***รู้หรือไม่? แจ้งเกิดลูกเกินกำหนดถูกปรับเงิน!! (กรี๊ดดด) เอ่อ..แล้วต้องทำยังไงใช้อะไรบ้าง? คุณพ่อคุณแม่คนไหนไม่อยากปวดหัว ห้ามพลาดคลิปนี้นะคะ แต่ก่อนที่จะไปดูคลิปอย่าลืมกดLIKEตรงนี้ ใครกดแล้วขอให้ชีวิตมีแต่ความเจริญนะคะ***
ก่อนที่จะไปคลออดลูก เชื่อว่าแม่ท้องและสามีหลายคู่จะต้องหัวหมุน เพราะต้องเตรียมข้าวของเครื่องใช้ ไหนจะเรื่องไปแจ้งเกิดอีก ข้าวของก็พอจะนึกได้ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง แต่เรื่องแจ้งเกิดนี่สิ ใครต้องไปพ่อหรือแม่ ต้องไปที่ไหน ไปได้ช้าสุดกี่วัน แล้วใช้เอกสารอะไรบ้าง ปัญหาโลกแตกจริงๆใช่ไหมคะ คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนกำลังสงสัย วันนี้คนท้อง Everything channel หาคำตอบมาให้แล้ว ขั้นตอนการแจ้งเกิดมีอะไรบ้าง อยากรู้ไปดูกันเลยค่ะ
กรณีคลอดที่โรงพยาบาล สถานีอนามัย หรือสถานพยาบาลต่างๆ
1.ผู้ที่ทำคลอดจะต้องออกหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑) ให้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปใช้ในการแจ้งเกิดที่เทศบาล/อำเภอ
2.เมื่อทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้ออกเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้ว ให้คุณพ่อ หรือคุณแม่ไปยื่นที่เทศบาล หรืออำเภอได้เลยค่ะ
3.แจ้งเกิดภายในเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่คลอดนะคะ
4.สถานที่แจ้งเกิด ถ้าสถานที่คลอดตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ให้แจ้งเกิดที่เขตนั่น แต่ถ้าอยู่นอกเขต ให้ไปแจ้งเกิดที่ว่าการอำเภอ แผนกสำนักทะเบียน ที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่นั้นค่ะ
5.เอกสารที่ต้องเตรียมไป ก็จะมีบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ไปแจ้ง หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑) ที่ทางโรงพยาบาลออกให้ และสำเนาทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อลูกเข้าไปนั่นเองค่ะ
กรณีคลอดนอกสถานพยาบาล
1.ถ้าเกิดที่บ้าน เช่น บ้านพ่อแม่ คนที่ต้องไปแจ้งเกิดคือ ผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน ในบ้านที่คลอดหรือจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ก็ได้เช่นกันค่ะ
2.แจ้งเกิดภายในเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่คลอดนะคะ โดยมีขั้นตอนคือ ถ้าอยู่ในเขตท้องที่ของที่ว่าการอำเภอ ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านประจำหมู่บ้านที่คลอด ผู้ใหญ่บ้านจะต้องรับแจ้ง และออกเอกสารเป็นใบรับแจ้งการเกิด (ท.ร ๑ ตอนหน้า) ให้ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐานค่ะ
3.เมื่อได้หลักฐานมาแล้ว ให้เจ้าบ้านคุณพ่อหรือคุณแม่ นำหลักฐานมาแจ้งกับนายอำเภอ ที่ว่าการอำเภออีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกใบสูติบัตรให้ หรือถ้าสะดวกเดินทางไปแจ้งการเกิดที่ว่าการอำเภอโดยตรงได้เลยนะคะ ไม่ต้องผ่านผู้ใหญ่บ้านก็ได้ค่ะ
4.ถ้าบ้านที่คลอดอยู่ในเขตท้องที่ของเทศบาล ให้ผู้แจ้งไปแจ้งการเกิดที่งานทะเบียนในเขตเทศบาลที่คลอดได้เลยนะคะ
5.เอกสารที่ต้องเตรียมไป ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ไปแจ้ง ใบรับแจ้งการเกิด (ท.ร ๑ ตอนหน้า) สำเนาทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อลูกเข้าไป และพยานบุคคลที่รู้เห็นการคลอดของทารกค่ะ
