เที่ยว ส วิ ต เซอร์ แลนด์ เดือน ไหน ดี

✅ เห็นไหมละคะว่า ที่ Madam A พูดอยู่บ่อยๆว่า ประเทศนี้มันสวยไปหมด เที่ยวได้ทุกฤดู เพราะมันสวยคนละแบบ ทำให้เราต้องไปเที่ยวที่นี่ให้ครบทุกฤดูกาลยังไงล่ะคะ แล้วมาพักที่บ้าน "โฮมสเตย์ไทยในสวิสเซอร์แลนด์ By Madam A" กันนะคะ 😘🏡

กำลังใจในการทำงาน คือการแพลนทริปเที่ยว รอบนี้จะพาลูกออกนอกประเทศในรอบ 2 ปี สิงคโปร์ อเมริกาไปมาแล้ว รอบนี้เลยจะไปพี่ควินน์ไปตะลุยยุโรปครั้งแรก

เพราะว่าบ้านเราได้วีซ่าเชงเก้น 3 ปี มาก่อนจะโควิดพอดี เลยคิดว่าไปยุโรปเลย น่าจะดีที่สุด ไม่ต้องขอวีซ่าใหม่ด้วย

ประเทศที่เราเลือกไปคือ สวิตเซอร์แลนด์ คิดว่าน่าจะเป็นประเทศที่เริ่มได้ดีสำหรับเด็ก

คำถามที่มักจะถูกถามตามมาว่า เอ๊ะ แล้วเราจะพาลูกไปเที่ยวช่วงไหนดี ถึงจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวสวิส

แต่ในความเป็นจริงการจะไปเที่ยวที่ไหน เราต้องมาดูก่อนว่าหน้าท่องเที่ยวของสวิสคือเมื่อไร แล้วสภาพอากาศของสวิส เป็นยังไงในแต่ละฤดู ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจะมาเที่ยวสวิสช่วงไหน

มาลองทำความรู้จักสภาพภูมิอากาศของสวิสกัน

สวิสเซอร์แลนด์มี 4 ฤดู
1.  ฤดูหนาว
2.  ฤดูใบไม้ผลิ
3.  ฤดูร้อน
4.  ฤดูใบไม้ร่วง

เช่นเดียวกับประเทศอื่นในยุโรป แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ต่างกันมากในแต่ละเมือง
ทำให้อากาศในแต่ละเมืองจะแตกต่างกันออกไป ตามที่ตั้งของเมืองนั้นๆ

แต่ละฤดูจะมีอุณภูมิที่โดดเด่นแตกต่างกันไป
แต่ฤดูท่องเที่ยวของสวิสจะเป็นช่วงฤดูร้อน (ปลายพฤษภาคม – กลางกันยายน)
เพราะถือได้ว่าเป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป

สำหรับบ้านเรา เราคิดว่าหน้าร้อนคือหน้าที่เหมาะกับการเป็นทริปแรกของลูกในยุโรป เพราะเราสามารถท่องเที่ยวได้นานขึ้น หน้าร้อนของเค้าคืออากาศเย็นสบายสำหรับเรา ลูกจะไม่รู้สึกว่าต้องปรับตัวกับสภาพอากาศมากนัก แหล่งท่องเที่ยวเปิดเยอะขึ้นเพราะเป็นช่วง High season

แต่เที่ยวช่วง High Season ก็ต้องตามมาด้วยราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้น
คนมาเที่ยวเยอะขึ้นราคาที่พักในแต่ละที่ก็จะพุ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่ใช่ว่าการเที่ยวในช่วง Low Season จะไม่มีข้อเสีย แม้ว่าที่พักหรือตั๋วเครื่องบินจะราคาถูกลง
แต่สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง หรือรถไฟบางสายจะหยุดวิ่งในช่วงที่เป็น Low Season เพราะฉะนั้นควรเช็คดีๆ กว่าอะไรปิดในช่วงไหนบ้าง เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว

จะเลือกไปเที่ยวสวิสฤดูไหนลองไปดูอากาศในแต่ละช่วงฤดูก่อนว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน
จุดประสงค์หลักในการมาเที่ยวคืออะไร ??
สถานที่ที่จะไปคือที่ไหนบ้าง ??

แล้วที่สำคัญ ลูกเราไหวแค่ไหน ??

