ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

เราถูกสอนให้กินแต่ของดีกันมาตั้งแต่เด็กๆ ตารางอาหาร 5 หมู่ ท่องจำแล้วกินให้ครบ กินให้มากพอเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่รู้หรือไม่ว่า ในบรรดาอาหารเพื่อสุขภาพเหล่านั้น มีอาหารบางอย่างที่แม้จะมีสรรพคุณช่วยบำรุง แต่ถ้ากินมากไปกลับกลายเป็นอาหารให้โทษ ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นโรคร้ายต่างๆ ได้อีกด้วย

น้ำเต้าหู้

ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

น้ำเต้าหู้เป็นหนึ่งในเมนูลดน้ำหนักของใครหลายๆ คน บางคนที่แพ้นมวัวก็หันมาดื่มน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองแทน ซึ่งแน่นอนว่าน้ำเต้าหู้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงสมองและกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้จริง เพราะดื่มแล้วอยู่ท้อง ช่วยให้อื่มและไม่โหยอาหาร เหมาะสำหรับดื่มตอนเช้าๆ หรือดื่มตอนเย็นแทนการกินมื้อหนักๆ ได้

แต่ในน้ำเต้าหู้ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมของถั่วเหลืองโปรตีนสูงนี้ หากกินมากเกินไป โปรตีนจะไปเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทั้งยังมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติที่เต้านม ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมในเพศหญิงได้ นอกจากนั้น การดื่มน้ำเต้าหู้มากๆ อาจไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ กดไอโอดีน ทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์เสื่อมประสิทธิภาพลง ส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน ร่างกายอ่อนเพลีย และน้ำหนักลดได้ ฉะนั้น คนเป็นโรคไทรอยด์ไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้ หรือหากต้องการดื่มน้ำเต้าหู้ แนะนำให้ดื่มวันละ 1 แก้ว ตอนเช้าหรือตอนเย็น และต้องเป็นน้ำเต้าหู้แบบไม่เติมน้ำตาล เพื่อไม่ให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนและเบาหวานเพิ่มนั่นเอง

มะละกอ

ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

มะละกอเป็นผลไม้ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูก อุดมไปด้วยวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันการเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง

แม้มะละกอจะมีประโยชน์ แต่ถ้าทานมากไปก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ทำให้ผิวเหลือง เซื่องซึม เบื่ออาหาร และนอนไม่หลับ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยเบาหวาน มะละกอซึ่งเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลค่อนข้างมาก อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ นอกจากนั้น ในมะละกอยังมีสารพาเพน ซึ่งส่งผลกับทารกในครรภ์ หญิงตั้งครรภ์จึงไม่ควรกินมะละกอหรือกินในปริมาณน้อยๆ จะดีกว่าค่ะ

น้ำเปล่า

ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

น้ำจำเป็นต่อร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญที่คอยหล่อลื่นข้อต่อและช่วยให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยไม่ให้ท้องผูก ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปรั่ง ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ รวมถึงเป็นตัวที่คอยล้างสารพิษออกจากร่างกาย แต่ประโยชน์ของน้ำเปล่าที่เราพูดถึงนี้ เป็นประโยชน์ในกรณีที่เราดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะถ้าดื่มน้ำเปล่าเยอะเกินไป จะทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ ซึ่งอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication) เกิดมาจากการดื่มน้ำมากเกินไปและร่างกายได้รับน้ำปริมาณมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ส่งผลให้ปริมาณโซเดียมในเลือดลดลงเพราะถูกเจือจางไปกับน้ำ (Hyponatremia) ทำให้มีอาการปวดหัว อาเจียน อ่อนเพลีย บางคนมีอาการมือ-เท้าบวม สับสน สมองบวม และอาจถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น การดื่มน้ำควรดื่มแต่พอดี วันละ 6-8 แก้ว หรือคนที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬา อาจดื่มให้มากขึ้นเพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไป แต่ไม่ควรดื่มเกินวันละ 13 แก้ว หรืออาจสังเกตง่ายๆ จากสีของปัสสาวะ หากปัสสาวะมีสีเหลืองอ่อน แปลได้ว่าปริมาณน้ำในร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ถ้าปวดปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะใส ไม่มีสี แสดงว่าคุณดื่มน้ำมากเกินไปแล้ว

ปลาทูน่า

ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

ปลาทูน่าเป็นอีกหนึ่งอาหารลดน้ำหนักที่ราคาไม่แรง และนำมาปรุงได้หลากหลายเมนู จะทานเปล่าๆ กับผักสลัดก็อร่อย หรือจะนำมาทำไส้แซนวิช กินคู่กาแฟตอนเช้าๆ ก็เวิร์ค แต่รู้หรือไม่ว่า ปลาทูน่านั้นจัดเป็นปลาที่มีสารปรอทปนเปื้อนอยู่มากเป็นอันดับต้นๆ

