วิธีเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์
เมื่อก่อนนั้น หากต้องการสร้างเว็บไซต์ คุณจะต้องทราบวิธีเขียนโค้ดหรือต้องจ้างผู้ที่เขียนโค้ดเป็น แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือสร้างเว็บซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ช่วยให้ทุกคนสร้างเว็บไซต์ได้ด้วยเครื่องมือที่ไม่ซับซ้อน ผู้ให้บริการจะจัดการเรื่องการเขียนโค้ดและเสนอเทมเพลตที่สวยงามที่คุณปรับแต่งข้อความ การออกแบบ รูปภาพ และอื่นๆ ได้โดยง่ายด้วยตนเอง ทุกวันนี้ผู้คนหลายล้านคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบหรือเขียนโค้ดก็ใช้เครื่องมือสร้างเว็บเพื่อสร้างตัวตนบนเว็บได้
เครื่องมือสร้างเว็บเหมาะกับคุณไหม
การใช้เครื่องมือสร้างเว็บอาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ นึกถึงคำถามต่อไปนี้เพื่อดูว่าเครื่องมือสร้างเว็บเหมาะกับคุณไหม
ใครจะเป็นผู้ออกแบบและดูแลเว็บไซต์ เครื่องมือสร้างเว็บเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิคเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย คุณจะเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ได้โดยตรงโดยไม่ต้องจ้างมืออาชีพ และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการจ้างนักออกแบบเว็บให้สร้างเว็บไซต์ในขั้นต้น แต่ต้องการให้ทุกคนอัปเดตเว็บไซต์เองได้ในภายหลัง
คุณมีงบประมาณเท่าไร เครื่องมือสร้างเว็บอาจเป็นตัวเลือกการสร้างเว็บไซต์ที่คุ้มค่าอย่างมาก มีผู้ให้บริการมากมายที่เสนอแพ็กเกจขั้นพื้นฐานที่สุดให้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนบางรายให้คุณได้ทดลองใช้แบบไม่ต้องชำระเงิน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนหลังจากนั้นตามขนาดของเว็บไซต์ รวมถึงมีบริการเสริม เช่น เว็บโฮสติ้ง
คุณจะใช้เว็บไซต์ทำอะไร เครื่องมือสร้างเว็บมีธีมหรือเทมเพลตการออกแบบที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมและเว็บไซต์ประเภทต่างๆ เช่น ธีมและเทมเพลตที่ออกแบบมาสำหรับบล็อกหรือพอร์ตโฟลิโอ การค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ กิจกรรม และบริการระดับมืออาชีพ เมื่อตัดสินใจเลือกประเภทเว็บไซต์ที่ต้องการได้แล้ว คุณก็จะเลือกเครื่องมือสร้างเว็บที่เหมาะกับคุณได้
เว็บไซต์ของคุณจะมีลักษณะอย่างไร อย่าลืมว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างเว็บจะช่วยให้คุณปรับแต่งเว็บไซต์ได้หลายวิธี แต่คุณก็ยังคงทำงานภายใต้ข้อจำกัดบางอย่าง หากคุณกำลังมองหาเลย์เอาต์หรือเทมเพลตที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อน หรือต้องการปรับแต่งเองทั้งหมดตั้งแต่ด้านบนถึงด้านล่างของเว็บไซต์ คุณอาจต้องสร้างเว็บไซต์ที่กำหนดเอง ซึ่งน่าจะทำให้ต้องจ้างนักพัฒนาเว็บ
เว็บไซต์ของคุณต้องมีความสามารถพิเศษไหม เครื่องมือสร้างเว็บในปัจจุบันรองรับความต้องการด้านเว็บที่ซับซ้อนได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การเผยแพร่จดหมายข่าวไปจนถึงอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ เครื่องมือสร้างเว็บส่วนใหญ่จะเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยอัตโนมัติด้วย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน
รายการตรวจสอบเครื่องมือสร้างเว็บของคุณ
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าสนใจใช้เครื่องมือสร้างเว็บ ก็ถึงเวลาที่จะรวบรวมรายการสิ่งที่คุณมองหา ลองนึกถึงข้อควรพิจารณาต่อไปนี้ จัดลำดับรายการเหล่านี้ตามที่คุณเห็นว่าสำคัญแล้วนำมาใช้ในการพิจารณาตัวเลือกต่างๆ
- การใช้งานง่าย
- ความนิยม
- ราคา
- ความยืดหยุ่นในการออกแบบ
- ธีม/เทมเพลต
- การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่
- การสนับสนุน
- การสร้างบล็อก
- อีคอมเมิร์ซ
- เครื่องมือสร้างจดหมายข่าว
- เครื่องมือสร้างการเป็นสมาชิก
- แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- เว็บโฮสติ้ง
เครื่องมือสร้างเว็บรายการใดที่คุณควรพิจารณา
