ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน pantip 2565

วันนี้ Refinn ดึงเอาคำถามหนึ่งในกระทู้พันทิพย์ เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้านที่ทางรีฟินน์ได้เข้าไปตอบคำถามไว้แล้ว มาเขียนให้ในเว็บอีกทีเพื่อใครไม่ได้เข้าได้เล่น Pantip จะได้ไม่พลาดข้อมูลดี ๆ ครับ แล้วก็ในนี้จะมีเนื้อหาเพิ่มเติมเข้าไปด้วยครับ

โดยเรื่องมีอยู่ว่าคุณสมาชิกหมายเลข 6523449 ได้เข้ามาตั้งกระทู้สอบถามเพื่อน ๆ ใน Pantip ว่าเขาเองนั้นได้ทำการผ่อนบ้านมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 2 ปี ด้วยยอดผ่อน 13,000 บาท พอขึ้นปีที่ 3 ปรากฏว่ายอดผ่อนบ้านปรับเพิ่มขึ้นเป็น 18,000 บาท รวมถึงดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นด้วย โดยที่ไม่รู้ว่าธนาคารปล่อยดอกเบี้ยลอยตัว เลยอยากปรึกษาว่าผ่อนบ้านมา 2 ปี รีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ยได้ไหม แล้วตอนนี้ผ่อนเยอะขึ้นแต่ยังคงจ่ายต้นเท่าเดิมอยู่หรือเปล่า แล้วกี่ปีรีไฟแนนซ์บ้านได้

//pantip.com/

หลังจากที่ได้อ่านกระทู้ ผมแบ่งออกมาได้  3 คำถาม คือ

1. รีไฟแนนซ์ต้องรอครบ 3 ปีก่อนไหมถึงสามารถรีไฟแนนซ์ได้

เรื่องขอระยะเวลาว่าสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้เมื่อไรนั้นเราจำเป็นต้องกลับไปดูสัญญาก่อนครับว่าเราทำสัญญาไว้กับที่เดิมกี่ปี บางธนาคารทำไว้ 3 ปี บางธนาคารทำไว้ 5 ปี 

2. ผ่อนบ้าน 2  ปี รีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม หรือต้องรอให้ครบสัญญา

คำตอบคือ แม้ว่าเราจะผ่อนบ้านมา 2 ปี ยังไม่ครบสัญญาที่ทำไว้กับธนาคาร 3 - 5 ปี เราก็สามารถที่จะรีไฟแนนซ์บ้านได้ครับ แต่เนื่องจากเราผิดสัญญาทางธนาคารก็จะมีค่าปรับโดยทั่วไปที่เคยเจอจะอยู่ที่ประมาณ 3% ของยอดหนี้คงเหลือครับ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ

สมมุติผมกู้ซื้อบ้านมา 3 ล้านบาท ผ่อนมาแล้ว 2 ปี ยอดหนี้คงเหลือ 2.8 ล้านบาท และต้องการรีไฟแนนซ์เพื่อไปรับดอกเบี้ยที่ถูกลงจากธนาคารใหม่ แต่สัญญาที่ทำไว้กับธนาคารเดิม คือ 3 ปี ธนาคารจะปรับเงินผม 3% ของยอดหนี้คงเหลือ นั้นก็คือ 3% ของ 2.8 ล้านบาท ก็จะประมาณ 84,000 บาทครับ

ที่นี้เราก็ต้องนำมาคำนวนความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์ครับ

= (ยอดที่โดนปรับ+ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์)- ยอดที่ประหยัดได้ในกรณีที่เราย้ายไปธนาคารใหม่

ส่วนตัวมองว่าถ้าดอกเบี้ยที่เดิมกับที่ใหม่ต่างกันไม่เยอะมาก เช่น ที่ใหม่ให้ 2.8% ส่วนที่เดิมดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ 3.5% และอีก 1 ปีเราก็จะครบสัญญาแล้ว ผมว่าถ้าโดนค่าปรับไป 3% ก็อาจจะไม่คุ้มครับ แนะนำว่ารอไปอีกสักปี

แต่บางท่านเช่นผมเองเนี่ยแหละครับ ตอนซื้อบ้านครั้งแรกไม่มีความรู้ทางการเงินเท่าตอนนี้ โดนดอกเบี้ยไป ประมาณ 6.25% ต่อปี ซึ่งถ้ารีไฟแนนซืไป ดอกเบี้ยจะอยู่ประมาณ 2.7% ผมผ่อนมาได้ 1 ปีคำนวนแล้วถึงจะโดนค่าปรับก็ยังประหยัดกว่า ผมก็ตัดสินใจที่จะยอมเสียค่าปรับและทำการรีไฟแนนซ์เลยครับ

