แม้จะใส่เคสโทรศัพท์มือถือแล้ว แต่ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ หนึ่งในนั้นคือปัญหา เคสกันกระแทก กินขอบที่ทำให้เครื่องกลายเป็นรอยตั้งแต่ด้านใน ซึ่งทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกปวดใจไม่น้อย ดังนั้นลองมาดูว่าปัจจัยของการเกิดปัญหา เคสกันกระแทก กินขอบ คืออะไร?
- วัสดุที่ทำเคสมีคุณภาพไม่มากพอ หรือราคาถูกเกินไป จึงทำให้เนื้อของวัสดุภายในไม่เรียบและไม่ยืดหยุ่น จึงก่อให้เกิดรอยกับการกินขอบ ที่จะรัดตัวเครื่องและกลายเป็นการแตกร้าวในอนาคตได้ง่าย
- วัสดุทำเคสกันกระแทกแบบแข็งที่เป็นโลหะ ถ้าพื้นผิวภายในมีความขรุขระจากการผลิตที่ผิดพลาด จะทำให้ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่ายมาก
- เคสกันกระแทก โลหะที่มีรูปแบบขันน็อต จะเป็นอีกหนึ่งเคสที่สามารถกินขอบและสร้างรอยภายในได้ ถ้าขั้นตอนการผลิตไม่มีคุณภาพพอ และอาจทำให้การระบายความร้อนทำได้ยากขึ้น
ถ้าคุณต้องการเคสมือถือกันสั่นที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความไว้ใจที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาการกินขอบเครื่อง แนะนำเคสคุณภาพสูงจาก Quadlock ที่ถูกออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองโดยเฉพาะ ผลิตจากวัสดุ TPU ที่มีคุณภาพสูง ให้การปกป้องเครื่องมือถือได้โดยไม่กินขอบ ไม่ดันฟิล์มกันรอย จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหารอยขีดข่วนภายใน ไม่ทำให้หน้าจอเสียหายเร็ว ทั้งยังมีคุณบัติด้านกันแรงสั่นสะเทือนในระดับมาตรฐาน กันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 ดีไซน์มีความทันสมัย เรียบง่ายในสไตล์มินิมอล จึงใช้งานได้ดีในทุกสถานการณ์ ให้ความเพรียวบาง น้ำหนักเบา จึงสวมไว้ติดเครื่องได้สบาย ๆ พกพาสะดวก พร้อมให้คุณใช้งานได้มั่นใจตลอด 24 ชั่วโมง
iPhone 13 นั้นเริ่มวางขายในไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ซึ่งผ่านมาถึงตอนนี้ก็ 10 เดือนแล้ว ทีมงานแบไต๋ก็ใช้ iPhone 13 Pro มาตั้งแต่แรกจำหน่ายโดยไม่เคยติดฟิล์มกันรอยเลย และไม่ใส่เคสด้วย จนถึงตอนนี้สภาพเครื่องเป็นยังไง เราจะเล่าให้ฟังครับ
เราใช้ iPhone 13 Pro เครื่องนี้ในชีวิตประจำวันยังไงบ้าง เราใส่ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอก ไม่ค่อยเอาไปใส่ในกระเป๋าถืออื่น ๆ ส่วนเวลาขับรถก็จะนำไอโฟนเครื่องนี้ไปเสียบแท่นติดกระจกเพื่อนำทาง และตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาไม่เคยทำเครื่องตกหล่นครับ
หน้าจอ Ceramic Shield
โดย iPhone 13 Pro นั้นใช้กระจกหน้าจอ Ceramic Shield หรือกระจกที่ทำให้แข็งแรงขึ้นด้วยกระบวนการ Ceramic ที่แอปเปิ้ลเคลมว่าทำให้หน้าจอทนทานมากขึ้น แต่ถามว่ามันแข็งจนใช้ในชีวิตประจำวันแล้วไม่มีรอยเลยไหม ปรากฎว่าเราได้รอยที่สังเกตเห็นได้มา 1 รอยบนหน้าจอครับ ซึ่งจะเห็นเมื่อปิดหน้าจอ โดยเป็นเส้นขีดแนวตั้งอยู่บริเวณกลาง ๆ จอ ส่วนถ้าเปิดจอจะมองไม่เห็นรอยนี้นะครับเพราะแสงสว่างกลบหมด ส่วนจุดอื่น ๆ ในหน้าจอไม่เห็นรอยที่ปรากฎชัดครับ
สรุปว่ากระจกหน้าจอ Ceramic Shield ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ iPhone 12 นั้นแข็งแกร่งจริง แต่ก็ไม่ใช่อมตะจนไม่เป็นรอยใด ๆ นะครับ
