iMessage คือข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอที่คุณส่งไปยัง iPhone, iPad, iPod touch หรือ Mac เครื่องอื่นโดยผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือเครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ ซึ่งจะปรากฏอยู่ในฟองข้อความสีฟ้า ส่วนข้อความอื่นๆ ทั้งหมดจะใช้ SMS หรือ MMS และต้องมีแผนบริการรับส่งข้อความตัวอักษรโดยที่ข้อความเหล่านั้นจะปรากฏอยู่ในฟองข้อความสีเขียว Show ติดต่อผู้ให้บริการของคุณหากรับส่งข้อความ SMS ไม่ได้ คุณสามารถตั้งแอปข้อความให้พยายามส่งข้อความเป็น SMS โดยอัตโนมัติได้เมื่อ iMessage ไม่พร้อมใช้งาน โดยไปที่การตั้งค่า > ข้อความ แล้วเปิด "ส่งเป็น SMS" หากคุณได้รับข้อความในอุปกรณ์เครื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้รับในอีกเครื่องหนึ่งหากคุณมี iPhone และอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS อีกเครื่อง เช่น iPad แสดงว่าอาจมีการตั้งค่า iMessage ให้รับหรือเริ่มส่งข้อความจาก Apple ID แทนที่จะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ หากต้องการตรวจสอบว่ามีการตั้งค่าให้ใช้หมายเลขโทรศัพท์เพื่อรับส่งข้อความหรือไม่ ให้ทำดังนี้
หากไม่เห็นหมายเลขโทรศัพท์ คุณสามารถผูกหมายเลขของ iPhone กับ Apple ID เพื่อรับส่ง iMessage จากหมายเลขโทรศัพท์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งการส่งต่อข้อความ เพื่อรับส่งข้อความ MMS และ SMS บนอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องได้ด้วย หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับข้อความกลุ่มหากคุณอยู่ในข้อความกลุ่มแต่อยู่ดีๆ ก็ไม่ได้รับข้อความอีก ให้ตรวจสอบเพื่อดูว่าคุณ ออกจากการสนทนาหรือไม่โดยทำดังนี้
คุณจะเข้าร่วมข้อความกลุ่มได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อคนในกลุ่มเพิ่มคุณเข้าไป ดูวิธีเพิ่มหรือลบบุคคลออกจากข้อความกลุ่ม หากต้องการเริ่มข้อความกลุ่มใหม่
หากคุณมีปัญหาอื่นๆ กับข้อความกลุ่ม คุณอาจต้อง ลบการสนทนา แล้วเริ่มการสนทนาใหม่หากใช้ iOS 16 และ iPadOS 16.1 และใหม่กว่า คุณสามารถกู้คืนข้อความที่ลบไปภายใน 30-40 วันที่ผ่านมา หากคุณไม่สามารถส่งหรือรับรูปภาพและวิดีโอในข้อความตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีพื้นที่เพียงพอสำหรับรับรูปภาพและวิดีโอ หากคุณส่งรูปภาพหรือวิดีโอทางข้อความ SMS หรือ MMS ผู้ให้บริการของคุณอาจจำกัดขนาดสูงสุดของไฟล์แนบ นอกจากนี้ไฟล์ขนาดใหญ่อาจใช้เวลาส่งนานขึ้น และ iPhone สามารถบีบอัดไฟล์แนบที่เป็นรูปภาพและวิดีโอได้เมื่อจําเป็นหากคุณพบปัญหาเมื่อพยายามส่งรูปภาพเต็มขนาด คุณสามารถส่งรูปภาพที่มีคุณภาพลดลงมาด้วยตัวเองได้ หากอุปกรณ์มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเหลือน้อย ระบบจะเพิ่มพื้นที่ว่างโดยอัตโนมัติขณะติดตั้งแอป, อัปเดต iOS หรือ iPadOS, ดาวน์โหลดเพลง, บันทึกวิดีโอ และอื่นๆ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น อุปกรณ์ของคุณอาจลบรายการที่สามารถดาวน์โหลดซ้ำอีกครั้งหรือรายการไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป ซึ่งรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น แอปที่คุณไม่ได้ใช้และแคชในเครื่องสำหรับไฟล์ใน iCloud Drive อุปกรณ์ของคุณยังลบไฟล์ชั่วคราวและล้างแคชบนอุปกรณ์
ในมุมมองโดยละเอียด คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดังนี้
หากพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในอุปกรณ์ใกล้เต็มและไม่สามารถเพิ่มพื้นที่ว่างได้ คุณอาจได้รับการเตือนว่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลใกล้เต็มแล้ว หากคุณเห็นการแจ้งเตือนนี้ ให้ตรวจสอบคำแนะนำเกี่ยวกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือลดเนื้อหาบางอย่างที่ไม่ค่อยได้ใช้ เช่น วิดีโอและแอป คอนเทนต์ที่ใช้งานอยู่ในอุปกรณ์จะแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ดังนี้
ในส่วนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของการตั้งค่า อุปกรณ์อาจเสนอคำแนะนำสำหรับการปรับขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หากต้องการปรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เหมาะสม ให้ทำดังต่อไปนี้
ต่อไปนี้คือรายการของประเภทคอนเทนต์ในอุปกรณ์ และสิ่งที่อยู่ในคอนเทนต์แต่ละประเภท
Finder และ iTunes จะจัดหมวดหมู่เพลง วิดีโอ และรูปภาพที่แคชไว้เป็นอื่นๆ แทนที่จะจัดเป็นเพลง วิดีโอ หรือรูปภาพจริง ไฟล์ที่แคชไว้จะสร้างขึ้นเมื่อคุณสตรีมหรือดูคอนเทนต์ อย่างเช่น เพลง วิดีโอ และรูปภาพ เมื่อคุณสตรีมเพลงหรือวิดีโอ คอนเทนต์นั้นจะเก็บเป็นไฟล์ที่แคชไว้ในอุปกรณ์ เพื่อให้คุณเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว อุปกรณ์จะลบไฟล์ที่แคชไว้และไฟล์ชั่วคราวออกโดยอัตโนมัติเมื่อต้องการพื้นที่ว่างเพิ่มเติม เนื่องจาก Finder และ iTunes จะจัดหมวดหมู่ไฟล์ที่แคชไว้เป็นอื่นๆ การใช้งานสำหรับเพลงหรือวิดีโอที่รายงานจึงอาจแตกต่างออกไป หากต้องการดูการใช้งานในอุปกรณ์ ให้ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ [อุปกรณ์] อุปกรณ์จะลบไฟล์ที่แคชไว้และไฟล์ชั่วคราวออกโดยอัตโนมัติเมื่อต้องพื้นที่ว่างเพิ่มเติม คุณไม่จำเป็นต้องลบไฟล์เหล่านี้เอง 1. ไม่สามารถลบคอนเทนต์ iCloud โดยอัตโนมัติได้ 2. ระบบไม่สามารถลบไฟล์ที่แคชไว้ได้ 3. ไม่สามารถลบคอนเทนต์ข้อมูลที่ซิงค์อยู่โดยใช้ iPhone หากต้องการลบข้อมูลนี้ ให้เปิด Finder บนคอมพิวเตอร์ ลบเครื่องหมายหน้าข้อมูลนั้น แล้วคลิกเชื่อมข้อมูล การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม |