ี1. ข้าราชการได้รับอันตรายจนพิการ เสียแขน หรือขา หูหนวกทั้ง 2 ข้าง ตาบอด หรือได้รับการป่วยเจ็บซึ่งแพทย์ที่ทางราชการรับรองได้ตรวจแล้ว และแสดงถึงทุพพลภาพไม่สามารถจะรับราชการต่อไปได้ ทั้งนี้ เพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุการะทำการตามหน้าที่ ให้ได้รับบำนาญปกติและบำนาญพิเศษ เว้นแต่เหตุนั้นเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือจากความผิดของตนเอง
2. ข้าราชการ ซึ่งออกจากราชการโดยได้รับบำเหน็จบำนาญปกติไปแล้ว ถ้าภายในกำำหนด 3 ปี นับแต่วันออกจากราชการ โดยปรากฎหลักฐานชัดเจนว่าเกิดป่วยเจ็บถึงทุพพลภาพอันเป็นผลมาจากการปฏฺบัติหน้าที่ราชการระหว่างที่ผู้นั้นรับราชการอยู่ ให้ได้รับบำนาญปกติและบำนาญพิเศษ
3. ข้าราชการได้รับอันตราหรือป่วยเจ็บจนพิการถึงสูญเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งไปเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุการะทำการตามหน้าที่ แต่ยังสามารถรับราชการต่อไปได้ ให้ไ้ด้รับเงินทำขวัญเป็นก้อนในอัตราที่กำหนด
(ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทำขวัญข้าราชการและลูกจ้าง พ.ศ. 2516)
การนำระยะเวลาราชการทหารมานับรวมสำหรับคำนวณบำเหน็จบำนาญ
----1. ผู้เคยเป็นข้าราชการทหาร (ประจำการ) มาก่อนและขอลาออกจากราชการ โดยมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัด ต่อมาบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือน สามารถนำระยะเวลาการเป็นทหารมานับรวมเป็นเวลาราชการสำหรับคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ (ทั้งเกิดสิทธิและคำนวณเงิน)
----2. ข้าราชการพลเรืือน ที่ได้รับการตรวจเลือกให้เข้ารับราชการทหาร (กองประจำการ : ทหารเกณฑ์) ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร สามารถนำระยะเวลาการระหว่างเข้ารับราชการทหารมานับรวมเป็นเวลาราชการสำหรับคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ (รวมทั้งขอนับเวลาเพื่อคำนวณเงินประเดิม ทั้งนี้ก่อน 27 มี.ค.2540)
ตัวอย่างหนังสือการขอเวลาราชการทหาร และแบบขอแก้ไขข้อมูลสมาชิก กบข. 005/2/2550
การขอรับเงินบำเเหน็จบำนาญ
การขอรับบำเหน็จตกทอด กรณีข้าราชการตาย
(ระเบียบ กระทรวงการคลังว่าด้วยการขอรับและการจ่ายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2527)
เอกสาร ได้แก่
1. แบบขอรับบำนาญพิเศษและหรือบำเหน็จตกทอดกรณีถึงแก่กรรม (แบบ 5309) กรอกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประวัติของผู้ตายและทายาททั้งหมด โดยให้ทายาททุกคนลงชื่อในช่องผู้ขอ หากทายาทเป็นผู้เยาว์
(อายุยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์) ต้องให้ผู้ปกครอง(ผู้แทนโดยชอบธรรม)ลงชื่อแทน
2. ใบรับรองสมุดประวัติและเวลาราชการทวีคูณระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตายในเขตที่ได้ประกาศ
ใช้กฎอัยการศึก (แบบ 5302 ) โดยให้ อธิบดี หัวหน้าส่วนราชการ หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้รับรองความถูกต้อง
3. รายการสอบสวนบำนาญพิเศษหรือบำเหน็จตกทอด (ตามแบบที่ทางราชการกำหนด)
ว่าผู้ตายเป็นข้าราชการประเภทใด ตายด้วยเหตุใด มีทายาทกี่คนใครบ้าง หัวหน้าส่วนราชการลงนามรับรองความถูกต้อง
4. บันทึกการสอบสวนทายาทของผู้ตายทุกคน
5. จัดส่งบัตรเงินเดือนของผู้ตาย (รายการบัตรตรวจจ่ายเงินเดือน) ต้นฉบับสีฟ้า และหรือสำเนา โดยให้