ก่อนที่จะตัดสินเลือกช่วงเวลาที่จะไปเที่ยวสวิส

ฤดูหนาว (กลางพฤศจิกายน – ปลายมีนาคม)

อากาศ
ฤดูนี้อากาศจะเริ่มเย็นลงจนถึงหนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยช่วงนี้จะประมาณ -3 ถึง 6 องศา
แต่ถ้าในเทือกเขาแบบ Jungfrau หรือ Zermatt แล้วขอบอกว่าจะเจออากาศที่ติดลบมากกว่า 10 ก็เป็นได้
รอบที่แล้วที่เราไปช่วงพ.ย. บนยอดเขา Matterhorn คือจุดที่หนาวที่สุดในทริป คือ -22 องศา
บางครั้งมีหิมะตก บวกลม ขอบอกว่าหนาวจนหน้าชา หนาวจนไม่มีความรู้สึกที่นิ้วเท้า

ข้อเสียของฤดูนี้คือ ช่วงกลางวันสั้นมาก 5-6 ชั่วโมงเท่านั้น สี่โมงเย็นก็มืดแล้ว
เพราะฉะนั้นเวลาเที่ยวก็จะน้อยกว่าฤดูอื่นๆ แล้วร้านค้าต่างๆที่ตั้งอยู่บนเขาที่อากาศหนาวมากๆ มักจะปิด

เสื้อผ้า
หน้านี้เหมือนจะเตรียมเสื้อผ้ายาก แต่ง่ายสุดแล้ว เพราะว่าหนาวมาก เหงื่อไม่ออก
สามารถใส่เสื้อผ้าทับๆกันได้ เสื้อไหมพรม ใส่สลับเปลี่ยนไปมา นอกใน ในนอก
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราใส่เสื้อผ้าซ้ำ เพราะว่าเราจะใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนาๆ คลุมตลอดเวลา

เชื่อดิ!! ว่าหน้านี้เสื้อกันหนาวไม่มีทางได้ห่างกาย ยกเว้นเวลาที่ไปนั่งกินอาหารในร้านอาหาร ถึงจะได้ถอดเสื้อออก

อุปกรณ์อื่นๆ ที่ควรเตรียมนอกจากเสื้อไหมพรมกับเสื้อกันหนาวคือ
–  ลองจอน ที่จะให้ความอบอุ่นกับร่างกาย แนะนำพวกที่เป็น Heattech จะช่วยได้มาก โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศติดลบ

–  หมวก ในความหมายนี้ไม่ได้หมายถึงหมวกปีกกว้างสวยงาม เหมือนตอนที่เราไปทะเลกัน
ถ้าหมวกแบบนั้นเอามาใช้ในหน้าหนาวแบบนี้ ก็คงปลิวหายไปกับสายลมแน่นอน
หมวกที่เราแนะนำคือกันหนาว เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าหมวกมีความสำคัญ จนตอนที่ลมพัดมาแรงๆ นี่หูชากันเลยทีเดียว
ถ้าเป็นหมวกที่สามารถปิดหูได้ด้วยจะดีมาก หรือถ้าไม่มีหมวกแบบที่ปิดหูได้ แนะนำให้หาที่ปิดหูไปซักอัน
ไม่น่าเชื่อว่าการทำให้หูอุ่น จะทำให้เราอุ่นขึ้นได้มาก

–  ถุงมือ ถุงเท้า เป็นส่วนที่เราควรให้ความอบอุ่นมากที่สุด มีจุดนึงที่หนาวถึง ติดลบ 22 ตอนนั้นใส่ถุงเท้าไป 2 ชั้น
แต่ความรู้สึกในตอนนั้นคือ เหมือนนิ้วเท้าหายไป เพราะว่ามันชาไปหมด บูทที่ใส่ก็ไม่สามารถกั้นความหนาวเย็นที่ผ่านทะลุเข้ามาได้
สำหรับถุงมือแนะนำให้เป็นแบบ touch screen จะได้ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกเวลาที่จะถ่ายรูป หรือดูโทรศัพท์

สำหรับเด็ก

ถ้าจะพาเด็กไปในช่วงฤดูหนาวสิ่งที่เราต้องเตรียมอาจจะเยอะกว่าฤดูอื่นๆ เพราะว่าอุปกรณ์กันหนาวของเด็กเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะร่างกายของเด็กทนความหนาวไม่ได้มากเท่าผู้ใหญ่ รถเข็นอาจจะไม่สะดวกสำหรับในบางจุดท่องเที่ยวที่หิมะเยอะ สำหรับเราหน้าหนาวถ้าจะพาลูกมา ลูกอาจจะต้องโตนิดนึง เพื่อที่พ่อแม่จะได้ไม่เหนื่อยมาก และเค้าพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว

ฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมีนาคม – กลางพฤศภาคม)

อากาศ
ช่วงนี้อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 6-13 องศา อากาศในช่วงนี้ยังนับว่าหนาวอยู่ แต่ถือได้ว่าเป็นฤดูที่สวยที่สุดในฤดูทั้งหมด
เพราะว่าเป็นช่วงที่ดอกไม้ต่างแข่งกันผลิบานอวดโฉมออกมาให้เห็นกัน

