บร ษ ท เค.เอส.เอ ม.เมท ล จำก ด สำน กงานใหญ

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก

สมัครสมาชิกเดี๋ยวนี้ สมัครฟรีและยังได้แถมส่วน ลดอีก 5% จากราคาที่ลดแล้ว...

เมื่อซื้อสินค้าครบ 10,000 บาทได้แถมส่วน ลดเป็น 7% จากราคาที่ลดแล้ว... เมื่อซื้อสินค้าครบ 15,000 บาทได้แถมส่วน ลดเป็น 10% จากราคาที่ลดแล้ว... สำหรับการจัดส่ง ทั่วประเทศ ได้รับส่วน ลดพิเศษ ติดต่อ 08-3082-8212,06-5087-5098,06-5087-5099 กรณีมารับสินค้าด้วยตนเอง ไม่จัดส่ง ได้รับส่วน ลดพิเศษ ติดต่อ 08-3082-8212,06-5087-5098,06-5087-5099 สินค้าหมวดหมู่ โปรโมชั่น และ ล้างสต๊อก เป็นสินค้าราคาพิเศษ ไม่มีส่วนลดเพิ่มแล้ว.

เคเอสแอล

รหัส : 895184

1 หน่วย

130.00

฿

130.00 ฿ ต่อหน่วย หน่วย

ยกเลิกการขาย

สินค้านี้ ไม่สามารถจัดส่งได้ในพื้นที่ที่คุณเลือก


เวลาจัดส่ง

ส่งวันถัดไป

สั่งก่อน 21.00 เลือกเวลาจัดส่งเร็วสุดพรุ่งนี้เวลา 8.00 - 20.00น.

สั่งหลัง 21.00 เลือกเวลาจัดส่งเร็วสุด 2 วันถัดไปเวลา 8.00 – 20.00น.


เกี่ยวกับสินค้า

- ชื่อสินค้า: เคเอสแอล น้ำตาลทรายขาว 1 กก. x 5 - แบรนด์: เคเอสแอล - ปริมาณบรรจุ: 1 หน่วย

รายละเอียด

น้ำหนักรวมสุทธิ

21 x 11 x 20 cm, 5kg

รหัส

895184

M

จัดจำหน่ายโดย

Makro

One stop place for all your horeca supplies and products.

ดีเคเอสเอช ผู้นำด้านการให้บริการด้านการขยายตลาด ซึ่งมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชีย ดังคำนิยามที่ว่า "บริการด้านการขยายตลาด" ดีเคเอสเอช ช่วยบริษัทและแบรนด์ต่างๆ สามารถขยายธุรกิจได้ในตลาดใหม่ หรือในตลาดที่มีอยู่เดิม ดีเคเอสเอช ได้จดทะเบียนใน SIX Swiss Exchange ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 เป็นบริษัทระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซูริค พร้อมทั้งมีสำนักงานสาขา 825 แห่งใน 37 ประเทศ โดย 800 แห่งอยู่ในเอเชีย มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 31,970 ราย ดีเคเอสเอช มียอดขายสุทธิในปีพ.ศ. 2560 จำนวน 11.0 พันล้านฟรังก์สวิส ดีเคเอสเอช ให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของบริษัทคู่ค้า ตั้งแต่การจัดหาแหล่งผลิต การตลาด การขาย การกระจายสินค้าและการให้บริการหลังการขายผลิตภัณฑ์ นอกจากจะมอบความรู้ความชำนาญ และระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ปฏิบัติการนั้นให้กับหุ้นส่วนทางธุรกิจด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมและโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งในด้านขนาดและความซับซ้อน หน่วยธุรกิจหลักของบริษัทประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม และเทคโนโลยี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ดีเคเอสเอช ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2408 ด้วยการสืบทอดวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งแบบสวิส บริษัทมีประวัติอันยาวนานในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ทำให้สามารถหยั่งรากลึกอยู่ในชุมชนและธุรกิจทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี

ติดต่อ

บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด / DKSH (Thailand)

