แล้วเคยสงสัยไหมว่า…รถยนต์เหล่านี้ มีเงื่อนไขการทำประกันรถเหมือนรถยนต์ทั่วไปหรือไม่ แล้วควรเลือกแผนประกันภัยแบบไหนถึงเหมาะสมที่สุด วันนี้เรารวมเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับประกันรถยนต์ราคาแพงที่สุดในปี 2022 มาฝากกันครับ
ก่อนอื่นเราสามารถแบ่งประเภทของรถหรูกันก่อน ซึ่งตลาดได้แบ่งประเภทไปตามสมรรถนะ ขนาดของตัวรถและเครื่องยนต์ได้ดังนี้
- รถหรูขนาดเล็ก (Entry–Level Luxury)
รถหรูขนาดคอมแพค มีขนาดเท่ารถเล็กทั่วไป แต่เป็นรถเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง ด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และตกแต่งที่หรูหรา ใช้วัสดุราคาแพง ยกตัวอย่าง เช่น Mercedes-Benz C Class , Lexus , Audi A4 , BMW Series 3 - รถหรูระดับกลาง (Mid-Size Luxury)
รถหรูที่มีขนาดใหญ่กว่ารถขนาดกลางโดยทั่วไป เน้นการตกแต่งที่หรูหรามากขึ้นกว่ารถหรู ระดับ Entry–Level Luxury ยกตัวอย่างเช่น Mercedes-Benz E Class , BMW Series 5 - รถหรูขนาดใหญ่ (Full-Size Luxury)
รถยนต์ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับความหรูหราเต็มพิกัด และสมรรถนะในการขับขี่ที่สูง ใช้เครื่องยนต์ 6-12 สูบขึ้นไป ยกตัวอย่าง เช่น Mercedes-Benz S Class, Jaguar , BMW Series 7 - รถซูเปอร์คาร์ (Supercar)
เป็นรถที่ออกแบบเพื่อการขับขี่ที่เน้นการใช้ความเร็วสูง เครื่องยนต์ที่นับเป็นซูเปอร์คาร์ คือมีขนาด 6 สูบขึ้นไป เช่น Lamborghini - รถสปอร์ต
รถยนต์ที่เน้นการขับขี่ที่รวดเร็ว เต็มสมรรถนะ โดยส่วนมากออกแบบให้มี 2 ที่นั่งซะส่วนใหญ่ คุณสมบัติเฉพาะก็คือ การขนาดของตัวถังที่เบากว่ารถยนต์โดยทั่วไปเพื่อรีดสมรรถนะการขับขี่สูงสุด ยกตัวอย่างเช่น Porsche 911
ยกตัวอย่าง ข้อกำหนดประกันภัย แบบไหนถึงเรียก รถ Supercar
รถ Supercar เป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่ใช้ความเร็ว ซึ่งบริษัทประกันภัยมีหลักเกณฑ์ในการรับพิจารณาประกันภัยรถยนต์กลุ่มนี้ ดังนี้ครับ
- เป็นรถยนต์ที่มีประตูน้อยกว่า 4 ประตู
- ขนาดเครื่องยนต์ 2,000 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
- อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 5 วินาทีหรือน้อยกว่า
- ความแรงของเครื่องยนต์ 250 แรงม้าขึ้นไป
- ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงหรือมากกว่า
- ราคาขายจากผู้จัดจำหน่าย 5 ล้านบาทขึ้นไป
บริษัทประกันทั่วไปนั้นมักจะไม่รับทำประกันรถหรู ซูเปอร์คาร์เท่าไหร่นัก ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ประเภทนี้ จึงมักจะต้องทำประกันผ่านบริษัทประกันที่มีแผนเฉพาะสำหรับรถยนต์ระดับไฮเอนด์ และแน่นอนว่าค่าเบี้ยจะมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป
ส่วนคำถามที่ว่า ราคาเบี้ยประกันรถหรูมีราคาเท่าไหร่ จริง ๆ แล้ว การคำนวณเบี้ยประกันภัยรถนั้นมีเงื่อนไขหลายอย่างที่ต่างไปในหลายปัจจัย จึงจำเป็นจะต้องเช็คเบี้ยประกันรถยนต์จากบริษัทประกันรถที่รับทำประกันรถหรู ข้อแตกต่างระหว่างรถยนต์หรู รถสปอร์ต Supercar กับรถยนต์ทั่วไป ก็คือ ต้องให้รายละเอียดในเอกสาร High Sum ซึ่งเป็นเอกสารสำหรับบริษัทประกันภัยในการพิจารณารับประกันภัยรถยนต์ที่มีมูลค่าทุนประกันภัยสูงหลายล้านบาท ที่ผู้ทำประกันจะต้องให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนด้วยครับ
เอกสาร High Sum ต้องให้ข้อมูลอะไรบ้าง ?