ลงนามรับรองการได้รับเงินเดือนด้วย (ส่งกลาง ผอ.กองคลัง/ภูมิภาคผอ.หน่วยงาน)
6. ก.พ. 7
7. บัตรตรวจจ่ายเงินเดือน
8. หลักฐานการตรวจสอบและรับรองเวลาราชการกระทรวงกลาโหม (ถ้ามี)
9. หลักฐานการมีสิทธิได้รับเวลาทวีคูณของกระทรวงกลาโหม / กองอำนวยการรักษาความมั่นคง (ถ้ามี)
10. หลักฐานการไปปฏิบัติราชการตามมติคณะรัฐมนตรี (ถ้ามี)
10.1 คำสั่งให้ออกจากราชการ
10.2 คำสั่งบรรจุกลับเข้ารับราชการ
11. หลักฐานเกี่ยวกับการตาย
11.1 ใบมรณบัตร / คำสั่งศาล (กรณีคนสาบสูญ)
- กรณีตายโดยผิดธรรมชาติ เพิ่มหลักฐานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น รายงานชันสูุตรพลิกศพ รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี รายงานการสอบสวน
11.2 หลักฐานการสอบสวนของคณะกรรมการที่หน่วยงานแต่งตั้ง
11.3 หลักฐานการกระทำผิดวินัยร้ายแรง (ถ้าไม่ตายเสียก่อนต้องถูกไล่ออก/ปลดออก)
12. หลักฐานทายาท
12.1 สำเนาทะเบียนบ้านบิดามารดา (กรณีมีชีวิตอยู่) / ใบมรณบัตร (กรณีตาย)หรือหนังสือรับรองการตาย
12.2 หลักฐานการเป็นิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย
12.2.1 สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญการสมรสของบิดามารดาหรือสำเนาทะเบียนฐานะภริยา(มารดาของผู้ตาย)
12.2.2 หนังสือรับรองของผู้ควรเชื่อถือได้ที่รับรองว่าบิดามารดาสมรสก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2578 หรือ
12.2.3 สำเนาทะเบียนบ้าน หรืือสูติบัตรของบุตรร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ตายซึ่งเกิดภายในปี พ.ศ. 2478 หรือก่อนนั้น
12.3 หลักฐานเกี่ยวกับคู่สมรสของผู้ตาย
12.3.1 สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญการสมรส
12.3.2 สำเนาทะเบียนบ้าน
12.3.3 สำเนา ใบมรณบัตร (กรณีตาย)หรือหนังสือรับรองการตายของผู้ควรเชื่อถือได้กรณีที่คู่สมรสตายไปก่อน
12.3.4 สำเนาทะเบียนการหย่า หรือใบสำคัญการหย่า หรือคำสั่งศาลกรณีที่มีการหย่า
12.3.5 สำเนาคำพิพากษา หรือคำสั่งศาลที่แสดงว่าคู่สมรสคนใดเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่มีการสมรสซ้อน
12.4 หลักฐานเกี่ยวกับบุตรของผู้ตาย
10.4.1 สูติบัตร
10.4.2 สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญการสมรสของผู้ตาย กับมารดาของบุตร หรือสำเนาทะเบียนการรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาว่าเป็นบุตร
12.4.3 บันทึกรับรองการมีบุตรชอบด้วยกฎหมายในครรภ์มารดา (ถ้ามี)
12.4.4 สำเนาใบมรณบัตร (กรณีตาย)หรือหนังสือรับรองการตายของผู้ควรเชื่อถือได้กรณีที่มีบุตรตาย
12.4.5 ใบรับรองการศึกษาตามแบบที่กระทรวงการคลังกำหนด (แบบ5311)
12.4.6 ใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับการพิการหรือทุพพลภาพของบุตรที่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้วในวันที่ข้าราชการตาย
12.4.7 สำเนา ทะเบียนการรับรองบุตรบุณธรรม
13. หลักฐานแสดงการเป็นผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล แล้วแต่กรณี ซึ่งลงชื่อให้ความยินยอมในการขอรับ หรือขอรับบำเหน็จตกทอดแทนผู้มีสิทธิ
13.1 สำเนาทะเบียนการรับรองบุุตร
13.2 สำเนาทะเบียนรับบุตรธรรม หรือสำเนาคำสั่งศาลตั้งผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล แล้วแต่กรณี
ขั้นตอนการขอรับบำเหน็จตกทอด กรณีข้าราชการตาย
สารประบคำบคขอ- หน่วยงานส่งหนังสือ/บันทึกพร้อมเอกสารข้่างต้น (ผอ.ลงนาม)