สำนักงานใหญ่ 2533 อาคารแฟนทรี 1 ถนน สุขมวิท ติดกรมขนส่งทางบกพื้นที่ 3

แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260

วิธีการเดินทาง

BTS สถานีบางจาก (E10)

/companyAllPosition

ค้นหาตำแหน่งงานว่าง

ประเภทงาน

จังหวัด

เขต/อำเภอ (เลือกจากรหัสไปรษณีย์)

คำที่เกี่ยวข้อง ลงทะเบียนฝากประวัติ สมัครงาน เข้าระบบคนหางาน หางาน งานมาใหม่วันนี้

ค้นประวัติ หาคนทำงาน

สาขาอาชีพ / สาขาที่จบ

ประเภทงานที่อยากทำ

เพศ

ระดับการศึกษา

จังหวัด

เขต/อำเภอ

คำที่เกี่ยวข้อง

ลงประกาศรับสมัครงาน อัตราค่าโฆษณา

บริษัท ที .เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) “บริษัทฯ” เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเข้าซื้อขายวันแรกเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2546 นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2497 โดยคุณเกรียงและคุณสุชาดา มงคลสุธี ในนาม “แต้ เกียง เซ้ง” ด้วยทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ด าเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน และผลิตภัณฑ์ประเภทกระดาษ ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 ภายใต้การบริหารงานของ คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี ได้เปลี่ยนแปลงธุรกิจจากเครื่องเขียนมาเป็นผู้ผลิตกระดาษต่อเนื่องคอมพิวเตอร์ กระดาษถ่ายเอกสาร กระดาษโรเนียว ในปี พ.ศ. 2547 บริษัทฯ ลงทุนในบริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จ ากัด ซึ่งด าเนินธุรกิจสิ่งพิมพ์เช่นเดียวกับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 85 ของทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท และเข้าถือหุ้นร้อยละ 100 ในต้นปี พ.ศ. 2548 เพื่อให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ของบริษัทฯ ครบวงจร โดยมีระบบการพิมพ์ออฟเซ็ท ทั้งแบบต่อเนื่อง และแบบแผ่น ระบบการพิมพ์ดิจิทัล แบบสีและขาวดำ รวมถึงการบริหารแบบพิมพ์ให้กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยบริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ที .เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จ ากัด “บริษัทย่อย” มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท

นอกจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่บริษัทฯ และ บริษัทย่อย ดำเนินการอยู่ บริษัทฯ ได้มีการขยายธุรกิจด้านอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ในปี พ.ศ. 2531 ได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท คอมเพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และระบบสารสนเทศ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมีทุนจดทะเบียน 800 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นหลักในสัดส่วนร้อยละ 38.51 และ กลุ่มบริษัท ซินเน็ค ประเทศไต้หวัน (King’s Eye Investment Ltd.) ในสัดส่วนร้อยละ 34.99 โดยบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“SYNNEX”) มีสถานะเป็นบริษัทร่วม รายได้จากการลงทุนในส่วนนี้ บริษัทฯ รับรู้รายได้ในลักษณะของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม

ต่อมาในปี 2562 บริษัทฯ ได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) (“TBSP”) จากร้อยละ 79.74 เป็นร้อยละ 97.17 ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสิ่งพิมพ์ป้องกันการปลอมแปลง เช่นบัตรพลาสติก เช็ค ฉลากป้องกันการปลอมแปลง RFID และ Smart Card Reader ปัจจุบัน TBSP มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท

ในปี 2564 บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“SABUY”) จำนวน 110,000,000 หุ้น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 984,500,000.00 บาท บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นของ SABUY ในสัดส่วนร้อยละ 9.68 ของหุ้นที่จ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SABUY

ทั้งนี้ ในการจัดโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ และ TBSP นั้น TBSP จะดำเนินการโอนทรัพย์สิน อันได้แก่ ที่ดิน หนี้สิน รวมถึง ภาระผูกพันทั้งหลาย รวมทั้งหุ้นสามัญในบริษัทย่อย ให้กับ บริษัท ที . เค. เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จ ากัด (“SPM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TBSP ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPM และ/หรือ บริษัท มาร์เวลแพค จำกัด (“MVP”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TBSP ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน SPM อยู่ร้อยละ 99.99 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MVP

บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญของ TBSP จำนวน 150,061,118 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 73.48 ของหุ้นที่จ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ TBSP คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,005,022,000.00 บาท ให้แก่ SABUY ซึ่งภายหลังการขายหุ้น TBSP ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน TBSP ร้อยละ 25 ของหุ้นที่จ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ TBSP

การจัดโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ และ TBSP เป็นการดำเนินการเพื่อปรับแผนธุรกิจสิ่งพิมพ์กระดาษและธุรกิจบัตรพลาสติกของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบสารสนเทศ และได้ปรับโครงสร้างองค์กรในกลุ่มบริษัทให้เกิดผลผนึก (Synergy) ทั้งด้านการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ และด้านการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยรวมส าหรับรักษาฐานธุรกิจเดิมควบคู่ไปกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่

ในปี 2565 บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน TBSP (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “PTECH”) จ านวน 10,209,711 หุ้น ซึ่งการเข้าทำรายการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ คงสัดส่วนการเป็นผู้ถือหุ้นของ PTECH ในสัดส่วนร้อยละ 25 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PTECH

บริษัทฯ เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีโซลูชันแบบครบวงจร โดยการทรานส์ฟอร์ มธุรกิจจาก Security Printing ไปเป็น Tech Ecosystem Builder เพื่อเดินหน้าสู่โลกดิจิทัล อีกทั้งบริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในกองทุน SeaX Ventures ซึ่งเป็นกองทุนสัญชาติไทย ที่เน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลกที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง (Deep Technology) ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท เน็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด เป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท เพื่อดำเนินกิจกรรมการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพหรือธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อบรรลุกลยุทธ์ของบริษัทฯ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยต่อมาบริษัทฯ ได้มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียน บริษัท เน็กซ์ เวนเจอร์สจ ำกัด จากเดิม 50,000,000 บาท เป็น 100,000,000 บาท ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัท เน็กซ์ เวนเจอร์ส จ ากัด ร่วมมือกับ บมจ.ปตท. น ้ามันและการค้าปลีก (OR) โดย กองทุน ORZON Ventures ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพร่วมลงทุนใน Dezpax บริษัทสตาร์ทอัพผู้ให้บริการโซลูชันบรรจุภัณฑ์ส าหรับธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่และคาเฟ่ ร่วมผลักดันการเติบโตด้านออนไลน์สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มอย่างครบวงจร

บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 462,226,467 บาท เป็น 508,449,467 บาท โดยออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 46,223,000 หุ้น สำหรับการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญ

ต่อมาบริษัทฯ ได้ขายหุ้นสามัญของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (“SABUY”) จำนวน 25,000,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1.75 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SABUY ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน SABUY คงเหลือร้อยละ 5.94 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SABUY และเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“MSC”) จ านวน 32,4000,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 9.00 ของจำนวนหุ้นที่จ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MSC เพื่อเป็นการขยายขอบเขตการลงทุนของบริษัทฯ ไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างธุรกิจการนำเสนอโซลูชั่นและบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร โดยมีลักษณะการขายแบบเบ็ดเสร็จ (Turn key) ตั้งแต่การให้คำปรึกษาการออกแบบระบบ การดำเนินการติดตั้ง และการซ่อมบำรุงรักษา ตลอดจนการฝึกอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจในการใช้งาน รวมถึงการจัดจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในสำนักงาน เพื่อคลอบคลุมตามความต้องการของลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์ไอทีชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นการต่อยอดจากกลุ่มธุรกิจเดิมที่ทางกลุ่มบริษัทฯได้ดำเนินการอยู่แล้ว และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทในการเป็นส่วนหนึ่งของ Tech Ecosystem Builder