Google Domains มีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้มากมายซึ่งมีทั้งตัวเลือกฟรีและแบบชำระเงิน ไปที่หน้าเครื่องมือสร้างเว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับบริการของ Google เช่น Blogger และ Google Sites รวมถึงเครื่องมือแบบชำระเงิน เช่น Squarespace และ Wix ซึ่งช่วยคุณสร้างได้ทุกอย่างตั้งแต่เว็บไซต์แบบเรียบง่ายสบายตาไปจนถึงร้านค้าออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ
หากต้องการทำความเข้าใจเครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบต่างๆ ให้ลองดูเว็บไซต์ที่สร้างจากเครื่องมือนั้น บริการส่วนใหญ่จะแสดงพอร์ตโฟลิโอของเว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่ซึ่งสร้างจากเทมเพลตของบริการดังกล่าว
หากคุณพร้อมที่จะสร้างเว็บไซต์ของตัวเองแล้ว ให้หาชื่อโดเมนที่เหมาะสมที่ domains.google และเริ่มสร้างเว็บไซต์
ทุกคนทราบกันดีใช่มั้ยคะ ว่าเว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็ต้องยอมรับด้วยว่าการที่จะสร้างความไว้ใจให้เกิดขึ้นได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากปัจจุบันการก่ออาชญากรรมบนโลกออนไลน์นั้น มีให้เราพบเห็นได้กันเป็นจำนวนมาก
ถ้าหากคุณกำลังอยากที่จะเริ่มทำธุรกิจ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือ องค์ประกอบของเว็บไซต์ ที่จะต้องมาควบคู่กับการทำ เว็บไซต์น่าเชื่อถือ อีกด้วย เพราะหากเจ้าของแบรนด์ หรือเจ้าของธุรกิจทำเว็บไซต์ออกมา ไม่น่าไว้วางใจ ไม่น่าเชื่อถือ ลูกค้าหรือคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ อาจมองว่าเป็นเว็บไซต์ปลอม เว็บไซต์อันตรายได้
มาสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ในการ ทำเว็บไซต์ ของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้นกันดีกว่า ตามมากันเลยค่ะ
1. ออกแบบเว็บไซต์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจ
การออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับธุรกิจนั้น นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งในที่นี้ พริ้งจะขอพูดถึงเรื่องของ การเลือกใช้ฟอนต์ที่เหมาะสม สำหรับการทำเว็บไซต์นะคะ
ขั้นแรกเลย ตัวอักษร (Font) ที่จะนำมาใช้ จะต้องมีความเป็นมาตรฐานสากล อ่านง่าย ตัวอย่างฟอนต์ที่มีความเป็นสากล เช่น Arial, Verdana, Times New Roman, Tahoma เป็นต้น
(คลิกไปอ่านเรื่อง ฟอนต์แบบไหนเหมาะกับเว็บไซต์คุณ ได้เลย)
โดยขนาดของฟอนต์ต้องพอเหมาะ ไม่เล็กหรือใหญ่มากจนเกินไป และอย่าลืมเลือกใช้สีตัวอักษรที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยนะคะ แต่ชัดเจนในที่นี้ก็ไม่ควรเป็นสีที่มีความฉูดฉาด หรืออ่อนมากจนเกินไป เพราะถ้าหากเลือกใช้สีที่ผิด บางทีมันอาจจะกลืนเข้ากับสีพื้นหลัง จนทำให้ไม่เห็นข้อความได้ค่ะ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะขึ้นชื่อว่าเป็นยุคที่ภาษาไทยวิบัติ เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่เริ่มใช้ภาษาโซเชียลที่เป็นภาษาแปลก ๆ กันมากขึ้น แต่การ ทำเว็บไซต์ ก็ยังควรเน้นการสะกดตัวอักษรให้มีความถูกต้องมากที่สุดอยู่ดีค่ะ เพราะตัวอักษรในเว็บไซต์ของคุณจะสามารถเปลี่ยนมุมมอง และความรู้สึกของตัวอักษรเหล่านี้ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมได้ ดังนั้น ข้อนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากไม่แพ้กับข้ออื่นเลยค่ะ
2. อัพเดทเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เว็บไซต์ที่ดี ที่น่าสนใจ จะมีสิ่งหนึ่งที่สามารถสะกดลูกค้าให้กล้ากดสั่งซื้อสินค้าบนหน้าเว็บไซต์ นั่นก็คือ การอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้หน้าเว็บไซต์มีความเป็นปัจจุบันให้มากที่สุด
ดังนั้น การทำเว็บไซต์ จึงควรมีการอัพเดตข้อมูล และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้เว็บไซต์ดูมีความน่าเชื่อถือต่อธุรกิจ และไม่ถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์ที่ถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง
พริ้งขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะคะ
ถ้าหากมีลูกค้าคนนึงต้องการที่จะซื้อสินค้าในเว็บไซต์ของเรา แต่พอเห็นหน้าเว็บไซต์แล้ว กลับพบว่าหน้าเว็บไม่มีการอัพเดทข้อมูลอะไรเลยมาหลายเดือนแล้ว ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความไม่แน่ใจแล้วล่ะ ว่าเว็บไซต์นี้ยังขายสินค้าอยู่มั้ย เมื่อสั่งซื้อไปแล้วจะได้รับสินค้าจริงหรือเปล่า จนอาจจะส่งผลทำให้ไม่ซื้อสินค้ากับเราไปในที่สุดค่ะ
3. มีข้อมูลที่ติดต่อผู้ขายได้ชัดเจน
เว็บไซต์น่าเชื่อถือ มากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการลงข้อมูลของผู้ขายว่าครบถ้วน และเป็นข้อมูลที่จริงมากเพียงใด ซึ่งข้อมูลหลัก ๆ ที่จำเป็นต้องมีก็คือ ชื่อของบริษัท ที่อยู่ เบอร์โทร แผนที่ร้านค้า เพื่อยืนยันการมีตัวตน และช่องทางการติดต่ออื่น ๆ ที่สามารถติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้หากมีการจดทะเบียนพาณิชย์พร้อมและมีหลักฐานชัดเจน ก็จะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้นไปอีกค่ะ
ซึ่งพริ้งเองมีอีกช่องทางที่อยากแนะนำนั่นก็ คือ Google My Business ค่ะ
Google My Business คือ โปรไฟล์สำหรับร้านค้าและธุรกิจ ที่จะแสดงผลบนหน้าผลการค้นหา (SERP) ของ Google Search และ Google Maps เพื่อแสดงตำแหน่งหน้าร้านหรือสถานที่ตั้ง สำหรับให้บริการของธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ ในบริเวณที่มีผู้คนค้นหา สินค้า ร้านค้า หรือบริการต่าง ๆ
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณกำลังมองหาสินค้าตัวนึงบนเว็บไซต์ และกำลังตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าตัวนั้นอยู่พอดี แต่คุณสังเกตเห็นว่าเว็บไซต์นี้เค้าไม่ขึ้นข้อมูลและช่องทางการติดต่อเจ้าของร้านให้คุณเลย ดูแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่
กับอีกร้านนึงที่มีสินค้าแบบที่คุณต้องการเช่นเดียวกัน แต่ในเว็บไซต์ขึ้นข้อมูลของร้านค้า และช่องทางเพื่อให้คุณติดต่อสอบถามกับเจ้าของร้านได้อย่างชัดเจน โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งกังวลว่าซื้อไปแล้วจะได้รับสินค้าจริงมั้ยเหมือนเว็บแรก
ลองคิดดูค่ะว่า คุณอยากจะซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ไหน ?
4. รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
การอ้างอิงถึงผู้ที่เคยใช้บริการแล้ว หรือแคปภาพรีวิวจากลูกค้ามาลงบนหน้าเว็บไซต์ จะแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์นี้เคยให้บริการกับลูกค้ารายอื่น ๆ จริง ยิ่งถ้าเป็นลูกค้าที่มีชื่อเสียงด้วยแล้ว จะทำให้ผู้พบเห็นที่เข้ามาในเว็บไซต์ เกิดความเชื่อถือเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนตัวพริ้งเอง เวลาที่อยากเลือกซื้อเครื่องสำอาง จะเป็นคนที่ตัดสินใจค่อนข้างนาน เพราะพริ้งต้องมานั่งค้นหารีวิวของสินค้าที่ต้องการจะซื้อก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในตัวสินค้านั้น และถ้าเจอคนที่เค้ารีวิวในทางที่ดีด้วยแล้ว ยิ่งตัดสินใจซื้อสินค้าสินค้าแทบจะทันทีเลยค่ะ ต้องยอมรับว่าการดูรีวิวสินค้าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ผู้คนเลือกซื้อสินค้า ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยค่ะ
ทุกคนเห็นกันมั้ยคะ ว่าการบอกเล่าประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าที่มีต่อธุรกิจผ่านบนหน้าเว็บไซต์ของคุณ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจให้ดูดี และเป็นที่น่าจดจำได้ค่ะ
การสร้าง เว็บไซต์น่าเชื่อถือ นั้น มีมากมายหลายวิธี โดยทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ที่จะทำให้ลูกค้า และผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์นั้นเกิดความสนใจ ซึ่งในบางครั้งการที่จะทำเว็บไซต์ให้ดีขึ้นมาได้ คุณเองอาจจะต้องให้ความใส่ใจในหลาย ๆ องค์ประกอบ เพื่อที่จะให้เว็บดูมีความน่าเชื่อถือ และสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ที่พบเห็นได้ ลองนำทั้ง 4 ทริคไปใช้กับเว็บไซต์ของคุณดูนะคะ เราทำได้คุณเองก็ทำได้เช่นกันค่ะ