การนํา Big Data ไปใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง

ก่อนที่จะเข้าใจว่า Big data ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราอย่างไรบ้าง เราก็ต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า Big data คืออะไร และ มาจากไหน โดยจากงานวิจัยที่บอกว่าข้อมูลกว่า 2.5 ล้านล้านล้านล้านล้านไบท์ ได้ถูกสร้างขึ้นในทุกๆวันจาก…

1. Track : การติดตามอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เราใช้
2. Produce : การสร้างข้อมูลต่างๆจากอุปกรณ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพหรือวิดิโอจากมือถือ การอัดเสียง หรือการพิมพ์ข้อความต่างๆ
3. Store : การเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ อาจจะเป็น cookies ที่ขึ้นมาตอนที่เราเข้าไปดูข้อมูลจากเว็บไซต์

และตัวเลข 2.5 ล้านล้านล้านล้านล้าน ที่คาดว่าน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายการเข้าถึงและพัฒนาของระบบอินเทอร์เน็ต

และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือไม่เคยมีวิธีการเก็บข้อมูลแบบไหนที่สามารถเก็บในปริมาณที่เยอะขนาดนี้โดยใช้เวลาที่สั้นขนาดนี้มาก่อน หรือจะพูดง่ายๆคือ Data นั้นมีอยู่ทุกที่รอบตัวเรา ข้อมูลจำนวนมากได้ถูกย่อยและวิเคราะห์จากข้อมูลเชิงลึก (big data analytics) ให้กลายเป็น พฤติกรรมของมนุษย์ (Human Behavior) ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานของระบบต่างๆในแต่ละธุรกิจได้ด้วย และ big data กำลังจะเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตของเราจากการที่จะถูกนำมาใช้ในหลายๆธุรกิจ

ตัวอย่าง ธุรกิจที่นำ Big Data มาใช้

  • อุตสาหกรรมความบันเทิง เช่น ดนตรี การแสดง และภาพยนต์ (Entertainment, Music, Shows, and Movies)
  • อุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ หรือทางการแพทย์ (Healthcare and Medical Services)
  • ธุรกิจห้างสรรพสินค้า และการตลาด (Shopping and Marketing)
  • การท่องเที่ยว และการคมนาคม (Travel and Transportation)
  • นโยบายสาธารณะและความปลอดภัย (Public Policy and Safety)
  • ข่าวสารและข้อมูล (News and Information)
  • การศึกษาและการจ้างงาน (Education and Employment)
  • ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI)
Big data ถูกนำมาใช้อะไรบ้าง

Big data จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันเราอย่างไรบ้าง

การเก็บข้อมูลให้มาเป็น Big data นั้นมีให้เห็นอยู่ทั่วไป บางทีเราอาจจะคาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่ากำลังถูกเก็บข้อมูลอยู่ บริษัทและองค์กรต่างๆกำลังเก็บข้อมูลเพื่อหากลุ่มเป้าหมาย พวกเค้ารู้ว่าคุณกำลังอ่านอะไรอยู่ ดูอะไรอยู่ หรือกำลังจะซื้ออะไร 

การเข้าถึงข้อมูลพวกนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะมีผลกับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตของคุณ หรือพูดง่ายๆ คือ จะทำให้คุณเห็นข้อมูลที่คุณต้องการจริงๆมากกว่าจะไปเสียเวลาอยู่กับการเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ตอบสนองต่อความต้องการ

สรุป

ประเด็นสำคัญคือ ไม่ว่าคุณจะกำลังคิดเริ่มทำธุรกิจ หรือกำลังทำธุรกิจอยู่แล้ว การมีข้อมูลของลูกค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มและสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อให้สินค้าหรือบริการของคุณตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด แต่จะเก็บข้อมูลอย่างไร หรือจะนำข้อมูลนั้นออกมาใช้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของคุณเอง

หากคอนเทนต์นี้ถูกใจและมีประโยชน์ ฝากเพื่อนๆกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเพจเพื่อจะไม่พลาดข่าวสารดีๆและเป็นกำลังใจให้ทีมงานทำคอนเทนต์ดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆด้วยน้าา

REFERENCES

780

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว IT วันนี้พบกันอีกครั้งกับ Cloud HM Blog อย่างที่ได้บอกไปนะครับว่าหลาย ๆ คนรู้จักหรือเคยได้ยินคำว่า Big Data กันอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ทราบว่ามันคืออะไร แล้วเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง วันนี้เราอธิบายผ่านทางตัวอักษรให้ฟังกันนะครับ

