ทักษะหัวหน้างาน Technical Skill

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์และนำหุ่นยนต์มาทำงานแทนคนมากขึ้น ส่งผลกระทบกับคนที่อยู่ในตลาดแรงงานหลายอาชีพมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกเลิกจ้าง 

ดังนั้นการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆเพื่อความอยู่รอดเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อพัฒนาทักษะให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

ซึ่งโดยปัจจุบันทักษะ Hard Skills อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ การมีทักษะ Soft Skills จึงเป็นสิ่งที่จําเป็นในยุคดิจิทัล ไม่ว่าคุณกำลังมองหางานใหม่หรือปรับปรุงประสิทธิภาพในงานที่ทำอยู่ก็ตาม 

และ 10 ทักษะที่จำเป็นในการทำงานยุคดิจิทัลต่อไปนี้เป็น 10 ทักษะแห่งอนาคตที่สำคัญ ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพของคุณ

1.Communication Skill (ทักษะการสื่อสาร)

ทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่ต้องใช้อยู่เสมอ เนื่องจากการทำงานในองค์กรต้องติดต่อกับผู้อื่นตลอดเวลา เช่น หัวหน้า ลูกน้อง ผู้ร่วมงานในทีม ซัพพลายเออร์ รวมถึงติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการ

การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องชัดเจน ตรงประเด็น ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ตกหล่น รวมถึงรู้จักเลือกใช้คำพูดให้เหมาะสมกับสถานการณ์

นอกเหนือจากการพูดแล้ว การฟังก็เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

กล่าวคือ การเป็นผู้ฟังที่ดีจะทำให้เข้าใจสิ่งที่ผู้พูดต้องการอย่างแท้จริง ขณะรับฟัง ไม่ควรรีบด่วนสรุป หรือไม่อดทนฟังจนจบ ทำให้ไม่เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้พูด และเป็นสาเหตุให้เกิดความล้มเหลวในการติดต่อสื่อสาร

2.Creative thinking (ความคิดสร้างสรรค์)

ความคิดสร้างสรรค์ : เป็นทักษะที่สร้างแนวคิดใหม่ๆ พัฒนาวิธีการใหม่ๆที่ช่วยให้การทำงานดีขึ้น ทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาได้ดีกว่าเดิม

วิธีการที่จะช่วยพัฒนาทักษะนี้คือ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อ่านข่าว อ่านหนังสือ อบรมสัมมนาความรู้ใหม่ๆที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยแก้ปัญหาหรือพัฒนาการทำงานของคุณให้ดีขึ้น พูดคุยกับผู้คนต่างๆเพิ่มเกิดไอเดียใหม่ๆ เหล่านี้จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้

3.Complex Problem Solving (ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน)

ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยทักษะหลายๆอย่างประกอบกัน

เช่น ความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจถึงรากของปัญหา การตั้งคำถาม การหาเหตุผล ประเมินทางเลือกและตัดสินใจ

นักแก้ปัญหาที่ดีไม่เพียงแต่หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังคาดการถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและหาทางป้องกันไว้ล่วงหน้าอีกด้วย

4.Teamwork and Collaboration (ทักษะการทำงานเป็นทีม)

การทำงานในองค์กรให้เกิดความสำเร็จต้องอาศัยการร่วมมือกันระหว่างหลายๆฝ่าย

ทักษะการทํางานเป็นทีม (Teamwork) และความร่วมมือกัน (Collaboration) จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ทั้งภายในทีมและระหว่างแผนกต่างๆในองค์กร

ความสำคัญของการทำงานเป็นทีม

  • การทำงานร่วมกันเป็นการท้าทายให้คนในทีมเกิดความคิดใหม่ๆมากกว่าคิดคนเดียว ดังคำกล่าวที่ว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว
  • ทำให้คนในทีมมองเห็นภาพใหญ่ของปัญหาหรือเป้าหมายที่ต้องการ เนื่องจากแต่ละคนในทีมอาจมีพื้นฐานความรู้ความสามารถแตกต่างกัน

    การทำงานเป็นทีมจะช่วยทำให้เกิดการแบ่งปันสิ่งที่ต่างคนต่างไม่รู้ เป็นการสอดประสานทำให้มองเห็นภาพใหญ่ของเป้าหมายที่จะมุ่งไป

  • ก่อให้เกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆระหว่างกัน เนื่องจากเป็นการสร้างวัฒนธรรมในการช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน

