แก๊สโซฮอล์คือการรมตัวกันของ “น้ำมันเบนซิน(Gasoline)” และ “แอลกอฮอล์(Alcohol)” กลายเป็น Gasohol พูดง่ายๆคือเอาน้ำมันตามปกติมาผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอล ที่ได้มาจากการหมักอ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพดนั่นเอง ซึ่งความแตกต่างของน้ำมันแต่ละตัวมีดังนี้
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91
คือ น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันออกเทน 91 90% ผสมกับเอทานอล 10%
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95
คือ น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันออกเทน 95 90% ผสมกับเอทานอล 10%
ซึ่ง 2 ตัวนี้จะเรียกรวมๆกันว่าน้ำมัน E10 นั่นเอง
น้ำมัน E20
คือ น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันออกเทน 95 80% ผสมกับเอทานอล 20%
น้ำมัน E85
คือ น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันออกเทน 95 15% ผสมกับเอทานอล 85%
น้ำมันแต่ละตัวมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลจำนวนมากอย่าง E85 จะไม่สามารถเติมได้ในรถรุ่นเก่า เหตุผลเพราะเครื่องยนต์ในรุ่นเก่าไม่สามารถทำงานด้วยน้ำมันที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่เยอะได้ นอกจากนี้อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนหลายๆอย่างของรถยนต์ ไม่สามารถทนต่อการกัดกล่อนของแอลกอฮอล์ได้อีกด้วย
ข้อดีของน้ำมันที่มีส่วผสมของเอทานอลเยอะๆ คือ “ราคาถูก” ช่วยประหยัดค่าน้ำมันไปได้เยอะ แต่ก็ต้องแลกกับการเผาไหม้ที่เร็วขึ้น เนื่องจากน้ำมันแบบนี้ทนความร้อนได้ต่ำกว่า ทำให้ต้องส่งน้ำมันไปเลี้ยงเครื่องเยอะขึ้น พูดง่ายๆคือ ถ้าเทียบน้ำมันในปริมาณเท่ากันมันจะหมดเร็วกว่านั่นเอง นอกจากนี้น้ำมันแบบนี้ยังทำให้เครื่องและชิ้นส่วนในรถเสื่อมสภาพเร็วกว่าด้วย เจ้าของรถคงต้องเลือกเอาเองครับ ว่าจะเติมน้ำมัน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 , น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ,E20 , E85 ตัวไหนดี ตัวไหนคุ้มที่สุด
ความแตกต่างของแก๊สโซฮอล์ 95 กับ แก๊สโซฮอล์ 91 คือ ต่างกันที่ค่าออกเทน ซึ่งค่านี้จะเป็นตัวบอกถึงความสามารถของเครื่องยนต์ที่ต้านทานต่อการน็อก แต่เดิมจะใช้ สาร MTBE เป็นตัวเพิ่มค่าออกเทนในน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ต่อมาเมื่อนำเอทานอลมาผสมในน้ำมันเบนซิน 91ร้อยละ 10 โดยปริมาตร พบว่ามีคุณสมบัติไม่แตกต่างกับ น้ำมันเบนซิน 95 ที่ใช้ MTBE แต่มีความสะอาดมากกว่าในแง่ของมลพิษไอเสียที่ออกมา ข้อมูลจาก เว็บไซต์กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน มารู้จักน้ำมันกันก่อนนะครับ 1. น้ำมัน เบนซิน 91 = น้ำมันที่เกิดจากบวนการกลั่นน้ำมัน นำมาผสมสารเพิ่มคุณภาพ และสารเติมแต่ง ให้ได้ค่าออกเทนตามที่ต้องการ 2. แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) = น้ำมันเบนซิน 91 (ข้อ 1) 90% นำมาผสมกับ เอทานอล 10% 3. แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) = น้ำมันเบนซินออกมาจากโรงกลั่นมีค่า ออกเทน อยู่ที่ 87 90% มาผสมกับ เอทานอล 10% 4. E20 (ตัวนี้จริงๆแล้ว มีค่าออกเทน สูงถึง 98 ) = น้ำมันเบนซิน 91 (ข้อ 1) 80% นำมาผสมกับ เอทานอล 20% *** เอทานอล มีคุณสมบัติที่ควรรู้คือ มันเพิ่มค่าอ็อคเทนให้สูงขึ้นได้ และ มัน ระเหยได้ ***คำถาม : แก็สโซฮอล 91 อืด
คำตอบ : 1. การใช้น้ำมันออกเทน 91 กับเครื่องยนต์ที่ต้องการน้ำมันออกเทน 91 จะไม่เกิด การน็อค หรืออืด อย่างแน่นอน ยกเว้นแต่ว่า เครื่องยนต์ที่ใช้ต้องการน้ำมันออกเทน 95 ในการจุดระเบิด แต่ เติมน้ำมันออกเทน 91 เข้าไป จะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นทันที ซึ่งเกิดขึ้นได้ กับ รถยนตร์เก่าทั่วไป และรถยุโรป เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากรถยุโรปต่องการ ออกเทนในการจุดระเบิดที่ 95
2. แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) = น้ำมันเบนซินออกมาจากโรงกลั่นมีค่า ออกเทน อยู่ที่ 87 90% มาผสมกับ เอทานอล 10% เอทานอล มีคุณสมบัติคือ ระเหยได้ หลังจากที่ เอทานอล ระเหยออกไป น้ำมัน แก๊สโซฮอล์ 91 จะมีค่าออกเทนลดลงไปตามระยะเวลา ซึ่งเกิดขึ้นได้กับ ปั้มหลอดที่มีการเก็บน้ำมันไว้ ไม่ดี และปั้มเก่าๆ ที่เก็บน้ำมันไว้เป็นระยะเวลานาน จะเห็นได้ว่าเติมแล้ว เครื่องมีอาการทันที
สรุปคือ รถถ้าใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนเหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนตร์ จะทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน และยังช่วยให้ประหยัดน้ำมัน แต่ถ้าใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าความต้องการอาจทำให้เครื่องยนต์เกิดการน็อค และทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง วิ่งอืดขึ้น แต่ถ้าใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าที่เครื่องยนต์ต้องการ ทำได้โดยจะไม่ก่อความเสียหายใดๆกับเครื่องยนต์
