ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

วันนี้ทีมวิชาการ Premier Prep จะมาเล่าให้ฟังว่า ข้อสอบ A-level คืออะไร? ทำไมน้องๆ ต้องให้ความสำคัญกับ A-level โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ พร้อมวิธีการรับมือที่จะช่วยให้น้องๆ มั่นใจ เรียกได้ว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนคอร์สเรียนภาษาอังกฤษปรับพื้นฐานตั้งแต่ต้นจนพร้อมคว้าชัยสู่มหาลัยที่ใฝ่ฝัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

เลือกอ่านตามหัวข้อ

A-level วิชาสามัญ คืออะไร? เกี่ยวอะไรกับ 9 วิชาสามัญ? แล้ว dek66 ต้องสอบอะไรบ้าง?

A-level คือ การวัดความรู้เชิงวิชาการ ซึ่งคำว่า A-level ย่อมาจาก “Applied Knowledge Level” เป็นชื่อเรียกใหม่สำหรับวิชาสามัญเดิมนั่นเอง

ข้อสอบ A-level จะสอบทั้งหมด 10 วิชา คือ คณิตศาสตร์ประยุกต์, คณิตศาสตร์ประยุกต์, วิทยาศาสตร์ประยุกต์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาต่างประเทศอื่นๆ

แต่ในทั้งหมด 10 วิชานี้ ภาษาอังกฤษ เป็นวิชาที่น้องๆ dek66 หลายคนมองว่าง่าย เลยอาจมองข้ามไป ซึ่งทีมวิชาการคิดว่า จริงๆ แล้ววิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ไม่ควรประมาทและมองข้ามเลย เพราะ ภาษาอังกฤษมีความยืดหยุ่นและต้องอาศัยการตีความ ทำให้น้องๆ อาจเสียคะแนนไปฟรีๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วถ้าเตรียมตัวอย่างดีก็สามารถทำคะแนนดีๆ ได้ไม่ยากเลย

โดยข้อสอบ A-level ภาษาอังกฤษนั้นจะมีโครงสร้างการสอบดังนี้

หัวข้อที่ออกสอบจำนวนข้อคะแนน ทักษะการฟังและการพูด (Listening and Speaking Skills)2025 ทักษะการอ่าน (Reading Skill)4050 ทักษะการเขียน (Writing Skill)2025 รวม80100

แต่ในโครงสร้างเหล่านี้ก็ยังมีแตกย่อยลงไปอีกว่าในแต่ละพาร์ทวัดเรื่องไหนเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษบ้าง ทีมวิชาการ Premier Prep จะมาเจาะลึกเลยว่าแต่ละพาร์ทมีอะไรบ้าง แล้วจะรับมือกับมันยังไง ไปดูกันเลย!

1) ข้อสอบ Listening & Speaking (20 ข้อ / 25 คะแนน)

ข้อสอบพาร์ท Listening & Speaking หรือที่เรามักรู้จักในชื่อพาร์ท Conversation มี 20 ข้อ เป็นแบ่งบทสนทนาสั้น 12 ข้อ (3 เรื่อง เรื่องละ 4 ข้อ) และบทสนทนายาว 8 ข้อ (1 เรื่อง) ทดสอบความรู้ด้านการสนทนาเป็นภาษาอังกฤษของน้อง ๆ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทีมวิชาการสรุปมาให้ dek66 แล้ว ดังนี้

  • การอัปเดตชีวิต หรือการพูดคุยเรื่องราวทั่วไป (Small talk) เช่น ภาพยนตร์ หนังสือ ปัญหาในชีวิต
  • การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเรียนระหว่างเพื่อนหรือนักเรียนกับครู (School / university conversation)
  • การอภิปรายในห้องเรียน (Class discussion)

เมื่อน้อง ๆ ฝึกปรือให้คุ้นเคยแม่นยำบทสนทนาลักษณะข้างต้น ก็จะทำให้น้อง ๆ ทำความเข้าใจบทสนทนาได้รวดเร็วขึ้น บริหารเวลาได้ดีขึ้น ประหยัดเวลาไปทำข้อสอบส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ที่น้อง ๆ ควรรู้ก็คือคำศัพท์ สำนวนต่าง ๆ ที่น้อง ๆ ต้องตัดสินใจเลือกจาก Choice เพื่อคว้าคะแนน ถ้าเรียงตามความท้าทายไปหาสิ่งที่ท้าทายที่สุดแล้ว จะเรียงได้ดังนี้

