การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

การขยายพันธุ์พืช 5 วิธี และวิธีฟื้นฟูต้นไม้ เปลี่ยนต้นไม้เฉาให้กลับมาผลิดอกออกใบ เพื่อนำความสวยงามของต้นไม้กลับมาอีกครั้ง

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

ปัญหาเรื่องต้นไม้จัดสวนไม่ออกดอก ไม่มีผล หรืออยากขยายพันธุ์ต้นไม้แต่ไม่รู้วิธีทำ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยรวบรวมวิธีขยายพันธุ์และฟื้นฟูต้นไม้ในสวนมาฝาก 5 วิธีด้วยกัน เป็นการขยายพันธุ์ต้นไม้โดยไม่ใช้เพศ ไม่ใช้เมล็ด แต่เป็นการนำบางส่วนที่ดีของต้นไม้เอามาใช้ในการขยายพันธุ์ แม้จะเป็นส่วนของต้นไม้ที่ล้มตายไปแล้ว หากรู้วิธีก็สามารถนำไปฟื้นฟูสวนให้เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เจริญงอกงามได้เช่นกัน

1. การปักชำกิ่ง

เป็นการตัดกิ่งที่สมบูรณ์ ถ้าหากเป็นกิ่งอ่อนควรตัดให้มีความยาวจากยอดลงมาประมาณ 6-8 นิ้ว และลิดใบทิ้ง แต่ถ้าเป็นกิ่งแก่ให้ยาวประมาณ 6-10 นิ้ว และกิ่งต้องติดใบมาด้วย ตัดให้เป็นแผลเฉียง 45 องศา แล้วนำมาปักลงในวัสดุปลูกประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวกิ่ง ดูแลรดน้ำเช้า-เย็น ให้ชุ่มแต่อย่าแฉะและอย่าให้มีน้ำขัง ตั้งให้โดนแดดรำไร ในระยะแรกไม่ต้องใส่ปุ๋ยเมื่อรากและต้นแข็งแรงดีแล้วให้ย้ายไปปลูกจริงได้เลย

2. การตอนกิ่ง

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

การตอนกิ่งเปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้บนต้นไม้อีกที ด้วยการเลือกกิ่งที่ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไปมาควั่นให้ได้ขนาด 1 นิ้ว บริเวณใต้ข้อของกิ่ง จากนั้นลอกเปลือกนอกออก เมื่อจับแผลดูจะพบเมือกใส ๆ ที่เรียกว่าเนื้อเยื่อเจริญ ให้ใช้มีดขูดเมือกใสนั้นออก นำดินร่วนเนื้อเหนียวมาพอกแผลเอาไว้ ตามด้วยกาบมะพร้าวชุ่มน้ำ และใช้แผ่นพลาสติกห่อหุ้มอีกทีให้มิดชิด ผูกเชือกให้แน่นหนา ดูแลรดน้ำตามปกติ ภายใน 2-3 วัน จะมีรากงอกออกมาและถ้าหากรากนั้นแข็งแรงดีแล้วก็ให้ตัดไปปลูกใหม่ได้เลย

3. การติดตา

เรียกได้ว่าเป็นการขยายพันธุ์ที่ได้ผลรวดเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ ด้วยการนำตาของต้นพันธุ์ดีมาติดกับต้นที่ต้องการจะขยายพันธุ์ เริ่มจากใช้มีดกรีดบริเวณปล้องของต้นตอให้เป็นรูปตัวที (T) วัดระยะให้ส่วนหัวตัวทียาว ½ เซนติเมตร และส่วนหางตัวทียาว 1½ เซนติเมตร แซะเปลือกไม้ออก จากนั้นตัดส่วนตาของต้นพันธุ์ดีให้เป็นรูปโล่หรือวงรี เพื่อนำไปสอดในรูปตัวทีที่กรีดเอาไว้ ถ้าส่วนปลายของตายาวเกินตัวทีไปให้ตัดส่วนนั้นทิ้งไป แล้วใช้แผ่นพลาสติกยาวพันส่วนติดตาไว้ จากล่างขึ้นบน ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ แล้วตรวจดู ถ้าตายังสดดีก็แสดงว่าการติดตานั้นได้ผล และหากมีกิ่งก้านแตกออกมาจากต้นตอให้ตัดทิ้งไป ดูแลรดน้ำทุกวันตามสภาพดิน ถ้าดินอุ้มน้ำมากเกินไปก็รดน้ำน้อยเท่านั้นเอง