ขั้นตอนหรือเอกสาร อาจจะวุ่นวายและจำยากสักหน่อย แต่แอดมินก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่ รีบไปแจ้งเกิดให้เร็วที่สุดหลังจากที่คลอดจะดีที่สุดนะคะ เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดความคลาดเคลื่อนแล้ว ยังต้องถูกปรับเงินเมื่อแจ้งเกิดเกินกำหนดอีกด้วยนะคะ
***เมื่อรู้ขั้นตอน กฎระเบียบ และเอกสารจำเป็นที่จะต้องใช้แล้วเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ และอย่าลืมจดบันทึกไว้กันลืมด้วยก็จะดีมากเลยนะคะ เพราะเมื่อเวลาไปถึงหน้างานแล้วเอกสารไม่ครบหรือลืมก็ต้องวุ่นวายกันอีก เอาเวลาไปเลี้ยงลูกดีกว่านะคะ***
กรณีเด็กเกิดในโรงพยาบาล บิดา มารดา หรือเจ้าบ้าน แจ้งเกิดภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด โดยใช้เอกสาร 4 อย่าง ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดา
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งเกิด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ออกโดยสถานพยาบาล
- เอกสารแจ้งเกิดเข้าทะเบียนบ้าน ใช้สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับเจ้าบ้าน) ที่ต้องการย้ายชื่อเด็กเข้า
ใช้เอกสาร ข้อ 1-4 ตามข้อมูลข้างต้น แต่เพิ่มพยานบุคคลที่ให้รับการรับรอง และภาพถ่ายของเด็ก หากเด็กอายุเกิน 7 ปี
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของพยานที่ให้รับการรับรอง มีภูมิลำเนาตามที่อยู่ที่ติดต่อไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือเป็นข้าราชการสัญญาบัตร 2 คน หากเด็กอายุเกิน 7 ปี ต้องใช้ภาพถ่าย 1 รูป
- ยื่นเอกสารต่อนายทะเบียนท้องที่ที่เด็กเกิด
- นายทะเบียนตรวจสอบเอกสารและหลักฐาน
- นายทะเบียนลงรายการในสูติบัตร เพิ่มชื่อเด็กในทะเบียนบ้าน และสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- มอบสูติบัตรตอนที่ 1 และสำเนาทะเบียนบ้านคืนแก่ผู้แจ้ง
15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด
แจ้งเกิดช้า แจ้งเกิดเกินกำหนด ต้องทำอย่างไร
หากแจ้งเกิดเกินกำหนดภายหลัง 15 วันหลังจากเด็กเกิด จะมีโทษปรับ 1,000 บาท และต้องใช้เอกสารรับรองการเกิดจากโรงพยาบาล รวมถึงต้องนำพยานบุคคลมาให้ถ้อยคำประกอบ ซึ่งก็คือผู้ทำคลอด หรือผู้ที่เห็นการเกิด ที่มีฐานะมั่นคง มีภูมิลำเนาในท้องที่ที่ติดต่อไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือเป็นข้าราชการสัญญาบัตรอย่างน้อย 2 คน มายื่นต่อนายทะเบียนในท้องที่ที่เด็กเกิด
กรณีที่ 1 เด็กเกิดในราชอาณาจักรไทย
ใช้เอกสารข้อ 1 ถึงข้อ 4 ตามข้อมูลข้างต้น เด็กจะได้สัญชาติไทย ก็ต่อเมื่อ
- พ่อหรือแม่มีสัญชาติไทย และได้จดทะเบียนสมรสกัน
- แม่มีสัญชาติไทย จดหรือไม่ได้จดทะเบียนสมรส
- พ่อมีสัญชาติไทย แม่ถือสัญชาติอื่น และจดทะเบียนสมรส
กรณี 2 แจ้งเกิดเด็กลูกครึ่ง เกิดนอกราชอาณาจักรเข้าทะเบียนบ้านไทย
หากเด็กเกิดนอกราชอาณาจักรไทย และแจ้งเกิดรับสูติบัตรจากสถานกงสุลมาเรียบร้อยแล้ว หากต้องการเพิ่มชื่อเด็กเข้าทะเบียนบ้านไทย ใช้เอกสารข้อ 1-4 ตามข้อมูลข้างต้น โดยเพิ่มเอกสารสูติบัตรที่ออกโดยนายทะเบียนสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงศุล หากเด็กเกิดที่ต่างประเทศ ต้องมีหนังสือเดินทางไทยที่ใช้เดินทางเข้าประเทศไทยด้วย