เฟรมเครื่องสแตนเลสสตีล
ต่อมาคือเฟรมรอบเครื่องที่เป็นสแตนเลสสตีลนะครับ ซึ่งเป็นวัสดุเฉพาะในไอโฟนรุ่นโปร ส่วนไอโฟนรุ่นปกติจะใช้เฟรมเครื่องเป็นอะลูมิเนียม
โดยรวมแล้วหลังจากใช้ไป 10 เดือน เฟรมสแตนเลสสตีลก็ยังเงางามสวยงามอยู่ดี ริ้วรอยมีน้อยมาก ๆ แม้ตอนแรกเราคิดว่ามันน่าจะเป็นรอยง่ายกว่านี้ด้วยความเงาของมัน ซึ่งรอยที่ชัดที่สุดอยู่ตรงมุมบนของเครื่องในฝั่งกล้อง ก็เป็นรอยขีดที่น่าจะเกิดจากการเก็บเครื่องในกระเป๋ากางเกงที่เราจะดันด้านกล้องลงกระเป๋าไปก่อน ทำให้เกิดรอยในบริเวณนี้
กล้องหลัง 3 เลนส์
แม้ว่ากล้องหลังของ iPhone 13 Pro นั้นจะปูดออกมามาก และเราก็ไม่ได้ใส่เคสป้องกัน หรือไม่ได้ใส่ครอบเลนส์ป้องกันอะไรเลย แต่ก็ไม่มีริ้วรอยใด ๆ บนเลนส์ทั้ง 3 เลย ถึงเราจะใช้งานโดยวางเครื่องให้เลนส์ทิ่มลงไปกับโต๊ะมาตลอด ก็ยังไม่มีรอยสักนิด ต้องยอมใจกระจก Sapphire ที่ครอบเลนส์ทั้ง 3 มาตั้งแต่แรกครับ แกร่งจนไม่ได้ซื้ออะไรมากันให้กล้องคุณภาพลดลงเลย (คือปกติกล้องไอโฟนก็จัดการแสง Flare แย่อยู่แล้ว ถ้าไปหากระจกอะไรมาครอบอีก แสงยิ่งสะท้อนในรูปไปกันใหญ่)
ฝาหลังกระจก
ฝาหลังกระจกของ iPhone 13 Pro นั้นไม่ใช่กระจกระดับ Ceramic Shield เหมือนจอหน้า แต่เป็นกระจกเสริมแกร่งแบบ Dual-Ion Exchange ที่ทนทานน้อยกว่า แต่ด้วยความที่ฝาหลังเป็นแบบพ่นทรายทำให้มองเห็นริ้วรอยได้ยากกว่าหน้าจอครับ เราจึงไม่เห็นรอยที่ (อาจจะ) เกิดขึ้นกับฝาหลังเลย ที่สำคัญเราชาร์จด้วยเครื่องแท่นชาร์จ MagSafe เป็นหลักทุกวัน ก็ยังไม่มีรอยใด ๆ บริเวณกลางเครื่องที่แม่เหล็กดูดนะ
พอร์ตเชื่อมต่อ
พอร์ต Lightning ที่อยู่บนเฟรมสแตนเลสสตีลด้านล่างเครื่องหลังจากใช้ผ่านมา 10 เดือน ก็ยังปกติดี ไม่มีรอยขีดข่วนครับ เพราะว่าเราชาร์จเครื่องด้วย MagSafe แบบไร้สายเป็นหลักด้วย ทำให้พอร์ต Lightning ใช้น้อยกว่าเครื่องทั่วไป จึงไม่ค่อยมีรอยรอบ ๆ พอร์ต
สรุป ควรติดฟิล์มใส่เคสให้ไอโฟนไหม
ให้คิดแบบนี้ครับ ถ้าเป็นเครื่องที่เราตั้งใจใช้คนเดียว ไม่ได้คิดไปขายต่อ หรือเป็นประเภทพอเปลี่ยนเครื่องก็ยกเครื่องเก่าให้คนรู้จักไป ไม่ได้เอาเข้าร้านให้โดนกดราคาเมื่อมีริ้วรอย
ถ้าคุณเป็นคนใช้งานประเภทนี้ ก็สบายใจได้ ไอโฟนนั้นแข็งแกร่งพอที่คุณจะไม่ต้องติดฟิล์มหรือใส่เคสเลยก็ได้ (ยกเว้นถ้ารู้ตัวว่าซุ่มซ่าม ชอบทำเครื่องตก อันนี้ก็ควรใส่เคสนะ)
ส่วนอุปกรณ์ที่คิดว่าไม่จำเป็นเลยคือกระจกป้องกันเลนส์กล้อง เพราะกล้องของไอโฟนแข็งแรงมากอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่กระจกไปเพิ่มให้คุณภาพภาพถ่ายเราแย่ลงก็ได้ แถมกระจกป้องกันเลนส์นี้แหละที่จะแตกก่อนเลนส์จริงเสมอ โดนอะไรนิดหน่อยก็แตกไปก่อนแล้ว
โหลดเพิ่ม
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ ใช้ iPhone 13 Pro มาเกือบปีแบบไม่ติดกันรอย ไม่ใส่เคส สภาพเครื่องเป็นยังไง มาดู
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :เอกพล ชูเชิด
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ข่าวมือถือข่าวไอทีiphone 13ไอโฟน 13iphoneไอโฟนappleแอปเปิ้ลโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนมือถือsmartphoneบทความเทคโนโลยีข่าวมือถือล่าสุดข่าววงการมือถือbeartaiแบไต๋