1. Expressions หรือประโยคสนทนาทั่วไปที่ใช้พูดเป็น Pattern เช่น What’s wrong? (เกิดอะไรขึ้น), Don’t mention it. (ไม่เป็นไรหรอก), Of course (แน่นอน) ประโยคเหล่านี้คือสิ่งที่น้อง ๆ จะพบได้อย่างแน่นอนในข้อสอบรูปแบบนี้

2. Phrasal verbs หรือกริยาที่มาคู่กับ Preposition แล้วความหมายบิดไปจากเดิม เช่น put on (สวมใส่่), get off (ลงรถ) คำกริยาเหล่านี้ออกสอบบ้างประปราย แต่ทุกครั้งที่ออกสอบมักเป็นข้อที่ท้าทายคลังคำศัพท์ของน้อง ๆ พอสมควร

3. Idioms (สำนวน) เช่น feel off-color (รู้สึกป่วย ๆ), as right as rain (รู้สึกดีมาก)

สำนวนเป็นหนึ่งในสิ่งที่ท้าทายที่สุดของข้อสอบพาร์ทนี้ ซึ่งเรียกได้ว่าทั้งคลังคำศัพท์ ประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษ หรือบางทีก็วัดกึ๋นการเดาความหมายจากบริบทของน้อง ๆ ได้เต็ม ๆ

Expressions, Phrasal verbs และ Idioms เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะคำในกลุ่มเหล่านี้บางครั้งไม่สามารถแปลได้อย่างตรงตัว ทำให้ถ้าน้องๆ เตรียมตัวมาไม่ดี พาร์ทนี้แทนที่จะกินนิ่มกลับกลายจุดที่ทำให้น้องๆ ต้องเสียคะแนนไปแบบฟรีๆ เลย

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

เทคนิคที่จะช่วยให้เราทำข้อสอบพาร์ทนี้ได้เร็วและแม่นยำคือควรกวาดตาอ่านทั้งเรื่องก่อน เพื่อดู Keyword ต่าง ๆ และดูว่าเรื่องไปในแนวไหน ก่อนที่จะลุยเลือกคำตอบให้กับบทสทนา

ข้อสอบพาร์ทนี้ แนะนำว่าน้อง ๆ ควรทำให้เสร็จทั้งพาร์ทในเวลาไม่เกิน 12-15 นาที เพื่อจะได้เผื่อเวลาให้มากพอไปทำข้อสอบ Reading ด้วย

2) ข้อสอบ Reading (40 ข้อ / 50 คะแนน)

2.1 โฆษณา (Advertisement) จำนวน 2 บทความ

ข้อสอบ A-level จะให้เราอ่านโฆษณาสินค้า 2 ชิ้น และมีคำถามให้เราตอบชิ้นละ 3 ข้อ รวมเป็น 6 ข้อ คำถามที่มักเจอได้บ่อย ๆ ได้แก่

  • สินค้าชิ้นนี้เป็นสินค้าประเภทไหน
  • ถ้าจะสั่งซื้อต้องทำอย่างไร
  • ใครเหมาะกับสินค้าตัวนี้
  • จุดขายคืออะไร

ข้อสอบโฆษณาไม่ใช่ข้อสอบรูปแบบใหม่ แต่เคยออกสอบมาแล้วเกือบจะทุกปีตั้งแต่ยังเป็นวิชาสามัญ ซึ่งน้อง ๆ สามารถย้อนกลับไปทำข้อสอบเก่าได้ตั้งแต่ปี 55-58 และ 60-64

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

เทคนิคสำคัญสำหรับการทำข้อสอบพาร์ทนี้คือ เราไม่จำเป็นต้องอ่านรายละเอียดของโฆษณาทั้งหมด เพียงแค่อ่านคำถาม ก็จะแอบคาดเดาตำแหน่งของคำตอบได้แล้ว เช่น ถ้าถามว่าซื้ออย่างไร ตำแหน่งของข้อมูลนี้ในโฆษณาก็มักจะอยู่ด้านล่าง เป็นต้น