4. การต่อกิ่ง

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

วิธีการนี้คือการนำกิ่งของต้นพันธุ์ดีมาต่อกับต้นตอ เพื่อให้เกิดเป็นต้นใหม่ที่มีความแข็งแรงกว่าวิธีการติดตา ต้นตอจะดูดน้ำและแร่ธาตุมาหล่อเลี้ยงกิ่งที่ต่อให้เจริญเติบโต ด้วยการเลือกต้นตอที่แข็งแรงสมบูรณ์มาตัดกิ่งออก ใช้มีดผ่าตรงกลางให้มีความยาว 3-5 เซนติเมตร จากนั้นตัดกิ่งพันธุ์ดีที่ต้องการนำไปต่อกิ่งให้เป็นรูปลิ่ม โดยที่กิ่งนั้นจะต้องมีตามากกว่า 1 ตา แล้วนำไปเสียบลงในต้นตอที่ผ่าไว้ ใช้แผ่นพลาสติกพันจากด้านล่างขึ้นด้านบนปิดไว้ ดูแลรดน้ำตามปกติและอย่าปล่อยให้มีน้ำเข้าไปขังอยู่ด้านในแผล ระวังไม่ให้โดนแดดและความร้อน หลังจาก 6 สัปดาห์ สังเกตดูถ้าหากรอยต่อประสานกันดีก็สามารถนำไปปลูกได้เลย

5. การทาบกิ่ง

การทาบกิ่งเป็นวิธีการนำกิ่งของต้นตอมาทาบกับต้นพันธุ์ดี เพื่อให้ต้นตอสามารถเจริญเติบโตได้ดี ด้วยการใช้มีดปาดกิ่งของต้นพันธุ์ดีและต้นตอให้เป็นแผลที่มีความยาวเท่ากัน จากนั้นนำกิ่งของทั้ง 2 ต้น มาทาบกันให้สนิท พันด้วยแผ่นพลาสติกให้แน่น ดูแลรดน้ำตามปกติแต่ต้องให้น้ำที่ต้นพันธุ์ดี และหลังจาก 2-3 สัปดาห์ เมื่อเนื้อเยื่อของทั้ง 2 ต้นประสานกันดีแล้วก็ให้ตัดส่วนกิ่งพันธุ์ดีให้ติดมากับต้นตอ เพื่อนำไปปลูกและดูแลต่อไป

จริง ๆ แล้วเราทุกคนต่างก็รู้จักวิธีการขยายพันธุ์พืชแบบนี้ดีอยู่แล้ว และถ้าหากใครที่สนใจอยากเพิ่มจำนวนพันธุ์พืชให้มากขึ้นหรือแก้ปัญหาต้นไม้ที่ไม่ยอมเจริญเติบโตตามที่ต้องการ ก็ลองนำวิธีการขยายพันธุ์เหล่านี้ไปลองปรับใช้กันดูนะคะ

วิธี ” การปักชำ ” ต้นไม้สามารถทำได้กับต้นไม้หลายชนิด บางชนิดเหมาะสำหรับเพาะเมล็ด บางอย่างสามารถแยกกอ นำหัวไหล หรือรากสะสมอาหารใต้ดินออกมาปลูก บางชนิดก็เหมาะสำหรับตอนกิ่ง รวมถึงการปักชำต้นไม้

