สนใจปรึกษาความคุ้มครอง ปรึกษาด้านความคุ้มครอง กับทีมงาน PROTECT ปรึกษาทันที ❯ ต้องการความช่วยเหลือ ส่งข้อความให้เรา เราจะติดต่อคุณกลับให้เร็วที่สุด ช่วยเหลือ ❯ คำถามที่พบบ่อย เรารวบรวมข้อสงสัยที่พบบ่อยมาให้คุณ สอบถามเลย ❯ สนใจปรึกษาความคุ้มครอง ปรึกษาด้านความคุ้มครอง กับทีมงาน PROTECT ปรึกษาทันที ❯ ต้องการความช่วยเหลือ ส่งข้อความให้เรา เราจะติดต่อคุณกลับให้เร็วที่สุด ช่วยเหลือ ❯ คำถามที่พบบ่อย เรารวบรวมข้อสงสัยที่พบบ่อยมาให้คุณ สอบถามเลย ❯ จ่ายง่าย หลากหลายช่องทาง มาตรฐานการรับรอง โดย 0105560058369 บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว | © สงวนลิขสิทธิ์ 2564 บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด ติดต่อสอบถาม ร้องเรียน 1314 9:00 - 19:00 ทุกวัน เนื้อปลามีสารอาหารที่ครบถ้วย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามเนื้อปลาแตกต่างจากเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ก็คือ มีก้าง และหลายคนอาจเคยเจอปัญหา ก้างปลาติดคอ สร้างความเจ็บปวดในขณะทานอาหาร ซึ่งก้างปลาที่ติดคอบ่อยจะเป็นก้างปลาทู อาจเป็นเพราะผู้คนนิยมบริโภคมากกว่าปลาชนิดอื่นๆ และส่วนใหญ่จะรู้วิธีเบื้องต้นว่าควรปฎิบัติอย่างไร แต่จะมีผู้ป่วยบางรายก้างปลาปักลึกมากจึงไม่สามารถนำก้างปลาออกเองได้ วันนี้แอดมินจึงมีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันเกี่ยวกับการปฎิบัติเมื่อมีอาการก้างปลาติดคอ และมาดูกันว่าหากมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น เราควรทำอย่างไร ก้างปลาติดคอมีอาการอย่างไร
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อก้างปลาติดคอ
ทำอย่างไรเมื่อก้างปลาติดคอ?
ข้อมูล ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ที่มา : ผศ.(พิเศษ) พญ.ภัทร์นฤน มหัธนสกุล ฝ่ายโสต ศอ นาสิกวิทยา ก้างปลาติดคอก้างติดคอ (Fishbone Stuck in the Throat) หรือ เศษกระดูกติดคอ (ที่พบบ่อยคือ กระดูกไก่ติดคอ – Chicken bone Stuck in the Throat) สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการศึกษาว่าเป็นช่วงอายุใดมากที่สุดและเป็นก้างปลาชนิดใดมากที่สุด แต่ที่พบได้บ่อยก็เห็นจะเป็นก้างปลาทู ซึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนนิยมบริโภคมากกว่าปลาชนิดอื่น ๆ ส่วนปลาอื่น ๆ ก็มีมาให้เห็นบ้างแต่พบได้ไม่บ่อย ส่วนมากผู้ป่วยที่มาหาหมอ ก้างปลามักจะติดคอมาแล้ว 2-3 วัน ที่ติดคอปุ๊บแล้วมาหาหมอทันทีจะมีน้อย และส่วนใหญ่จะรู้วิธีเบื้องต้นว่า ต้องดื่มน้ำมาก ๆ หรือกลืนข้าวคำโต ๆ ซึ่งในบางรายก็อาจใช้วิธีนี้ได้ผล