- ยี่ห้อรุ่นรถ
เพื่อเป็นข้อมูลให้บริษัทประกันพิจารณา ในเรื่องการส่งซ่อมและอะไหล่ เนื่องจากรถยนต์เหล่านี้อะไหล่มักต้องสั่งจากต่างประเทศใช้ระยะเวลานาน บริษัทประกันจึงมักจะมีข้อบันทึกยืนยันไม่ใช้สิทธิการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการไม่ได้ใช้รถ - ข้อมูลผู้เอาประกันภัย
ประกันภัยรถหรู รถ Supercar กำหนดให้ต้องมีผู้ทำประกันภัย 2 คน เนื่องจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักเกิดกับคนขับขี่ที่ไม่ได้เป็นคนทำประกันภัยเอง - ข้อมูลผู้ขับขี่
- ดีลเลอร์ที่ออกรถ
เนื่องจากรถยนต์เหล่านี้ง่ายต่อการสวมทะเบียนและเลี่ยงภาษี บริษัทประกันภัยจึงเน้นทำประกันจากบริษัทดีลเลอร์ (ผู้นำเข้าโดยตรง) เท่านั้น - อายุเพศ ผู้เอาประกัน และผู้ขับขี่
โดยมากจะกำหนดผู้ขับขี่อายุมากกว่า 29 ปี หากอายุต่ำกว่าก็จะมค่าเสียหายส่วนแรกที่สูง - ประสบการณ์ขับรถความเร็วสูง
- ข้อมูลประกันภัยเดิม
หมายเหตุ : เอกสาร High Sum อาจแตกต่างไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย
ประกันภัยรถหรู รถ Supercar คำนวณเบี้ยประกันอย่างไร
ปัจจัยในการคำนวณเบี้ยประกัน อาทิ ราคาซื้อตั้งต้น มูลค่ารถเมื่อเทียบกับราคาตลาดในขณะทำประกัน อายุการใช้งาน อุปกรณ์เสริม อะไหล่ตัวรถและเครื่องยนต์ การตกแต่ง ความถี่ในการใช้งาน เป็นต้น
จัดอันดับรถหรูซูเปอร์คาร์ประกันภัยหลักล้าน !
- Bugatti Super Sport ราคารถยนต์ตั้งต้นอยู่ที่ 86.4 ล้านบาท ด้วยเครื่องยนต์ที่แรง ราคาเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 1.44 ล้านบาท
- Pagani Zonda Cinque Roadster ราคารถยนต์ตั้งต้นอยู่ที่ 66 ล้านบาท ส่งผลให้เบี้ยประกันทะยานไปเท่าตัวรถยนต์ทั่วไป เริ่มต้นที่ 1.08 ล้านบาทเลยทีเดียว
- Aston Martin One-77 รถหรูสนนราคา 66 ล้านบาทคันนี้ คำนวณเบี้ยประกันรถหรูซูเปอร์คาร์ อยู่ที่ 1.08 ล้านบาทเช่นเดียวกัน
อ้างอิง : ราคาประกันภัยรถยนต์ซูเปอร์คาร์ //www.finder.com/th/supercar-insurance
รถหรู รถซูเปอร์คาร์ ความคุ้มครองที่เหมือนและแตกต่าง
ปัจจุบันการทำประกันรถหรู มักรับทำประกันกับผู้นำเข้าโดยตรง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5-10 แบรนด์ อาทิ Porsche , Ferrari , Lamborghini ซึ่งการเลือกประกันรถชั้น 1 ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับรถหรู ซูเปอร์คาร์ หากพิจารณาในด้านความคุ้มครองแล้ว รถหรู รถซูเปอร์คาร์ มีข้อแตกต่างกับรถยนต์ทั่วไป
ผู้เอาประกันจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก ในกรณีเป็นผู้ขับรถชนหรือไม่สามารถติดตามคู่กรณีได้ ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกของรถหรู รถซูเปอร์คาร์ จะสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป โดยมากจะไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อครั้ง และหากมีการเคลมค่าเสียหายโดยมากมักเป็นหลักสิบล้าน บริษัทประกันจึงกำหนดเงื่อนไขรับประกันเพื่อไม่ให้เกิดอัตราความเสียหายที่สูงเกินค่ามาตรฐาน 70% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับกับรถยนต์ทั่วไปนั่นเอง รถหรู รถซูเปอร์คาร์ นั้นผู้เอาประกันควรให้ความสำคัญกับแผนประกันที่ครอบคลุม กรณีอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดคดีอาญา เนื่องจากการออกแบบให้ขับขี่ด้วยความเร็ว ย่อมเสี่ยงต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป สำหรับรถหรู รถซูเปอร์คาร์ ประกันชั้น 1 ครอบคลุมทุกรณี ดูแลทั้งคนขับ คู่กรณี บุคคลภายนอก รถสูญหาย ไฟไหม้ แต่ไม่รับคุ้มครองกรณี ขับรถโดยเมาสุราที่มีแอลกอฮอล์เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เตรียมพร้อม ! เช็คประกันภัยรถยนต์ของคุณ กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รู้จักประกันรถหรูซูเปอร์คาร์ไปแล้ว มาถึงประกันรถยนต์ทั่วไปกันบ้าง ทราบไหมครับว่าช่วงปีนี้...