรงใจพาตัวเองไปทำกิจกรรม หรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งคุณจะไปคนเดียว หรือไปกับคนที่คุณรักก็ได้เหมือนกัน ขอเพียงแค่อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง และจมอยู่กับความคิดถึงที่ไปไม่ถึง แล้วย้อนกลับมากัดกร่อนความรู้สึกของคุณ

6. พัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม

การเป็น “คนดี” ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเป็น “คนที่ดีกว่าเดิม” ค่อนข้างยากและท้าทาย เพราะต้องอาศัยมุมมองที่คุณมีต่อตัวเองร่วมกับการสร้างแรงผลักดันในใจให้ไปเป็นคนที่คุณอยากจะเป็น ซึ่งในภาวะปกติการเป็นคนที่ดีกว่าเดิมว่ายากแล้ว และในภาวะที่ใจคุณสลายนั้นยากยิ่งกว่า แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำค่ะ เพื่อให้คุณพัฒนาตัวเองทั้งในด้านความรู้ ความคิด วิสัยทัศน์ ทัศนคติ และนิสัย เพื่อให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

7. ทำตัวให้สดใส พร้อมเปิดรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่จะเข้ามา

ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในที่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความสัมพันธ์แบบคนรัก ยังรวมถึงความสัมพันธ์แบบเพื่อน, พี่ – น้อง, ผู้ให้ – ผู้รับ, ผู้ดูแล, ผู้เรียนรู้ ซึ่งเชื่อเถอะค่ะว่าทุกความสัมพันธ์สำคัญต่อการเติบโตสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบของคุณ และยังสำคัญต่อการขับเคลื่อนโลกให้มีความน่าอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าใครจะทำร้ายคุณ ขอให้คุณยิ้มสู้ และใช้รอยยิ้มนั้นเป็นประตูที่เปิดไปสู่ผู้คนอื่น ๆ สถานที่ใหม่ ๆ เพื่อให้ชีวิตสดใส และมุ่งไปสู่อนาคตที่ดี

การอกหัก หรือต้องจบความสัมพันธ์กับใคร ไม่ใช่สิ่งบ่งชี้คุณค่าในตัวคุณ เพราะความรักเป็นเรื่องความรู้สึก ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องความเก่ง ไม่เก่ง ดี ไม่ดี รวย หรือจน ส่วนการจบความสัมพันธ์เป็นเรื่องเหตุผล และเรื่องไม่ลืมแฟนเก่าเป็นเรื่องความผูกพัน ที่จิตวิทยาช่วยได้ค่ะ คิดอะไรไม่ออกบอก iSTRONG ได้เสมอนะคะ

สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ

iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่

คนท แฟนตายแล ว ม แฟนใหม ได ย งไง

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร

บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

• คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก คุณแม่ของลูก 1 คน แมว 1 ตัว ที่พยายามใช้ความรู้ทางจิตวิทยาที่ร่ำเรียนมาและประสบการณ์การทำงานด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก มาสร้างความสุขในการใช้ชีวิต ดูแลครอบครัว และการทำงาน รวมถึงมีความสุขกับการได้เห็นว่าบทความจิตวิทยาที่เขียนไปโดนใจคนอ่าน

บทความแนะนำ :

1. 8 วิธี Move on จากความสัมพันธ์เป็นพิษ ‘อกหักดีกว่าทนกับความรักแย่ ๆ

2. 5 วิธีลาขาดจากความรักครั้งเก่า

อ้างอิง : สุรพล พยอมแย้ม. (มปป.). จิตวิทยาสัมพันธภาพ. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก https://shorturl.asia/X0FvG