เสื้อผ้า
หาเสื้อผ้าที่ใส่ได้สบายๆ สวมทับกันได้หลายชั้น แต่บางทีนอกจากหนาวแล้วยังมีลมตามมา
แนะนำให้พกแจ็คเก็ตตัวบางๆ ไปเผือด้วย เผื่อเวลาที่หนาวลม จะได้เอามาคลุมซักนิดก็ยังดี

สำหรับเด็ก

เป็นฤดูที่เรายังพอเห็นหิมะอยู่บ้างถ้าเด็กๆอยากมาเจอหิมะครั้งแรก ความหนาวของฤดูใบไม้ผลิยังไม่ถือว่าหนาวมาก เป็นอีกฤดูที่น่าสนใจในการพาเด็กมาท่องเที่ยว แต่ปัจจัยก็มีอีกหลายอย่างให้เราดูว่าเราจะไปเที่ยวเมืองไหน แล้วช่วงฤดูไหนที่เหมาะกับการไปเที่ยวเมืองนั้น

ฤดูร้อน (ปลายพฤษภาคม – กลางกันยายน)

อากาศ
ช่วงนี้อากาศร้อน แต่คงจะไม่ร้อนเท่าเมืองไทยแน่นอน อากาศอยู่ในช่วง 18-28 องศา
ถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้วนี่มันหน้าหนาวชัดๆ ในฤดูนี้พระอาทิตย์จะอยู่กับเรานานขึ้น
ทำให้มีเวลาในการเที่ยวได้เยอะ แต่บางทีอาจจะมีฝนตกบ้าง

เสื้อผ้า
หน้านี้อาจจะเลือกเสื้อผ้าง่ายหน่อย เพราะว่าเราสามารถนำเสื้อผ้าที่เราใส่อยู่ในชีวิตประจำวันไปใช้ได้เลย
แต่ควรเช็คอากาศล่วงหน้าเพราะว่าบางครั้งอาจจะมีอากาศแปรปรวน ฝนตกก็เป็นได้
อาจจะเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตบางๆไปเผื่อ กันแดดกันลมกันฝนไปในตัว

สำหรับเด็ก

สำหรับบ้านเรา เราคิดว่าหน้าร้อนคือหน้าที่เหมาะกับการเป็นทริปแรกของลูกในยุโรป เพราะเราสามารถท่องเที่ยวได้นานขึ้น หน้าร้อนของเค้าคืออากาศเย็นสบายสำหรับเรา ลูกจะไม่รู้สึกว่าต้องปรับตัวกับสภาพอากาศมากนัก แหล่งท่องเที่ยวเปิดเยอะขึ้นเพราะเป็นช่วง High season

ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายกันยายน – กลางพฤศจิกายน)

อากาศ
ฤดูนี้เป็นช่วงที่ฝนตกชุกกว่าฤดูอื่น อากาศโดยรวมจะคล้ายๆ กับฤดูใบไม้ผลิ
แต่อย่าลืมว่ามันมีฝน ฝนบวกกับอากาศ 6-13 องศา แล้วถ้ามีลมนี่ก็หนาวชัดๆ
บางทีแจ๊คพอตอาจจะได้เจอกับหิมะตกลงมาด้วย

ฤดูนี้เป็นช่วงที่อากาศกลางวันกับกลางคืนจะต่างกันมาก กลางวันอาจจะยังอุ่น (ถ้าไม่เจอฝน)
แล้วตกเย็นอากาศก็จะเริ่มหนาว ใบไม้ในฤดูนี้จะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีส้มแดง

เสื้อผ้า
หน้านี้อาจจะต้องเตรียมมากกว่าฤดูใบไม้ผลิ คือ เสื้อกันหนาวที่หนาขึ้นมานิดนึง แบบเสื้อไหมพรมก็ได้
เผื่อเจอฝนตก หรือบางทีอาจจะเป็นหิมะ เสื้อแจ๊คเก็ตบางๆ อาจจะไม่เพียงพอ
แนะนำให้ พกเสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้งไปด้วย บางทีถ้าฝนตกแบบที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว จะได้คว้าเสื้อกันฝนมาใส่ได้ก่อน

สำหรับเด็ก

ฤดูนี้ข้อดีคือตรงกับช่วงที่เด็กๆปิดเทอมช่วงเดือนตุลา แต่ว่าสภาพอากาศในฤดูนี้จะแปรปรวนกว่าฤดูอื่นๆอาจจะมีฝนร่วมอยู่ด้วย ถ้าพาเด็กๆมาเที่ยวช่วงนี้อาจจะต้องพกทั้งอุปกรณ์กันฝน และกันหนาวมาด้วย

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้