ปลาทูน่าเป็นปลาที่ปนเปื้อนสารปรอท โดยสารปรอทจะแทรกอยู่ทั้งในเนื้อปลาและส่วนที่เป็นไขมัน สายพันธุ์ของปลาทูน่าที่พบสารปรอทมาก ได้แก่ ปลาทูน่าตาโต และปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ซึ่งสารปรอทนี้ หากสะสมอยู่ในร่างกายมากๆ เข้า จะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ส่งผลต่อสมอง อาจทำให้หูตึง ตาบอด หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และประสาทหลอน ดังนั้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงปลาทูน่า โดยเปลี่ยนไปทานปลาอย่างอื่นแทน เช่น ปลาแซลมอนหรือปลาดุก หากต้องการทานปลาทูน่าควรทานเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สำหรับปลาทูน่ากระป๋อง แนะนำให้เลือกแบบทูน่าในน้ำเกลือหรือน้ำแร่ ดีกว่าทูน่าในน้ำมัน

ส้ม

ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

ส้มเป็นแหล่งวิตามินซี ช่วยบำรุงผิว เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ บรรเทาหวัด ทั้งยังมีกากใยช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้

แต่ถ้ากินส้มเยอะๆ จนร่างกายได้รับวิตามินซีมากเกินไป (มากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน) อาจทำให้เกิดโรคนิ่วในไตได้ นอกจากนั้น กากใยของส้มที่มีมาก ถ้ามากจนเกินพอดี ก็ทำให้เกิดปัญหาท้องผูกได้เช่นกัน หากทานตอนท้องว่าง โดยเฉพาะคนที่เคยมีประวัติเป็นโรคกรดไหลย้อน ส้มที่อุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดนี้ อาจทำให้กระเพาะอาหารและทางเดินอาหารระคายเคือง ทั้งยังทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ หรืออาเจียนได้อีกด้วย การกินส้มจึงควรกินแต่พอดี วันละ 1-2 ลูก ก็จะช่วยแก้ปัญหาท้องผูก และช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเพียงพอแบบไม่ต้องทานอาหารเสริมหรือวิตามินเพิ่มเติมแล้วล่ะค่ะ

กะหล่ำปลี

ก นนมถ วเหล องท กว น ม โทษอย างไร

กะหล่ำปลีเป็นได้ทั้งวัตถุดิบหลักและผักแกล้ม มีประโยชน์ช่วยลดคลอเลสเตอรอล เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีกากใยสูง ดีต่อระบบย่อยอาหาร ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นอีกด้วย

แต่ในขณะเดียวกัน การกินกะหล่ำปลีมากๆ โดยเฉพาะกะหล่ำปลีดิบ จะทำให้ร่างกายได้รับสาร Goitrogen เป็นสารที่คอยขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมไอโอดีน ซึ่งไม่ดีต่อต่อมไทรอยด์ เสี่ยงต่อการเกิดโรคคอหอยพอก ผู้ป่วยไทรอยด์จึงควรหลีกเลี่ยงการกินกะหล่ำปลีไม่ว่าจะสุกหรือดิบ แต่สำหรับคนที่ไม่มีโรค แนะนำให้กินแต่กะหล่ำปลีสุกจะดีกว่า เพราะความร้อนนั้นช่วยฆ่าสาร Goitrogen ได้

อาหารทั้ง 6 อย่างนี้ ล้วนแต่เป็นอาหารที่ดีต่อร่างกาย หากเรากินในปริมาณที่พอเหมาะพอสม รวมไปถึงอาหารอื่นๆ หากกินให้อยู่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่มีอะไรต้องกังวล

นอกจากเลือกกินแต่ของดีและกินให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ปอดแข็งแรง พร้อมต่อสู้กับโรคภัยและเชื้อไวรัสต่างๆ ว่าแล้วก็เข้ามาช้อปอุปกรณ์ออกกำลังกายและลู่วิ่ง เอาไปฟิตร่างเพิ่มพลังให้ปอดกันได้เลยที่เว็บไซต์ OfficeMate ช้อปวันนี้ครบ 499 บาท มีบริการส่งฟรีด้วยนะ!

กินน้ำเต้าหู้ทุกวันมีผลเสียไหม

แต่ในน้ำเต้าหู้ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมของถั่วเหลืองโปรตีนสูงนี้ หากกินมากเกินไป โปรตีนจะไปเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทั้งยังมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติที่เต้านม ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมในเพศหญิงได้ นอกจากนั้น การดื่มน้ำเต้าหู้มากๆ อาจไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ กดไอโอดีน ทำให้การ ...

น้ำเต้าหู้กินตอนไหนดีที่สุด

อาจใช้กินเป็นมื้อว่างในช่วงสายๆ แทนการกินขนมและน้ำหวานน้ำตาลสูง หรือเอาไว้ดื่มตอนเย็นเพื่อช่วยควบคุมอาหารลดน้ำหนักก็ได้เหมือนกัน แต่ไม่แนะนำให้ดื่มแค่น้ำเต้าหู้แค่เพียงถุงเดียวนะคะเพราะแคลอรีและสารอาหารจะไม่พอเอา ควรบาลานซ์สารอาหารให้เหมาะสมด้วย

กินน้ำเต้าหู้ทุกวันช่วยอะไร

ข้อสรุป : ดื่มน้ำเต้าหู้ 14 วัน ช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันได้จริง หากเทียบกับนมวัว น้ำเต้าหู้มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน คอเลสเตอรอล และแคลอรี น้อยกว่านมวัว นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงกระดูก ควบคุมความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต่อต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์มากมายในราคาประหยัด ที่สำคัญต้องเป็นน้ำเต้าหู้