ทุกวันนี้เราใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตชีวิตผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ซื้อสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมผ่านแอปพลิเคชัน ทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งในการใช้งานหรือเข้าถึงบริการต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตนั้น จำเป็นต้องเปิดเผย ข้อมูลส่วนตัว หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล บางอย่าง เช่น ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร ฯลฯ Show บางครั้งเป็นการยืนยันตัวตนเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในการเข้าใช้ระบบ บางครั้งเพื่อการติดต่อรับส่งสินค้าหรือการชำระค่าสินค้า ข้อมูลที่เราให้ไปนั้น อาจไปปรากฎอยู่บนอินเทอร์เน็ตหรือถูกนำไปใช้งานอย่างอื่นที่เราไม่คาดคิด ทำให้เรากลายเป็นเหยื่อหรือผู้ประสบภัยออนไลน์ได้ เว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เราใช้ ล้วนเก็บข้อมูลที่เราให้ไป นอกจากเพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้ใช้งานหรือลูกค้าเพื่อการให้บริการที่ดีแล้ว ยังเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล หลุดไปได้อย่างไร
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
วิธีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อเกิดความเสียหายจะทำอย่างไรหากข้อมูลส่วนบุคคลถูกขโมยไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย หรือมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ในเบื้องต้นให้แจ้งผู้เกี่ยวข้อง เช่น หากเป็นบัญชีธนาคารให้ติดต่อธนาคารโดยด่วน หากเป็นบัญชีสังคมออนไลน์ให้รายงานผู้ให้บริการว่าถูกขโมยข้อมูลและร่วมกันหาวิธีการแก้ไข จากนั้นให้เก็บรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดี ทั้งนี้ การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข ก่อนจะโพสต์หรือจะทำธุรกรรมใด ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนใช้บริการทุกครั้ง และควรใส่ข้อมูลส่วนบุคคลให้น้อยที่สุด ใส่เท่าที่จำเป็น และควรเลือกเว็บไซต์หรือบริการที่น่าเชื่อถือ มีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ดี โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน ต้องมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy Policy ที่ชัดเจน ที่สำคัญ หากมีการขอความยินยอมในการให้ข้อมูล ควรอ่านรายละเอียดให้ชัดเจน หากมีข้อสงสัยให้สอบถามผู้ให้บริการ ก่อนกดตกลงให้ความยินยอมใด ๆ ปัจจุบัน แม้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยังไม่ได้ใช้บังคับอย่างเต็มรูปแบบ แต่หลาย ๆ หน่วยงานได้เริ่มดำเนินการในการดูแลเรื่องนี้แล้ว การให้ความสำคัญในเรื่องนี้ของผู้ให้บริการ ย่อมสะท้อนถึงคุณภาพการบริการ ที่เราในฐานะผู้รับบริการทางออนไลน์ สามารถนำมาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกใช้บริการต่อไป ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนสามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่จะบังคับใช้เต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ ได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โทร. 02 142 1033 หรืออีเมล [email protected] |