ประโยชน์ของการทำงานเป็นทีม

  • เป็นการรวมพลังของความคิดและสามารถเข้าด้วยกัน เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกในทีมแบ่งปันมุมมองและหาทางออกที่ดีที่สุดในแต่ละปัญหาที่ช่วยกันแก้ไข สิ่งนี้ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายมากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม
  • ก่อให้เกิดการพัฒนาทักษะในการทำงานของคนในทีม เมื่อทำงานร่วมกัน แชร์แบ่งปันไอเดียร่วมกัน เราจะเรียนรู้วิธีการใหม่ๆที่ผู้อื่นใช้แก้ปัญหา และเป็นไอเดียในการประยุกต์ใช้กับตัวเองในอนาคต เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละคน
  • แก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น การทำงานร่วมกันช่วยทำให้แก้ปัญหาที่ซับซ้อน ปัญหาใหญ่ที่ใช้เวลานาน ยากจะแก้ไขโดยลำพัง โดยเกิดการแบ่งปันมุมมอง เกิดทางเลือกหลายๆทางที่แก้ปัญหาได้สำเร็จรวดเร็วขึ้น

5.Time management (การบริหารเวลา)

เวลาเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ดังนั้น การบริหารเวลาอย่างชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

คนที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะเข้าใจข้อจำกัดของเวลาในงานที่ต้องทำ และสามารถทำงานให้เสร็จลุล่วงภายใต้ข้อจำกัดเหล่านั้น

รู้จักวางแผน ควบคุมระยะเวลา และจัดลำดับความสำคัญของงานให้ชัดเจน เพื่อทำให้งานสําเร็จตามเป้าหมายในเวลาที่กำหนด

แต่ปัญหาที่พบเห็นคือ บางคนในองค์กรที่ทำงานเสร็จไม่ทันกำหนดเส้นตายบ่อยๆ ประเมินระยะเวลาที่จะทำงานให้เสร็จผิดพลาด หรือไม่ใส่ใจต่อการบริหารเวลา มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ย่อมส่งผลเสียหายอย่างมากต่อทีมหรือองค์กร

6.Flexibility and Adaptability (ความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่น)

flexibility and adaptability คือ ทักษะหรือความสามารถที่คนจะปรับเปลี่ยนการกระทำ วิธีการที่จะทำสิ่งต่างๆให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีสามารถทำงานแทนคนได้ คนที่จะรักษาตำแหน่งงานไว้ได้จึงต้องเป็นคนที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ปรับตัวได้ดี มีทักษะที่เทคโนโลยีทำแทนไม่ได้หรือทำแทนได้ไม่ค่อยดี

ธุรกิจที่มีคนเก่ง มีความสามารถในการปรับตัวดีย่อมสามารถเข้าหาโอกาสทางการตลาดได้ง่าย และรวดเร็วกว่า

หากคุณอยากเป็นผู้ที่มีทักษะการปรับตัวได้ดี ต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่คุณจะนำไปพัฒนาตัวเองได้

  • หมั่นสังเกตสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงรอบตัว เช่น แนวโน้มตลาด การเปลี่ยนแปลงของคู่แข่ง ความพึงพอใจของลูกค้า เทคโนโลยีใหม่ๆที่ส่งผลกระทบกับงานที่ทำ
  • เต็มใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อปรับตัวเองให้ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ได้

7.Leadership (ภาวะผู้นำ)

ภาวะผู้นำ

: การเป็นผู้นำที่ดีต้องสามารถสื่อสารกับผู้ตามให้มองเห็นเป้าหมายเดียวกันและนำพาไปสู่เป้าหมายได้ มีความรับผิดชอบสูง สามารถเป็นทั้งผู้สอนและพี่เลี้ยง

สร้างแรงจูงใจให้ทุกคนเกิดความร่วมมือกัน ทำงานเป็นทีม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล รักการเรียนรู้ เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความยุติธรรมไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ตามเกิดความเชื่อถือ กล้าทำให้สิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม รับความกดดันได้ดี มีสติ ควบคุมอารมณ์ได้ดี มีความสามารถบริหารคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็น Soft Skills สำหรับผู้บริหารจำเป็นต้องมี

8.Positive Attitude (ทัศนคติเชิงบวก)

ทัศนคติเชิงบวก : ทัศนคติของคนเป็นเหมือนพลังขับเคลื่อนชีวิตของคนคนนั้น

คนที่มีทัศนคติในแง่บวกกับเรื่องชีวิตหรือการทำงานก็จะนำพาไปสู่ทิศทางในแง่บวก แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางอุปสรรค ปัญหาในชีวิตที่ต้องเจอ