3. ในปีที่ 3 จ่ายค่าผอนบ้านเยอะขึ้นจากเดิม 13,000 บาท เป็น 18,000 บาท จะโดนตัดเงินต้นเท่าเดิมหรือเปล่า

ในส่วนนี้ก็ไม่มีคำตอบที่ตายตัวครับที่ตอบแบบนี้เพราะว่าเราไม่รู้ว่าดอกเบี้ยบ้านที่ปรับขึ้นมาของแต่ละท่านนั้นเป็นเท่าไรครับ แต่ผมแนะนำวิธีคำนวนดอกเบี้ยบ้านให้ครับ 

โดยดอกเบี้ยบ้านนั้นจะเป็นลักษณะของลดต้นลดดอก ก็คือคำนวณจากเงินต้นคงเหลือของเรา ยิ่งยอดเงินต้นเราเหลือน้อยเราก็จะเสียดอกเบี้ยถูกลงนั้นเอง โดยมีวิธีการคำนวณคือ

ดอกเบี้ย = (เงินต้นคงเหลือ x ดอกเบี้ย x จำนวนวัน) ÷ 365

สมมุติว่ายอดหนี้บ้านของผมคงเหลือ 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.5% ผ่านไป 30 วัน ดอกเบี้ยที่ผมต้องเสียคือ

= (3,000,000 x 2.5% x 30) ÷ 365

= 6,164 บาท

แต่ถ้ายอดหนี้บ้านของผมคงเหลือ 3 ล้านบาท ดอกเบี้ยปรับขึ้นเป็น 3.5% ผ่านไป 30 วัน ดอกเบี้ยที่ผมต้องเสียคือ

= (3,000,000 x 3.5% x 30) ÷ 365

= 8,630 บาท

ถ้าเป็นอย่างในกรณีตัวอย่างเดิมคุณผ่อนบ้านอยู่ที่ 13,000 บาท เมื่อนำมาลบกับดอกเบี้ย 6,164 เท่ากับคุณจ่ายดอกจ่ายเงินต้นไป 6,836 บาทครับ

แต่พอดอกเบี้ยและยอดผ่อนปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 18,000 บาท คุณจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้นเป็น 8,630 บาท เท่ากับคุณจ่ายเงินต้นไป 9,370 บาท ก็เท่ากับว่ายอดที่เราจ่ายเพิ่มขึ้นก็ไปหักเงินต้นมากขึ้นด้วยครับ

แต่มันก็จะมีบางกรณี เช่น ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นไปเยอะมากจาก 2.5% เป็น 5.5% เราลองมาคำนวณดูกันครับ

= (3,000,000 x 5.5% x 30) ÷ 365

= 13,561 บาท

พอมาเป็นกรณีนี้เราจะเห็นได้ว่าจากเดิมที่เราจ่าย 13,000 บาท นั้นไม่พอกับดอกเบี้ยที่เราต้องเสียในแต่ละเดือนแล้ว และถึงยอดผ่อนจะเพิ่มเป็น 18,000 บาท เงินต้นก็ยังโดนหักน้อยลงด้วยเหลือแค่ 4,439 บาท ครับ

ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าผ่อนเพิ่มขึ้นโดนหักเงินต้นเท่าเดิมหรือเปล่าต้องลองคำนวณตามวิธีการที่ผมเขียนให้ด้านบนเลยครับ เราจะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด 

หากสนใจรีไฟแนนซ์ก็ลองเปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านผ่าน www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บ้าน ได้ครับ เรารามสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารชั้นนำ รวมถึงคำนวณยอดประหยัดไว้ให้ด้วยครับ ใช้บริการได้ฟรีเลย

4. ผมไม่รู้ว่าธนาคารปล่อยดอกเบี้ยลอยต้ว 

จริง ๆ เรื่องการที่เราไม่รู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้านนี้ถือว่าไม่แปลกครับ อย่างที่ผมเล่าไปก่อนหน้านี้ สมัยก่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกันจนมาเห็นใบเสร็จแล้วตกใจทำไมเงินต้นตัดไปนิดเดียว แล้วช่วงนั้นก็เริ่มสนใจด้านการเงินแล้วเลยมารู้ที่หลัง

สำหรับดอกเบี้ยบ้านนั้นปกติจะมี 2 แบบคือแบบลอยตัว กับแบบคงที่ครับ ซึ่งถ้าเทียบกับกันแล้วแบบลอยตัวจะถูกกว่า แต่ต้องรับความเสี่ยงหากธนาคารมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครับก็อาจทำให้เราเสียดอกเบี้ยมากขึ้น แต่ในทางกลับกันถ้ามีการปรับดอกเบี้ยลงเราก็จะได้ประโยชน์เช่นกัน