เนื่องจากโฆษณาเป็นข้อสอบที่สั้นที่สุดและหาคำตอบง่ายที่สุด น้อง ๆ จึงควรใช้เวลาน้อยที่สุด แนะนำว่า 2 บทความนี้ ไม่ควรเกิน 5-7 นาที

2.2 บทวิจารณ์สินค้าหรือบริการ (Product or service review) จำนวน 1 บทความ

พาร์ทนี้ ข้อสอบ A-level จะให้น้อง ๆ อ่านบทวิจารณ์สินค้าบางอย่าง เช่น หูฟัง กระเป๋า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือบริการบางอย่าง เช่น โรมแรม ร้านอาหาร จำนวน 1 บทความ แล้วตอบคำถาม 6 ข้อ

หากน้อง ๆ เปิดดูข้อสอบวิชาสามัญเก่า ๆ ปี 61-65 อาจจะเคยเจอสิ่งที่เรียกว่า Movie Review หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์มาก่อน หรือปี 59 ก็เคยออก Book Review มาก่อน ซึ่ง Premier Prep คาดการณ์ว่าไอเดียการออกข้อสอบน่าจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ถ้าน้อง ๆ อยากลองฝึกข้อสอบแนวบทวิจารณ์ ก็เรียกได้ว่าข้อสอบเก่ายังพอใช้ได้อยู่

จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดของข้อสอบ Review คือ

  1. ความรู้สึก เพราะข้อสอบมักถามว่าผู้วิจารณ์น่าจะรู้สึกอย่างไรกับสินค้า ดังนั้น ห้ามลืมทบทวนคำศัพท์ที่โชว์ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น pleased, satisfied, disappointed, confused และคำอื่น ๆ อีกมากมาย
  2. การแยกแยะข้อเท็จจริง (Fact) กับความคิดเห็น (Opinion) เพราะใน Review มักมีสองสิ่งนี้อยู่ปะปนกัน ข้อสอบมักจะถามเราตรง ๆ เลยว่าประโยคไหนเป็นข้อเท็จจริง ประโยคไหนเป็นข้อคิดเห็น

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

ถึงแม้จะท้าทายกว่าโฆษณาเล็กน้อย แต่ข้อสอบ Review เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ไม่ควรใช้เวลาเยอะมาก แนะนำว่าเวลาที่ใช้ไม่ควรเกิน 7-9 นาที

2.3 รายงานข่าว (News report) จำนวน 1 บทความ

สำหรับ News report เป็นข้อสอบ Reading ที่ไม่เคยหายไปไหนเลยตั้งแต่ปี 59 โดยตั้งแต่ข้อสอบรุ่น dek66 จะมาพร้อมกับคำถาม 6 ข้อ

ไฮไลต์ของข้อสอบ News report ที่เป็นตัวช่วยสำคัญของเราเลยคือย่อหน้าที่ 1 เพราะเป็นย่อหน้าที่จะ recap เนื้อหาหลักทั้งหมดของข่าว เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะข่าวในชีวิตจริงจะต้องดึงดูดผู้อ่านให้ได้ไวที่สุด ถ้าคนเขียนข่าวไปเขียนเนื้อหาหลักในย่อหน้าอื่น คนอ่านก็จะเริ่มไม่ค่อยอยากอ่านแล้ว แล้วไปอ่านของสำนักข่าวอื่นแทน ดังนั้น ถ้าน้อง ๆ อ่านย่อหน้าที่ 1 ให้เข้าใจได้อยู่หมัด เนื้อหาที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยาก

คำถามของ News report จะไม่หลากหลาย เพราะขึ้นอยู่กับเนื้อหาของข่าวนั้น ๆ แต่ที่มักหยิบมาถามบ่อย ๆ คือความคิดหลัก (Main idea) หรือพาดหัวข่าว (Headline) ซึ่งคำตอบก็มักจะอยู่ที่ย่อหน้าที่ 1 ตามเหตุผลด้านบนนั่นเอง