การรักษาทัศนคติในแง่บวกจะช่วยเพิ่มพลังให้กับตัวเราและคนรอบข้าง

ประโยชน์ของการมองโลกในแง่บวก คือ

  • ลดความเครียด
  • บริหารจัดการเรื่องต่างๆได้ดีขึ้น

เทคนิคดีๆที่ช่วยพัฒนาทัศนคติเชิงบวก

  • ปรับมุมมองในแง่บวกกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น กับเหตุการณ์หรืออุปสรรคในชีวิต เช่น หากมีแผนที่ไปเที่ยวแล้วโครงการถูกล้มเลิก แง่มุมบวกอีกด้านคือคุณก็จะมีเวลาเหลือมากขึ้นที่จะไปทำกิจกรรมอื่นๆที่ต้องการได้

    หรือถ้าเป็นเรื่องการทำงาน เปลี่ยนการเน้นสิ่งที่ทำผิดพลาดเป็นการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากความผิดพลาดเพื่อที่ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

  • ฝึกฝนที่จะใช้คำพูดเชิงบวก ฝึกพูดกับตัวเองในแง่บวกทุกวันจะช่วยเปลี่ยนทัศนคติของคุณได้
  • จดบันทึกเรื่องราวดีๆในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กๆที่ทำได้สำเร็จแต่ละวัน ย่อมสร้างพลังบวกให้กับตัวเอง
  • หาเพื่อนที่มีทัศนคติเชิงบวก เมื่อคุณแวดล้อมด้วยเพื่อนที่มีทัศนคติเชิงบวก คุณก็จะได้ยินได้ฟังแต่เรื่องที่มีทัศนคติเชิงบวก คำพูดเชิงบวกจะฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึกเป็นการเติมพลังให้กับชีวิตคุณ
  • มองวันใหม่เป็นโอกาสใหม่ๆที่คุณจะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น การเริ่มต้นวันใหม่หมายถึงโอกาสที่จะได้ทำสิ่งใหม่ๆที่มีคุณค่าให้กับตัวเอง เรียนรู้และพัฒนาให้ดีขึ้น

9.Emotional Intelligence (ความฉลาดทางอารมณ์)

EQ-ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถในการรับรู้อารมณ์และความรู้สึกของตนเอง ทั้งสังเกตและเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นด้วย มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์

ความฉลาดทางอารมณ์ จึงเป็นทักษะที่สำคัญอย่างมาก เพราะการทำงานในองค์กรล้วนต้องอาศัยการติดต่อประสานงานกับผู้คนจำนวนมาก

10.Critical Thinking (การคิดเชิงวิพากษ์)

การคิดเชิงวิพากษ์ คือ ทักษะการคิดเพื่อตัดสินเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องเห็นคล้อยตามข้อมูลที่นำเสนอ สามารถโต้แย้งข้ออ้างนั้นเพื่อนำไปสู่การแสวงหาคำตอบที่เหมาะสมกว่าเดิมได้

ประโยชน์ของการคิดเชิงวิพากษ์

  • ช่วยให้เกิดการสังเกต ไม่รีบด่วนสรุปต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้จักตั้งคำถามต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเหตุผล ไม่ถูกหลอกง่ายๆ
  • ช่วยให้ตัดสินเหตุการณ์ต่างๆด้วยข้อเท็จจริง ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึก หรือความเชื่อที่มีต่อๆกันมา
  • ช่วยให้คิดถี่ถ้วน รอบคอบ
  • ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดในสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม

สรุป

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติกำลังเข้าแทนที่มนุษย์ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะงานด้านเทคนิคและงานที่ต้องซ้ำๆ ซึ่งทำได้รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์มาก

ส่งผลให้ทักษะด้าน Hard Skills มีความสำคัญลดลงไปมาก และทำให้ Soft Skills มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

Soft Skills นั้นครอบคลุมทักษะที่จำเป็นในอนาคตในหลายด้าน เช่น การทำงานเป็นทีม, การบริหารเวลา, การเอาใจใส่ความรู้สึกผู้อื่น เป็นต้น โดยทักษะเหล่านี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานได้ดีขึ้น สร้างความไว้วางใจ ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข

Soft Skills เป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้ และฝึกหัดได้ ไม่ว่าการทำอาชีพใดๆ ต้องอาศัยการมีทักษะ Soft Skills ที่ดีทั้งสิ้น

และหากท่านกำลังมองหาทางเลือกในการพัฒนาทักษะ Soft Skills ด้านต่างๆ เรามีหลักสูตร Soft Skills ที่จะช่วยตอบโจทย์พัฒนาบุคลการของท่านได้

ประชาสัมพันธ์ : หลักสูตร Soft Skills สำหรับคนทั่วไป (Public Training)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้