ซึ่งจะต่างกับแบบคงที่ ไม่ว่าธนาคารจะปรับดอกเบี้ยขึ้นหรือลงเราก็จะยังคงจ่ายดอกเบี้ยตามที่ระบุในสัญญาครับ ซึ่งทำให้ดอกเบียนแบบคงที่อาจจะสูงกว่าแบบลอยตัวนิดหน่อยเพราะธนาคารเองก็คำนวณเรื่องความเสี่ยงไวแล้วครับ เช่น ดอกเบี้ยแบบลอยตัวอาจจะได้   2.8% ถ้าเลือกแบบคงที่ก็จะอยู่ที่ 3.1% อันนี้เราก็ต้องไปเลือกกันอีกทีครับว่าชอบแบบไหน

แต่จุดสำคัญกว่านั้นคือ คนส่วนใหญ่มักโดนหลอกด้วยคำการตลาด 

  • ดอกเบี้ย 0% 6 เดือน
  • ดอกเบี้ย 0.99%*
  • ดอกเบี้ยเฉลี่ยน 1.5% ปีแรก

และก็อีกมากมายครับ พอเราเห็นดอกเบี้ยอีกที่หนึ่ง 2.xx% แล้วมาเห็นที่นี้ 1.5% ก็กลายเป็นว่าเขาใจว่าถูกกว่าจนลืมดูไปว่านี้เป็นเฉพาะของปีแรกเท่านั้น 

ดังนั้นเราจำเป็นต้องดูดอกเบี้ย แต่ละปี ตลอดสัญญครับว่าเท่าไร แล้วเฉลี่ยแล้วเท่าไร ยกตัวอย่าง

ธนาคาร A ใช้ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เฉลี่ย 3 ปี 3% (ปีที่ 1 = 3%, ปีที่ 2 = 3%, ปีที่ 3 = 3%) 

ธนาคาร B ให้ดอกเบี้ยลอยตัว 3 ปี เฉลี่ย 2.35% (ปีที่ 1 MRR- 6.2% = 1.15%, ปีที่ 2 MRR- 4.9% = 2.45%, ปีที่ 3 MRR- 3.39% = 3.96%)

จะเห็นได้ว่า แต่ละปีของ 2 ธนาคารไม่เหมือนกัน ถ้าสมมุติเราเป็นคนชอบโปะบ้าน ธนาคาร B ที่ช่วงปีแรก ๆ ดอกเบี้ยถูกมา เราเลือกมาโปะบ้านเยอะ ๆ ในช่วงนี้เราก็จะลดเงินต้นได้มากกว่าธนาคาร A ครับ

ดั้งนั้นการจะรีไฟแนนซ์เราก็ต้องละเอียดนิดหนึ่งครับ เพราะยอดหนี้ค่อนข้างเยอะถ้าเลือกผิดเราอาจจะพลาดแทนที่จะประหยัดหลายแสน เป็นประหยัดแค่ไม่กี่หมื่นบ้านครับ

5. ถ้าไม่รีไฟแนนซ์บ้านทำอะไรให้ลดดอกเบี้ยได้บ้าง

จริง ๆ อันนี้เจ้าของกระทู้ไม่ได้ถามนะครับแต่ผมเสริมให้ ซึ่งผมแบ่งออกเป็น 3 วิธี

วิธีที่ 1 เลือกผ่อนบ้านแบบโปะทุกเดือนเพื่อทำให้ตัดต้นได้เยอะขึ้น เพราะการคิดดอกเบี้ยบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอกยิ่งโปะหนี้บ้าน เงินต้นน้อยลงเราก็จ่ายดอกเบี้ยน้อยลงไปด้วยครับ 

วิธีที่ 2 ถ้าสัญญาเหลือ 1 ปี หรือน้อยกว่า อาจจะผ่อนเป็นปกติไปก่อนครับแล้วค่อยทำเรื่องรีไฟแนนซ์ก็ได้ครับ เพราะถ้าคำนวณดูแล้วโดนค่าปรับน่าจะไม่คุ้มกัน

วิธีที่ 3 ในกรณีที่ไม่เข้าเงื่อนไขวิธี 1 และ 2  แต่ต้องการลดดอกเบี้ยบ้านและยอดผ่อน ก็อาจคุยกับธนาคารเดิมของเราในการขอลดดอกเบี้ยไปเลยครับ ธนาคารอาจปรับดอกเบี้ยลงมาให้ (แต่ก็จะได้ไม่เท่ากับดอกเบี้ยที่เรารีไฟแนนซ์ไปธนาคารใหม่) ซึ่งเราก็จะต้องทำสัญญาใหม่และอยู่กับธนาคารเดิมไปอีก 3-5 ปี ตามที่ตกลงกันครับ