เนื่องจากก้างปลาปักอยู่บริเวณตื้น ๆ พอกลืนข้าวก้างปลาก็ติดลงไปในกระเพาะอาหารและสามารถขับถ่ายออกมาทางอุจจาระได้ แต่ในรายที่ก้างปลาปักลึกมาก การกลืนข้าวคำโต ๆ อาจทำให้ไปกดก้างปลาให้ปักลึกลงไปกว่าเดิมได้ เมื่ออาการไม่ดีขึ้นผู้ป่วยจึงมาหาหมอ ก้างปลาหรือเศษกระดูกอาจติดได้ตั้งแต่เพดานอ่อน ต่อมทอนซิล ผนังคอหอย โคนลิ้น ฝาปิดกล่องเสียง หรือติดอยู่ในหลอดอาหารก็ได้ แต่ตำแหน่งที่พบก้างปลาติดบ่อย ๆ เห็นจะเป็นบริเวณข้าง ๆ ต่อมทอนซิล บริเวณโคนลิ้น บริเวณฝาปิดกล่องเสียง บริเวณใกล้หลอดรูเปิดทางเดินอาหาร หมายเหตุ : นอกจากก้างปลาหรือเศษกระดูกไก่/เป็ด/หมูแล้ว สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ก็สามารถติดคอได้เช่นกัน เช่น เนื้อสัตว์ที่เคี้ยวไม่ละเอียด, ฟันปลอม, คลิปเย็บกระดาษ, ไม้กลัด, เหรียญสตางค์ต่าง ๆ เช่น เหรียญบาท, แบตเตอรี่นาฬิกา เป็นต้น อาการก้างปลาติดคอเมื่อก้างปลาหรือเศษกระดูกติดคอ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บในคอและกลืนลำบากทันทีในขณะรับประทานอาหาร ถ้าเป็นก้างปลาขนาดเล็ก ๆ อาจจะหลุดได้เองในเวลาต่อมา หรืออาจหลุดได้ด้วยการกลืนข้าวสุกหรือขนมปังนิ่ม ๆ แต่ถ้าก้างปลาหรือเศษกระดูกนั้นมีขนาดใหญ่ก็อาจติดคาอยู่ ทำให้มีอาการเจ็บบริเวณนั้น ๆ เมื่อยิ่งกลืนก็ยิ่งเจ็บ และถ้าติดอยู่เป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เป็นหนองและมีไข้ได้ รวมทั้งอาจมีเลือดออกมาปนกับน้ำลายหรือมีเสียงเปลี่ยนได้ด้วย แต่โดยปกติแล้วเมื่อก้างปลาติดคอมักจะไม่ค่อยมีผลทำให้เสียงเปลี่ยน ยกเว้นในกรณีที่อาการอักเสบลุกลามไปที่กล่องเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาของการออกเสียงและมีปัญหาเรื่องของการหายใจตามมาได้ ในกรณีที่ก้างปลาติดอยู่ในหลอดอาหารและผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น หลอดอาหารทะลุมีหนองลามเข้าไปในช่องอกและเยื่อหุ้มหัวใจ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ และควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ที่รู้สึกว่ามีอาการ วิธีแก้ก้างปลาติดคอ
ข้อควรปฏิบัติเมื่อก้างปลาติดคอ
เห็นไหมครับว่า แค่เพียงก้างปลาชิ้นเล็ก ๆ ก็อาจทำให้คุณต้องพบปัญหาและปวดหัวกับวิธีการเอาออกหลากหลายขั้นตอน ดังนั้นเวลาจะรับประทานอะไรก็ต้องมีสติทุกครั้ง พยายามเอาก้างปลาออกก่อน แล้วค่อย ๆ เคี้ยว ค่อย ๆ กลืน เพราะจากที่เคยสอบถามมา ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะกินไปคุยไปโดยไม่ทันได้ดูว่า ปลาที่กำลังตักใส่ปากนั้นมีก้างติดอยู่หรือไม่ พอรีบเคี้ยวรีบกลืนก็เลยทำให้ก้างปลาติดคอ |