มอเตอร์ไซค์ออกแบบมาให้สามารถ ใช้น้ำมันเบนซิน 91 แปลว่า ต้องการค่าออกเทนในการจุดระเบิดที่ 91 เพราะฉนั้น น้ำมันที่เติมได้ เบนซิน 91 / แก๊สโซฮอล์ 95 / แก๊สโซฮอล์ 91 / E20
หรือดูได้จากหน้าคู่มือจะมีสัญลักณ์ติดคือ แก๊สโซฮอล์ 95 E10 / E20 , แก๊สโซฮอล์ 91 E10 จะเลือกเติมอะไรอยู่ที่ตัวท่านเลย จะผสม ยังไงก็เติมได้หมด ถ้าเติมจากปั้มที่ได้มาตรฐาน น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยมีหลายประเภท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของส่วนผสม สีของปั๊มเชื้อเพลิง รวมถึงราคา น้ำมันแต่ละชนิดจะเหมาะกับรถคันไหนล้วนขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน ลักษณะของเครื่องยนต์ รวมถึงระบบเชื้อเพลิงของรถยนต์คันนั้น ๆ โดยปัจจุบัน ตามปั๊มน้ำมันทั่วไป จะพบอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่
น้ํามัน 95 น้ำมัน 91 คืออะไร ?
น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง ?
น้ำมันเบนซิน (Gasoline)
น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ แล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพ เช่น การเพิ่มค่าออกเทน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ น้ำมันเบนซินรถยนต์ (Motor Gasoline) และน้ำมันเบนซินอากาศยาน (Aviation Gasoline)
น้ำมันเบนซิน 95 (Gasoline 95)
น้ำมันเบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอทานอล มีค่าออกเทน 95 เผาไหม้เครื่องยนต์ได้ดี เหมาะกับรถยนต์ทุกประเภท แต่จะมีราคาแพงที่สุด และมีขายในปั๊มน้ำมันเพียงบางแห่งเท่านั้น
น้ำมันเบนซิน 91 (Gasoline 91)
น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทน 91 ไม่มีส่วนผสมของเอทานอล มีคุณสมบัติเหมือนน้ำมันเบนซิน 95 แต่จะถูกลดคุณภาพลงมาเล็กน้อย
น้ำมันเบนซิน 95 คือน้ำมันที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด
แก๊สโซฮอล์ 91 (Gasohol)
น้ำมันเบนซินที่ถูกนำไปผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอทานอล ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย แม้จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน (เล็กน้อย) แต่สามารถใช้ทดแทนกันได้ ทั้งยังมีราคาถูกกว่า และหาได้ง่ายกว่า
แก๊สโซฮอล์ 91 (Gasohol 91: E10)
น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำน้ำมันเบนซิน 91 ผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ 99.5% (อัตราส่วน เบนซิน 90% : เอทานอล 10%) ให้การตอบสนองไม่ต่างจากเบนซิน 91 และสามารถเติมผสมกับน้ำมันเบนซินได้เลย
แก๊สโซฮอล์ 95 (Gasohol 95 : E10)
น้ํา มัน เบนซิน 95 ผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ 99.5% (อัตราส่วน เบนซิน 90% : เอทานอล 10%) เพื่อทดแทนสาร MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) เผาไหม้ได้ดี ใช้ทดแทนเบนซิน 95 ได้ และมีราคาถูกกว่า
แก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาถูกกว่าน้ํา มัน เบนซิน 95 ใช้แทนกันได้
น้ำมัน e20 แก๊สโซฮอล์ น้ํามัน 95 (Gasohol 95 : E20)
น้ำมันเบนซิน 95 ผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% (อัตราส่วน เบนซิน 80% : เอทานอล 20%)
แก๊สโซฮอล์ E85
น้ำมันเบนซิน ผสมเอทิลแอลกอฮอล์ บริสุทธิ์ 99.5% (อัตราส่วน เบนซิน 15% : เอทานอล 85%)
น้ำมัน e20 ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
น้ำมันดีเซล (Diesel)
เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น และมีจำหน่ายทุกปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย
น้ำมันดีเซล (หมุนเร็วธรรมดา) B7
เป็นน้ำมันดีเซลทั่วไป ที่มีสัดส่วนของไบโอดีเซลประมาณ 6.6 – 7% ที่เหลือจะเป็นน้ำมันดีเซล ทางเลือกสำหรับรถที่ไม่รองรับ B10
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10
น้ำมันดีเซลที่มีการผสมน้ำมันไบโอดีเซลสัดส่วนที่ 9-10% เป็นเกรดมาตรฐานของไทย
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20
น้ำมันดีเซลที่มีการผสมน้ำมันไบโอดีเซลสัดส่วนที่ 19-20% เหมาะกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รองรับรถกระบะบางรุ่นได้
น้ำมันดีเซล ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น
หากอยากรู้ว่ารถของคุณเหมาะกับน้ำมันประเภทใด สามารถตรวจสอบได้กับศูนย์บริการ และไม่ควรเติมน้ำมันผิดประเภท เพราะรถที่เติมน้ำมันด้วยค่าออกเทนที่ต่ำกว่าที่ผู้ผลิตระบุไว้ อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ในระยะยาวได้