สารประกอบคำขอ- กองการเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร / ส่งตรวจวินัย / ลาศึกษา (เป็น กบข.หรือไม่)
สารประกอบคำขอ- กองการเจ้าหน้าที่จัดทำบันทึกเสนอผู้มีอำนาจลงนามในแบบ 5309 / แบบรับรองสมุดประวัติฯ และแบบ หนังสือรับรองการขอเบิกบำเหน็จตกทอด (แบบ ตท. 1) (ผอ.กอง จ. ลงนามแทนอธิบดี)
สารประกอบคำขอ- ส่งเอกสารต่างๆถึงกรมบัญชีกลาง
สารประกอบคำขอ- กรมบัญชีกลางแจ้งสั่งจ่าย
สารประกอบคำขอ- บันทึกส่งหนังสือสั่งจ่ายให้กองคลัง (ตัวจริง) ส่งสำเนาให้หน่วยงาน (ส่วนกลาง)
สารประกอบคำขอ- บันทึกส่งหนังสือสั่งจ่ายให้หน่วยงาน (ตัวจริง) (ส่วนภูมิภาค)
การขอรับบำเหน็จตกทอด กรณีผู้รับบำนาญตาย
สารประกอบคำขอ- เอกสารหลักฐานเช่นเดียวกับ ข้าราชการตาย ยกเ้ว้น หลักฐานการสอบสวนของคณะกรรมการที่หน่วยงานแต่งตั้ง และหลักฐานการกระทำผิดวินัยร้ายแรง (ถ้าไม่ตายเสียก่อนต้องถูกไล่ออก/ปลดออก)
การขอรับบำนาญพิเศษกรณีข้าราชการตาย
1. แบบขอรับบำนาญพิเศษและหรือบำเหน็จตกทอดกรณีถึงแก่กรรม (แบบ 5309) กรอกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประวัติของผู้ตายและทายาททั้งหมด โดยให้ทายาททุกคนลงชื่อในช่องผู้ขอ หากทายาทเป็นผู้เยาว์
(อายุยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์) ต้องให้ผู้ปกครอง(ผู้แทนโดยชอบธรรม)ลงชื่อแทน
2. เอกสารหลักฐานเช่นเดียวกับการขอรับบำเหน็จตกทอดกรณีข้าราชการตาย
3. คำสั่ง/หลักฐานเกี่ยวกับการไปปฏิบัติราชการ
4. รายละเอียดหรือรายงานการปฏิบัติหน้าที่ราชการจนเป็นเหตุให้ถูกประทุษร้าย หรือได้รับอันตราย
5. รายงานของผู้ร่วมงานหรือผู้รู้เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิด (ถ้ามี)
6. รายงานการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่ถูกประทุษร้าย หรือได้รับอันตรายนั้นเกิดจาการกระทำผิดอาญาของผู้หนึ่งผู้ใด หรือสำเนาคำพิพากษาคดีนั้น
7. หลักฐานการสอบสวนพร้อมทั้งสรุปความเห็นขิงคณะกรรมการซึ่งผู้บังคับบัญชาได้แต่งตั้งขึ้น
8. ใบแสดงความเห็น หรือรายงานของแพทย์ที่ทางราชการรับรอง ซึ่งแสดงว่าการป่วยเจ็บถึงตายเกิดขึ้นเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่
9. รายงานการปฏิบัติหน้าที่ราชการในระยะก่อนตายเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่เจ้าสังกดัพิจารณาเห็นว่าถึงแก่ความตายเพราะปฏิบัติงานในลักษณะตรากตรำ เร่งรัด หรือเคร่งเคลียดเกินกว่าปกติธรรมดา
10. หลักฐานรับรองการตายตามแบบที่กระทรวงกลาโหมได้ทำความตกลงกัลกระทรวงการคลัง
11. หลักฐานการสอบสวนในกรณีสูญหายว่าสูญหายตั้งแต่เมื่อใด
12. คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ (ถ้ามี)
การขอรับบำนาญพิเศษกรณีข้าราชการซึ่งออกจากราชการโดยได้รับบำเหน็จบำนาญปกติไปแล้วฯ ป่วยเจ็บถึงตายอันเป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่ผู้นั้นรับราชการหรือทำหน้าที่ทหาร 3 ปี นับแต่วันที่ออกจากราชการหรือพ้นจากหน้าที่ทหาร ให้ใช้หลักฐานเช่นเดียวกับการขอรับบำเหน็จตกทอดกรณีข้าราชการตาย และเพิ่มเติม
1. หลักฐานการสอบสวนของส่วนราชการที่เคยสังกัดว่าการป่วยเจ็บถึงตายเกิดขึ้นเพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไม่
2. หลักฐานซึ่งแสดงว่าการป่วยเจ็บถึงตายได้เกิดขึ้นภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ออกจากราชการ
3 .หลักฐานซึี่งแสดงวันเดือนปีที่ทายาทได้ยื่นขอรับบำนาญพิเศษ