บทความสำหรับ มนุษย์เงินเดือน ที่อยากกู้ซื้อบ้าน หากท่านที่กำลังมองหาบ้าน โดยคนที่พึ่งจบใหม่และกำลังเริ่มทำงาน เริ่มต้นเราอาจจะได้เงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท โดยหักค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในแต่ละเดือน 10,000-15,000 บาท เก็บ 5,000-8,000 บาท จากที่บอกมาข้างต้นคงเป็นเรื่องยากมากๆที่เราจะสามารถเก็บเงินได้ 5,000 บาทเพราะว่าเด็กจบใหม่ก็คงอยากจะซื้อของที่เราต้องการใช่ไหมละ การที่จะให้เราเก็บเงินเพื่อจะซื้อบ้านในราคาที่เกิน 3 ล้านลงเป็นเรื่องยากสุดๆ ยิ่งหากจะซื้อบ้านในเวลา 10-20 ปี ราคาบ้านที่เรามองๆไว้ราคาคงจะขึ้นเป็น 4-6 ล้านแน่ๆ จะซื้อบ้านในเวลา 10-20 ปี ราคาบ้านที่เรามองๆไว้ราคาคงจะขึ้นเป็น 2.6 ล้านแน่ๆ ดังนั้นในวันนี้เราไปดูแนวทางวิธีง่ายๆที่จะทำให้เราสามารถเป็นเจ้าของบ้านราคา 3-4 ล้านได้แบบง่ายๆ
แนวทางซื้อบ้านเกิน 3 ล้าน สำหรับ มนุษย์เงินเดือน ไม่ถึง 2 หมื่น
สำหรับบางท่านที่ต้องการอยากจะได้บ้านที่เกินตัวโดยเฉพาะราคาระดับ 4 ล้าน แต่เรามีเงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาทจะทำเรื่องกู้คงจะไม่ผ่านแน่ๆ ดังนั้นวิธีที่พอจะทำให้เราสามารถที่จะทำได้คือการ กู้ร่วมซื้อบ้าน โดยผู้กู้ร่วมจำเป็นต้องเป็นคนในครอบครัวที่นามสกุลเดียวกันหรือสามีภรรยาก็ได้ โดยผู้กู้ร่วมแต่ละคนจะต้องเอารายได้ไปหักค่าใช้จ่ายมาร่วมกันคิด ตัวอย่างเช่น นาย จำดี มีเงินเดือน 20,000 บาท ผ่อนรถ 7,000 หลังจากหักแล้ว จะมีเงิน เหลือ 13,000 มารวมกับ ของเรา 15,000 จะเป็น 28,000 ซึ่งจะทำให้เรามีรายได้เหลือมากขึ้น จะทำให้เราสามารถเพิ่มวงเงินสำหรับกู้ได้สูงขึ้น ส่วนบ้านราคา 4 ล้านเราจะต้องมีผู้กู้ร่วมเท่าไรถึงวงเงินจะสามารถกู้ได้ สามารถตรวจสอบได้ที่ เงินเดือนเท่านี้ สามารถกู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่ ?
นอกจากนี้ ในบางครั้งก็มีกรณีที่ผู้กู้ร่วมไม่อาจจะช่วยอะไรเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่นผู้กู้ร่วมมีหนี้สินท่วมท้นอยู่แล้ว แบบวงเงินกู้เต็มยอด พอเอามารวมเป็นผู้กู้ร่วมแทนที่จะเอามาเพิ่มยอดการกู้กลับกู้ได้ยอดน้อยลงอีก หรือบางรายหนักกว่านั้นคือไม่มีหนี้สิ้นแต่ชอบใช้จ่ายเงินสุร่ยสุร่ายไม่มีเงินเก็บ แต่เราซื้อเขามากู้ร่วมอาจจะไม่สามารถช่วยเราผ่อนได้ในอนาคตปีแรกอาจจะผ่อนได้แต่ถ้ามีนิสัยแบบข้างต้นรับรองว่าอนาคตเราคงต้องผ่อนบ้านคนเดียวแน่ๆเพราะฉนั้นคนแบบนี้อันตรายมากกว่าแบบแรกอีก เพราะว่าเมื่อเราไม่สามารถผ่อนบ้านไหวนอกจากเราจะโดนยึดบ้านแล้วนั้นเราจะมีหนี้ก้อนโตแถมมาด้วยอีก
ดังนั้นเราต้องระวังให้มากๆสำหรับผู้กู้ร่วมที่เราจะเอามาร่วมลงด้วย ทางที่ดีหาทางแก้ไขไว้ร่วงหน้าหรือถ้าเราคิดแล้วว่าไม่สามารถผ่อนได้ก็ค่อยเก็บเงินรอไปก่อน เพราะว่าคงไม่ดีแน่ถ้าเราเสียเงินไปหลายปีแล้วเราไม่ได้อะไรเลยแถมยังโดนยึดบ้านอีก ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยว่าจะคำนวนอย่างไร อาชีพไหนสามารถที่จะกู้ได้โปรโมชั่นดอกเบี้ยบ้านอย่างไร แต่ละสถาบันการเงินจะมีวิธีคิดที่แต่ต่างกันของแต่บะสถาบันการเงินของแต่ละที่ โดยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องลองสอบถามทางเจ้าหน้าที่สินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคารนั้นดู ส่วนรายละเอียดเรื่องดอกเบี้ยนั้นครั้งหน้าเราจะมาให้คำตอบกัน