คนไทยค้นหาคำว่า 'ประกันรถยนต์' ใน Google เพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่มั่นใจในบริษัทประกันหลายแห่ง จากกรณีแผนประกันภัยโควิด เจอ จ่าย จบ ในช่วงการระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้บริษัทประกันภัยหลายแห่งเกิดปัญหาสภาพคล่องในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน คนส่วนใหญ่จึงมองหาบริษัทประกันภัยในด้านต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือและมั่นคงมากขึ้น หากคุณคือ อีกหนึ่งผู้ใช้รถที่มีความกังวล และต้องการหาทางเลือกประกันรถยนต์ที่มีความมั่นคง อีกทั้งมองหาเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณมากที่สุดด้วย Easy Compare มีคำตอบเกี่ยวกับประกันรถยนต์ รวมถึงปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้คุณเสียเบี้ยประกันภัยแพง เพื่อเป็นการวางแผนเลือกประกันภัยที่เป็นประโยชน์มากที่สุด
อ้างอิงสถิติค้นหาประกันภัยรถยนต์ : //bit.ly/3A452UK
ประกันรถยนต์ กับสถิติอุบัติเหตุท้องถนน ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
จากข้อมูลรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนนโครงข่ายคมนาคม TRAMS รายงานว่าทุก ๆ 52 กิโลเมตร จะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 1 ราย ซึ่งสะท้อนถึงวินัยทางจราจร และสภาพแวดล้อมที่ทำให้การใช้รถใช้ถนนในประเทศไทยที่มีความเสี่ยง
จากรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยแห่งเดียวกัน (1 ม.ค 2565-31 มิถุนายน 2565) ให้ข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนกรมทางหลวงชนบท พบว่าสูงถึง 171 เหตุ และจากข้อมูลซึ่งสอดคล้องกับ สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย จากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยท้องถนน รายงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2655 ว่ามีผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุจากท้องถนน รวมทั้งสิ้นถึง 366,152 ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลถึง 46.27 %
โดยสถิติที่น่าสนใจจากกระทรวงคมนาคมล่าสุด ณ วันที่ 25 มกราคม 2565 ยังเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เรียง 5 อันดับ คือ
- อันดับ 1. รถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ
- อันดับ 2. รถส่วนบุคคลสาธารณะ
- อันดับ 3. รถจักรยานยนต์
- อันดับ 4. รถบรรทุกมากกว่า 10 ล้อ
- อันดับ 5. รถบรรทุก 6 ล้อ และรถตู้
โดยรายงานพบว่าลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือ อุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตกถนนในทางตรงมากที่สุด 43% ชนท้าย 31% ซึ่งสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดการขับรถเร็วกว่าอัตรากำหนดถึง 78%
อ้างอิงสถิติอุบัติเหตุท้องถนน : //trams.mot.go.th/report-executive
จากข้อมูลดังกล่าว ประกันรถยนต์จึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมากต่อผู้ครอบครองรถยนต์ เพราะเป็นการซื้อความคุ้มครองความเสี่ยงให้กับตัวเองและผู้อื่นทั้งด้านทรัพย์สิน ร่างกายและชีวิต
ทำความเข้าใจประกันรถยนต์ง่าย ๆ ว่า คืออะไร มีแบบไหนบ้าง?