ส่วนใครที่เลือกวิธีที่ 1 กับ 2 ก็สามารถดำเนินเรื่องได้ทำได้ก่อน 1 - 1.5 เดือนล่วงหน้าก่อนหมดสัญญานะครับจะได้พอดีตอนหมดสัญญาเดิม ซึ่งผมแนะนำให้ใช้เครื่องมือฟรี จากรีฟินน์ที่พึ่งเปิดตัวครับ ช่วยเตือนรีไฟแนนซ์บ้าน รวมถึงช่วยในการเตรียมเอกสาร อย่าง www.refinn.com/alert ซึ่งเราเปิดให้บริการได้เพียงไม่นานก็มีคนเข้ามาให้บริการมากกว่า 500 คน และตลอด 4 ปีเราก็ได้ให้บริการมาแล้วกว่า 200,000 เคสแล้วครับ นอกจากนี้เรายังมีบริการ รีไฟแนนซ์รถ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต สามารถใช้งานได้ฟรี ตามลิงก์ที่ให้ได้เลยครับ

สรุป

สรุปสั้นๆ ก่อนจากกัน รีไฟแนนซ์บ้านต้องกี่ปี

1. ผ่อนบ้าน 2 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม 

สามารถทำได้ แต่กฏเกณฑ์ต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับสัญญาที่ทำไว้กับธนาคารนั้นๆ ครับ อาจจะมีค่าปรับ 1% - 3% ของยอดเงินคงเหลือ หรือขึ้นอยู่กับสัญญาที่ทำไว้กับธนาคารเดิม

2. ผ่อนบ้าน 1 ปีรีไฟแนนซ์ ได้ไหม

คำตอบคือเหมือนกับข้อแรกเลยครับ คือทำได้แต่จะมีค่าปรับ 1% - 3% แต่ด้วยความที่เราพึ่งผ่อนไปปีเดียว เราอาจจะต้องคำนวณความคุ้มค่า ระหว่างเสียค่าปรับ กับรีไฟแนนซ์บ้านย้ายไปธนาคารใหม่อันไหนจะประหยัดมากกว่ากัน

3. รีไฟแนนซ์บ้านต้องกี่ปี ผ่อนบ้านกี่ปีถึงรีไฟแนนซ์ได้

โดยปกติแล้วเราจะรีไฟแนนซ์เมื่อไรก็ได้ แม้ว่าจะยังไม่ครบสัญญาก็สามารถทำได้ แต่เราก็จะมีเรื่องค่าปรับเข้ามา แต่หากเราไม่อยากเสียค่าปรับตอบรีไฟแนนซ์บ้านตามสัญญาแล้วส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี

รีไฟแนนซ์บ้านมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างpantip

29 มีนาคม 2564 เวลา 11:25:01 น. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคาร การเงิน บ้าน รีไฟแนนซ์บ้าน.
ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ... .
ค่าจดจำนอง (1% ของวงเงินสินเชื่อ) ... .
ค่าอากรแสตมป์(0.05% ของวงเงินสินเชื่อ) ... .
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ.

รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี 2565

8 อันดับธนาคารน่าสนใจ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด ประจำเดือน ธันวาคม 2565.
1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) ... .
2. ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) ... .
3. ธนาคารกรุงไทย (KTB) ... .
4. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ... .
5. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ... .
6. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY).

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านมีอะไรบ้าง

สรุปง่ายๆ ว่า ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านใหม่ทั้งหมดจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ราวๆ 2-3% ของวงเงินกู้ โดยค่าเฉลี่ยนี้อาจสูงได้ถึง 4.3% ของวงเงินรีไฟแนนซ์ ในบางกรณีเราสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมในการจดจำนองใหม่ (1%) ได้ถ้าเราเลือกที่จะรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม ค่าใช้จ่ายบางข้อเป็นค่าคงที่สำหรับทุกธนาคาร และบางข้อคิดเป็นมูลค่า ...

รีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร pantip

การรีไฟแนนซ์ คือ การที่ผู้เช่าซื้อรถได้ทำการกู้เงินก้อนใหม่เพื่อไปใช้คืนเงินกู้ก้อนเก่า โดยผู้เช่าซื้อรถอาจได้รับประโยชน์ที่ดีกว่าจากเงินกู้ก้อนใหม่ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่การรีไฟแนนซ์ที่ดี ผู้เช่าซื้อรถจะต้องคำนึงด้วยว่า ส่วนต่างจากดอกเบี้ยที่ลดลง เช่น เมื่อนำค่างวดเก่ามาหักจากค่างวดใหม่ คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จะ ...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้