เราเลือกวิธี การปักชำ ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มจำนวนต้นไม้ โดยมีคำแนะนำดีๆ จากคนใกล้ตัว คุณอุไร จิรมงคลการบรรณาธิการหนังสือเล่ม สำนักพิมพ์บ้านและสวน ซึ่งนอกจากจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับพรรณไม้ไว้มากมายแล้ว ยังเป็นนักสะสมต้นไม้ตัวยง ใครเคยลองปักชำแล้วไม่ได้ผล ต้องลองอ่านดู รับรองว่า ต่อไปนี้จะปลูกต้นอะไรก็ง่ายนิดเดียว

ปักชำต้นไม้คืออะไร

การปักชำคือ การนำส่วนต่างๆ ของพืช ได้แก่ กิ่ง ใบ รากมาปลูกในสภาพที่เหมาะสม เพื่อให้ชิ้นส่วนนั้นเกิดรากและแตกต้นใหม่ขึ้นมาแต่ที่นิยมและพบเห็นได้ทั่วไปคือการนำกิ่งหรือท่อนพันธุ์มาปักชำ เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและได้ต้นใหม่จำนวนมากๆ ในคราวเดียวกัน

การปักชำให้ได้ผลดีขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความยากง่ายในการออกรากของกิ่งหรือท่อนพันธุ์นั้นๆ ช่วงเวลาในการปักชำ เช่น ปักชำในเวลาเช้าหรือเย็นจะช่วยลดปัญหาการคายน้ำได้ ความอ่อนแก่ของกิ่งพันธุ์ สภาพแวดล้อมทั้งเรื่องของความชื้นและแสง ชนิดของกิ่งที่นำมาปักชำ เช่น ถ้าเป็นกิ่งที่มีดอกและผลติดอยู่ จะออกรากยากกว่ากิ่งที่มีแต่ใบเพียงอย่างเดียวเนื่องจากอาหารสะสมส่วนหนึ่งถูกใช้ไปกับการออกดอกและผลแล้วนั่นเอง

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด
ไม้ประดับส่วนใหญ่สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำได้

ต้นอะไรปักชำได้บ้าง

ไม้ประดับส่วนใหญ่สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำได้เกือบทั้งสิ้น ที่นิยมได้แก่ ไฮเดรนเยีย โกสน เล็บมือนาง เทียนทองมะลิ โมก ชบา พู่เรือหงส์ เปเปอโรเมีย ไผ่ฟิลิปปินส์ด่างพุดพิชญา เล็บครุฑ โฮย่า ลั่นทม ใบเงิน ใบทอง ใบนากฯลฯ ข้อดีของการปักชำก็คือ ได้พืชต้นใหม่ที่ตรงตามพันธุ์เดิมไม่ค่อยมีการกลายพันธุ์ และยังเหมาะกับต้นไม้ที่ไม่ติดเมล็ดหรือติดเมล็ดยาก เช่น เข็ม ชบา มะลิ แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันคือ พืชที่ได้จากการปักชำจะไม่มีรากแก้ว จึงมีโอกาสโค่นล้มได้ง่าย โดยเฉพาะกรณีที่เป็นต้นไม้ใหญ่

วิธีเลือกและเตรียมกิ่งปักชำ

ควรเลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ลักษณะของกิ่งชนิดนี้ให้สังเกตว่ามีเปลือกสีน้ำตาลปนเขียว (กิ่งอ่อนเกินไปมักจะเน่าง่าย ส่วนกิ่งแก่เกินไปก็จะออกรากยาก)

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

1. ตัดกิ่งให้มีความยาวประมาณ 3 – 6 นิ้ว โดยตัดใต้ข้อ เพราะบริเวณนั้นจะมีอาหารสะสมและมีฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นให้แตกตาใหม่ ตัดเฉียงประมาณ 45 องศา(เพื่อเพิ่มพื้นที่การแตกรากได้มากขึ้น)

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

2. ควรตัดให้มีใบติดอยู่ ถ้าใบมีขนาดใหญ่หรือจำนวนมากเกินไป ลิดใบออกให้เหลือครึ่งหนึ่ง หรือเหลือใบที่ปลายยอดสัก 3 – 4 ใบ จากนั้นตัดใบออก หรือ ของใบ และลิดใบล่างออกให้หมด เพื่อลดการคายน้ำ