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

ข้อสอบ News report เป็นมักมีเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อนมาก และคำถามมักเป็นรายละเอียดจากเนื้อข่าว ดังนั้น แนะนำว่าเวลาที่ใช้ไม่ควรเกิน 7-9 นาที

2.4 ภาพประกอบบทความ (Visual) เช่น กราฟ ตาราง แผนผัง หรือ แผนภูมิ จำนวน 2 เรื่อง

ข้อสอบ Visual แม้ชื่อจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่จริง ๆ แล้วข้อสอบจำพวก Graph หรือ Chart เป็นข้อสอบที่เคยมีมาแล้วในวิชาสามัญ ถ้าน้อง ๆ อยากลองฝึกด้วยข้อสอบเก่า สามารถย้อนทำได้ตั้งแต่ปี 55-60 และปี 65

โดยข้อสอบการอ่าน Visual น้อง ๆ จะต้องดูข้อมูลภาษาอังกฤษในภาพประกอบบทความ ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปกราฟเส้น แผนภูมิแท่ง แผนภูมิวงกลม ตาราง แผนผัง หรืออาจจะเป็นแผนภาพบางอย่าง แสดงข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็น สถิติการค้าขาย ตารางเวลา ผลสำรวจ เป็นต้น น้อง ๆ จะต้องเจอทั้งหมด 2 บทความ บทความละ 3 ข้อคำถาม รวมตอบคำถาม 6 ข้อ

คำถามเด่น ๆ และจุดเน้นของข้อสอบ Visual จะขึ้นอยู่กับประเภทของ Visual ที่โจทย์ให้มา

  • กราฟ : สังเกตทิศทางของกราฟว่าขึ้นหรือลง เพราะโจทย์มักถามแนวโน้ม (Trend) ของกราฟ ศัพท์น่าทวน เช่น upward (ขาขึ้น), downward (ขาลง), soar (พุ่งขึ้น), plummet (ร่วงลง)
  • ตาราง : สังเกตการเทียบข้อมูล เพราะโจทย์มักให้ดูความต่างของชุดข้อมูลในตาราง ศัพท์น่าทวน เช่น difference (ผลต่าง ความต่าง), sum (ผลรวม)
  • แผนภูมิ : สังเกตหมวดหมู่ของสิ่งที่อยู่ในแผนภูมิ ดูการเปรียบเทียบตัวเลข ศัพท์น่าทวน เช่น category (หมวดหมู่), percentage (อัตราเปอร์เซนต์)
  • แผนผัง : สังเกตทิศทาง การเปลี่ยนแปลง ขั้นตอน โจทย์อาจเจาะถามจุดต่าง ๆ ของแผนผัง ศัพท์น่าทวน เช่น middle (ตรงกลาง), alter (เปลี่ยนแปลง), transform (เปลี่ยนโฉม)

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

เนื่องจาก Visual เป็น Reading ที่มีเนื้อหาไม่มาก แต่ต้องระวังเรื่องการเทียบข้อมูลให้ถูกต้อง

แนะนำว่ารวม 2 บทความ เวลาที่ใช้ไม่ควรเกิน 5-7 นาที หากเป็นกราฟให้ดูทิศ หากเป็นตารางให้ฝึกเทียบ หากเป็นแผนภูมิให้ดูหมวดหมู่ และสุดท้ายให้สังเกตการเปลี่ยนแปลง

2.5 บทความทั่วไป ที่ มีจำนวนคำประมาณ 500– 600 คำ หรือ 1 หน้ากระดาษ A4 จำนวน 2 บทความ

ข้อสอบ Reading ส่วนนี้ เป็นส่วนที่เรียกได้ว่าหินที่สุดและวัดกึ๋นของน้อง ๆ มากที่สุด เพราะโจทย์จะให้บทความขนาดยาวถึง 500-600 คำ (ถ้าเป็นกระดาษ A4 จะอยู่ราว ๆ 1 หน้า แต่ถ้าเป็นกระดาษข้อสอบอาจอยู่ที่ 2 หน้าเต็ม ๆ) จำนวน 2 บทความ พร้อมคำถามบทความละ 8 ข้อ รวมเป็น 16 ข้อ