ข่าวดีแบงก์ชาติผ่อนเกณฑ์ LTV สำหรับสินเชื่อกู้บ้าน ธอส. ตามนโยบายรัฐ
เจาะเกณฑ์ พิจารณา สินเชื่อ กู้บ้าน ของธนาคารเพื่อรับมือหนี้ครัวเรือนพุ่ง
สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก
- TAGS
- กู้บ้าน
- กู้ร่วม
- กู้ร่วมซื้อบ้าน
- ผ่อนบ้าน
- มนุษย์เงินเดือน
- สินเชื่อบ้าน
Previous article11 อันดับราคาบ้าน-คอนโด ที่เปิดตัวขายมากที่สุดใน 5 เดือนแรกปี2562
Next articleสอนวิธี ยาแนวกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ แบบง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอน
About the author
Dot Property News
Stay up to date with the latest property news, ideas and tips! Want more information or have views to share? Contact [email protected]
เชื่อว่า ‘การมีบ้าน’ ย่อมเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคน ซึ่งเมื่อเราเริ่มต้นทำงานและมีรายได้เป็นของตัวเอง สิ่งที่เราคิดฝันเป็นอันดับต้นๆ คือ การมีบ้าน แต่หลายคนที่ยังมีรายได้ที่จำกัด ก็อาจจะมีคำถามตามมาว่า ‘ถ้าเงินเดือนยังน้อยอยู่ แต่อยากมีบ้าน จะทำอย่างไรให้กู้ผ่าน?’ หากใครกำลังมีคำถามนี้อยู่ในใจ สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้
ก่อนที่เราจะซื้อบ้าน เราต้องประเมินความสามารถในการผ่อนของเราดูก่อน โดยความสามารถในการผ่อนจะประเมินจากหลักการที่ว่า “ผู้กู้สามารถแบกรับภาระการผ่อนชำระหนี้สินทั้งหมดได้ไม่เกิน 40% ของรายได้”
ตัวอย่างเช่น ผู้กู้มีเงินเดือน 20,000 บาท จะสามารถผ่อนบ้านสูงสุดได้ 20,000 x 40% = 8,000 บาท
นั่นก็แปลว่า หากผู้กู้มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน จะสามารถผ่อนบ้านได้ไม่เกิน 8,000 บาทต่อเดือน โดยที่เราต้องไม่มีหนี้สินผ่อนชำระสินค้าอื่นๆ หากเรามีหนี้สินอื่นๆ เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 4,000 บาท จะทำให้ผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลงเหลือเพียง 4,000 บาท (8,000 – 4,000 = 4,000) ต่อเดือนเท่านั้น
สมมติว่าคุณไม่มีภาระหนี้สินอะไรมาก่อน หากคุณมีเงินเดือน 20,000 บาท ความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนของคุณจะอยู่ที่ 8,000 บาท ขั้นตอนถัดมาเราต้องมาประเมินว่าความสามารถในการผ่อนเท่านี้ เราน่าจะกู้ได้วงเงินสูงสุดที่เท่าไหร่ (ซึ่งจะคำนวณจากระยะเวลาการผ่อนชำระ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน) ตัวอย่างดังตาราง
ระยะเวลาในการผ่อนชำระ
วงเงินที่สามารถกู้ได้ (กู้ 100%)*
20 ปี
1,073,000 บาท
25 ปี
1,185,000 บาท
30 ปี
1,266,000 บาท
* คิดจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 6.5% ต่อปีหากต้องการตัวเลขที่แน่นอน สามารถเข้าไปขอคำแนะนำจากสถาบันการเงินที่คุณสนใจขอสินเชื่อบ้าน
ตัวอย่างการคำนวณในตาราง คำนวณตามหลักการมูลค่าเงินตามเวลา เป็นการคำนวณหามูลค่าปัจจุบันของเงินเท่ากันทุกงวด (Present Value of an Annuity) โดยคำนวณว่าจากเงินงวดที่จ่ายเท่ากันทุกเดือน เดือนละ 8,000 บาท เป็นเวลา 240 เดือน (20 ปี) ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6.5% คิดเป็นเงินก้อนที่มีมูลค่าในปัจจุบันเท่าไหร่ ก็จะเป็นวงเงินที่เราสามารถกู้ได้ สามารถคำนวณได้โดยใช้เครื่องคิดเลขทางการเงิน (Financial Calculator) หรือแอปพลิเคชั่นเครื่องคิดเลขที่มีฟังก์ชั่นการคำนวณมูลค่าเงินตามเวลา (TVM Calculator)