บริษัทในหลาย ๆ อุตสาหกรรมนำ Big Data เข้ามาใช้ในการช่วยตัดสินใจดำเนินการสิ่งต่างโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่มี อุตสาหกรรมอะไรบ้างที่ใช้ Big Data ก็เช่น อุตสาหกรรมทางการแพทย์, การศึกษา, ค้าปลีก, การผลิตสินค้า, ธนาคารและการเงิน, การขนส่ง และอีกมากมาย จริง ๆ แล้ว Big Data ทุกคนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในองค์ขนาดใหญ่ไปจนถึงองค์กรขนาดเล็กครับ

Big Data เป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีมีความรวดเร็วในการจัดเก็บและบริหารข้อมูล ทำให้ถูกนำไปใช้ในการช่วยตัดสินใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ หาจุดดีจุดด้อยของบริษัท รวมไปถึงสามารถนำไปพัฒนาระบบการบริหารในองค์กรได้

เกริ่นกันมาเยอะแล้ว แต่ผมยังไม่ได้บอกเลยว่า Big Data คืออะไรใช่ไหมครับ?

Big Data คืออะไร?

Big Data คือ Datasets หรือชุดของข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และซับซ้อนที่จะนำไปย่อยข้อมูลด้วยขั้นตอนทั่ว ๆ ไป ได้ยาก ขั้นตอนทั่ว ๆ ไป เช่น ระบบ ETL (Extract, Load, Transform) สำหรับ Big Data มีองค์ประกอบเฉพาะตัวอยู่ 3 สิ่ง คือ มีปริมาณเยอะ, มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูง และมีข้อมูลที่หลากหลายด้วยสมัยนี้มีการพัฒนาที่รวดเร็ว และการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ เช่น AI, Machine Learning และ IoT, การใช้งาน Cloud Computing  และการที่ทุกคนหันมาใช้ Smartphone ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมาทำให้ Data มีการสร้างออกมามากขึ้นนั่นเอง

ประโยชน์ของ Big Data มีอะไรบ้าง?

  • ใช้เก็บข้อมูลได้จากหลายแหล่ง เช่น Internet, Social media, เว็บขายของออนไลน์, ฐานข้อมูลของบริษัท, ข้อมูลจากบุคคลที่ 3 และอื่น ๆ
  • Forecast และ Monitor ธุรกิจให้ทันตลาดได้แบบ Real-time
  • ช่วยระบุประเด็นสำคัญที่ตกหล่นจากคลังข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ
  • ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน รวมไปถึงเป็นการช่วยนำข้อมูลมาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินในสถานการณ์ดังกล่าว
  • สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการทำงานได้แบบ Real-time
  • ปลดล็อคการนำข้อมูลมาใช้ได้แบบเต็มประสิทธิภาพในการทำการตลาด
  • เข้าถึงข้อมูลของลูกค้าเชิงลึก เพื่อใช้สร้างสินค้า, การบริการ, ส่วนลด โปรโมชั่นของแถม และอื่น ๆ ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
  • ช่วยเพิ่มความเร็วในการจัดส่งสินค้า และบริการให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า
  • กระจายของช่องทางการรับรายได้เพื่อเพิ่มกำไรให้กับบริษัท 
  • ตอบคำร้องขอ, การแจ้งปัญหา ช่วยสนับสนุนลูกค้าจากข้อมูลที่มีได้แบบ Real-time
  • เพิ่มไอเดียในการคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น กลยุทธ์ทางธุรกิจ,สินค้า และบริการ

สิ่งที่ทำให้ Big Data ช่วยพัฒนาธุรกิจของคุณได้ มีดังนี้

  1. เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ต้นทุนให้คุ้มค่า

สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเครื่องมือที่ใช้ทำ Big Data เช่น Hadoop และ Spark คือการใช้ในลดค่าใช้จ่ายจากการเก็บข้อมูล, ประมวลผลข้อมูล และการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเครื่องมือที่กล่าวมาก็ยังสามารถช่วยระบุได้ว่าวิธีไหนเป็นที่ดีที่สุด และประหยัดที่สุดในการจะทำธุรกิจธุรกิจเกี่ยวกับโลจิสติกส์เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำ Big Data มาช่วยลด Cost โดยปกติแล้วเวลาที่สินค้าถูกตีกลับเราจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1.5 เท่า เทียบกับค่าขนส่งจริง ๆ Big Data จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ให้ว่าโซนไหน หรือสินค้าชนิดไหนที่มีโอกาสที่สินค้าจะถูกตีกลับสูง ก็จะช่วยให้บริษัทได้ข้อมูลที่ช่วยลดการตีกลับของสินค้าในครั้งถัด ๆ ไปได้นั่นเอง