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

3. โดยปกติรากของกิ่งชำจะออกตามบาดแผล แต่หากต้นไม้ที่ต้องการปักชำเป็นไม้ที่เนื้อค่อนข้างแข็ง(สังเกตว่าสามารถลอกเปลือกได้)ให้กรีดเป็นรอยแผลตรงๆ ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร 3 – 4 รอย เพื่อเพิ่มพื้นที่การแตกรากให้มากขึ้น หรือหากพืชชนิดนั้นออกรากยาก ควรนำไปจุ่มฮอร์โมนเร่งราก(โดยใช้ในอัตราตามที่ระบุในฉลาก)หรือใช้สารป้องกันเชื้อราร่วมด้วย

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

4. ปักชำลงในวัสดุลึกประมาณ ของความยาวกิ่งวัสดุปักชำที่นิยมใช้ ได้แก่ ขี้เถ้า แกลบ (ควรแช่น้ำก่อนประมาณ 3 วัน เพื่อลดความเป็นด่างยกเว้นขี้เถ้าแกลบที่เก่าแล้ว) ข้อดีคือมีความร่วนซุยสูง พืชจึงแตกรากได้ดีทั้งยังไม่เกาะตัวกับรากต้นไม้ จึงทำให้ย้ายปลูกง่ายโดยที่รากไม่ขาด หากไม่มีอาจใช้ดินร่วนทั่วไปผสมกับขุยมะพร้าว และทรายหยาบ อัตราส่วน 1 : 1 : 1 หลังปักชำเสร็จแล้วควรรดน้ำตามทันทีซึ่งอาจใช้สารป้องกันเชื้อรารดในขั้นตอนนี้ก็ได้เช่นกัน

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

5. กรณีที่ ปักชำ ปริมาณมากๆ ควรคลุมกระบะเพาะชำด้วยพลาสติกใส เพื่อเก็บรักษาความชื้น ขณะเดียวกัน ยังให้แสงส่องผ่านลงไปได้ แต่กรณีที่มีจำนวนไม่มากนัก สามารถนำใส่ถุงพลาสติก หรือใช้ขวดพลาสติก ครอบแก้วทรงระฆังครอบเพื่อควบคุมไม่ให้ความชื้นออกมาจนกว่าจะแตกใบใหม่

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

6. หากปักชำใส่กระบะหรือกระถางที่เคลื่อนย้ายง่าย ควรนำไปวางในบริเวณที่มีแสงส่องถึงเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต โดยที่สภาพอากาศบริเวณนั้นควรได้รับความชื้นและอุณหภูมิเหมาะสม วิธีวัดคือ ให้ลองลงนั่งดูถ้ารู้สึกว่าเย็นสบาย ตรงนั้นคือที่ที่เหมาะสำหรับวางต้นไม้ปักชำ หรือวางบนพื้นอิฐมอญเย็นๆ ชื้นๆ ก็ได้

Tips

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด
ฤๅษีผสม

พืชที่มีใบบางหรือไม้อวบน้ำบางชนิดไม่จำเป็นต้องเด็ดใบออก เช่น พวงแสด ฤๅษีผสม กุหลาบหิน

พืชที่มียาง เช่น ลั่นทม โป๊ยเซียน ไม่ควรตัดแล้วนำมาปักชำทันที เพราะมีโอกาสเน่าง่าย หลังจากตัดกิ่งแล้วควรวางผึ่งลมในที่ร่มให้ยางแห้งและแผลปิดก่อนประมาณ 3 – 5 วัน จึงนำไปปักชำ

เราสามารถดัดแปลงตู้ปลาใบเก่าให้เป็นโรงเรือนเพาะชำขนาดย่อมได้ โดยวางต้นไม้ในตู้ปลาหล่อน้ำที่ด้านล่างเล็กน้อยและปิดตู้ทับอีกชั้น