ประกันรถยนต์ เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองความสูญเสียและเสียหายที่เกิดจากการใช้รถ ไม่ว่าจะเป็น ความเสียหาย การบุบสลาย สูญหาย และการเสียหายที่เกิดกับชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารที่มากับรถยนต์ที่มีประกันรถยนต์ และแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ประกันภัยภาคบังคับ และประกันภัยภาคสมัครใจ
ประกันภัยภาคบังคับ ถือเป็นข้อกำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถต้องจัดให้มี เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะประสบภัยจากรถที่ใช้ เป็นผู้อยู่ในเส้นทาง หรือเกิดจากสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่บรรทุกมากับรถ ให้ได้รับการชดใช้หรือเยียวยาความสูญเสียและเสียหาย ตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดไว้ จึงมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองไม่ทำประกันภัยตามที่กำหนด
ประกันภัยภาคบังคับ (Compulsory Motor Insurance) คุ้มครองอะไรบ้าง
ความคุ้มครอง ของประกันภาคบังคับ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลตามความเสียหายจริง ไม่เกิน 80,000 บาท ครอบคลุมการเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือสูญเสียอวัยวะ 500,000 ต่อราย
ข้อมูลจากสมาคมประกันวินาศภัยระบุการคุ้มครองผู้ประสบภัยดังนี้
ความคุ้มครองต่อรายค่ารักษาพยาบาล ตามความเสียหายที่แท้จริงไม่เกิน 80,000 บาทเสียชีวิต500,000 บาทสูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพอย่างถาวร หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (กรณีสูญเสียอวัยวะ เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ)200,000 - 500,000 บาทต่อหนึ่งคนค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน จ่ายตามวันที่รักษาจริง ไม่เกิน 20 วัน200 บาท/วันค่าเสียหายเบื้องต้น
บริษัทประกันวินาศภัยจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (เป็นวงเงินเดียวกันกับความคุ้มครองข้างต้น) ให้แก่ผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความรับผิดให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับการร้องขอ โดยจ่ายเป็นค่าเสียหายเบื้องต้นดังต่อไปนี้
- กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย บริษัทจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อหนึ่งคน
- กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกายอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ บริษัทจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นจำนวน 35,000 บาทต่อหนึ่งคน
- ตาบอด
- หูหนวก
- เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
- สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
- เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว
- เสียอวัยวะอื่นใด
- จิตพิการอย่างติดตัว
- ทุพพลภาพอย่างถาวร
- กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อชีวิต บริษัทจะจ่ายค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพของผู้ประสบภัยตามจำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อหนึ่งคน
- จำนวนตามข้อ 1. และ 2. รวมกัน หรือจำนวนข้อ 1. และ 3. รวมกัน แต่หากผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายตามข้อ 1. 2. และ 3. หรือได้รับความเสียหายตามข้อ 2. และ 3. ให้ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นรวมกันไม่เกินจำนวน 65,000 บาท
หมายเหตุ *ผู้ประสบภัยที่เป็นผู้ขับขี่รถที่เป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น
หมายถึง การประกันภัยที่ไม่ได้บังคับให้ทำโดยกฎหมาย แต่เจ้าของรถยนต์สามารถจัดหาเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถ และความรับผิดชอบของเจ้าของผู้เอาประกันภัยต่อบุคคลภายนอก และเนื่องจากไม่ได้มีการบังคับทางกฎหมาย ผู้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนบางท่าน ก็อาจจะไม่ได้ซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเพิ่มเติม ทำให้ไม่มีหลักประกันความเสี่ยงทั้งกับผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) คุ้มครองอะไรบ้าง
ปัจจุบันประกันรถยนต์สมัครใจ สามารถแบ่งความคุ้มครองได้ทั้งสิ้น 5 ประเภท โดยมีรายละเอียดการให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม มีดังนี้
การประกันรถยนต์ประเภท 1
ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าการประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น ๆ โดยมีความคุ้มครองหลักครบทั้ง 3 หมวดการคุ้มครอง ดังนี้
- หมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย บริษัทประกันภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตามกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตามความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน (ต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อคน) ที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อครั้งที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
ทั้งนี้ บุคคลภายนอกที่ได้รับความคุ้มครองจะไม่รวมถึงผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายที่จะต้องรับผิดตามกฎหมาย ตลอดจนลูกจ้างในทางการที่จ้าง คู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้ขับขี่นั้น
- ความเสียหายต่อทรัพย์สิน บริษัทจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และความรับผิดของบริษัทจะมีไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย บริษัทประกันภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตามกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตามความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน (ต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อคน) ที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อครั้งที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
- หมวดการคุ้มครองรถยนต์สูญหายไฟไหม้
- กรณีรถยนต์สูญหาย บริษัทประกันภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ตามมาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์โดยโรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ และให้รวมถึงอุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่ได้ทำเพิ่มขึ้น และผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบด้วยแล้ว สูญหายไปอันเกิดจากการกระทำความผิดเฉพาะฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือเกิดความเสียหายต่อรถยนต์อันเกิดจากการกระทำความผิด หรือการพยายามกระทำความผิดเช่นว่านั้น แต่ไม่รวมการสูญหายจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
- กรณีรถยนต์ไฟไหม้ บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม
- หมวดการคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเวลาประกันภัย ต่อรถยนต์รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์มาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์โดยโรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ และให้รวมถึงอุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่ได้ทำเพิ่มขึ้น และผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบด้วยแล้ว แต่ไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ เช่น กันชนหน้ารถแตกหักจากการขับรถชนต้นไม้ ประตูรถได้รับความเสียหายจากการถูกเฉี่ยวชนกิ่งไม้หล่นใส่หลังคารถ เป็นต้น
การประกันรถยนต์ประเภท 2
เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แตกต่างกันเพียงไม่มีความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ โดยมีความคุ้มครองหลัก ดังนี้
- หมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย บริษัทประกันวินาศภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตามกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตามความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน (ต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อคน) ที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อครั้งที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
ทั้งนี้ บุคคลภายนอกที่ได้รับความคุ้มครองจะไม่รวมถึงผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายที่จะต้องรับผิดตามกฎหมาย ตลอดจนลูกจ้างในทางการที่จ้าง คู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้ขับขี่นั้น
- ความเสียหายต่อทรัพย์สิน บริษัทจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และความรับผิดของบริษัทจะมีไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย บริษัทประกันวินาศภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตามกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตามความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน (ต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อคน) ที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อครั้งที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
