กฎหมายคุ้มครองเด็ก
กฎหมายเกี่ยวกับเด็กในประเทศไทยปรากฏอยู่ในประมวลกฎหมายหลายฉบับเช่นประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ประมวลกฎหมายอาญาพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 ได้กำหนดหลักการพื้นฐานสำหรับเด็กที่จะต้องได้รับการคุ้มครองได้รวม 4 ประการคือสิทธิที่จะมีชีวิตรอดสิทธิที่จะได้รับการพัฒนาส่งเสริมสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองสิทธิที่จะได้มีส่วนร่วมและได้กำหนดให้องค์การต่าง ๆของสังคมที่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลเด็กปฏิบัติต่อเด็กดังนี้
1) หน้าที่ของผู้ปกครองที่ต้องปฏิบัติต่อเด็กดังนี้
1. อุปการะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนและพัฒนาเด็กที่อยู่ในการดูแลของตนการอุปการะเลี้ยงดูอบรม สั่งสอนและพัฒนาต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงและเหมาะสมกับขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น
2. คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในการดูแลของตน โดยไม่ให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายต่อสภาพร่างกายและจิตใจ
3. ไม่ทอดทิ้งเด็กผู้ปกครองจะต้องไม่ทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็กสถานพยาบาลสถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ใดๆโดยเจตนาที่จะไม่รับเด็กคืน
4. ไม่จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิตของเด็กเช่นด้านสุขภาพอนามัย ปัจจัยสี่เป็นต้น
5. ไม่ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
6. ไม่ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
2) หน้าที่ของรัฐที่ต้องปฏิบัติต่อเด็กดังนี้
1. คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบไม่ว่าเด็กจะมีผู้ปกครองหรือมไม่มีผู้ปกครองก็ตาม
2. ดูแลและตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กต่างๆเช่น สถานสงเคราะห์เด็กสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนสถานพินิจที่ตั้งอยู่ในเขตอำนาจเป็นต้น
กฎหมายไทยกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กในกรณีต่อไปนี้
1. เด็กเร่ร่อนหรือเด็กกำพร้า
2. เด็กถูกทอดทิ้งหรือพลัดหลง
3. เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบเช่นถูกทารุณกรรม
4. เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดู
5. เด็กที่ผู้ปกครองมีพฤติกรรมหรืออาชีพไม่เหมาะสม
6. เด็กพิการ
7. เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก
8. เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำเป็นที่จะต้องได้รับการสงเคราะห์ตามกฎของกระทรวง
นอกจากนี้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ.2546 ยังได้กำหนดมาตรการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาไว้ดังนี้
1. โรงเรียนและสถานศึกษาจะต้องจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมแนะแนวให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียนนักศึกษาและผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสมความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัยแก่นักเรียนนักศึกษา
2. นักเรียนนักศึกษาจะต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาหากฝ่าฝืน หนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสามารถนำตัวไปมอบให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาเพื่อสอบถามและอบรมสั่งสอนหรือลงโทษตามระเบียบต่อไป
อ้างอิงที่มา : //www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/1711-00/