Theme บทความที่เคยออกและอาจออก โดยให้เน้นทบทวนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ Theme นั้นและฝึกอ่านบทความเต็ม ๆ บ่อย ๆ

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

หมวดหมู่คำศัพท์ตัวอย่างคำศัพท์ การแพทย์patient, treatment, disease, therapy, clinical เทคโนโลยีinnovation, transform, artificial intelligence, automation ประเด็นสังคมfreedom, community, policy, awareness, prejudice สิ่งแวดล้อมemission, atmosphere, species, toxic, pesticide, pollution เศรษฐกิจindustry, financial, consumer, goods, manufacturer

เนื่องจากบทความจะค่อนข้างยาวและมีคำถามเยอะ สำหรับเวลาที่แนะนำจึงอยู่ที่ไม่เกิน 25-30 นาที สำหรับ 2 เรื่องรวมกัน

ข้อสอบเก่ามีข้อสอบ Reading แนว Article ทุกปี น้อง ๆ สามารถเลือกฝึกจากปีไหนก็ได้ แต่บางปี บทความอาจจะยาวไม่ถึง 500 คำ แต่ถ้าน้อง ๆ ต้องการฝึก โจทย์พวกนี้ก็ยังใช้ฝึกได้เหมือนกัน

3) ข้อสอบ Writing (20 ข้อ / 25 คะแนน)

3.1 เติมบทความให้สมบูรณ์ (Text completion) จำนวน 3 บทความ

โจทย์แบบ Text Completion หรือเรียกอีกอย่างว่า Cloze test ของข้อสอบ A-level จะมี 3 บทความ บทความละ 5 ข้อ รวมเป็น 15 ข้อ

แต่ละบทความจะเว้นช่องว่างเอาไว้ให้เราเลือกคำมาเติม ช่องว่างแต่ละช่องจะวัดความรู้ของน้อง ๆ แบ่งได้ 2 แบบ วัด Grammar ให้น้อง ๆ ทบทวนเรื่องต่อไปนี้

  • Finite verb (กริยาแท้) : Tense, Active voice, Passive voice, Subject & verb agreement
  • Non-finite verb (กริยาไม่แท้) : Infinitive with to, Infinitive without to, Gerund, Participle
  • การใช้ Other, others, the other, the others, another
  • Relative pronoun & Relative clause
  • Phrase structure (โครงสร้างวลี)
  • If-clause (เน้นรูปพื้นฐาน)
  • Preposition
  • Parallelism (โครงสร้างคู่ขนาน)
  • Transition words (คำเชื่อม)

เทคนิคสำคัญถ้าข้อสอบวัด Grammar คือการ “แตกโครงสร้างประโยค” หาประธานและกริยาให้ไวที่สุด โดยเฉพาะถ้าวัดเรื่อง Verb, Relative, Phrase structure และ Transition words วัด Vocabulary ให้ทบทวนคำศัพท์กลุ่มต่อไปนี้

  • คำศัพท์ทั่วไประดับ A2-C1
  • Phrasal verb ต่าง ๆ
  • Idiom ต่าง ๆ

โจทย์แนวนี้ปรากฏในข้อสอบวิชาสามัญในอดีตทุกปี ดังนั้น น้อง ๆ สามารถเลือกข้อสอบเก่ามาฝึกทำพาร์ทนี้ได้เต็มที่

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

ถ้าน้อง ๆ ฝึกโจทย์พาร์ทนี้จนคล่อง จะรู้ว่าพาร์ทนี้เป็นข้อสอบที่ค่อนข้างทำเวลาได้

ดังนั้น เวลาที่แนะนำจึงอยู่ที่ประมาณ 12-15 นาที สำหรับทั้ง 3 บทความ

3.2 เรียงประโยคให้เป็นย่อหน้าที่สมบูรณ์ (Paragraph organization) จำนวน 5 ย่อหน้า

มาถึงพาร์ทสุดท้ายของข้อสอบ A-level ซึ่งข้อสอบจะให้ประโยคมา 5 ประโยค ให้เราเรียงให้มีเนื้อหาถูกต้อง สมเหตุสมผล

เทคนิคหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการทำข้อสอบพาร์ทนี้ให้ไวขึ้น คือการ “หารอยต่อ” ระหว่างประโยค 2 ประโยค

รอยต่อที่ว่าก็คือคำสรรพนาม (I, you, we, they, he, she, it) และ Transition words ต่าง ๆ นั่นเอง การมีคำเหล่านี้จะบอกเราได้ 2 อย่าง นั่นคือ

  1. ประโยคที่มีคำเหล่านี้จะขึ้นต้นไม่ได้แน่ ๆ เพราะมีรอยต่อ Choice ไหนมีคำเหล่านี้ เตรียมตัวตัดทิ้งได้เลย
  2. ประโยคที่มีคำเหล่านี้จะต้องมีประโยคก่อนหน้าให้มาผูก มาถึงตรงนี้เราต้องอาศัยทักษะการอ่านแล้วว่าคำสรรพนามที่เห็น น่าจะหมายถึงอะไรในประโยคก่อนหน้า ถ้าเราหารอยต่อเจอ เช่น ประโยค C ต้องมาก่อนประโยค E ก็อาจช่วยให้เราตัด Choice ที่เอาประโยค E ขึ้นก่อน C ออกไปได้

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

Premier Tips

การฝึกจับสังเกตด้วยเทคนิคนี้ให้คล่อง ๆ บางทีอาจช่วยให้เราตัด Choice จนหาคำตอบเจอภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น ทำให้ข้อสอบพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่หลายคนมักทำเวลา

ดังนั้นข้อสอบพาร์ทนี้เวลาที่แนะนำจะอยู่ที่ไม่เกิน 3-5 นาที รวมทั้ง 5 ข้อ

ไปให้ไกลกว่าแค่การสอบ

จบกันไปแล้วกับการเจาะลึกข้อสอบ A-level ภาษาอังกฤษครับ สิ่งสุดท้ายที่อยากจะฝากน้องๆ dek66 ก็คือ A-level ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เราไม่ควรมองข้ามเลย เพราะน้องๆ สามารถที่จะเก็บคะแนนได้เยอะเลยถ้าเตรียมตัวดีๆ

ทีมวิชาการแนะนำว่า สิ่งที่น้องๆ ควรทำเพื่อให้พร้อมสำหรับ A-level ภาษาอังกฤษ คือ น้องๆ ควรทำโจทย์จับเวลาจริง เพราะจะเห็นได้เลยว่าข้อสอบ A-level ภาษาอังกฤษ นั้นค่อนข้างบีบคั้นเรื่องเวลามาก อาจทำให้น้องๆ พลาดได้ ทีมวิชาการ Premier Prep สรุปทุกอย่างไว้เป็น Checklist แบบนี้ให้ทุกคนได้ใช้เตรียมตัวสอบกัน

ข อสอบ เต ม ค า ภาษา อ งกฤษ ม.ปลาย

ถ้าใครมีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ หรือ มีปัญหาเรื่องการทำโจทย์จับเวลาจริง ที่ Premier Prep มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสรุปเนื้อหา และตะลุยโจทย์ A-level และคอร์สโค้งสุดท้าย A-level ที่มี Mock test สอบเสมือนจริงๆ ที่ช่วยให้น้องๆ พร้อมกับการสอบ A-level 66 ด้วยพร้อม ระบบ Clear by OnDemand ยิ่งกว่ากูรู ถามปุ๊บ ตอบปั๊บ ภายใน 24 ชั่วโมง

หัวใจหลักของ Clear “ถ้าติด ต้องถาม” เพราะจะเป็นตัวช่วยให้น้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน คลิกเลย >> http://bit.ly/3Yfo8A7

ถ้าไม่ซื้อคอร์สไม่เป็นไร น้องๆ สามารถใช้ Checklist ที่ทีมวิชาการให้ไว้เตรียมตัวสอบได้เลยครับ สุดท้ายนี้ทีมวิชาการขออวยพรให้น้องๆ สอบติดมหาลัยในฝันทุกคนครับ