- หมวดการคุ้มครองรถยนต์สูญหายไฟไหม้
- กรณีรถยนต์สูญหาย บริษัทประกันวินาศภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ตามมาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์โดยโรงงานประกอบรถยนต์หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ และให้รวมถึงอุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่ได้ทำเพิ่มขึ้น และผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบด้วยแล้ว สูญหายไปอันเกิดจากการกระทำความผิดเฉพาะฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือเกิดความเสียหายต่อรถยนต์อันเกิดจากการกระทำความผิด หรือการพยายามกระทำความผิดเช่นว่านั้น แต่ไม่รวมการสูญหายจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
- กรณีรถยนต์ไฟไหม้ บริษัทประกันวินาศภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม
การประกันรถยนต์ประเภท 3
เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และประเภท 2 โดยบริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ดังนี้
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย บริษัทประกันวินาศภัยจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตามกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตามความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อคน (ต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 500,000 บาทต่อคน) ที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยต่อครั้งที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
ทั้งนี้ บุคคลภายนอกที่ได้รับความคุ้มครองจะไม่รวมถึงผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายที่จะต้องรับผิดตามกฎหมาย ตลอดจนลูกจ้างในทางการที่จ้าง คู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้ขับขี่นั้น
- ความเสียหายต่อทรัพย์สิน บริษัทจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และความรับผิดของบริษัทจะมีไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
การประกันรถยนต์ประเภท 4
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก ให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 100,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง
การประกันรถยนต์ประเภท 5
การประกันภัยรถยนต์แบบคุ้มครองเฉพาะภัย เป็นแบบคุ้มครองภัยเฉพาะที่พัฒนาใช้งานขึ้นมาในภายหลัง แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้
- แบบประกัน 2 พลัส (2+) ให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัย ชั้น 2 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณี โดยให้ความคุ้มครอง ดังนี้
- คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
- คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีชนกับยานพาหนะทางบก
- แบบประกัน 3 พลัส (3+) ให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัย ชั้น 3 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณี โดยให้ความคุ้มครอง ดังนี้
- คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
- คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีชนกับยานพาหนะทางบก
ข้อมูลอ้างอิง : สมาคมประกันวินาศภัย
ทำไมเบี้ยประกันภัยของรถยนต์แต่ละคันจึงไม่เท่ากัน
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่นำมาคำนวณเบี้ยประกันภัย หากเป็น พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ อัตราเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับประเภทของรถ เช่น รถบรรทุก รถส่วนบุคคลสาธารณะ รถขนส่ง แต่หากเป็น ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะมีปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราค่าเบี้ย ดังนี้
- เบี้ยประกันพื้นฐานตามประเภทของรถ
- กลุ่มรถยนต์
- ลักษณะการใช้รถ
- อายุรถยนต์
- ขนาดรถยนต์ แยกตามลักษณะการใช้รถยนต์ ได้แก่
- ขนาดเครื่องยนต์ อาทิรถยนต์นั่ง รถยนต์นั่งรับจ้างสาธารณะ
- นำหนักบรรทุก ใช้กับรถยนต์บรรทุก รถพ่วง รถลากจูง
- จำนวนที่นั่งใช้สำหรับรถยนต์โดยสาร
- จำนวนเงินเอาประกันภัย
- อุปกรณ์เพิ่มพิเศษ เช่น กล้องหน้ารถ
- อายุของผู้ขับขี่
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม :ปัจจัยส่งผลต่อเบี้ยรถยนต์ //www.oic.or.th/sites/default/files/part3.pdf
ซื้อประกันรถยนต์ ทำไมเบี้ยประกันราคาแพงขึ้นทุกปี?
นอกจากเบี้ยประกันภัยที่ไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังจำแนกหัวข้อ ที่ส่งผลต่ออัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้น จากปัจจัยดังนี้