เมื่อคุณเห็นวงเงินที่สามารถกู้ได้ คุณก็ควรจะหาโครงการบ้านที่อยู่ในวงเงินที่คุณสามารถกู้ได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีโครงการที่มีราคาล้านต้นๆ อยู่หลายโครงการ เช่น คอนโดแถบชานเมืองหรือปริมณฑล และบ้านมือสองที่สภาพดี ราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม หากโครงการบ้านที่คุณเล็งๆ ไว้มีราคาสูงกว่าวงเงินที่คุณสามารถกู้ได้ นั่นแปลว่าคุณอาจจะต้องเตรียมเงินก้อน เพื่อเป็นเงินดาวน์ไว้ด้วย หากยังไม่มีเงินดาวน์ ต้องวางแผนเก็บเงินเพื่อเป็นเงินดาวน์ด้วยเช่นกัน
ในกรณีที่พิจารณาแล้วว่า ถ้ากู้คนเดียวอาจไม่ผ่านหรือรายได้ไม่พอ การกู้ร่วมก็เป็นทางออกได้ โดยผู้กู้ร่วม หมายถึง ลูกหนี้ร่วม ซึ่งในทางกฎหมายลูกหนี้ร่วมจะต้องรับผิดชอบหนี้เป็นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น และในบางสถาบันการเงินจะกำหนดให้ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้ในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร และสามีกู้ร่วมกับภรรยา หรือถ้าแต่งงานกันแล้วและยังไม่ได้จดทะเบียน ผู้กู้ร่วมก็ต้องแสดงหลักฐานอื่นๆ ประกอบ เช่น ทะเบียนบ้านที่แสดงว่าปัจจุบันอยู่ด้วยกัน หรือถ้ามีบุตรก็ต้องแสดงใบเกิดที่ระบุชื่อพ่อแม่
ในการกู้ร่วมนั้น สถาบันการเงินจะพิจารณารายได้ของทุกคนที่ขอกู้ร่วม โดยจะหักภาระค่าใช้จ่ายของทุกคน หลังจากนั้นก็ดูว่า เหลือเงินที่จะสามารถผ่อนชำระต่อเดือนได้เท่าไหร่ แล้วพิจารณาให้สินเชื่อไปตามสัดส่วน ซึ่งจะทำให้การกู้ร่วม สามารถกู้วงเงินได้สูงขึ้นอีกพอสมควร
ประวัติการชำระหนี้ต่างๆ ของคุณก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณาให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งถ้าคุณมีประวัติที่ดี ชำระหนี้ตรงเวลามาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นคะแนนบวกทำให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้คุณง่ายขึ้น ดังนั้นก่อนที่จะคิดกู้บ้าน ควรสร้างประวัติทางการเงินให้ดี มีหนี้สินอะไรอยู่ ก็ควรจะผ่อนชำระให้ตรงเวลา เพื่อให้โอกาสในการกู้ผ่านมีสูงขึ้น
กล่าวโดยสรุป แม้จะมีเงินเดือนน้อย แต่หากมีการเตรียมตัวและวางแผนการเงินที่ดี ก็จะทำให้โอกาสกู้ผ่านของคุณมีสูงขึ้น อย่างไรก็ตามหนี้บ้านถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ และมีระยะเวลาในการผ่อนนาน เพื่อให้ภาระผ่อนบ้านไม่หนักจนเกินไป คุณควรต้องมีรายได้ที่มากพอ ดังนั้นคุณควรหาทางเพิ่มรายได้และเพิ่มเงินเดือนให้ตัวเอง ด้วยการหารายได้เสริม หรือเรียนรู้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเพิ่มค่าตัวให้กับตัวเอง นอกจากนี้ต้องรู้จักวางแผนการเงิน ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ระมัดระวังการใช้จ่าย อย่าใช้จ่ายเกินตัว และอย่าก่อหนี้เพิ่มไปกว่ารายได้ของตน และที่สำคัญต้องมีการออมเงินอย่างเป็นระบบ ซึ่งหากทำได้เช่นนี้ บ้านหลังนี้ก็จะเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ความฝันของคุณได้อย่างแน่นอน