  1. เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

Big Data สามารถช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ได้จากการเก็บ Feedback จากลูกค้า นำเอามาวิเคราะห์หา Insight ต่าง ๆ เช่น รสนิยมของลูกค้า, Pain Point, ลักษณะนิสัยในการเลือกซื้อสินค้า และอื่น ๆ ช่วยให้บริษัทสามารถป้อนสินค้าได้ตรงจุดประสงค์ของลูกค้ารายนั่น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผลพลอยได้คือจำนวนยอดขายที่มากขึ้นนั่นเอง การใช้การวิเคราะห์ด้วย Big Data ให้ตรงกับตามเทรนด์ของตลาด จะช่วยให้เราก้าวทันคู่แข่งในตลาด ประโยชน์อีกอย่างก็คือ เราสามารถกำหนดให้เครื่องมือที่ใช้จัดการ Big Data ทำงานแบบอัตโนมัติในสิ่งที่เราต้องการให้ดำเนินการเป็นกิจวัตร เช่น วิเคราะห์ข้อมูลการตลาดที่มากจาก Facebook ของเมื่อวานนี้ทั้งวัน อะไรประมาณนี้ การทำแบบนี้จะช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการไปทำสิ่งที่สำคัญต่อบริษัทในบริบทอื่น ๆ ได้มากกว่าครับ

  1. กำหนดราคาขายที่เหมาะสม

Big Data Analytics ช่วยอำนวยความสะดวกในการ Monitor ตลาด และคู่แข่งของคุณได้ และยังเห็นด้วยว่าตอนนี้คู่แข่งใช้กลยุทธ์อะไรอยู่ในปัจจุบัน การทำ Analytics ที่เป็นแบบ Real-time ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการสิ่งต่อไปนี้ได้

  • คำนวณและประเมินผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้
  • เพิ่มจุดยืนในตลาดเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุดต่อบริษัท
  • ประเมินเรื่องของการเงินของบริษัท เพื่อที่จะกำหนดทิศทางได้ถูกว่าจะเดินหน้าธุรกิจอย่างไรให้เหมาะสมกับสถานะของการเงินที่มีอยู่
  • กำหนดกลยุทธ์ในการเพิ่ม/ลด ราคาโดยอ้างอิงจากข้อมูลของความต้องการลูกค้า, พฤติกรรมในการบริโภคสินค้าของลูกค้า และดูจากรูปแบบของการแข่งขันด้านราคาของคู่แข่ง
  • กำหนดราคาได้แบบอัตโนมัติเพื่อคงราคาให้คงที่ และช่วยลดความผิดในการจัดการแบบ Manual
  1. ช่วยเพิ่มยอดขาย และรักษา Customer Loyalty

อย่างที่ได้กล่าวไป Big Data ค่อนข้างที่จะใช้การวิเคราะห์จากข้อมูลที่เก็บได้จากลูกค้าที่มีปริมาณมหาศาล ซึ่งร่องรอยที่ลูกค้าทิ้งไว้ทำให้เราสามารถรู้ภูมิหลังต่าง ๆ ของลูกค้าได้ เช่น รสนิยมเป็นอย่างไร, ต้องการสินค้าอะไร, พฤติกรรมในการซื้อสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ข้อมูลของลูกค้าจะช่วยให้เราสามารถ Scope ได้ว่า ลูกค้าคนนี้ต้องการสินค้าและบริการแบบไหน ทำให้ธุรกิจของคุณมีแรงดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งผลพลอยได้ของการทำแบบนี้ก็คือ การได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง การที่เราสามารถระบุได้ว่าคนไหนเหมาะสมกับสินค้า หรือบริการแบบไหน ก็เป็นผลในเชิงบวกต่อ Customer Loyalty ถ้าคุณขายสินค้าได้ตรงจุดด้วยราคาที่เหมาะสม และเหมาะกับลูกค้าคนนั้น ๆ พร้อมทั้งมีส่วนลด หรือของแถมอื่น ๆ ลูกค้าก็จะแวะกลับมาหาคุณอยู่แล้ว