บางครั้งอาจมีกรณีปักชำไปแล้วแตกใบใหม่ แต่ยังออกรากไม่ได้ เช่น กุหลาบ เพราะต้นไม้ยังใช้อาหารสะสมจากกิ่งอยู่ ดังนั้นอาจลองดึงโคนต้นเบาๆหากมีแรงตึงมือแปลว่าต้นไม้เริ่มแตกรากแล้ว

ปักชำใบ ปักชำราก

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด
นอกจากกิ่งแล้ว ชิ้นส่วนอื่นของพืช เช่น ใบและราก ก็สามารถนำมาปักชำได้

นอกจากการปักชำกิ่งซึ่งเป็นที่นิยมและทำได้ง่ายที่สุดแล้ว เรายังสามารถนำชิ้นส่วนอื่น เช่น ใบและราก มาปักชำได้เช่นกัน พืชที่ใช้ใบปักชำได้มักมีใบอวบหนา ผิวใบเป็นมัน ลักษณะการตัดชำใบมักขึ้นอยู่กับรูปร่างลักษณะของใบชนิดนั้นๆ เช่น ลิ้นมังกร ให้ตัดใบตามยาวเป็นชิ้นสั้นๆ ประมาณ 2 – 3 นิ้ว

ส่วนพืชที่มีแผ่นใบกว้าง เช่น บีโกเนีย ใช้วิธีตัดใบเป็นส่วนๆโดยมีเส้นใบติดมาด้วย พืชต้นใหม่จะเกิดบริเวณรอยตัดนั้น

สำหรับพืชที่มีก้านใบยาว ควรตัดชำใบให้มีก้านติด เช่นแอฟริกันไวโอเลต และยังมีพืชบางชนิดที่ออกรากได้บริเวณขอบใบเช่น คว่ำตายหงายเป็น เพียงแค่จัดวางใบแก่ลงบนวัสดุที่มีความชื้นระยะหนึ่งก็จะแตกรากและเกิดต้นใหม่ได้

ส่วนการปักชำราก พืชที่สามารถตัดชำราก ได้แก่ แคแสดสาเก ทับทิม มะไฟ ฝรั่ง โดยตัดรากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 – 2 เซนติเมตรเป็นท่อนๆ นำมาปักชำลงในวัสดุปลูกลักษณะตั้งตรงหรือวางนอนก็ได้

นอกจากนี้ที่พบเห็นบ่อยๆ คือ ปีบ รากแขนงที่อยู่ใกล้ผิวดินจะแตกออกมาเป็นพืชต้นใหม่ขนาดเล็กมากมาย เราสามารถตัดเป็นท่อนๆ และนำไปปลูกได้เช่นกัน

การป กชำพ ชบางชนด ม กใช ก งท ม ใบเเละยอดเพราะเหต ใด

ถึงเวลาต้องย้ายปลูก

หลังจากปักชำไปแล้วสักพักจะรู้ได้อย่างไรว่าย้ายพืชไปปลูกได้ข้อสังเกตง่ายๆ คือ หากปักชำลงแก้วหรือถุงพลาสติกใสจะเห็นรากลงมาถึงก้นแก้ว หรือสังเกตว่ามีใบแตกออกมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตามไม่ควรย้ายต้นไม้ออกมาทันที ให้ค่อยๆ เผยอที่ครอบทีละนิดเพื่อให้ต้นไม้ปรับตัว จากนั้นจึงย้ายปลูกในแปลงหรือกระถางตามต้องการ

ข้อควรระวังคือ ช่วงที่แตกใบใหม่ๆ ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้รากเน่าได้

Tip

ไม้เนื้ออ่อนบางชนิดสามารถตัดกิ่งออกมาปักชำลงในน้ำได้ เช่นฤๅษีผสม เล็บครุฑ ไผ่ฟิลิปปินส์ อาจลองดัดแปลงเทคนิคนี้มาจัดเป็นแจกันต้นไม้แบบมีชีวิตก็ได้ ใช้ตั้งประดับในบ้านได้นานนับเดือนพอเบื่อแล้วค่อยย้ายปลูกลงดินต่อไป