- ทุนประกันสูง
ทุนประกันเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างบริษัทประกันภัยและผู้ครอบครองรถยนต์ ซึ่งมักจะครอบคลุม 70-80% ตามราคารถยนต์ ซึ่งเป็นค่าเสียหายที่สามารถเคลมค่าใช้จ่ายได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถซ่อมแซมรถให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกต่อไป ยิ่งทุนประกันภัยในข้อนี้สูง ก็จะมีเบี้ยประกันที่สูงขึ้นด้วย - ประวัติการขับขี่
คุณอาจได้ยินบ่อย ๆ ว่า ปีนี้เคลมบ่อยเบี้ยประกันปีหน้าต้องสูงแน่เลย นั่นก็เพราะว่าการเคลมประกันภัยรถยนต์ในแต่ละปี ถือเป็นประวัติในการขับขี่ที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย หากไม่เคยเคลมเลยก็ทำให้ได้รับเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกลง ในทางกลับกันหากเคลมบ่อย ก็จะได้เบี้ยประกันรถยนต์ที่สูงขึ้นด้วยทั้งนี้ ประวัติการขับขี่ ช่วยลดเบี้ยประกันภัยราย โดยมีหลักเกณฑ์การลดเป็นลำดับขึ้น ดังนี้
- ขับรถดี 1 ปี ได้รับส่วนลด 20% ในปีต่อไป
- ขับรถดี 2-3 ปี ติดกันได้รับส่วนลด 30% ในปีต่อไป
- ขับรถดีตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 40% ในปีต่อไป
- ขับรถดีตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 50% ปีต่อไปเรื่อย ๆ
- ประเภทของประกันภัยรถยนต์
ประกันภัยรถยนต์แต่ละชนิด อาทิ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ย่อมเบี้ยประกันแพงกว่าชั้น 2,3 เพราะขึ้นอยู่กับความคุ้มครอง ยิ่งคุ้มครองมาก เบี้ยประกันก็ยิ่งสูงตามไปด้วย - การระบุชื่อผู้ขับขี่
การระบุชื่อผู้ขับขี่รถยนต์ที่ชัดเจนเพียงคนเดียว แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ที่ทำประกันภัยไม่ได้เปลี่ยนผู้ขับขี่บ่อย ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติที่เหตุที่น้อยกว่า จึงมีเบี้ยประกันที่ถูกลงด้วย - อายุและเพศของผู้ขับขี่
อายุ และเพศ สามารถบอกพฤติกรรมการใช้รถได้เหมือนกัน เพศชายมีแนวโน้มขับรถเร็วมากกว่าเพศหญิง และมีสถิติในการเกิดอุบัติเหตุที่สูงกว่า โดยพบว่า 60-70%ของอุบัติเหตุในประเทศไทยมาจากผู้ขับขี่เพศชาย (อ้างอิง : //www.easysunday.com/blog/female-get-cheaper-car-insurance/) สำหรับอายุของผู้ขับขี่ บริษัทประกันภัยจะประเมินว่า ผู้มีอายุน้อยมีแนวโน้มที่จะขับขี่ที่เสี่ยงอุบัติเหตุมากกว่า เนื่องจากอายุน้อยก็มีประสบการณ์ในการขับขี่ที่น้อยลงไปด้วย โดยจะคำนวณส่วนลดของอายุดังนี้- อายุ 18-24 ส่วนลด 5%
- อายุ 25-34 ส่วนลด 10%
- อายุ 36-50 ส่วนลด 15%
- อายุ 50 ปีขึ้นไปส่วนลด 20%
- ข้อกำหนดการซ่อมอู่/ซ่อมห้าง
การเลือกซ่อมรถที่ศูนย์ซ่อมรถยนต์ (ซ่อมห้าง) จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าการเลือกซ่อมอู่ ด้วยมาตรฐานการบริการ ค่าบริการ และอะไหล่ที่มีราคาสูงกว่านั่นเอง - การกำหนดค่าเสียหายส่วนแรก
ค่าเสียหายส่วนแรก คือค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายเองในกรณีในกรณีที่มีการเคลม เกิดขึ้น โดย คปภ. กำหนดไว้ไม่เกิน 5,000 บาท หากคุณเป็นคนขับรถที่ไม่มีความเสี่ยง การเลือกทำประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก จึงเป็นแนวทางที่ดีที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อประกันรถยนต์ไปได้ - ยี่ห้อและอายุของรถยนต์
รถยนต์ราคาแพง ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก็สูงขึ้นไปด้วย รวมถึงอายุการใช้งานของรถยนต์ก็ทำให้เบี้ยประกันรถยนต์สูงไปด้วยตามความเสื่อม รวมถึงยังทำให้ทุนประกันลดลงไป 10% ในแต่ละปี
โดยส่วนใหญ่แล้วการคำนวณเบี้ยประกันภัย นั้นไม่ได้มีรายละเอียดที่แตกต่างกันมากในรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป แต่หากคุณครอบครองรถหรู รถซูเปอร์คาร์ ซึ่งเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง ออกแบบมาให้ขับขี่ด้วยความเร็ว ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิตที่สูง รวมถึงมักมีการตกแต่งด้วยอุปกรณ์พิเศษ ทำให้มีอัตราเบี้ยประกันภัยสูงขึ้น
จากที่เกริ่นไปข้างต้นบทความ ว่าการเลือกทำประกันกับบริษัทที่มีสภาพคล่องสูง มีศักยภาพในการลงทุนจึงเป็นข้อจำเป็นหลัก ในการเลือกทำประกันภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน การปิดกิจการ เพิกถอนใบอนุญาตจนไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ตามสัญญา
อย่าเพิ่งซื้อประกันรถยนต์ ถ้ายังไม่ได้เปรียบเทียบเบี้ยประกัน จากบริษัทประกันชั้นนำของไทย ผ่านเว็บไซต์ easycompare.co.th ประกันรถยนต์ในราคาเบา ๆ มั่นใจด้วย การรับรองโดย คปภ. สะดวก รู้เบี้ยประกันภายใน 10 วินาที คลิกเลย