  1. ช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ

Big Data สามารถช่วยในการหาข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ จากข้อมูลปริมาณมหาศาลที่เก็บมาได้ และเปลี่ยนข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริง เช่น แผนทางธุรกิจ และการตัดสินใจที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่ว่าก็คือกุญแจสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ นั่นเอง ข้อมูลเชิงลึกที่ขุดมาได้อาจจะนำมาใช้เป็น กลยุทธ์ใหม่ในการทำธุรกิจ, การพัฒนาสินค้า และบริการใหม่ ๆ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากปัญหาที่ลูกค้าเจอแล้วแจ้งเข้ามา), ช่วยพัฒนาเทคนิคด้านการตลาด, พัฒนาระบบในการดูแลลูกค้าให้ดีขึ้น, เพิ่ม Productivity ให้กับพนักงาน และอื่น ๆ อีกมากมายที่จะหาประโยชน์ได้จากข้อมูล

  1. พัฒนาความสามารถในการแข่งขันของตลาดเฉพาะกลุ่ม

อันนี้จะเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ให้บริการตลาดเฉพาะกลุ่ม แม้ว่าธุรกิจของคุณจะขายงานที่เฉพาะ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจคู่แข่งของคุณ อะไรที่เป็นจุดขายของคู่แข่ง และฐานลูกค้าของเขาการใช้ Big Data จะสแกน และวิเคราะห์ตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณ ทำให้สามารถดูเทรนได้ว่าผู้ขาย และผู้ซื้อ มีพฤติกรรมอย่างไร และคุณยังสามารถใช้ประโยชน์ต่อจากข้อมูลที่ได้รับข้างต้นในการเพิ่มการแข่งขันทางการตลาด โดยการออกสินค้า และบริการให้ตรงจุดกับลูกค้านั้น ๆ จะเห็นได้ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้า และบริการทั่ว ๆ ไปก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Big Data ได้ ถ้าเราเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ถูกจุด

  1. ดูแลภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของบริษัท

ด้วยการที่ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มใช้ช่องทางออนไลน์ในการขาย ทำให้การที่จะต้องคอยดูแล และรักษาชื่อเสียงของบริษัทก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจาก ลูกค้าสามารถที่จะพูดอะไรออกมาก็ได้เกี่ยวกับบริษัทของเราผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งก็ส่งผลกระทบกับ Brand ของเราไม่ว่าจะเป็นทางที่ดี หรือทางที่แย่ก็ตาม ซึ่งก็มีคนใช้เครื่องมือ Big Data ที่ว่าอยู่จริง ๆ ซึ่งออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์โดยเฉพาะเพื่อหาว่าผู้คนพูดเกี่ยวกับสินค้า และบริการของคุณในรูปแบบไหนบ้าง ทำให้เราได้รับรู้ปัญหาของลูกค้า ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด เอามาพัฒนาสินค้า และบริการต่อไป นี่ก็คือเหตุผลที่เราควรมีเครื่องมือนี้นั่นเอง

สรุปแล้ว Big Data เป็นเครื่องมือยุคใหม่ที่มีความสำคัญมากต่อธุรกิจ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องมีขนาดใหญ่อย่างเดียว และสามารถใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม ข้อดีที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ Big Data ช่วยในการเปิดช่องทาง และโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาองค์กรในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ, พัฒนาด้านความพึงพอใจของลูกค้า, ช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และเพิ่มกำไร รวมไปถึงอื่น ๆ อีกมากมาย ประโยชน์มากมายของ Big Data ก็คือสิ่งที่เราเห็นแล้วในปัจจุบัน ซึ่งก็ยังมีโอกาสอีกมากมายที่อาจจะยังไม่มีใครนึกถึงช่องทางเหล่านั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Big Data จะไปได้ไกลขนาดไหนครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับหัวข้อ Big Data ในวันนี้ ทุกท่านสามารถนำข้อความที่เขียนไปเป็นไอเดียในการพัฒนาองค์กรได้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ ถ้ามีหัวข้อที่สนใจอยากรู้เพิ่มเติม หรืออย่างไร สามารถ Comment กันเข้ามาได้นะครับ สำหรับท่านที่สนใจบริการของ Cloud HM สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางนี้นะครับ
ขอบคุณครับ

บอสเป็น Development Engineer ของ Cloud HM ไม่ได้เขียน Code แต่เขียน Blog มีความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นพิเศษ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้